“คุณนายหวัง มีอะไรก็สั่งมาได้เลยครับ! ช่วยเช้ออะไรกัน”ผู้จัดการร้านหลี่ยิ้มประจบ“ไอ้เด็กนั่นมาซื้อยาใช่ไหม? ฉันต้องการให้นายยื้อเวลาเขาไว้ อย่าให้เขาหนีไปล่ะ!”คุณนายหวังพูดด้วยสีหน้าโกรธแค้น“ไม่มีปัญหา! วางใจได้เลย เดี๋ยวผมจัดการให้!”ผู้จัดการร้านหลี่ได้ยินดังนั้น ก็ทุบหน้าอกแสดงความตั้งใจแต่ในใจก็แอบหัวเราะ แล้วเผยสีหน้าดีอกดีใจออกมาอีกเดี๋ยวจะมีคนซวยแล้ว…หลังจากจัดแจงผู้จัดการร้านหลี่เสร็จ คุณนายหวังก็ออกไปคุยโทรศัพท์“ที่รักคะ ฉันถูกคนรังแกค่ะ! ฮือๆๆ…”“มีคนบังคับให้ฉันคุกเข่าให้! ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ฉันอยากตาย…”“ค่ะ! งั้นคุณรีบพาคนมาแก้แค้นแทนฉันนะคะ สั่งสอนไอ้เด็กระยำนั่นซะ!”ส่วนหวงสือเริ่นก็รู้ว่ายาล็อตนี้อาจจะมีปัญหาจริงๆจึงรีบสั่งให้คนเก็บยาที่เพิ่งเอามาส่งเมื่อครู่นี้กลับมาให้หมดพร้อมคืนเงินให้กับร้านยาในใจหวงสือเริ่นแอบกลัวเล็กน้อย ในใจกล่าวโชคดีที่ร้านนี้เป็นร้านแรกที่ส่งของให้ ไม่อย่างนั้นถ้าส่งมอบสินค้าไปจนหมดแล้วเกิดปัญหาขึ้นมา เขาคงได้ซวยจริงๆ แน่แม่งเอ้ย บริษัทยาตระกูลหลีทำอะไรอยู่กันแน่?หวงสือเริ่นก่นด่าในใจ ตัดสินใจจะไปถามหลีเทียนกังให้ชัด
"หักขามันซะ ให้มันคุกเข่าอ้อนวอนฉัน!"คุณนายหวังชี้ไปที่เย่เฟิงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้นเมื่อเห็นฉากนี้ ผู้จัดการร้านหลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีท่าทางสะใจส่วนหวงสือเริ่นที่เพิ่งสั่งให้คนยกยาขึ้นรถบรรทุกกลับไป ก็ไม่คิดจะออกไปไหนแล้วเพราะทุกคนล้วนอยากจะเห็นเย่เฟิงตกที่นั่งลำบากเช่นกัน!"ไอ้หนุ่ม กล้ามากนะ! ถึงขั้นให้คุณนายหวังคุกเข่าให้ เฮอะๆ..."ผู้จัดการร้านหลี่ยิ้มเยาะ"ไอ้คนแซ่เย่คงซวยหนักแล้วสิท่า?"หวงสือเริ่นยิ้มเย็นชา และตั้งท่ารอดูเรื่องสนุกเมื่อหวังโต้วฟู่ได้ยินภรรยาของตนร้องไห้ ก็จ้องเย่เฟิงอย่างดุร้ายและชี้หน้าเย่เฟิงด้วยไม้เบสบอลในมือ "ไอ้หนุ่ม กล้าดียังไงถึงบังคับให้เมียกูคุกเข่าให้? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!เห็นแก่ที่มึงช่วยชีวิตลูกชายกูไว้ กูจะให้โอกาสมึงคุกเข่าและกราบเมียกูหนึ่งร้อยที แล้วกูจะปล่อยมึงไป!"เย่เฟิงจ้องมองคุณนายหวังและหวังโต้วฟู่อย่างเย็นชา ใบหน้าที่เฉียบคมของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความเย็นชา"แกก็รู้ว่าฉันช่วยชีวิตลูกชายแกไว้ นี่น่ะเหรอคือการตอบแทนผู้มีพระคุณของแก?"เย่เฟิงไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตลูกชายของพวก
หวังโต้วฟู่และคุณนายหวังไม่คาดคิดเลยว่า การที่พาพวกอันธพาลมามากมายจะถูกเย่เฟิงจัดการหมดด้วยตัวคนเดียว เมื่อเห็นฝีมืออันแข็งแกร่งของเย่เฟิง ทั้งสองคนก็ถึงกับตกตะลึงและเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในขณะนั้นเอง หลังจากที่หวังโต้วฟู่ตะโกนออกไปเสียงดัง ชายที่มีแผลเป็นน่ากลัวบนใบหน้าคนหนึ่งพร้อมลูกน้องมากมายที่ดุดันก็กรูเข้ามานั่นก็คือเฮียปา อดีตลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่!เฮียปาซึ่งเป็นหนึ่งในลูกน้องที่ดุดันที่สุดของเว่ยเหล่าหู่ เป็นยอดฝีมือที่มีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเต็มไปด้วยพลังระเบิด และมีพลังฝีมือสูงระดับช่วงปลายของการฝึกฝนอีกทั้งลูกน้องของเขาก็ไม่ใช่แค่นักเลงธรรมดา แต่เป็นพวกที่สามารถจัดการคู่ต่อสู้ทีละสิบคนได้เมื่อคุณนายหวังเห็นเฮียปาเข้ามาพร้อมลูกน้อง ก็เผยสีหน้าดีใจทันที"ไอ้หนุ่ม คราวนี้แกไม่รอดแน่!"หวังโต้วฟู่พูดอย่างดุดัน"เฮียปาแค่รออยู่ข้างนอก ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้! แต่แกดันกล้าทำร้ายลูกน้องของเขา คราวนี้แกไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่อย่างมีชีวิตแน่!"คุณนายหวังพูดพลางสั่นเทิ้มด้วยความดีใจเธอเรียกเฮียปาอย่างนับถือ เพราะรู้สึกว่าเฮียปาเป็นที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่งสำหรับเ
“ขอให้คุณโปรดเมตตา ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ให้อภัยผมด้วยเถอะ...”เฮียปากล่าวพลางก้มศีรษะโขกพื้นต่อหน้าเย่เฟิงแม้เย่เฟิงจะยังไม่พูดหรือทำอะไรก็ตาม เขาก็เริ่มขอความเมตตาแล้วเตาปารู้สึกหวาดกลัวจริงๆ!เพราะเขาไม่มีทางลืมภาพเหตุการณ์ที่ร้านหม้อไฟ ‘รักลุกเป็นไฟ’ ตอนที่พวกเขาเปิดประตูเข้าไปแล้วพบศพเกลื่อนพื้น ในขณะที่เย่เฟิงกำลังเช็ดเลือดจากมืออยู่ได้เลย!และเขายังจำได้ดีว่าเว่ยเหล่าหู่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะไปล่วงเกินชายคนนี้ด้วย!ใช่แล้ว เว่ยเหล่าหู่และเว่ยเสี่ยวตงเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันก่อน!พวกเขาจากไปอย่างไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเหมือนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในคุกแม้จะไม่มีหลักฐานอะไรชัดเจน แต่ใครๆ ก็คงเดาได้ว่าเป็นเพราะอะไร“ขอดูพฤติกรรมของแกหน่อยแล้วกัน”มองดูเตาปาที่คุกเข่าโขกศีรษะอยู่บนพื้น เย่เฟิงก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ขณะมองไปยังสองสามีภรรยาตระกูลหวังสิ้นเสียง เฮียปาก็ตัวสะดุ้ง แล้วมองไปที่หวังโต้วฟู่และคุณนายหวังด้วยสายตาราวกับสัตว์ร้ายในตอนนี้ ทั้งคู่ก็รู้แล้วว่าพวกตนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นใดแม้แต่เฮียปายังคุกเข่าขอความเมตตาจากเย่เฟิง นับประสาอะไรกับพวกเขาอีก?
"ไม่! ไม่!"ผู้จัดการร้านหลี่คุกเข่าลงกับพื้น ร้องขอชีวิตอย่างขมขื่นมองดูลูกน้องของเตาปาพังเคาน์เตอร์และชั้นวางของในร้านยาเสียยับเยิน เขารู้สึกอยากตายขึ้นมาในใจรู้สึกผิดมากถึงมากที่สุดตนไม่มีความบาดหมางกับเย่เฟิงมาก่อน ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่ไปช่วยคนอื่นต่อต้านเย่เฟิงแล้ว!"เถ้าแก่หวง ออกมาคุยกันหน่อย!"เย่เฟิงส่งสัญญาณเรียกหวงสือเริ่นให้ออกมาหวงสือเริ่นตกใจสะดุ้ง แล้งทำตามโดยไม่กล้าขัดขืน คราวนี้เขาไม่กล้าพูดจาทำอะไรให้เย่เฟิงไม่พอใจอีกแล้ว"คุณเย่...มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ?"หลังจากออกมา เถ้าแก่หวงก็ถามอย่างหวาดกลัว"ยาชุดที่มีปัญหา พวกคุณส่งให้ใครบ้าง?"เย่เฟิงถามเสียงเย็น"คุณเย่วางใจได้เลย ห้องยาหุยชุนเป็นที่แรก! ยังไม่มีการส่งให้ร้านอื่นๆ ในหยุนเฉิง"หวงสือเริ่นกล่าวพร้อมเช็ดเหงื่อเย็น แล้วตอบอย่างหวาดกลัวเขารู้สึกว่าถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ถ้าเขาส่งยาคุณภาพต่ำนี้ไปยังร้านขายยาและโรงพยาบาลในหยุนเฉิง ผลลัพธ์คงไม่อาจคาดคิดแน่นอนเมื่อคิดถึงตรงนี้ หวงสือเริ่นก็มองเย่เฟิงด้วยความรู้สึกขอบคุณสุดท้ายก็พูดอย่างโมโห "แม่งเอ้ย หลีเทียนกังบริหารบริษัทยั
"แม่ครับ ไม่ต้องห่วงนะ! แก้ปัญหาได้แล้ว มีพ่อค้าสมุนไพรจากโม๋ตูที่รู้ว่ายาของเราเป็นที่นิยม เขาเข้ามาหาเราพร้อมข้อเสนอร่วมธุรกิจด้วยตอนนี้เริ่มกลับมาผลิตได้แล้วสินค้าล็อตใหม่ก็ถูกส่งออกไปแล้ว ฮ่าๆๆ…"หลีเทียนกังพูดอย่างภาคภูมิใจเมื่อได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสหลีก็มีสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข "โอ้? ทำไมไม่บอกฉันแต่แรกล่ะ?""แม่คะ เทียนกังกลัวว่าแม่จะเป็นห่วงน่ะสิคะ แม่สบายใจได้เลยค่ะ ให้เทียนกังดูแลบริษัท แม่แค่รอรับเงินเฉยๆ ได้เลย!"หลี่เยว่ผิงกล่าวพลางหัวเราะ"ใช่ค่ะ คุณย่า! ถ้าบริษัทพัฒนาแบบนี้ไปเรื่อยๆ คุณย่าจะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในหยุนเฉิงหรืออาจจะทั้งมณฑลเจียงแน่ๆ!"หลีถิงเอ่ยคำหวานปลอบใจผู้เฒ่า"ดี! ดีจริงๆ... ถึงตอนนั้นตระกูลหลีของเราจะก้าวออกจากหยุนเฉิง และกลายเป็นตระกูลชั้นนำของมณฑล!"ผู้อาวุโสหลีที่หม่นหมองมองสองสามวันพลันสดชื่นขึ้นมา"ใช่แล้ว! จริงสิคะแม่ แม่ยังไม่รู้ ตอนที่หลีเอียนและคนแซ่เย่คนนั้นรู้ว่าเราสามารถสั่งสมุนไพรได้ สีหน้าของพวกมันดูไม่ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ!ถ้าแม่ได้เห็นคงสะใจไม่น้อยเลย!"หลี่เยว่ผิงพูดอย่างกระตือรือร้นแล้วเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่
คืนนี้ เย่เฟิงและหลีเอียนออกจากโรงงานด้วยกันเพื่อไปรับนั่วนั่วที่โรงเรียนอนุบาลแม้ว่าคนของหลีหย่วน อาเจียงและเหล่าหยูจะคอยปกป้องนั่วนั่วอยู่เบื้องหลัง แต่ถ้าเย่เฟิงไม่มีธุระ เขาก็จะไปรับลูกสาวเองเสมอเดิมทีพวกเขาวางแผนจะทานข้าวด้วยกันนอกบ้านสามคนแต่เมื่อพ้นจากโรงเรียนอนุบาลได้ไม่นาน หลีเอียนก็ได้รับโทรศัพท์จากสวีเพ่ยเพ่ยบอกว่าให้หลีเอียนและเย่เฟิงไปทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยกัน มีเรื่องที่ต้องคุยด้วยเย่เฟิงจึงพานั่วนั่วกลับไปที่สวนจักรพรรดิ ให้แม่บ้านหลิวช่วยดูแลและเตรียมอาหารให้ลูกจากนั้นเขาก็ขับรถพาหลีเอียนไปที่บ้านของหลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ยเย่เฟิงเคยคิดจะพานั่วนั่วไปด้วย แต่พอมาคิดอีกทีก็เปลี่ยนใจเพราะหลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ยยังไม่ยอมรับเขาอย่างเต็มที่ เผื่อมีคำพูดบางอย่างเกิดขึ้นต่อหน้านั่วนั่วเย่เฟิงคงไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวดเมื่อทั้งคู่มาถึง หลีหย่วนก็มาถึงพร้อมกันพอดี"พี่เขย พี่!"หลีหย่วนทักทายทั้งสองด้วยความสนิทสนมหลีเอียนทำหน้านิ่วและมองน้องชายพลางพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ "นายเรียกเขาว่าพี่เขยก่อนพี่สาวคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"เธอรู้สึกว่าน้องชายดูจ
หลีเทียนกังช่วงชิงผลประโยชน์นี้ไป แล้วยังจะจัดงานเลี้ยงฉลองเพื่อให้ครอบครัวหลีเอียนไปร่วมงานอีก?ในโลกนี้มีแบบนี้ด้วยหรือ ที่คนจะถูกเอาเปรียบแบบนี้?“พูดอะไรแบบนั้น? คุณย่าเรียกคนตระกูลหลีทั้งหมด รวมถึงญาติข้างเคียงด้วย การที่เราจะต้องไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่” หลีเทียนหยางทำหน้าดุและตำหนิลูกชายลูกสาวของเขา“แต่คุณย่าไม่ใช่ไล่พวกเราออกจากตระกูลไปแล้วเหรอ? แล้วจะเรียกพวกเรากลับไปทำไม? งานเลี้ยงฉลองนี้มันเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย?”หลีหย่วนไม่พอใจ“นั่นแสดงว่าคุณย่ายังเห็นพวกเราเป็นครอบครัว! นี่อาจจะเป็นสัญญาณว่า ท่านอยากให้พวกเรากลับไปในตระกูล นี่อาจจะเป็นโอกาสที่จะคืนดีกันก็ได้เรื่องที่ผ่านมาเป็นแค่การทะเลาะกันเท่านั้น!คุณย่ากำลังให้โอกาสเราได้คืนดีกัน เข้าใจไหม?”หลีเทียนหยางเคาะโต๊ะอธิบาย“หลีเทียนหยาง เลิกเป็นคนที่กตัญญูแบบไม่รู้จักคิดได้แล้ว! ฉันว่าคุณแม่นั่นแหละไม่หวังดี! ฉันก็คิดว่าเราไม่ควรไปเหมือนกัน ตอนนี้เอียนเอ๋อร์กับอาหย่วนก็ไม่อยากไป เรื่องนี้จบแค่นี้แหละ!มากินข้าวกันเถอะ”สวีเพ่ยเพ่ยพูดพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเธอคัดค้านเรื่องนี้ตั้งแต่ได้ยินข่าว เป็นหลีเที
เย่เฟิงที่มองเห็นบาดแผลของคุณชายกู่เมื่อครู่ ก็รู้แน่ชัดว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีทางรักษาเขาได้แน่!หึๆ ท่าทีของสวี่ซีเหยียนกับพ่อของเธอ ทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงโอกาสที่จะฆ่าคนได้อยากให้คุณชายกู่รอดชีวิตงั้นเหรอ?ชักจะสนุกแล้วสิ!หลังจากนั้น เย่เฟิงก็ทุ่มสมาธิช่วยหลี่ชื่อต่อไป โดยส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างของเขา พร้อมกับใช้วิชาเข็ม “เก้าพลิกฟื้นพลังหยาง” จากคัมภีร์มังกรทองหลี่ชื่อที่เดิมทีแพทย์ตัดสินว่าไม่มีทางรอด ตอนนี้กลับฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน...หลี่ชื่อค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้ใบหน้าจะยังซีดเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถยืนและเดินได้แล้ว"พักฟื้นอีกสักระยะ แล้วนายจะหายดี!"เย่เฟิงยิ้มพลางพูดหลี่ชื่อจ้องมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แววตาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณทันใดนั้น เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น "คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม! ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย!"เย่เฟิงรีบดึงเขาขึ้นมา "พูดแบบนั้นทำไม? ฉันช่วยนายก็เพราะนายบาดเจ็บเพื่อปกป้องลูกสาวของฉัน"หลี่ชื่อยิ้มกว้างอย่างซื่อๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความแน่วแน่ "แต่สำหรับผม คุณเย่คือผู้ให้ชีวิตใหม่ ผมยอมมอบชีวิตนี้ให
หลีเอียนรีบดึงนั่วนั่วให้ถอยออกมา ดวงตาจ้องไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ เธอไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะหยิ่งยโสถึงขั้นใช้กำลังโดยไม่พูดจาเย่เฟิงแค่นหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยังคงส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างหลี่ชื่อ ส่วนแขนอีกข้างสะบัดออกไปปัง!เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับแรงลมสะท้าน แขนของเย่เฟิงปะทะกับขาของชายวัยกลางคนในชุดขาวอย่างจังตึง ตึง ตึง!ชายวัยกลางคนถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะทรงตัวได้แต่เย่เฟิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ราวกับภูผาที่ไม่สะทกสะท้าน"อยากจะหยิ่งยโส ก็ต้องมีความสามารถพอด้วย!""ฉันบอกแล้วว่าเพื่อนของฉันยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่""ไสหัวไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงแฝงอำนาจสุดขีดชายวัยกลางคนในชุดขาวมีสีหน้าหนักใจ จ้องมองเย่เฟิงด้วยความลังเล"ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าแกกำลังหาเรื่องกับใคร?""ตอนนี้คุณชายของฉันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ฉันจะยังไม่จัดการแกตอนนี้""แต่เรื่องวันนี้ ฉันจะจำไว้แน่นอน!"เขากัดฟันพูด ก่อนจะหันไปสั่งหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน "ยังจะยืนเซ่ออยู่ทำไม? ย้ายไปห้องฉุกเฉินห้องอื่นเดี๋ยวนี้!""ครับๆ ได้เลยครับ!"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบพยักหน้า สีหน้าแสดงความ
หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและร้อนรน!ด้านหลังของเขามีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังเข็นเตียงคนไข้เข้ามาบนเตียงนั้นมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่ สภาพของเขาดูอาการสาหัสมากข้างๆ และด้านหลังเตียงคนไข้มีคนติดตามมาด้วยหลายคน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด“เร็ว! ช่วยคุณชายของพวกเราด้วย!”ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูมีภูมิฐานตะโกนด้วยน้ำเสียงร้อนรน“รีบช่วยคุณชายกู่สิ! ทำไมในห้องฉุกเฉินยังมีคนอื่นอยู่? รีบไล่พวกมันออกไป!”เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและก้าวร้าว“พวกนี้เป็นใครกัน? รีบไล่พวกเขาออกไปซะ! ถ้าการรักษาคุณชายกู่ล่าช้า โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!”ชายวัยกลางคนในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก เย่เฟิงที่กำลังรักษาหลี่ชื่ออยู่ก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย็นชาดวงตาอันแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววเย็นยะเยือกฉายชัดบนใบหน้าผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยท่าทีร้อนรนและหวาดกลัวสวี่ซีเหยียน!ผู้หญิงคนนี้!เธอดูโทรม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเลอะเปรอะไปด้วยคราบเลือ
"โอเค ลูกรัก ไม่ร้องนะ พ่อจะเข้าไปดู แล้วจะไม่ปล่อยให้คุณลุงหลี่ต้องตายแน่นอน"เย่เฟิงเช็ดน้ำตาบนแก้มนั่วนั่ว จากนั้นรีบเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินหลีเอียนก็รีบตามเขาไปทันทีขณะนั้นเอง หมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่ได้ยินสิ่งที่เย่เฟิงพูด ก็พากันส่ายหน้าพวกเขาเชื่อว่าเย่เฟิงแค่พูดปลอบใจเด็กเท่านั้น"ถ้าคนไข้แบบนี้ยังช่วยได้ล่ะก็ เขาต้องเป็นเทพเจ้าแล้ว! เราเองยังช่วยไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินพูดพลางมองเย่เฟิงด้วยความไม่พอใจภายในห้องฉุกเฉินหลี่ชื่อยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เลือดซึมออกมาจากปากและจมูกอุปกรณ์และท่อทุกอย่างถูกถอดออกหมดแล้ว มีเพียงผ้าขาวคลุมร่างไว้!เห็นได้ชัดว่าทางโรงพยาบาลยอมแพ้ในการรักษาและเตรียมจะเก็บศพแต่ในขณะนั้นเอง ราวกับมีบางสิ่งดลใจ หรือไม่ก็เป็นอาการฟื้นตัวชั่วคราวก่อนตายเมื่อเย่เฟิงเข้ามา หลี่ชื่อที่หมดสติไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาเขามองเห็นเย่เฟิงและนั่วนั่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี"คุณ...คุณเย่ คุณช่วย...คุณหนูนั่วนั่ว...กลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?""ผมมันไม่ได้เรื่อง...ทำให้คุณเย่ผิดหวัง...แต่คุ
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็
แต่ทำไมใบหน้าของเขาถึงกลับมาปกติได้ขนาดนี้??ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์ เป่ยเหล่าเคยบอกฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาได้รักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเขาให้กลับมาปกติแต่ฉู่เทียนหลงไม่คิดเลยว่า ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้!ทันใดนั้นเขายิ่งคาดหวังที่จะได้เจอกับหมอเทวดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก“คุณปู่ พวกเด็กๆ ด้านนอกอาจไม่รู้จักคุณปู่กับหลิงเอ๋อร์ คุณปู่บอกผมสิ ผมจะได้ลงไปรับเอง!”“ทำไมต้องถึงขั้นมีเรื่องกับพวกไร้ประโยชน์นั่นด้วย?”ฉู่เทียนหลงคิดว่าคนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่ ที่ขวางทางคุณปู่และหลิงเอ๋อร์ไม่ให้เข้ามา ดังนั้นทั้งสองจึงได้บุกเข้ามาทันทีเขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจะมองไปข้างหลังเป่ยเหล่า “คุณปู่ หมอเทวดาคนนั้นอยู่ไหนล่ะครับ?”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันพูดจบ เป่ยเหล่าก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของฉู่เทียนหลงอย่างแรง!ฉู่เทียนหลงถึงกับหมุนตัวไปหนึ่งรอบ ครึ่งหน้าบวมฉึ่ง มองปู่ด้วยความตกตะลึงและไม่เข้าใจ“คุณปู่ ตบหน้าผมทำไมครับ?”ใบหน้าของเป่ยเหล่ามืดครึ้มราวกับพายุ เขาชี้ไปที่หลีเอียนซึ่งถูกมัดอยู่บนเตียง ก่อนตะโกนใส่ฉู่เทียนหลง “ทำไมถึงตบแกน่ะเหรอ? แกมันไอ้สัตว์นรก ใครให้แกจับภรรยาของคุณเย่มาไว้ที่นี่? แกบ้าหรือ
ก่อนหน้านี้เป่ยเหล่าเคยบอกกับฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาที่จะมารักษาเขานั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแพทย์ แต่ยังมีฝีมือในวิชาต่อสู้ที่น่าทึ่งในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เป่ยเหล่าก็พูดถึงเรื่องนี้กับฉู่เทียนหลงอีกครั้งอย่าง “มีนัย”ทันใดนั้น ฉู่เทียนหลงก็รู้สึกถึงความหวังที่จะกำจัดเย่เฟิงอีกครั้ง!หมอเทวดาที่สามารถต่อกรกับมหาปรมาจารย์ทั้งสี่?คนระดับนี้ การฆ่าเย่เฟิงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรดังนั้นตอนนี้ ฉู่เทียนหลงจึงกลับมามีท่าทีไร้ยางอายอีกครั้ง!เขาถึงขั้นวางแผนว่าหลังจากคุณปู่พาหมอเทวดามาแล้ว จะโทรเรียกเย่เฟิงมาเพื่อจัดการเขาให้ตายตรงนี้ท่าทีบ้าคลั่งและมั่นใจเกินเหตุของฉู่เทียนหลง ทำให้หลีเอียนมองเขาด้วยความไม่แน่ใจและตกใจอะไรนะ?ฉู่เทียนหลงยังมีทางหายอดฝีมือแบบนี้ได้อีกเหรอ?“ฉู่เทียนหลง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ถ้าแกกล้าทำร้ายเย่เฟิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ถึงจะเป็นผีก็ไม่เว้น!”หลีเอียนกัดฟันด่าออกมา“ฮ่าๆๆ รอให้ไอ้หน้าขาวตาย แล้วเธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะเปลี่ยนใจเอง”ฉู่เทียนหลงยิ้มกว้างด้วยความลำพองใจทันใดนั้น เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง มองหลีเอียนด้วยแววตาเร่าร้อนและกระหายคุณชาย