ครอบครัวหลีเทียนกังที่ภูมิใจมากในตอนแรก ตอนนี้กลับดูน่าเกลียดมากเขาดูตื่นตระหนกด้วย!หากไม่มีวัตถุดิบยา ก็ต้องหยุดงานการกระทำของพ่อค้ายาเหล่านี้ดูเหมือนจะบีบคั้นสัดส่วนหลักของบริษัทยาตระกูลหลีโดยตรงมีคำสั่งซื้อจำนวนมากรออยู่ หากความคืบหน้าในการผลิตถูกระงับ ผลที่ตามมาจะเกิดหายนะคราวนี้ถึงคราวครอบครัวหลีเอียนที่ต้องชมการแสดงแล้ว สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเอียนพูดอย่างมีความสุขเห็นหน้าหลีเทียนกังแล้วรู้สึกมีความสุขข้างในใจหลีเทียนหยางหัวเราะเบาๆ "เจ้าสอง เอียนเอ๋อร์อุตส่าห์บริหารบริษัทยาได้ดี ทำไมภายในไม่กี่วันหลังจากที่แกรับช่วงต่อ พ่อค้ายาทั้งหมดก็หยุดจัดหายากันหมดเลยล่ะ?นี่แกไหวจริงไหมเนี่ย?”"ฉัน...ฉัน..."ใบหน้าของหลีเทียนกังเปลี่ยนเป็นสีตับหมูแล้ว!“หยุดซ้ำเติมเราได้แล้ว! จากที่ฉันดูมา พ่อค้ายาพวกนั้นแค่อิจฉาที่เราทำเงินได้เท่านั้นแหละ”ก็แค่ติดขะแบล็กเมล์ และขอส่วนแบ่ง!”หลีถิงพูดด้วยความเกลียดชังแล้วพูดกับหลีเทียนกังว่า “พ่อคะ ผู้จัดการเหยียนมีหน้าไม่พอ หนูว่าพ่อโทรหาพวกเขาเองดีกว่าค่ะ! อย่างมากก็แค่ปล่อยให้พวกเขาขึ้นราคาไป!”เมื่อหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิงได้ยินก็ตาสว่
ติ๊ด!กล่าวจบ เหรินลี่ชวิ๋นก็ตัดสายทันที“ฮัลโหล? ฮัลโหล?”“แม่งเอ้ย!”หลีเทียนกังโมโหจนพ่นคำหยาบออกมาเวลานี้ เห็นเพียงหลี่เยว่ผิงและหลีถิงหน้าหมองหม่นถึงขีดสุดมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย?แม่ย้อย พวกเขาไปมีเรื่องกับใครล่ะ?ก็แค่หลีเอียน กับเย่เฟิงไอ้หน้าขาวนี่ไม่ใช่เหรอ?หรือว่า…จะเป็นไปได้ยังไง?“เหรินลี่ชวิ๋นคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว! มีเงินให้ทำกำไรไม่เอา! ที่รักคะ คุณลองโทรหาเจ้าอื่นเร็ว!”หลี่เยว่ผิงกัดฟันกรอด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงมีความหวังหลีเทียนกังพยักหน้าด้วยสีหน้าดูไม่ดี แล้วกดโทรออกอย่างไม่พอใจ“แม่ง!”ติ๊ด!ผ่านไปหลายนาที หลังจากที่เขาโทรหาเป็นเบอร์ที่หก เขาก็โมโหจนขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้นแรงๆหน้าดำหน้าบึ้งสลับกัน!หลีถิงและหลี่เยว่ผิงเองก็ดูไม่ดีมากเช่นกันต่างจากสีหน้าเมื่อตอนเพิ่งเดินเข้ามาในห้องที่ดูโอหังอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ สวีเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าพึงพอใจออกมา แล้วพูดเย้ยหยันว่า “คนบางคนไร้จิตสำนึก ดูท่าแล้วฟ้าสวรรค์คงจะทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว!”“เจ้าสอง เยว่ผิง แล้วก็ถิงถิง รีบมานั่งเร็ว พวกแกมาฉลองวันเกิดให้พี่สะใภ้ไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวอาหย่วนก็จัดการเส
“นั่นน่ะสิ ไล่ออก! คนอื่นเขามีบัตรเชิญ จะถูกไล่ได้ยังไง?”หลีเทียนหยางเองก็ปั้นหน้าขรึม แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย็นชา “อีกอย่าง อย่าคิดนะว่าฉันกับแม่ของเอียนเอ๋อร์จะยอมรับแกแล้ว! หึ!”เดิมทีที่ผู้ค้าสมุนไพรยาเหล่านั้นไม่ส่งของให้กับบริษัทยาอีก หลีเทียนหยางกับสวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจอยู่หรอกแต่พอได้ยินงานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้าในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเย่เฟิงยัง ‘คุยโวโอ้อวด’ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มั่นใจอีกต่อไปตระกูลหลีได้รับบัตรเชิญ แต่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!เฮ้อ…“เย่เฟิง ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นไปด้วย? ก็แค่งานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องประชดประชันกับพวกลุงรองเลย”หลีเอียนเองก็กล่าวติเตียนทว่าเย่เฟิงกลับหัวเราะออกมา “ที่รัก เชื่อผมสิ! พรุ่งนี้คุณแค่วางใจไปงานกับผมก็พอ ไม่มีใครกล้าไล่พวกเราออกแน่”หลีเอียนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา เมื่อเห็นเย่เฟิงมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ!”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกลายเป็นคนที่เชื่อใจเย่เฟิงโดยไม่มีเหตุผลไปแล้วเย่เฟิงพยักหน
“หา? หมายความว่าไม่ได้ทำงานอะไรเลยน่ะสิ? ได้ยินม่านม่านพูดว่าน้องเอียนเอ๋อร์แต่งสามีเข้าบ้านมาคนหนึ่ง ดูท่าแล้วจะจริงนะเนี่ย!นี่น้องชาย ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามด้วยตัวเองไม่เหมือนฉัน ทำงานเป็นหัวหน้าหลักดูแลคลังเก็บของบริษัทส่งออกหินหยกเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานเหนื่อยจะตาย!ถึงเถ้าแก่เขาจะเอ็นดูฉันให้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือน แต่ก็เทียบความอิสระแบบนี้ของนายไม่ได้ ฮ่าๆ…”หมอนี่พูดจายิ้มเยาะ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินเขาตกใจเรื่องหลีเอียนจริงๆ แล้วแอบด่าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ว่าทำไมถึงแต่งงานกับนางฟ้าแบบนี้ได้ด้วยความอิจฉาริษยาแบบนี้ เขาจึงแอบด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ไปทีหนึ่งทันใดนั้น พี่สาวลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านก็เชิดคางพูดกับหลีเอียนว่า “เอียนเอียน หาผู้ชายน่ะต้องหาคนที่หวังพึ่งได้ เอาการเอางานสิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานประจำหน่อยไหม?”หลีเอียนปั้นหน้าขรึม แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เย่เฟิงเขาหวังพึ่งได้มาก ความจริงแล้วเขาเป็นคนมอบโรงงานของฉันตอนนี้ให้ด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ก็ส่งเสียงแปลกใจออ
ลักษณะของหินดิบก้อนนี้บอกได้ว่าเป็นของดีที่สุดแน่ๆ แต่ทว่าบนนั้นดูเหมือนจะมีร่องรอยจากการถูกผ่ามาก่อนถึงแม้จะทำการขัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้สวีเพ่ยเพ่ยเห็นหินดินก้อนนี้แล้ว สายตาพลันเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาเธอชอบหินหยก ดังนั้นจึงพอมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างของขวัญจากเหอเสี้ยวตงชิ้นนี้ ทำให้เธอใจเต้นจริงๆ“น้ารอง หินดิบก้อนนี้ เถ้าแก่ของผมได้มาจากประเทศพม่า เพราะว่าผมทำงานดี เขาก็เลยให้ผมเป็นของขวัญ!ผมได้ยินมาว่าน้าชอบหินหยก ก็เลยนำมาให้น้าโดยเฉพาะ!ด้วยลักษณะของหินดิบก้อนนี้ต้องผ่าออกมาเจอหยกชิ้นดีแน่นอน ถึงตอนนั้นน้าชอบแบบไหน ก็ขึ้นรูปแบบไหนได้เลย”เหอเสี้ยวตงพูดยิ้มแย้ม“น้ารองคะ เห็นว่าหินดิบก้อนนี้สามารถประมูลได้ถึงสิบล้านเชียวนะ เสี้ยวตงของเรานำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดของน้าถือว่าทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะคะ”เสิ่นม่านคล้องแขนเหอเสี้ยวตง แล้วพูดจาภาคภูมิใจ“เสี่ยวเหอเอ๋อร์มีใจแล้ว! แต่ว่ามันล้ำค่าเกินไป ช่างมันเถอะ!”สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะใจเต้นของสิ่งของ แต่ก็ปฏิเสธไปลูกเขยของพี่ใหญ่ให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้มันหมายความว่าอะไร?ถ้าตนรับไว้ ก็เหมือนว่าใช้ชีวิตดีสู้คนอื่
เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “
น้ำเสียงของกัวไป๋ชวนเบาบางดูให้เกียรติและระมัดระวังเป็นพิเศษแต่สิ่งที่ดังเข้าหูคนอื่นกลับเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าสะท้านโลกา!สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยางเบิกตากว้างยืนนิ่งอยู่กับที่!ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่ และลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านต่างก็ตะลึงงันส่วนสีหน้าไม่พอใจของเหอเสี้ยวตงนั้นแข็งทื่ออยู่แบบนั้นในทันทีปกติ เขาประจบสอพลอประธานกัวสุดขีดถึงขนาดอีกฝ่ายผายลมเป็นกลิ่นอะไร เขาก็จำใส่ใจไว้ไม่ลืมเขาจะจำเสียงของกัวไป๋ชวนไม่ได้ได้ยังไง?คนที่อยู่นอกประตูคือประธานกัวจริงเหรอ?ประธานกัวจะมาคารวะเหล้าให้สวีเพ่ยเพ่ยจริงๆ งั้นเหรอ?“เข้ามาสิ!”เย่เฟิงส่งเสียงพูดขึ้นนิ่งๆเมื่อเทียบกับความตกใจสะท้านของคนอื่นๆ แล้ว เย่เฟิงและหลีเอียนดูเรียบนิ่งกว่ามากสิ้นเสียง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก กัวไป๋ชวนเดินเข้ามาพร้อมกับถือของขวัญมีมูลค่ามากมายไว้ในมือ ส่วนอีกมือถือแก้วที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้ว“คุณเย่ คุณหลี ไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม?”กัวไป๋ชวนถามอย่างนอบน้อม“ไม่ๆ!”หลีเอียนส่ายศีรษะ แต่เย่เฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆ ด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเต็มสิบไม่หัก“ถ้างั้นก็ดีครับ! ถ้างั้นก็ดี…”กัวไป๋ชวนยิ้ม แล้
เวลานี้ สีหน้าของกัวไป๋ชวนมืดมนในทันใด แล้วเดินเข้าไปหาเหอเสี้ยวตงด้วยท่าทีโกรธจัด“ประ…ประธานกัว ฟังผมอธิบายก่อน! ผม…”เหอเสี้ยวตงเห็นดังนั้น ก็ลนลานและหวาดกลัวขึ้นมาเพี๊ยะ!ไม่รอให้เขาพูดจบ กัวไป๋ชวนก็ตบหน้าเหอเสี้ยงตงอย่างแรกทีหนึ่ง“มึงนี่มันวอนหาที่ตายจริงๆ! กูบอกให้มึงไปจัดการทิ้งหินชั้นต่ำพวกนี้ซะ แต่มึงกลับเอามาหลอกลวงแม่ภรรยาของคุณเย่?”“กูไม่เอามึงไว้แน่!”กัวไป๋ชวนกัดฟันกรอดวินาทีต่อมา เขาก็มองไปที่เย่เฟิง แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้ารู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ “คุณเย่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะ!”“ไม่เป็นไร ผมรู้ครับ”เย่เฟิงโบกมือกัวไป๋ชวนโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง จากนั้นชี้เหอเสี้ยวตง แล้วถามว่า “คุณเย่ ไอ้ระยำนี่มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหรือเปล่าครับ?”เขาเห็นว่าเหอเสี้ยวตงอยู่ในห้องนี้ด้วย ดังนั้นจึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบไม่พึงประสงค์ในอนาคต“ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น”เย่เฟิงส่ายศีรษะทันใดแค่แฟนพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของหลีเอียนเฉยๆ น่ะ จะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้?ถึงจะมี ก็คงเป็นแค่ความสัมพันธ์วอนบาทาเท่านั้นแหละ!กัวไป๋ชวนได้ยิ
เย่เฟิงฆ่าฆาตกรมีดเลือด มู่จ้านก็ประหลาดใจจนพูดไม่ออกแล้ว!ครั้งที่เขากำจัดทาคุโนะ ซากิ มู่จ้านยิ่งประหลาดใจจนสุดบรรยาย!และตอนนี้ เย่เฟิงกลับกำจัดปรมาจารย์อีกคนไปได้ชายหนุ่มคนนี้ ทำให้มู่จ้านรู้สึกเหมือนเขาเป็นปริศนาที่ไร้ขีดจำกัดเขาแทบไม่กล้าคาดเดาว่า ขอบเขตความสามารถของเย่เฟิงอยู่ที่ไหน“น้องเย่ นายเป็นยอดฝีมือระดับไหนกันแน่?”มู่จ้านอดไม่ได้ที่จะถามเย่เฟิงลังเลเล็กน้อย ก่อนส่ายหัว “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับสร้างรากฐาน แต่สำหรับมู่จ้านที่เป็นนักสู้ เย่เฟิงก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในระดับไหนเหมือนกัน“เอ่อ...ช่างมันเถอะ”มู่จ้านหัวเราะแห้งๆ เขาคิดว่าเย่เฟิงไม่อยากเปิดเผยความสามารถของตัวเอง เลยไม่ถามต่อจากนั้นเขาเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ที่ฉันมาหานาย ก็เพื่อบอกว่า นินจาที่นายฆ่าครั้งนี้ มีภารกิจจะลักพาตัวเจียงรุ่ยฉี เพื่อใช้เป็นตัวประกันเจรจากับฉัน เพื่อแลกเปลี่ยนตัวเสิ่นจี่!รวมถึงครั้งก่อนที่ทาคุโนะ ซากิปรากฏตัว พวกเขาก็ต้องการจับเฟยเอ๋อร์ไป เพื่อบีบบังคับฉันเช่นกัน!เย่เฟิง นายช่วยฉันไว้สองครั้งแล้ว! ฉันไม่รู้จะขอบคุณ
เจียงรุ่ยฉีในตอนนี้โดนตบจนใบหน้าบวมปูดจนจำเค้าเดิมไม่ได้ถงซวี่เย่ที่โกรธจัดไม่ยั้งแรงเลยแม้แต่น้อย“ไม่...ฉัน...ฉันนึกออกแล้ว! เย่...คุณเย่ไม่ได้ฆ่าเหล่าไค!เมื่อกี้ฉันแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย...”เจียงรุ่ยฉีร้องไห้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เธอตกใจจนแทบหมดสติเพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!เสียงตบดังสนั่นก้องอยู่ในห้องสอบปากคำถงซวี่เย่ระดมตบเจียงรุ่ยฉีอย่างไร้ปรานี“พูดเรื่อยเปื่อย? พูดเรื่อยเปื่อยอีกสิ!”“ผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอกล้ากล่าวหาว่าเขาฆ่าคน? ถ้าไม่ใช่พี่เย่ของฉัน แต่เป็นคนอื่นล่ะ เธอคิดว่าพวกเขาจะเจอกับอะไร?”“ฉันมันโง่เอง ที่อุตส่าห์ดันเธอจนโด่งดังขึ้นมา!”“พี่เย่ของฉันคือใคร? เขาคือคนที่ช่วยชีวิตแม่ของฉันไว้! เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลถง! แล้วเธอ ผู้หญิงไร้ค่านี่ จะให้ฉันมองหน้าพี่เย่ได้ยังไง?”“ให้ตายเถอะ ฉันจะฆ่าแก นังแพศยา!”ถงซวี่เย่พูดด้วยความเดือดดาล พลางตบซ้ำไปมา“คุณชายถง! ฉันผิดไปแล้ว...”“อ๊าก!”“ฉันไม่กล้าอีกแล้ว! ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...”“อ๊าก!”เจียงรุ่ยฉีร้องลั่น ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าเป็นใครผู้หญิงที่เคยหยิ่งทะนงในช่วงเช้า ตอนนี้เหมือนหม
เจียงรุ่ยฉีได้ยินคำพูดของมู่จ้าน ในใจเธอหล่นวูบ หน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวแต่เธอยังคงดื้อดึง กล่าวด้วยเสียงแหลมสูงว่า “ฉัน...ฉันไม่รู้ว่ามือสังหารเหล่านั้นจะจับฉันหรือเปล่า แต่ฉันเห็นเย่เฟิงฆ่าคน!มันอาจเป็นไปได้ว่าฉันเห็นภาพหลอนไปเอง เพราะก่อนหน้านี้เย่เฟิงตบหน้าฉัน! ดูสิคะ...เขาเป็นคนรุนแรง ฆ่ามือสังหารไปตั้งมากมาย อาจจะเผลอฆ่าคนในกองถ่ายโดยไม่ตั้งใจก็ได้!ฉันอาจจะมองผิด แต่ฉันไม่ได้ใส่ร้าย...ไม่จริงๆ!”แม้ถึงตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่สำนึกในตอนนั้นเอง เธอเหลือบเห็นถงซวี่เย่ที่เดินเข้ามา ดวงตาของเธอสว่างวาบทันที“คุณชายถง! ช่วยฉันด้วย!”“คุณชายถง คุณต้องช่วยฉันนะคะ!”ถึงแม้ผู้บัญชาการมู่จะมีตำแหน่งสูง แต่ในความคิดของเจียงรุ่ยฉี ถงฟากรุ๊ปที่เป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่สุดในมณฑล ต้องมีอิทธิพลมากกว่าแน่นอนตราบใดที่คุณชายถงยืนอยู่ข้างเธอ ผู้บัญชาการเขตรักษาความปลอดภัยในเมืองเล็กๆ นี้ก็คงต้องเกรงใจแต่ในวินาทีถัดมา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เจียงรุ่ยฉีแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองถงซวี่เย่ไม่ได้สนใจเธอเลย ใบหน้าของเขาดูไม่พอใจอย่างยิ่ง ก่อนจะหันไปหาเย่เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
เย่เฟิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธในใจเขาแทบอยากจะเดินไปตบหน้าเจียงรุ่ยฉีอีกหลายครั้ง“ขอโทษนะคะ แต่ที่ฉันเห็นคือคุณฆ่าเขา! ส่วนคนอื่นจะเห็นยังไงฉันไม่รู้ บางทีพวกเขาอาจจะกลัวคุณ เพราะเห็นคุณฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมก็ได้!แต่ฉัน เจียงรุ่ยฉี จะไม่ยอมกลัวพลังอำนาจของคุณเด็ดขาด!”เจียงรุ่ยฉีพูดพร้อมกับยักไหล่ จากนั้นก็ลูบหน้าผากของตัวเองด้วยท่าทางเหมือนเวียนหัว “แน่นอน มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ตอนนั้นสถานการณ์มันตึงเครียดเกินไป ฉันเลยตกใจจนเห็นภาพหลอนไปเอง!เพราะฉันถูกคุณตบ จนตอนนี้หัวฉันยังมึนอยู่เลยไม่ว่าจะยังไง ฉันก็แค่พูดในสิ่งที่ฉันเห็นออกมาก็เท่านั้น!”เย่เฟิงได้ยินดังนั้ ก็มองเธอด้วยแววตาโกรธจัด “เธอ...”เจียงรุ่ยฉียิ้มอย่างได้ใจ เมื่อเห็นเย่เฟิงโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เธอรู้สึกสะใจยิ่งนักกล้าตบฉันเหรอ?เดี๋ยวเจ๊จะทำให้นายไม่มีทางหนีเลยคอยดู!ต่อให้จะเก่งแค่ไหน ฆ่ามือสังหารได้กี่คนแล้วยังไง?ก็ไม่มีทางสู้กับกฎหมายหรืออำนาจรัฐได้อยู่ดี!ปัง!ในตอนนั้นเอง เสียงดังสนั่นเกิดขึ้นประตูห้องสอบปากคำถูกเตะเปิดออกจากด้านนอกผู้ช่วยไช่ลดเท้าลงยืนตัวตรงอยู่ข้างประตูผู้บัญชาการมู่ เดินเข้
ถงซวี่เย่ที่เพิ่งมาถึง รับรู้แค่ว่ากองถ่ายถูกโจมตีโดยมือสังหาร แต่ยังไม่รู้รายละเอียดยิ่งไม่รู้ด้วยว่า เย่เฟิงกับหลีเอียนก็เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยเมื่อเห็นหลีเอียน เขาก็แสดงความประหลาดใจออกมา“ฉันต้องอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เรื่องครั้งนี้ทั้งฉันกับเย่เฟิงก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย”หลีเอียนพยักหน้าและพูด“พี่เย่กับพี่สะใภ้ก็อยู่ด้วย? แล้วพี่เย่ล่ะ? อยู่ไหน?”ถงซวี่เย่ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป พลางมองหาคนในกลุ่มนอกจากเห็นเหล่าทหารที่ติดอาวุธและผู้บัญชาการมู่แล้ว เขาก็ไม่เห็นเย่เฟิงเลยในขณะเดียวกัน บทสนทนาระหว่างถงซวี่เย่กับหลีเอียน ทำให้คนในกองถ่ายแสดงความประหลาดใจออกมาคุณชายถง ถึงกับสุภาพกับภรรยาของคุณเย่ขนาดนี้เลยเหรอ?แถมเรียกเธอว่าพี่สะใภ้อีก?ก่อนหน้านี้ ตอนเย่เฟิงพูดว่าจะโทรหาคุณชายถง หลายคนยังคิดว่าเขาพูดเล่นแต่ตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะรู้จักคุณชายถงจริงๆและดูจากท่าทีของคุณชายถงแล้ว ความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ!!หลี่เฉิงหนานที่แอบอยู่ด้านหลัง เช็ดเหงื่อเย็นพลางพยายามซ่อนตัวเมื่อคิดถึงการไม่เคารพเย่เฟิงและหลีเอียนก่อนหน้านี้ เขารู้สึกกังวลอย่างยิ่ง กลัวว
เมื่อเห็นเช่นนั้น คนที่อยู่ในที่นั้นต่างสะดุ้งและรีบโบกมือ“พะ...พวกเราไม่ได้ทำ!”“เหล่าไคจะถูกคุณเย่ฆ่าได้ยังไง? ฉันเห็นกับตาชัดๆ ว่าฆาตกรคือมือสังหารคนแรกที่เป็นหัวหน้าพวกนั้น เขาเป็นคนฆ่าเหล่าไค!”“ใช่! ฉันเป็นพยานให้คุณเย่ได้!”“คุณเย่เป็นฮีโร่ เขาช่วยพวกเราไว้ จะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง? เหล่าไคถูกมือสังหารญี่ปุ่นฆ่าต่างหาก!”“พวกเราเป็นพยานให้คุณเย่ได้!”“คนที่กล่าวหาคุณเย่ไม่ใช่ฉันแน่!”“ใครมันใจร้ายกล้าโกหกแบบนี้?”เหล่าทีมงานกองถ่าย นักแสดง ตัวประกอบ และทีมงานร้านชุดแต่งงาน รวมถึงผู้จัดการจุดชมวิว ต่างช่วยกันพูดด้วยความโกรธโดยเฉพาะนักแสดงหญิงและตัวประกอบหญิง พวกเธอพูดเสียงดังเป็นพิเศษ ราวกับการได้ยินว่ามีคนใส่ร้ายเย่เฟิงทำให้พวกเธอโกรธไปด้วยตอนนี้เกือบทุกคนกลายเป็นแฟนคลับของเย่เฟิง เต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมต่อผู้ชายที่เหมือนเทพเจ้าสงครามคนนี้หลีเอียนเห็นภาพนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา รีบขอบคุณพวกเขาอย่างจริงใจ “ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณที่ทุกคนยอมเป็นพยานให้เย่เฟิง!”“ไม่เป็นไรค่ะ เราก็แค่พูดความจริง ถ้าไม่มีคุณเย่ พวกเราอาจจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมือสังหารไปแล้ว! เราไ
เย่เฟิงตะโกนด้วยความโกรธ “พาเธอมาสิ! ผมจะเผชิญหน้ากับเธอ! เธอกำลังแก้แค้นส่วนตัว และใส่ร้ายผมอย่างไร้เหตุผลอยู่!”เมื่อเขาพูดจบ ชายผมเทาก็ลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงเรียบว่า “ผมจะถ่ายทอดความต้องการของคุณให้คุณเจียงรุ่ยฉี ถ้าเธอยินดี ผมจะจัดให้พวกคุณได้เผชิญหน้ากัน!”หลังจากพูดจบ ชายผมเทาก็ออกจากห้องสอบปากคำไป!ในขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งคนอื่นๆ ที่ให้ปากคำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในลานของหน่วยปราบปราม ยังไม่ได้กลับไปหลีเอียนก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!เธอแสดงความกังวลออกมา มองไปรอบๆ แต่อย่างไรก็ไม่เห็นเย่เฟิงออกมาสักทีวินาทีต่อมา หลีเอียนคว้าแขนเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ขอโทษนะคะ คุณเย่เฟิงทำไมยังไม่ออกมา? เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”เจ้าหน้าที่คนนั้นส่ายหัว “ขอโทษครับ มีคนกล่าวหาว่าคุณเย่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ เรากำลังสอบสวนอยู่”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลีเอียนก็เปลี่ยนไปทันที “เย่เฟิงจะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง? ใครกล่าวหา? คนคนนั้นตาบอดหรือไง?”เธอมองไปรอบๆ ด้วยสายตาอันแหลมคม แต่ก็ไม่เห็นเจียงรุ่ยฉีอยู่ในกลุ่มนั้นนั่นทำให้หลีเอียนนึกถึงบางสิ่ง ก่อนพูดด้วยควา
หลี่เฉิงหนานโบกมือปฏิเสธไม่หยุดก่อนหน้านี้เขายังทำหน้าหยิ่งผยอง พูดจาท้าทายว่าจะประลองกับเย่เฟิง แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น พูดออกมาพร้อมปากที่สั่นระริกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเย่เฟิงตรงๆ ด้วยซ้ำ!เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ ก่อนกวาดตามองไปรอบๆผู้จัดการฉางจากจุดชมวิวหดคอด้วยความกลัว รู้สึกขาสั่นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ดาราสาวเจียงรุ่ยฉีเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับเย่เฟิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและสับสนวี๊วอ…วี๊วอ…วี๊วอ…ในขณะนั้นเอง เสียงไซเรนตำรวจดังขึ้นอย่างเร่งรีบวินาทีต่อมา รถตำรวจของหน่วยปราบปรามหลายคัน พร้อมรถพยาบาลอีกหลายคันก็มาถึงที่เกิดเหตุ!หลังจากที่หัวหน้าทีมลงจากรถ แล้วเห็นภาพเบื้องหน้า เขาก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี!“ทุกคนอย่าขยับ! ยกมือขึ้น!”หัวหน้าทีมควักปืนออกมา พร้อมตะโกนสั่งเสียงดังเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ลงจากรถตามมา ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นศพที่คุกเข่าเรียงรายกันเต็มพื้น พวกเขาก็รีบชักปืนออกมาทันทีเย่เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนยอมยกมือขึ้นอย่างร่วมมือคนอื่นๆ ก็ยกมือขึ้นตาม…“พาตัวทุกคนไป!”หัวหน้าทีมสั่งเสียงเย็นชา พร้อมพาคนทั้งหมดท
ริมทะเลสาบในหุบเขาแห่งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร!แม้แต่คนธรรมดาที่อยู่ห่างออกไปไกล ยังสามารถรับรู้ถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงระหว่างเย่เฟิงกับโอดะ ชินเก็น!พลังอันมหาศาลคล้ายจับต้องได้ พวยพุ่งออกมาจากโอดะ ชินเก็น กดดันเข้าหาเย่เฟิงเมื่อสะสมพลังถึงขีดสุด เขาก็ส่งเสียงคำราม ดึงดาบคู่จากหลังออกมา กลายร่างเป็นเงาวูบพุ่งเข้าหาเย่เฟิง!เย่เฟิงแค่นเสียงเย็น ย่ำเท้าไปข้างหน้าโดยไม่หวาดหวั่น ปะทะเข้าไปอย่างกล้าหาญดวงตาเป็นประกาย เผยให้เห็นจิตวิญญาณนักสู้ที่พลุ่งพล่าน!“ฟัน!”โอดะ ชินเก็นแสยะยิ้มอย่างดุร้าย ดาบคู่ฟันตัดผ่านอากาศ มุ่งหน้าเข้าสู่เย่เฟิงในลักษณะฟันไขว้!ท่าทางราวกับจะตัดเย่เฟิงออกเป็นสี่ส่วน!หวือ!ในชั่วพริบตา พลังมังกรอันแข็งแกร่งพวยพุ่งออกมาจากร่างของเย่เฟิง ก่อตัวเป็นพลังป้องกันแน่นหนาภายนอกร่างกายของเขาอากาศรอบตัวเย่เฟิงดูเหมือนบิดเบี้ยวตามไปด้วยในพริบตา เย่เฟิงพุ่งตรงเข้าสู่ดาบไขว้ของโอดะ ชินเก็นอย่างไม่หยุดยั้งเคร้ง! เคร้ง! เคร้ง…ในวินาทีนั้นเอง ม่านตาของโอดะ ชินเก็นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจหดลง!ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม กลับถูกแทน