ดังคำที่ว่าอย่าตีใครด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กัวไป๋ชวนสุภาพมาก แต่เย่เฟิงก็คุยกับเขาเพียงไม่กี่คำหลังจากทำความเคารพอยู่สักพักหนึ่ง กัวไป๋ชวนก็กล่าวทักทายหลีเอียนแล้วเดินเข้าไปก่อนในเวลานี้ ดวงตาที่สวยงามของหลีเอียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงยังรู้จักกัวไป๋ชวนได้ล่ะ?”“คุณก็น่าจะรู้ คราวที่แล้วผมเห็นว่าสินค้าของเขาเป็นของคุณภาพต่ำหมด ถ้าขายให้เวินต้าควงจริงๆ เวินต้าควงจะไม่เกลียดเขาเหรอ?แล้วยังจะต้องร่วมมือกับเขาในอนาคตอีกเหรอ? ชื่อเสียงของเขาก็จะถูกทำลายน่ะสิ?ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณผมน่ะ”เย่เฟิงยักไหล่และโกหกโดยไม่กระพริบตา“อ๋อ อย่างนั้นเหรอ?”หลีเอียนพยักหน้าอย่างสงสัยและไม่ถามคำถามอีกต่อไปเมื่อทั้งสองมาถึงห้องส่วนตัวที่พวกเขาจองไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็มืดลงเย่เฟิงและหลีเอียนคิดว่ามาเร็วพอแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาเร็วกว่าพวกเขาครอบครัวของหลีเทียนกังอยู่ในห้องก่อนแล้วหลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ยนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความบูดบึ้งและความโกรธ“ป้าสะใภ้รองคะ นี่คือของขวัญวันเกิดจากหนูค่ะ!”
หลีเทียนกังก็ตะคอกอย่างเย็นชาและคิดจะออกจากห้องส่วนตัวแม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะหวาดกลัวเย่เฟิง แต่ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุเป้าหมายในวันนี้เขาตั้งใจเปรียบเทียบต่อหน้าคนอื่นอย่างดุเดือด ทำให้พวกเขาโกรธมากแต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของหลีเทียนกังก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมา เห็นว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดการเหยียนที่ทำหน้าที่จัดซื้อวัตถุดิบของบริษัทหลีเทียนกังฉวยโอกาสและจงใจรับโทรศัพท์ในห้องส่วนตัว"ว่าไง?"เขายังจงใจเปิดสปีกเกอร์โฟนและถามด้วยท่าทางเย่อหยิ่งมากจุดประสงค์ของเขาในวันนี้คือเพื่ออวดต่อหน้าครอบครัวหลีเอียนให้ครอบครัวหลีเอียนและเย่เฟิงได้ยินว่าธุรกิจของบริษัทตอนนี้กำลังมาแรงขนาดไหน“ประธานเกิดเรื่องแล้วครับ! วัตถุดิบยาของเราไม่มีอีกแล้ว!”แต่เมื่อเขารับสายกลับเป็นเสียงเร่งด่วนของผู้จัดการเหยียนแทน“ถ้าไม่มีก็ไปซื้อเพิ่มสิ! ยังต้องให้ผมบอกอีกเหรอ?”หลีเทียนกังพูดด้วยความโกรธแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้ครอบครัวเจ้าใหญ่ "ช่วยไม่ได้ ธุรกิจนี้ร้อนแรงเกินไป ความคืบหน้าการผลิตเร็วเกินไป วัตถุดิบยาถูกใช้จนหมดในทุกๆ สามวัน คิดว่าน่าโมโหไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลีเทียนหยาง สวีเพ
ครอบครัวหลีเทียนกังที่ภูมิใจมากในตอนแรก ตอนนี้กลับดูน่าเกลียดมากเขาดูตื่นตระหนกด้วย!หากไม่มีวัตถุดิบยา ก็ต้องหยุดงานการกระทำของพ่อค้ายาเหล่านี้ดูเหมือนจะบีบคั้นสัดส่วนหลักของบริษัทยาตระกูลหลีโดยตรงมีคำสั่งซื้อจำนวนมากรออยู่ หากความคืบหน้าในการผลิตถูกระงับ ผลที่ตามมาจะเกิดหายนะคราวนี้ถึงคราวครอบครัวหลีเอียนที่ต้องชมการแสดงแล้ว สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเอียนพูดอย่างมีความสุขเห็นหน้าหลีเทียนกังแล้วรู้สึกมีความสุขข้างในใจหลีเทียนหยางหัวเราะเบาๆ "เจ้าสอง เอียนเอ๋อร์อุตส่าห์บริหารบริษัทยาได้ดี ทำไมภายในไม่กี่วันหลังจากที่แกรับช่วงต่อ พ่อค้ายาทั้งหมดก็หยุดจัดหายากันหมดเลยล่ะ?นี่แกไหวจริงไหมเนี่ย?”"ฉัน...ฉัน..."ใบหน้าของหลีเทียนกังเปลี่ยนเป็นสีตับหมูแล้ว!“หยุดซ้ำเติมเราได้แล้ว! จากที่ฉันดูมา พ่อค้ายาพวกนั้นแค่อิจฉาที่เราทำเงินได้เท่านั้นแหละ”ก็แค่ติดขะแบล็กเมล์ และขอส่วนแบ่ง!”หลีถิงพูดด้วยความเกลียดชังแล้วพูดกับหลีเทียนกังว่า “พ่อคะ ผู้จัดการเหยียนมีหน้าไม่พอ หนูว่าพ่อโทรหาพวกเขาเองดีกว่าค่ะ! อย่างมากก็แค่ปล่อยให้พวกเขาขึ้นราคาไป!”เมื่อหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิงได้ยินก็ตาสว่
ติ๊ด!กล่าวจบ เหรินลี่ชวิ๋นก็ตัดสายทันที“ฮัลโหล? ฮัลโหล?”“แม่งเอ้ย!”หลีเทียนกังโมโหจนพ่นคำหยาบออกมาเวลานี้ เห็นเพียงหลี่เยว่ผิงและหลีถิงหน้าหมองหม่นถึงขีดสุดมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย?แม่ย้อย พวกเขาไปมีเรื่องกับใครล่ะ?ก็แค่หลีเอียน กับเย่เฟิงไอ้หน้าขาวนี่ไม่ใช่เหรอ?หรือว่า…จะเป็นไปได้ยังไง?“เหรินลี่ชวิ๋นคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว! มีเงินให้ทำกำไรไม่เอา! ที่รักคะ คุณลองโทรหาเจ้าอื่นเร็ว!”หลี่เยว่ผิงกัดฟันกรอด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงมีความหวังหลีเทียนกังพยักหน้าด้วยสีหน้าดูไม่ดี แล้วกดโทรออกอย่างไม่พอใจ“แม่ง!”ติ๊ด!ผ่านไปหลายนาที หลังจากที่เขาโทรหาเป็นเบอร์ที่หก เขาก็โมโหจนขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้นแรงๆหน้าดำหน้าบึ้งสลับกัน!หลีถิงและหลี่เยว่ผิงเองก็ดูไม่ดีมากเช่นกันต่างจากสีหน้าเมื่อตอนเพิ่งเดินเข้ามาในห้องที่ดูโอหังอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ สวีเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าพึงพอใจออกมา แล้วพูดเย้ยหยันว่า “คนบางคนไร้จิตสำนึก ดูท่าแล้วฟ้าสวรรค์คงจะทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว!”“เจ้าสอง เยว่ผิง แล้วก็ถิงถิง รีบมานั่งเร็ว พวกแกมาฉลองวันเกิดให้พี่สะใภ้ไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวอาหย่วนก็จัดการเส
“นั่นน่ะสิ ไล่ออก! คนอื่นเขามีบัตรเชิญ จะถูกไล่ได้ยังไง?”หลีเทียนหยางเองก็ปั้นหน้าขรึม แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย็นชา “อีกอย่าง อย่าคิดนะว่าฉันกับแม่ของเอียนเอ๋อร์จะยอมรับแกแล้ว! หึ!”เดิมทีที่ผู้ค้าสมุนไพรยาเหล่านั้นไม่ส่งของให้กับบริษัทยาอีก หลีเทียนหยางกับสวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจอยู่หรอกแต่พอได้ยินงานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้าในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเย่เฟิงยัง ‘คุยโวโอ้อวด’ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มั่นใจอีกต่อไปตระกูลหลีได้รับบัตรเชิญ แต่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!เฮ้อ…“เย่เฟิง ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นไปด้วย? ก็แค่งานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องประชดประชันกับพวกลุงรองเลย”หลีเอียนเองก็กล่าวติเตียนทว่าเย่เฟิงกลับหัวเราะออกมา “ที่รัก เชื่อผมสิ! พรุ่งนี้คุณแค่วางใจไปงานกับผมก็พอ ไม่มีใครกล้าไล่พวกเราออกแน่”หลีเอียนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา เมื่อเห็นเย่เฟิงมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ!”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกลายเป็นคนที่เชื่อใจเย่เฟิงโดยไม่มีเหตุผลไปแล้วเย่เฟิงพยักหน
“หา? หมายความว่าไม่ได้ทำงานอะไรเลยน่ะสิ? ได้ยินม่านม่านพูดว่าน้องเอียนเอ๋อร์แต่งสามีเข้าบ้านมาคนหนึ่ง ดูท่าแล้วจะจริงนะเนี่ย!นี่น้องชาย ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามด้วยตัวเองไม่เหมือนฉัน ทำงานเป็นหัวหน้าหลักดูแลคลังเก็บของบริษัทส่งออกหินหยกเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานเหนื่อยจะตาย!ถึงเถ้าแก่เขาจะเอ็นดูฉันให้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือน แต่ก็เทียบความอิสระแบบนี้ของนายไม่ได้ ฮ่าๆ…”หมอนี่พูดจายิ้มเยาะ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินเขาตกใจเรื่องหลีเอียนจริงๆ แล้วแอบด่าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ว่าทำไมถึงแต่งงานกับนางฟ้าแบบนี้ได้ด้วยความอิจฉาริษยาแบบนี้ เขาจึงแอบด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ไปทีหนึ่งทันใดนั้น พี่สาวลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านก็เชิดคางพูดกับหลีเอียนว่า “เอียนเอียน หาผู้ชายน่ะต้องหาคนที่หวังพึ่งได้ เอาการเอางานสิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานประจำหน่อยไหม?”หลีเอียนปั้นหน้าขรึม แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เย่เฟิงเขาหวังพึ่งได้มาก ความจริงแล้วเขาเป็นคนมอบโรงงานของฉันตอนนี้ให้ด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ก็ส่งเสียงแปลกใจออ
ลักษณะของหินดิบก้อนนี้บอกได้ว่าเป็นของดีที่สุดแน่ๆ แต่ทว่าบนนั้นดูเหมือนจะมีร่องรอยจากการถูกผ่ามาก่อนถึงแม้จะทำการขัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้สวีเพ่ยเพ่ยเห็นหินดินก้อนนี้แล้ว สายตาพลันเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาเธอชอบหินหยก ดังนั้นจึงพอมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างของขวัญจากเหอเสี้ยวตงชิ้นนี้ ทำให้เธอใจเต้นจริงๆ“น้ารอง หินดิบก้อนนี้ เถ้าแก่ของผมได้มาจากประเทศพม่า เพราะว่าผมทำงานดี เขาก็เลยให้ผมเป็นของขวัญ!ผมได้ยินมาว่าน้าชอบหินหยก ก็เลยนำมาให้น้าโดยเฉพาะ!ด้วยลักษณะของหินดิบก้อนนี้ต้องผ่าออกมาเจอหยกชิ้นดีแน่นอน ถึงตอนนั้นน้าชอบแบบไหน ก็ขึ้นรูปแบบไหนได้เลย”เหอเสี้ยวตงพูดยิ้มแย้ม“น้ารองคะ เห็นว่าหินดิบก้อนนี้สามารถประมูลได้ถึงสิบล้านเชียวนะ เสี้ยวตงของเรานำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดของน้าถือว่าทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะคะ”เสิ่นม่านคล้องแขนเหอเสี้ยวตง แล้วพูดจาภาคภูมิใจ“เสี่ยวเหอเอ๋อร์มีใจแล้ว! แต่ว่ามันล้ำค่าเกินไป ช่างมันเถอะ!”สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะใจเต้นของสิ่งของ แต่ก็ปฏิเสธไปลูกเขยของพี่ใหญ่ให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้มันหมายความว่าอะไร?ถ้าตนรับไว้ ก็เหมือนว่าใช้ชีวิตดีสู้คนอื่
เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “
เย่เฟิงที่มองเห็นบาดแผลของคุณชายกู่เมื่อครู่ ก็รู้แน่ชัดว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีทางรักษาเขาได้แน่!หึๆ ท่าทีของสวี่ซีเหยียนกับพ่อของเธอ ทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงโอกาสที่จะฆ่าคนได้อยากให้คุณชายกู่รอดชีวิตงั้นเหรอ?ชักจะสนุกแล้วสิ!หลังจากนั้น เย่เฟิงก็ทุ่มสมาธิช่วยหลี่ชื่อต่อไป โดยส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างของเขา พร้อมกับใช้วิชาเข็ม “เก้าพลิกฟื้นพลังหยาง” จากคัมภีร์มังกรทองหลี่ชื่อที่เดิมทีแพทย์ตัดสินว่าไม่มีทางรอด ตอนนี้กลับฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน...หลี่ชื่อค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้ใบหน้าจะยังซีดเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถยืนและเดินได้แล้ว"พักฟื้นอีกสักระยะ แล้วนายจะหายดี!"เย่เฟิงยิ้มพลางพูดหลี่ชื่อจ้องมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แววตาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณทันใดนั้น เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น "คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม! ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย!"เย่เฟิงรีบดึงเขาขึ้นมา "พูดแบบนั้นทำไม? ฉันช่วยนายก็เพราะนายบาดเจ็บเพื่อปกป้องลูกสาวของฉัน"หลี่ชื่อยิ้มกว้างอย่างซื่อๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความแน่วแน่ "แต่สำหรับผม คุณเย่คือผู้ให้ชีวิตใหม่ ผมยอมมอบชีวิตนี้ให
หลีเอียนรีบดึงนั่วนั่วให้ถอยออกมา ดวงตาจ้องไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ เธอไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะหยิ่งยโสถึงขั้นใช้กำลังโดยไม่พูดจาเย่เฟิงแค่นหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยังคงส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างหลี่ชื่อ ส่วนแขนอีกข้างสะบัดออกไปปัง!เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับแรงลมสะท้าน แขนของเย่เฟิงปะทะกับขาของชายวัยกลางคนในชุดขาวอย่างจังตึง ตึง ตึง!ชายวัยกลางคนถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะทรงตัวได้แต่เย่เฟิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ราวกับภูผาที่ไม่สะทกสะท้าน"อยากจะหยิ่งยโส ก็ต้องมีความสามารถพอด้วย!""ฉันบอกแล้วว่าเพื่อนของฉันยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่""ไสหัวไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงแฝงอำนาจสุดขีดชายวัยกลางคนในชุดขาวมีสีหน้าหนักใจ จ้องมองเย่เฟิงด้วยความลังเล"ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าแกกำลังหาเรื่องกับใคร?""ตอนนี้คุณชายของฉันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ฉันจะยังไม่จัดการแกตอนนี้""แต่เรื่องวันนี้ ฉันจะจำไว้แน่นอน!"เขากัดฟันพูด ก่อนจะหันไปสั่งหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน "ยังจะยืนเซ่ออยู่ทำไม? ย้ายไปห้องฉุกเฉินห้องอื่นเดี๋ยวนี้!""ครับๆ ได้เลยครับ!"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบพยักหน้า สีหน้าแสดงความ
หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและร้อนรน!ด้านหลังของเขามีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังเข็นเตียงคนไข้เข้ามาบนเตียงนั้นมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่ สภาพของเขาดูอาการสาหัสมากข้างๆ และด้านหลังเตียงคนไข้มีคนติดตามมาด้วยหลายคน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด“เร็ว! ช่วยคุณชายของพวกเราด้วย!”ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูมีภูมิฐานตะโกนด้วยน้ำเสียงร้อนรน“รีบช่วยคุณชายกู่สิ! ทำไมในห้องฉุกเฉินยังมีคนอื่นอยู่? รีบไล่พวกมันออกไป!”เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและก้าวร้าว“พวกนี้เป็นใครกัน? รีบไล่พวกเขาออกไปซะ! ถ้าการรักษาคุณชายกู่ล่าช้า โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!”ชายวัยกลางคนในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก เย่เฟิงที่กำลังรักษาหลี่ชื่ออยู่ก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย็นชาดวงตาอันแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววเย็นยะเยือกฉายชัดบนใบหน้าผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยท่าทีร้อนรนและหวาดกลัวสวี่ซีเหยียน!ผู้หญิงคนนี้!เธอดูโทรม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเลอะเปรอะไปด้วยคราบเลือ
"โอเค ลูกรัก ไม่ร้องนะ พ่อจะเข้าไปดู แล้วจะไม่ปล่อยให้คุณลุงหลี่ต้องตายแน่นอน"เย่เฟิงเช็ดน้ำตาบนแก้มนั่วนั่ว จากนั้นรีบเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินหลีเอียนก็รีบตามเขาไปทันทีขณะนั้นเอง หมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่ได้ยินสิ่งที่เย่เฟิงพูด ก็พากันส่ายหน้าพวกเขาเชื่อว่าเย่เฟิงแค่พูดปลอบใจเด็กเท่านั้น"ถ้าคนไข้แบบนี้ยังช่วยได้ล่ะก็ เขาต้องเป็นเทพเจ้าแล้ว! เราเองยังช่วยไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินพูดพลางมองเย่เฟิงด้วยความไม่พอใจภายในห้องฉุกเฉินหลี่ชื่อยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เลือดซึมออกมาจากปากและจมูกอุปกรณ์และท่อทุกอย่างถูกถอดออกหมดแล้ว มีเพียงผ้าขาวคลุมร่างไว้!เห็นได้ชัดว่าทางโรงพยาบาลยอมแพ้ในการรักษาและเตรียมจะเก็บศพแต่ในขณะนั้นเอง ราวกับมีบางสิ่งดลใจ หรือไม่ก็เป็นอาการฟื้นตัวชั่วคราวก่อนตายเมื่อเย่เฟิงเข้ามา หลี่ชื่อที่หมดสติไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาเขามองเห็นเย่เฟิงและนั่วนั่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี"คุณ...คุณเย่ คุณช่วย...คุณหนูนั่วนั่ว...กลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?""ผมมันไม่ได้เรื่อง...ทำให้คุณเย่ผิดหวัง...แต่คุ
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็
แต่ทำไมใบหน้าของเขาถึงกลับมาปกติได้ขนาดนี้??ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์ เป่ยเหล่าเคยบอกฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาได้รักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเขาให้กลับมาปกติแต่ฉู่เทียนหลงไม่คิดเลยว่า ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้!ทันใดนั้นเขายิ่งคาดหวังที่จะได้เจอกับหมอเทวดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก“คุณปู่ พวกเด็กๆ ด้านนอกอาจไม่รู้จักคุณปู่กับหลิงเอ๋อร์ คุณปู่บอกผมสิ ผมจะได้ลงไปรับเอง!”“ทำไมต้องถึงขั้นมีเรื่องกับพวกไร้ประโยชน์นั่นด้วย?”ฉู่เทียนหลงคิดว่าคนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่ ที่ขวางทางคุณปู่และหลิงเอ๋อร์ไม่ให้เข้ามา ดังนั้นทั้งสองจึงได้บุกเข้ามาทันทีเขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจะมองไปข้างหลังเป่ยเหล่า “คุณปู่ หมอเทวดาคนนั้นอยู่ไหนล่ะครับ?”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันพูดจบ เป่ยเหล่าก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของฉู่เทียนหลงอย่างแรง!ฉู่เทียนหลงถึงกับหมุนตัวไปหนึ่งรอบ ครึ่งหน้าบวมฉึ่ง มองปู่ด้วยความตกตะลึงและไม่เข้าใจ“คุณปู่ ตบหน้าผมทำไมครับ?”ใบหน้าของเป่ยเหล่ามืดครึ้มราวกับพายุ เขาชี้ไปที่หลีเอียนซึ่งถูกมัดอยู่บนเตียง ก่อนตะโกนใส่ฉู่เทียนหลง “ทำไมถึงตบแกน่ะเหรอ? แกมันไอ้สัตว์นรก ใครให้แกจับภรรยาของคุณเย่มาไว้ที่นี่? แกบ้าหรือ
ก่อนหน้านี้เป่ยเหล่าเคยบอกกับฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาที่จะมารักษาเขานั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแพทย์ แต่ยังมีฝีมือในวิชาต่อสู้ที่น่าทึ่งในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เป่ยเหล่าก็พูดถึงเรื่องนี้กับฉู่เทียนหลงอีกครั้งอย่าง “มีนัย”ทันใดนั้น ฉู่เทียนหลงก็รู้สึกถึงความหวังที่จะกำจัดเย่เฟิงอีกครั้ง!หมอเทวดาที่สามารถต่อกรกับมหาปรมาจารย์ทั้งสี่?คนระดับนี้ การฆ่าเย่เฟิงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรดังนั้นตอนนี้ ฉู่เทียนหลงจึงกลับมามีท่าทีไร้ยางอายอีกครั้ง!เขาถึงขั้นวางแผนว่าหลังจากคุณปู่พาหมอเทวดามาแล้ว จะโทรเรียกเย่เฟิงมาเพื่อจัดการเขาให้ตายตรงนี้ท่าทีบ้าคลั่งและมั่นใจเกินเหตุของฉู่เทียนหลง ทำให้หลีเอียนมองเขาด้วยความไม่แน่ใจและตกใจอะไรนะ?ฉู่เทียนหลงยังมีทางหายอดฝีมือแบบนี้ได้อีกเหรอ?“ฉู่เทียนหลง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ถ้าแกกล้าทำร้ายเย่เฟิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ถึงจะเป็นผีก็ไม่เว้น!”หลีเอียนกัดฟันด่าออกมา“ฮ่าๆๆ รอให้ไอ้หน้าขาวตาย แล้วเธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะเปลี่ยนใจเอง”ฉู่เทียนหลงยิ้มกว้างด้วยความลำพองใจทันใดนั้น เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง มองหลีเอียนด้วยแววตาเร่าร้อนและกระหายคุณชาย