ดังคำที่ว่าอย่าตีใครด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กัวไป๋ชวนสุภาพมาก แต่เย่เฟิงก็คุยกับเขาเพียงไม่กี่คำหลังจากทำความเคารพอยู่สักพักหนึ่ง กัวไป๋ชวนก็กล่าวทักทายหลีเอียนแล้วเดินเข้าไปก่อนในเวลานี้ ดวงตาที่สวยงามของหลีเอียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงยังรู้จักกัวไป๋ชวนได้ล่ะ?”“คุณก็น่าจะรู้ คราวที่แล้วผมเห็นว่าสินค้าของเขาเป็นของคุณภาพต่ำหมด ถ้าขายให้เวินต้าควงจริงๆ เวินต้าควงจะไม่เกลียดเขาเหรอ?แล้วยังจะต้องร่วมมือกับเขาในอนาคตอีกเหรอ? ชื่อเสียงของเขาก็จะถูกทำลายน่ะสิ?ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณผมน่ะ”เย่เฟิงยักไหล่และโกหกโดยไม่กระพริบตา“อ๋อ อย่างนั้นเหรอ?”หลีเอียนพยักหน้าอย่างสงสัยและไม่ถามคำถามอีกต่อไปเมื่อทั้งสองมาถึงห้องส่วนตัวที่พวกเขาจองไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็มืดลงเย่เฟิงและหลีเอียนคิดว่ามาเร็วพอแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาเร็วกว่าพวกเขาครอบครัวของหลีเทียนกังอยู่ในห้องก่อนแล้วหลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ยนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความบูดบึ้งและความโกรธ“ป้าสะใภ้รองคะ นี่คือของขวัญวันเกิดจากหนูค่ะ!”
หลีเทียนกังก็ตะคอกอย่างเย็นชาและคิดจะออกจากห้องส่วนตัวแม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะหวาดกลัวเย่เฟิง แต่ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุเป้าหมายในวันนี้เขาตั้งใจเปรียบเทียบต่อหน้าคนอื่นอย่างดุเดือด ทำให้พวกเขาโกรธมากแต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของหลีเทียนกังก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมา เห็นว่าเป็นเบอร์ของผู้จัดการเหยียนที่ทำหน้าที่จัดซื้อวัตถุดิบของบริษัทหลีเทียนกังฉวยโอกาสและจงใจรับโทรศัพท์ในห้องส่วนตัว"ว่าไง?"เขายังจงใจเปิดสปีกเกอร์โฟนและถามด้วยท่าทางเย่อหยิ่งมากจุดประสงค์ของเขาในวันนี้คือเพื่ออวดต่อหน้าครอบครัวหลีเอียนให้ครอบครัวหลีเอียนและเย่เฟิงได้ยินว่าธุรกิจของบริษัทตอนนี้กำลังมาแรงขนาดไหน“ประธานเกิดเรื่องแล้วครับ! วัตถุดิบยาของเราไม่มีอีกแล้ว!”แต่เมื่อเขารับสายกลับเป็นเสียงเร่งด่วนของผู้จัดการเหยียนแทน“ถ้าไม่มีก็ไปซื้อเพิ่มสิ! ยังต้องให้ผมบอกอีกเหรอ?”หลีเทียนกังพูดด้วยความโกรธแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้ครอบครัวเจ้าใหญ่ "ช่วยไม่ได้ ธุรกิจนี้ร้อนแรงเกินไป ความคืบหน้าการผลิตเร็วเกินไป วัตถุดิบยาถูกใช้จนหมดในทุกๆ สามวัน คิดว่าน่าโมโหไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลีเทียนหยาง สวีเพ
ครอบครัวหลีเทียนกังที่ภูมิใจมากในตอนแรก ตอนนี้กลับดูน่าเกลียดมากเขาดูตื่นตระหนกด้วย!หากไม่มีวัตถุดิบยา ก็ต้องหยุดงานการกระทำของพ่อค้ายาเหล่านี้ดูเหมือนจะบีบคั้นสัดส่วนหลักของบริษัทยาตระกูลหลีโดยตรงมีคำสั่งซื้อจำนวนมากรออยู่ หากความคืบหน้าในการผลิตถูกระงับ ผลที่ตามมาจะเกิดหายนะคราวนี้ถึงคราวครอบครัวหลีเอียนที่ต้องชมการแสดงแล้ว สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเอียนพูดอย่างมีความสุขเห็นหน้าหลีเทียนกังแล้วรู้สึกมีความสุขข้างในใจหลีเทียนหยางหัวเราะเบาๆ "เจ้าสอง เอียนเอ๋อร์อุตส่าห์บริหารบริษัทยาได้ดี ทำไมภายในไม่กี่วันหลังจากที่แกรับช่วงต่อ พ่อค้ายาทั้งหมดก็หยุดจัดหายากันหมดเลยล่ะ?นี่แกไหวจริงไหมเนี่ย?”"ฉัน...ฉัน..."ใบหน้าของหลีเทียนกังเปลี่ยนเป็นสีตับหมูแล้ว!“หยุดซ้ำเติมเราได้แล้ว! จากที่ฉันดูมา พ่อค้ายาพวกนั้นแค่อิจฉาที่เราทำเงินได้เท่านั้นแหละ”ก็แค่ติดขะแบล็กเมล์ และขอส่วนแบ่ง!”หลีถิงพูดด้วยความเกลียดชังแล้วพูดกับหลีเทียนกังว่า “พ่อคะ ผู้จัดการเหยียนมีหน้าไม่พอ หนูว่าพ่อโทรหาพวกเขาเองดีกว่าค่ะ! อย่างมากก็แค่ปล่อยให้พวกเขาขึ้นราคาไป!”เมื่อหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิงได้ยินก็ตาสว่
ติ๊ด!กล่าวจบ เหรินลี่ชวิ๋นก็ตัดสายทันที“ฮัลโหล? ฮัลโหล?”“แม่งเอ้ย!”หลีเทียนกังโมโหจนพ่นคำหยาบออกมาเวลานี้ เห็นเพียงหลี่เยว่ผิงและหลีถิงหน้าหมองหม่นถึงขีดสุดมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย?แม่ย้อย พวกเขาไปมีเรื่องกับใครล่ะ?ก็แค่หลีเอียน กับเย่เฟิงไอ้หน้าขาวนี่ไม่ใช่เหรอ?หรือว่า…จะเป็นไปได้ยังไง?“เหรินลี่ชวิ๋นคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว! มีเงินให้ทำกำไรไม่เอา! ที่รักคะ คุณลองโทรหาเจ้าอื่นเร็ว!”หลี่เยว่ผิงกัดฟันกรอด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงมีความหวังหลีเทียนกังพยักหน้าด้วยสีหน้าดูไม่ดี แล้วกดโทรออกอย่างไม่พอใจ“แม่ง!”ติ๊ด!ผ่านไปหลายนาที หลังจากที่เขาโทรหาเป็นเบอร์ที่หก เขาก็โมโหจนขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้นแรงๆหน้าดำหน้าบึ้งสลับกัน!หลีถิงและหลี่เยว่ผิงเองก็ดูไม่ดีมากเช่นกันต่างจากสีหน้าเมื่อตอนเพิ่งเดินเข้ามาในห้องที่ดูโอหังอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ สวีเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าพึงพอใจออกมา แล้วพูดเย้ยหยันว่า “คนบางคนไร้จิตสำนึก ดูท่าแล้วฟ้าสวรรค์คงจะทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว!”“เจ้าสอง เยว่ผิง แล้วก็ถิงถิง รีบมานั่งเร็ว พวกแกมาฉลองวันเกิดให้พี่สะใภ้ไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวอาหย่วนก็จัดการเส
“นั่นน่ะสิ ไล่ออก! คนอื่นเขามีบัตรเชิญ จะถูกไล่ได้ยังไง?”หลีเทียนหยางเองก็ปั้นหน้าขรึม แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย็นชา “อีกอย่าง อย่าคิดนะว่าฉันกับแม่ของเอียนเอ๋อร์จะยอมรับแกแล้ว! หึ!”เดิมทีที่ผู้ค้าสมุนไพรยาเหล่านั้นไม่ส่งของให้กับบริษัทยาอีก หลีเทียนหยางกับสวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจอยู่หรอกแต่พอได้ยินงานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้าในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเย่เฟิงยัง ‘คุยโวโอ้อวด’ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มั่นใจอีกต่อไปตระกูลหลีได้รับบัตรเชิญ แต่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!เฮ้อ…“เย่เฟิง ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นไปด้วย? ก็แค่งานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องประชดประชันกับพวกลุงรองเลย”หลีเอียนเองก็กล่าวติเตียนทว่าเย่เฟิงกลับหัวเราะออกมา “ที่รัก เชื่อผมสิ! พรุ่งนี้คุณแค่วางใจไปงานกับผมก็พอ ไม่มีใครกล้าไล่พวกเราออกแน่”หลีเอียนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา เมื่อเห็นเย่เฟิงมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ!”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกลายเป็นคนที่เชื่อใจเย่เฟิงโดยไม่มีเหตุผลไปแล้วเย่เฟิงพยักหน
“หา? หมายความว่าไม่ได้ทำงานอะไรเลยน่ะสิ? ได้ยินม่านม่านพูดว่าน้องเอียนเอ๋อร์แต่งสามีเข้าบ้านมาคนหนึ่ง ดูท่าแล้วจะจริงนะเนี่ย!นี่น้องชาย ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามด้วยตัวเองไม่เหมือนฉัน ทำงานเป็นหัวหน้าหลักดูแลคลังเก็บของบริษัทส่งออกหินหยกเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานเหนื่อยจะตาย!ถึงเถ้าแก่เขาจะเอ็นดูฉันให้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือน แต่ก็เทียบความอิสระแบบนี้ของนายไม่ได้ ฮ่าๆ…”หมอนี่พูดจายิ้มเยาะ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินเขาตกใจเรื่องหลีเอียนจริงๆ แล้วแอบด่าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ว่าทำไมถึงแต่งงานกับนางฟ้าแบบนี้ได้ด้วยความอิจฉาริษยาแบบนี้ เขาจึงแอบด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ไปทีหนึ่งทันใดนั้น พี่สาวลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านก็เชิดคางพูดกับหลีเอียนว่า “เอียนเอียน หาผู้ชายน่ะต้องหาคนที่หวังพึ่งได้ เอาการเอางานสิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานประจำหน่อยไหม?”หลีเอียนปั้นหน้าขรึม แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เย่เฟิงเขาหวังพึ่งได้มาก ความจริงแล้วเขาเป็นคนมอบโรงงานของฉันตอนนี้ให้ด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ก็ส่งเสียงแปลกใจออ
ลักษณะของหินดิบก้อนนี้บอกได้ว่าเป็นของดีที่สุดแน่ๆ แต่ทว่าบนนั้นดูเหมือนจะมีร่องรอยจากการถูกผ่ามาก่อนถึงแม้จะทำการขัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้สวีเพ่ยเพ่ยเห็นหินดินก้อนนี้แล้ว สายตาพลันเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาเธอชอบหินหยก ดังนั้นจึงพอมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างของขวัญจากเหอเสี้ยวตงชิ้นนี้ ทำให้เธอใจเต้นจริงๆ“น้ารอง หินดิบก้อนนี้ เถ้าแก่ของผมได้มาจากประเทศพม่า เพราะว่าผมทำงานดี เขาก็เลยให้ผมเป็นของขวัญ!ผมได้ยินมาว่าน้าชอบหินหยก ก็เลยนำมาให้น้าโดยเฉพาะ!ด้วยลักษณะของหินดิบก้อนนี้ต้องผ่าออกมาเจอหยกชิ้นดีแน่นอน ถึงตอนนั้นน้าชอบแบบไหน ก็ขึ้นรูปแบบไหนได้เลย”เหอเสี้ยวตงพูดยิ้มแย้ม“น้ารองคะ เห็นว่าหินดิบก้อนนี้สามารถประมูลได้ถึงสิบล้านเชียวนะ เสี้ยวตงของเรานำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดของน้าถือว่าทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะคะ”เสิ่นม่านคล้องแขนเหอเสี้ยวตง แล้วพูดจาภาคภูมิใจ“เสี่ยวเหอเอ๋อร์มีใจแล้ว! แต่ว่ามันล้ำค่าเกินไป ช่างมันเถอะ!”สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะใจเต้นของสิ่งของ แต่ก็ปฏิเสธไปลูกเขยของพี่ใหญ่ให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้มันหมายความว่าอะไร?ถ้าตนรับไว้ ก็เหมือนว่าใช้ชีวิตดีสู้คนอื่
เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “