คุณลุงเซียวคือประธานคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของหยุนเฉิง ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์กับเขาจะทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตสะดวกขึ้นแต่ตอนนี้...เฮ้อ!ถงว่านจินถอนหายใจ รู้สึกว่าเพียงไม่กี่คำของเย่เฟิงก็ทำให้คุณนายเซียวโกรธเคืองโดยสิ้นเชิงเซียวฉางเหอ หรือที่เขาเรียกว่าเหล่าเซียว เป็นผู้ควบคุมธนาคารใหญ่ในหยุนเฉิง การสร้างความสัมพันธ์กับเขามีความหมายแตกต่างจากการรู้จักผู้มีอำนาจในวงการอื่นๆเพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร คุณก็ต้องมีธุรกรรมกับธนาคารอยู่ดีแม้แต่คนธรรมดาก็ยังต้องติดต่อกับธนาคาร“ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนที่หล่อนมาขอความช่วยเหลือจากผม ก็จะไม่มีเรื่องบาดหมางไม่บาดหมางแล้ว”เย่เฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ“เอ่อ คุณแน่ใจเหรอว่าหล่อนจะมาขอร้องคุณ?”ถงว่านจินแสดงสีหน้าแปลกใจ“เหอะๆ…”เย่เฟิงยิ้มเบาๆ ราวกับทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขาภายในคฤหาสน์คุณนายเซียวพาจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาไปที่ห้องของเซียวคุนเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น โดยมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลขณะมองลูกชายของเขาเขาคือเพื่อนสนิทของถงว่านจิน ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของหยุนเฉิง เซียวฉางเหอ!“หมอเท
อย่างไรก็ตาม นายหญิงเซียวไม่ได้พูดอะไร แค่คิดว่าไม้วิเศษตีนั้นจับพลัดจับผลูตีถูกเข้าทีเสียแพทย์เทวดาจู้มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ มีหมอเทวดาจู้อยู่ด้วย เธอก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป"คุณเซียว นายหญิงเซียว ไม่ต้องกังวล! มีอาจารย์ของผมมาช่วย คุณชายเซียวจะปลอดภัย!"ลูกศิษย์หนุ่มตบหน้าอกของเขาแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ใช่! แน่นอน! ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหมอเทวดาจู้แล้ว!”เซียวฉางเหอกล่าวชมเชยในเวลานี้จู้ชิวหนานหยิบเข็มเงินออกมาและเริ่มฝังให้กับเซียวคุนอย่างไรก็ตามหลังจากฝังไปไม่กี่ครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน!ตึง!เซียวคุนซึ่งแต่เดิมหมดสติก็เด้งขึ้นจากเตียงทันที"อ้ะ!"จู้ชิวหนานที่กำลังฝังเข็มอยู่ก็ด้วยความประหลาดใจสองสามีภรรยาเซียวฉางและลูกศิษย์หนุ่มก็ตกใจเช่นกันและมองดูฉากนี้ด้วยความตื่นกลัว"โครก! โครก..."วินาทีต่อมา เห็ฯเพียงเซียวคุนจ้องด้วยดวงตาสีแดงเลือด ล้มตัวลงใส่จู้ชิวหนานที่อยู่ใกล้ที่สุด และส่งเสียงคำรามในลำคอ"คุนเออร์! เป็นอะไรลูก?"“คุนเออร์!”...ภายนอกบ้าน พักเย่เฟิงและถงว่านจินรออยู่สักพักก็เห็นประตูบ้านพักเปิดออกวินาทีต่อมา นายหญิงเซียวก็โซเซออกม
เย่เฟิงส่ายหัวแล้วกล่าวเมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวฉางเหอและนายหญิงเซียวก็มีสีหน้าตกตะลึงวินาทีต่อมา นายหญิงเซียวปาดน้ำตาแล้วรีบวิ่งไปหาจู้ชิวหนานทุบตีและด่าเขา“เป็นเพราะคุณ คุณนั่นแหละที่ทำร้ายลูกชายของฉัน! ไอ้หมอเลว!”“ถ้ามีอะไรผิดปกติกับลูกชายของฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่!”จู้ชิวหนานจิตวิญญาณยังไม่นิ่งสงบ เมื่อเผชิญกับการทุบตีและดุด่าของนายหญิงเซียว เขาก็กุมศีรษะของตัวเองวิ่งไปลูกศิษย์ที่แต่เดิมเย่อหยิ่งไม่น้อยไม่กล้าพูดอะไรเลยในตอนนี้เวลานี้ เซียวฉางเหาสงบกว่าภรรยาของเขามาก เขาถามเย่เฟิงอย่างสุภาพและกังวล "อาจารย์ใหญ่... ท่านนี้ ลูกชายของผมยังมีทางรอดไหม? ได้โปรด ช่วยคิดหาทางด้วย …”เย่เฟิงพยักหน้า “โชคดีที่พิษศพเพิ่งกระจายออกมายังไม่รุกรานไปถึงหัวใจและสมอง ไม่ต้องกังวล!”กล่าวพลาง เขาก็ตะโกนบอกหมอเทวดาจู้ว่า “หมอเทวดาจู้ ขอยืมเข็มของคุณหน่อย”หมอเทวดาจู้ได้ยินดังนั้นก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วคราวนี้ เขาไม่ทำอวดเก่งต่อเย่เฟิงแล้ว ยื่นเข็มเงินที่ถือติดตัวมาอย่างว่าง่ายต่อมา ภายใต้สายตาที่กังวลและคาดหวังของทุกคน เย่เฟิงใช้เข็มเงินเพื่อฝังพลังงานมังกรเข้าสู่ร่างกายของเซี
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หมอเทวดาจู้และลูกศิษย์ก็มีสีหน้าที่ดูย่ำแย่เล็กน้อยลึกเข้าไปในดวงตาของจู้ชิวหนานมีความไม่พอใจมากก่อตัวขึ้นเขามีชื่อเสียงมากเขา ได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพทุกที่ที่เขาไป เคยถูกคนดูถูกเช่นนี้ที่ไหนกันล่ะ?อย่างไรก็ตาม เพื่อความอยู่รอด เขายังคงขอร้องทั้งน้ำตาและน้ำมูก "ท่านเทพ ผมผิดไปแล้ว! ผมเองที่แย่ ดูถูกคนอื่นและตาบอด ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่มากน้ำใจ ช่วยผมด้วยนะ! ท้ายที่สุดหากผมถูกพิษศพ กลายเป็นซอมบี้แล้วกัดคนอื่น มันจะทำร้ายคนอื่นด้วยใช่ไหมล่ะ?โปรดช่วยผมด้วย!”เย่เฟิงหัวเราะ “เหอะๆ ดูสิ คุณตกใจจนสภาพเป็นแบบนี้เลย เขากัดของคุณน่ะไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องรักษา คุณชายเซียวยังไม่กลายเป็นซอมบี้เลยและพิษศพก็ยังไม่ลามถึงฟัน หากคุณกังวล คุณก็ไปอาบน้ำด้วยซุปข้าวเหนียวด้วย”เมื่อได้ยินเช่นนั้นจู้ชิวหนานที่คุกเข่าลงกับพื้นก็ตกตะลึง“จริง...จริงเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณไม่ยอมช่วยหรอกนะ?”“จริง! อย่างที่คุณพูด แม้ว่าผมจะไม่ช่วยคุณ ก็คงไม่อยากให้คุณกัดคนอื่นใช่ไหมล่ะ?”เย่เฟิงเม้มปากแล้วพูด"เฮะ!"ดวงตาของจู้ชิวหนาน กะพริบสองสามครั้ง และเขาลุกขึ้นยืนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แล้วแกทำ
ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ หวงสือเริ่นก่อนหน้านี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆ แล้วหลีเอียนไม่ได้มีเส้นสายมากนักเมื่อนึกถึงพฤติกรรมของคุณนายใหญ่ตระกูลหลีเฒ่าแล้วเย่เฟิงก็คิดว่าจะให้หลีเอียนถือโอกาสนี้ขยายเส้นสายให้มากขึ้นก็ไม่แย่นัก...คืนนั้น เย่เฟิงไปส่งนั่วนั่วกลับบ้านก่อนแล้วจึงขับรถไปบริษัทยาตระกูลหลีเพื่อรับ CEO คนสวยหลังเลิกงานเมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุดก็บังเอิญชนเข้ากับเหลียงน่าน่า“พี่เย่ มารับประธานหลีเลิกงานเหรอ?”เลขาเหลียงถาม"อืม"เย่เฟิงพยักหน้าเหลียงน่าน่าชี้ไปทางห้องประชุม "ประธานหลีอยู่ในการประชุม"แล้วเธอก็เปลี่ยนน้ำเสียงและพูดว่า “ผู้อาวุโสหลี และคนจากตระกูลหลีก็มาด้วย…”หลังจากสิ้นคำพูดเย่เฟิงก็พูดว่า "หืม?" และอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ!ในขณะนี้ประตูห้องประชุมก็เปิดออกเห็นเพียงหลีเอียนเดินอยู่ข้างหน้าสุด สีหน้าของเธอดูแย่มาก และดวงตาที่สวยงามก็แดงเล็กน้อย"ที่รัก เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"เมื่อเห็นเช่นนี้เย่เฟิงก็เดินเข้าไปถามเมื่อเห็นชายคนนี้ ความคับข้องใจและความกดดันที่หลีเอียนต้องทนทุกข์ทรมานในห้องประชุมก่อนหน้านี้ดูเหมือนจ
“นั่นสิ ก็ไม่ดูหน่อยว่าตัวเองเป็นใคร? แค่เป็นเด็กน้อยหน้าขาว ก็ทำตัวเป็นผู้ชายเกาะผู้หญิงกินไปก็พอ!”หลีถิงกระโดดออกมาอีกครั้งชี้ไปที่เย่เฟิงแล้วพูดอย่างดูหมิ่น“ไอ้เด็กแซ่เย่ แกคิดว่าแกเป็นใคร แล้วแกกล้ากล่าวหาคนอื่นได้อย่างไร”“นั่นสิ ถ้าไม่ใช่เพราะแก คุณชายฉู่ก็ไม่โกรธหรอก!”“หากแกถูกฆ่าเสียแต่โดยดี พวกเราตระกูลหลีจะไม่ถูกลงโทษจากคุณชายฉู่!”“แย่ที่สุดก็เช่นเมื่อก่อน คุณชายฉู่ ยังมีความอดทนต่อหลีเอียน! ทั้งหมดก็เพราะแก ไอ้ตัวซวยของตระกูลหลี!”สองสามีภรรยาหลีเทียนกัง แม้กระทั่งลุงสี่และอาเล็ก ต่างก็ชี้ไปที่เย่เฟิงและเริ่มสาปแช่งล้วนผลักความรับผิดชอบมาให้เย่เฟิงในคำพูดของพวกเขา ดูเหมือนเป็นความผิด ที่เย่เฟิงไม่ได้ถูกฉู่เทียนหลงฆ่าตายเย่เฟิงเยาะเย้ยและมองไปยังผู้อาวุโสหลีและคนตระกูลหลีเหล่านี้ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุด“พวกขยะ! เพราะตนไร้ความสามารถ ทำได้เพียงผลักความรับผิดชอบให้ผู้อื่น แต่ไม่กล้าสู้กับฉู่เทียนหลง!”ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนในตระกูลหลีก็เริ่มร้อนใจพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถูกเด็กเมื่อวานซืนคนนี้ดูหมิ่นแล้วจริงๆ“ไอ้เวร! แกรู้ไหมว่าตระกูลฉู่ทรงพลังขน
“อืม ฉันเชื่อคุณค่ะ”หลีเอียนกัดริมฝีปาก แล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น“พี่คะ นี่พี่คงถูกผู้ชายคนนี้พูดจาหวานซึ้งหลอกจนเสียสติไปแล้วจริงๆ! ถึงได้เชื่อมันได้ลงคอ ตลกจริงๆ!”หลีถิงพูดจาเย้ยหยันเสียงดังคนอื่นๆ เองก็ส่ายหัวต่างรู้สึกว่าหญิงแกร่งขึ้นชื่อของตระกูลหลีคนนี้ได้ถูกไอ้หน้าขาวนี้หลอกล่อจนเสียสติไปแล้วระหว่างทางส่งหลีเอียนกลับบ้าน…อารมณ์ของบอสสาวสวยไม่ดีมาตลอด“เย่เฟิง นายคิดจะทำยังไงถึงจะทำให้บัญชีบริษัทถูกปลดล็อก?”หลีเอียนลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็อดถามไม่ได้“ง่ายมาก ธนาคารไหนเป็นคนดูเลเรื่องที่บัญชีบริษัทถูกล็อก? เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปเลี้ยงมื้อเที่ยงเขาก็พอ”เย่เฟิงพูดอย่างไม่ร้อนไม่หนาวเมื่อได้ยินดังนั้น หลีเอียนก็ส่งเสียง ‘หา?’ ออกมา แล้วเผยสีหน้าผิดหวังออกมาบนใบหน้าอันสวยงาม“แค่นี้? เลี้ยงข้าวเขา ขอความเมตตาเหรอ?ฉันสืบมาแล้ว อีกฝ่ายเป็นผู้จัดการของธนาคารหยุนไห่ชื่อลวีปิงกง เป็นลูกพี่ลูกน้องของทนายลวีคนสนิทของฉู่เทียนหลงคนอื่นเขาสนิทกันแค่ไหน แค่เราเลี้ยงข้าวมื้อเดียว เขาจะเปลี่ยนมาอยู่ฝ่ายเดียวกับเราได้ยังไง?”หลีเอียนส่ายหน้าเยาะเย้ย“วางใจเถอะ ถึงตอนนั้นเดี๋
กลางวัน โรงแรมโกลด์เดนรอยัลในห้องส่วนตัว เย่เฟิงและหลีเอียนมาถึงกันแล้วเวลานี้ หลีเอียนได้รับสายจากลวีปิงกง “คุณหลีครับ ผมถึงหน้าโรงแรมแล้ว คุณกับสามีหน้าขาวของคุณอยู่ไหนเหรอครับ?เชิญคนอื่นมาทานข้าว ขอร้องให้คนอื่นช่วย แม้แต่วิธีการต้อนรับแขกก็ทำไม่เป็นเหรอครับ? ผมว่าอาหารมื้อนี้ไม่ต้องกินมันแล้วล่ะ!”หลีเอียนได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป พยายามเก็บความรู้สึกโกรธในใจเอาไว้ แล้วกล่าวว่า “ขอโทษนะคะผู้จัดการลวี เดี๋ยวฉันจะลงไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลย”“หึ ให้ไวล่ะ! ไม่มีคนมารับ ผมหาห้องไม่เจอหรอกนะ”ลวีปิงกงแค่นเสียงเย็นชา แล้วพูดชี้สั่งทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของหลีเอียนกลับถูกเย่เฟิงแย่งไป “ผู้จัดการลวีใช่ไหม? ผมว่าคุณดูเหมือนจะเข้าใจผิดไปนะ ที่เราเลี้ยงอาหารเที่ยงคุณในวันนี้ ก็เพื่อให้โอกาสคุณต่างหาก! เดินขึ้นมาเอง!ไม่อย่างนั้น ก็รอคณะกรรมการตรวจสอบของธนาคารมาตรวจสอบคุณได้เลย”ท่าทางของเย่เฟิงดูโหดเหี้ยมมาก“คุณคือไอ้หน้าขาวนั่นสินะ? ผมไม่ขึ้นไปจริงๆ ด้วย!”“ตลกเป็นบ้า คิดจะขู่ผมเหรอ?”ลวีปิงกงกล่าวอย่างไม่พอใจ“ตามใจ”เย่เฟิงตัดสายทันทีบริเวณนอกประตูโรงแรมในขณะนี้ ลวีปิง