ถงว่านจินเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“โอ๋? เขาอยู่ไหน?”เย่เฟิงถาม“เขาเป็นคนหยุนเฉิง อยู่ในหยุนเฉิงนี่แหละครับ!”ถงว่านจินตอบ“ได้ งั้นคุณมารับผมแล้วกัน! ผมอยู่หน้าบริษัทยาตระกูลหลี” เย่เฟิงตอบรับอย่างรวดเร็ว“ได้ครับ! ขอบคุณมากครับหมอเทวดาเย่ คุณสบายใจได้ ผมไม่ให้คุณรักษาฟรีแน่นอน”หนึ่งชั่วโมงต่อมา!ถงว่านจินขับรถมาที่เขตคฤหาสน์หรูในตัวเมืองพร้อมกับเย่เฟิงเขตคฤหาสน์นี้ชื่อว่า “ฮัวหยูเฉิง” มีระดับไม่ต่างจาก “สวนจักรพรรดิ” นัก ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนร่ำรวยทั้งนั้นเย่เฟิงเพิ่งเปิดประตูรถลงมา ก็มีรถคันหนึ่งขับสวนมาข้างๆ เกือบจะชนเข้ากับบานประตูของเย่เฟิง“เอี๊ยด!”รถโรลส์รอยซ์เบรกอย่างกะทันหัน และมีชายหนุ่มคนหนึ่งลงจากรถเย่เฟิงอ้าปาก กำลังจะขอโทษเพราะเขาเองก็ไม่ได้ระมัดระวัง หากชนขึ้นมาจริงๆ ก็เป็นความผิดของเขาแต่ยังไม่ทันได้พูด ชายหนุ่มก็ชี้หน้าเย่เฟิงแล้วด่าทันทีว่า “ไอ้แคระ นี่แกตาบอดหรือไง?”เย่เฟิงขมวดคิ้ว ขณะที่ถงว่านจินเองก็ทำหน้าตึงเครียดเขากำลังจะพูด แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งออกมาจากคฤหาสน์ แล้วไปต้อนรับเยาวชนและชายชราสวมชุดขาวที่ลงจา
เมื่อเย่เฟิงพูดแบบนี้ คุณนายเซียวก็รีบตอบโต้ทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและโกรธจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขา รวมถึงถงว่านจินต่างก็รู้สึกแปลกใจต่อคำพูดของเย่เฟิง“อะไรคือพลังแห่งความตาย? มันคืออะไร! นี่พ่อหนุ่ม นายกำลังสาปแช่งคุณชายเซียวอยู่เหรอ?”ศิษย์ของหมอเทวดาจู้ถามด้วยสายตาที่เยาะเย้ย“ฮึ! ทำตัวน่าหมั่นไส้! นี่มันหมอหลอกลวงจากไหนกัน? ทำให้คนเดือดร้อนจริงๆ!”จู้ชิวหนานมองเย่เฟิงด้วยสายตาไม่ดี เหมือนกับมองนักต้มตุ๋นอย่างไรอย่างนั้นการกล่าวเกินจริงและทำให้สับสนมักเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันในหมู่นักต้มตุ๋นเหล่านี้ขณะที่สีหน้าของคุณนายเซียวยิ่งแย่ลง เธอหันไปที่ถงว่านจินแล้วพูดว่า “เหล่าถง คุณพาใครมาเนี่ย? ลูกชายฉันยังไม่ตายเลย เขาบอกว่าพลังแห่งความตายอะไรกัน แล้วก็อะไรคือรักษาไม่หาย? นี่ตั้งใจทำให้พวกเราลำบากเหรอ?”“เอ่อ…”ถงว่านจินเปิดปากพูด แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร“ขอโทษครับ ผมไม่ได้สาปแช่งคุณชายเซียว แต่พูดความจริง ในบ้านนี้มีพลังแห่งความตาย ซึ่งควรมีอยู่เฉพาะในสุสานหรือสถานที่อันตรายเท่านั้น“การมีพลังแห่งความตายในย่านที่อยู่อาศัยแบบนี้ ย่อมมีเรื่องผิดปกติ!”เย่เฟิงกล
คุณลุงเซียวคือประธานคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของหยุนเฉิง ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์กับเขาจะทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตสะดวกขึ้นแต่ตอนนี้...เฮ้อ!ถงว่านจินถอนหายใจ รู้สึกว่าเพียงไม่กี่คำของเย่เฟิงก็ทำให้คุณนายเซียวโกรธเคืองโดยสิ้นเชิงเซียวฉางเหอ หรือที่เขาเรียกว่าเหล่าเซียว เป็นผู้ควบคุมธนาคารใหญ่ในหยุนเฉิง การสร้างความสัมพันธ์กับเขามีความหมายแตกต่างจากการรู้จักผู้มีอำนาจในวงการอื่นๆเพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร คุณก็ต้องมีธุรกรรมกับธนาคารอยู่ดีแม้แต่คนธรรมดาก็ยังต้องติดต่อกับธนาคาร“ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนที่หล่อนมาขอความช่วยเหลือจากผม ก็จะไม่มีเรื่องบาดหมางไม่บาดหมางแล้ว”เย่เฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ“เอ่อ คุณแน่ใจเหรอว่าหล่อนจะมาขอร้องคุณ?”ถงว่านจินแสดงสีหน้าแปลกใจ“เหอะๆ…”เย่เฟิงยิ้มเบาๆ ราวกับทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขาภายในคฤหาสน์คุณนายเซียวพาจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาไปที่ห้องของเซียวคุนเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น โดยมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลขณะมองลูกชายของเขาเขาคือเพื่อนสนิทของถงว่านจิน ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารของหยุนเฉิง เซียวฉางเหอ!“หมอเท
อย่างไรก็ตาม นายหญิงเซียวไม่ได้พูดอะไร แค่คิดว่าไม้วิเศษตีนั้นจับพลัดจับผลูตีถูกเข้าทีเสียแพทย์เทวดาจู้มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ มีหมอเทวดาจู้อยู่ด้วย เธอก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป"คุณเซียว นายหญิงเซียว ไม่ต้องกังวล! มีอาจารย์ของผมมาช่วย คุณชายเซียวจะปลอดภัย!"ลูกศิษย์หนุ่มตบหน้าอกของเขาแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ใช่! แน่นอน! ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหมอเทวดาจู้แล้ว!”เซียวฉางเหอกล่าวชมเชยในเวลานี้จู้ชิวหนานหยิบเข็มเงินออกมาและเริ่มฝังให้กับเซียวคุนอย่างไรก็ตามหลังจากฝังไปไม่กี่ครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน!ตึง!เซียวคุนซึ่งแต่เดิมหมดสติก็เด้งขึ้นจากเตียงทันที"อ้ะ!"จู้ชิวหนานที่กำลังฝังเข็มอยู่ก็ด้วยความประหลาดใจสองสามีภรรยาเซียวฉางและลูกศิษย์หนุ่มก็ตกใจเช่นกันและมองดูฉากนี้ด้วยความตื่นกลัว"โครก! โครก..."วินาทีต่อมา เห็ฯเพียงเซียวคุนจ้องด้วยดวงตาสีแดงเลือด ล้มตัวลงใส่จู้ชิวหนานที่อยู่ใกล้ที่สุด และส่งเสียงคำรามในลำคอ"คุนเออร์! เป็นอะไรลูก?"“คุนเออร์!”...ภายนอกบ้าน พักเย่เฟิงและถงว่านจินรออยู่สักพักก็เห็นประตูบ้านพักเปิดออกวินาทีต่อมา นายหญิงเซียวก็โซเซออกม
เย่เฟิงส่ายหัวแล้วกล่าวเมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวฉางเหอและนายหญิงเซียวก็มีสีหน้าตกตะลึงวินาทีต่อมา นายหญิงเซียวปาดน้ำตาแล้วรีบวิ่งไปหาจู้ชิวหนานทุบตีและด่าเขา“เป็นเพราะคุณ คุณนั่นแหละที่ทำร้ายลูกชายของฉัน! ไอ้หมอเลว!”“ถ้ามีอะไรผิดปกติกับลูกชายของฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่!”จู้ชิวหนานจิตวิญญาณยังไม่นิ่งสงบ เมื่อเผชิญกับการทุบตีและดุด่าของนายหญิงเซียว เขาก็กุมศีรษะของตัวเองวิ่งไปลูกศิษย์ที่แต่เดิมเย่อหยิ่งไม่น้อยไม่กล้าพูดอะไรเลยในตอนนี้เวลานี้ เซียวฉางเหาสงบกว่าภรรยาของเขามาก เขาถามเย่เฟิงอย่างสุภาพและกังวล "อาจารย์ใหญ่... ท่านนี้ ลูกชายของผมยังมีทางรอดไหม? ได้โปรด ช่วยคิดหาทางด้วย …”เย่เฟิงพยักหน้า “โชคดีที่พิษศพเพิ่งกระจายออกมายังไม่รุกรานไปถึงหัวใจและสมอง ไม่ต้องกังวล!”กล่าวพลาง เขาก็ตะโกนบอกหมอเทวดาจู้ว่า “หมอเทวดาจู้ ขอยืมเข็มของคุณหน่อย”หมอเทวดาจู้ได้ยินดังนั้นก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วคราวนี้ เขาไม่ทำอวดเก่งต่อเย่เฟิงแล้ว ยื่นเข็มเงินที่ถือติดตัวมาอย่างว่าง่ายต่อมา ภายใต้สายตาที่กังวลและคาดหวังของทุกคน เย่เฟิงใช้เข็มเงินเพื่อฝังพลังงานมังกรเข้าสู่ร่างกายของเซี
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หมอเทวดาจู้และลูกศิษย์ก็มีสีหน้าที่ดูย่ำแย่เล็กน้อยลึกเข้าไปในดวงตาของจู้ชิวหนานมีความไม่พอใจมากก่อตัวขึ้นเขามีชื่อเสียงมากเขา ได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพทุกที่ที่เขาไป เคยถูกคนดูถูกเช่นนี้ที่ไหนกันล่ะ?อย่างไรก็ตาม เพื่อความอยู่รอด เขายังคงขอร้องทั้งน้ำตาและน้ำมูก "ท่านเทพ ผมผิดไปแล้ว! ผมเองที่แย่ ดูถูกคนอื่นและตาบอด ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่มากน้ำใจ ช่วยผมด้วยนะ! ท้ายที่สุดหากผมถูกพิษศพ กลายเป็นซอมบี้แล้วกัดคนอื่น มันจะทำร้ายคนอื่นด้วยใช่ไหมล่ะ?โปรดช่วยผมด้วย!”เย่เฟิงหัวเราะ “เหอะๆ ดูสิ คุณตกใจจนสภาพเป็นแบบนี้เลย เขากัดของคุณน่ะไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องรักษา คุณชายเซียวยังไม่กลายเป็นซอมบี้เลยและพิษศพก็ยังไม่ลามถึงฟัน หากคุณกังวล คุณก็ไปอาบน้ำด้วยซุปข้าวเหนียวด้วย”เมื่อได้ยินเช่นนั้นจู้ชิวหนานที่คุกเข่าลงกับพื้นก็ตกตะลึง“จริง...จริงเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณไม่ยอมช่วยหรอกนะ?”“จริง! อย่างที่คุณพูด แม้ว่าผมจะไม่ช่วยคุณ ก็คงไม่อยากให้คุณกัดคนอื่นใช่ไหมล่ะ?”เย่เฟิงเม้มปากแล้วพูด"เฮะ!"ดวงตาของจู้ชิวหนาน กะพริบสองสามครั้ง และเขาลุกขึ้นยืนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แล้วแกทำ
ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ หวงสือเริ่นก่อนหน้านี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆ แล้วหลีเอียนไม่ได้มีเส้นสายมากนักเมื่อนึกถึงพฤติกรรมของคุณนายใหญ่ตระกูลหลีเฒ่าแล้วเย่เฟิงก็คิดว่าจะให้หลีเอียนถือโอกาสนี้ขยายเส้นสายให้มากขึ้นก็ไม่แย่นัก...คืนนั้น เย่เฟิงไปส่งนั่วนั่วกลับบ้านก่อนแล้วจึงขับรถไปบริษัทยาตระกูลหลีเพื่อรับ CEO คนสวยหลังเลิกงานเมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุดก็บังเอิญชนเข้ากับเหลียงน่าน่า“พี่เย่ มารับประธานหลีเลิกงานเหรอ?”เลขาเหลียงถาม"อืม"เย่เฟิงพยักหน้าเหลียงน่าน่าชี้ไปทางห้องประชุม "ประธานหลีอยู่ในการประชุม"แล้วเธอก็เปลี่ยนน้ำเสียงและพูดว่า “ผู้อาวุโสหลี และคนจากตระกูลหลีก็มาด้วย…”หลังจากสิ้นคำพูดเย่เฟิงก็พูดว่า "หืม?" และอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ!ในขณะนี้ประตูห้องประชุมก็เปิดออกเห็นเพียงหลีเอียนเดินอยู่ข้างหน้าสุด สีหน้าของเธอดูแย่มาก และดวงตาที่สวยงามก็แดงเล็กน้อย"ที่รัก เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"เมื่อเห็นเช่นนี้เย่เฟิงก็เดินเข้าไปถามเมื่อเห็นชายคนนี้ ความคับข้องใจและความกดดันที่หลีเอียนต้องทนทุกข์ทรมานในห้องประชุมก่อนหน้านี้ดูเหมือนจ
“นั่นสิ ก็ไม่ดูหน่อยว่าตัวเองเป็นใคร? แค่เป็นเด็กน้อยหน้าขาว ก็ทำตัวเป็นผู้ชายเกาะผู้หญิงกินไปก็พอ!”หลีถิงกระโดดออกมาอีกครั้งชี้ไปที่เย่เฟิงแล้วพูดอย่างดูหมิ่น“ไอ้เด็กแซ่เย่ แกคิดว่าแกเป็นใคร แล้วแกกล้ากล่าวหาคนอื่นได้อย่างไร”“นั่นสิ ถ้าไม่ใช่เพราะแก คุณชายฉู่ก็ไม่โกรธหรอก!”“หากแกถูกฆ่าเสียแต่โดยดี พวกเราตระกูลหลีจะไม่ถูกลงโทษจากคุณชายฉู่!”“แย่ที่สุดก็เช่นเมื่อก่อน คุณชายฉู่ ยังมีความอดทนต่อหลีเอียน! ทั้งหมดก็เพราะแก ไอ้ตัวซวยของตระกูลหลี!”สองสามีภรรยาหลีเทียนกัง แม้กระทั่งลุงสี่และอาเล็ก ต่างก็ชี้ไปที่เย่เฟิงและเริ่มสาปแช่งล้วนผลักความรับผิดชอบมาให้เย่เฟิงในคำพูดของพวกเขา ดูเหมือนเป็นความผิด ที่เย่เฟิงไม่ได้ถูกฉู่เทียนหลงฆ่าตายเย่เฟิงเยาะเย้ยและมองไปยังผู้อาวุโสหลีและคนตระกูลหลีเหล่านี้ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุด“พวกขยะ! เพราะตนไร้ความสามารถ ทำได้เพียงผลักความรับผิดชอบให้ผู้อื่น แต่ไม่กล้าสู้กับฉู่เทียนหลง!”ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนในตระกูลหลีก็เริ่มร้อนใจพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถูกเด็กเมื่อวานซืนคนนี้ดูหมิ่นแล้วจริงๆ“ไอ้เวร! แกรู้ไหมว่าตระกูลฉู่ทรงพลังขน
เย่เฟิงตะโกนด้วยความโกรธ “พาเธอมาสิ! ผมจะเผชิญหน้ากับเธอ! เธอกำลังแก้แค้นส่วนตัว และใส่ร้ายผมอย่างไร้เหตุผลอยู่!”เมื่อเขาพูดจบ ชายผมเทาก็ลังเลเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงเรียบว่า “ผมจะถ่ายทอดความต้องการของคุณให้คุณเจียงรุ่ยฉี ถ้าเธอยินดี ผมจะจัดให้พวกคุณได้เผชิญหน้ากัน!”หลังจากพูดจบ ชายผมเทาก็ออกจากห้องสอบปากคำไป!ในขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งคนอื่นๆ ที่ให้ปากคำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในลานของหน่วยปราบปราม ยังไม่ได้กลับไปหลีเอียนก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย!เธอแสดงความกังวลออกมา มองไปรอบๆ แต่อย่างไรก็ไม่เห็นเย่เฟิงออกมาสักทีวินาทีต่อมา หลีเอียนคว้าแขนเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “ขอโทษนะคะ คุณเย่เฟิงทำไมยังไม่ออกมา? เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”เจ้าหน้าที่คนนั้นส่ายหัว “ขอโทษครับ มีคนกล่าวหาว่าคุณเย่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ เรากำลังสอบสวนอยู่”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลีเอียนก็เปลี่ยนไปทันที “เย่เฟิงจะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง? ใครกล่าวหา? คนคนนั้นตาบอดหรือไง?”เธอมองไปรอบๆ ด้วยสายตาอันแหลมคม แต่ก็ไม่เห็นเจียงรุ่ยฉีอยู่ในกลุ่มนั้นนั่นทำให้หลีเอียนนึกถึงบางสิ่ง ก่อนพูดด้วยควา
หลี่เฉิงหนานโบกมือปฏิเสธไม่หยุดก่อนหน้านี้เขายังทำหน้าหยิ่งผยอง พูดจาท้าทายว่าจะประลองกับเย่เฟิง แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น พูดออกมาพร้อมปากที่สั่นระริกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเย่เฟิงตรงๆ ด้วยซ้ำ!เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ ก่อนกวาดตามองไปรอบๆผู้จัดการฉางจากจุดชมวิวหดคอด้วยความกลัว รู้สึกขาสั่นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ดาราสาวเจียงรุ่ยฉีเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับเย่เฟิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและสับสนวี๊วอ…วี๊วอ…วี๊วอ…ในขณะนั้นเอง เสียงไซเรนตำรวจดังขึ้นอย่างเร่งรีบวินาทีต่อมา รถตำรวจของหน่วยปราบปรามหลายคัน พร้อมรถพยาบาลอีกหลายคันก็มาถึงที่เกิดเหตุ!หลังจากที่หัวหน้าทีมลงจากรถ แล้วเห็นภาพเบื้องหน้า เขาก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสี!“ทุกคนอย่าขยับ! ยกมือขึ้น!”หัวหน้าทีมควักปืนออกมา พร้อมตะโกนสั่งเสียงดังเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ลงจากรถตามมา ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นศพที่คุกเข่าเรียงรายกันเต็มพื้น พวกเขาก็รีบชักปืนออกมาทันทีเย่เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนยอมยกมือขึ้นอย่างร่วมมือคนอื่นๆ ก็ยกมือขึ้นตาม…“พาตัวทุกคนไป!”หัวหน้าทีมสั่งเสียงเย็นชา พร้อมพาคนทั้งหมดท
ริมทะเลสาบในหุบเขาแห่งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร!แม้แต่คนธรรมดาที่อยู่ห่างออกไปไกล ยังสามารถรับรู้ถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงระหว่างเย่เฟิงกับโอดะ ชินเก็น!พลังอันมหาศาลคล้ายจับต้องได้ พวยพุ่งออกมาจากโอดะ ชินเก็น กดดันเข้าหาเย่เฟิงเมื่อสะสมพลังถึงขีดสุด เขาก็ส่งเสียงคำราม ดึงดาบคู่จากหลังออกมา กลายร่างเป็นเงาวูบพุ่งเข้าหาเย่เฟิง!เย่เฟิงแค่นเสียงเย็น ย่ำเท้าไปข้างหน้าโดยไม่หวาดหวั่น ปะทะเข้าไปอย่างกล้าหาญดวงตาเป็นประกาย เผยให้เห็นจิตวิญญาณนักสู้ที่พลุ่งพล่าน!“ฟัน!”โอดะ ชินเก็นแสยะยิ้มอย่างดุร้าย ดาบคู่ฟันตัดผ่านอากาศ มุ่งหน้าเข้าสู่เย่เฟิงในลักษณะฟันไขว้!ท่าทางราวกับจะตัดเย่เฟิงออกเป็นสี่ส่วน!หวือ!ในชั่วพริบตา พลังมังกรอันแข็งแกร่งพวยพุ่งออกมาจากร่างของเย่เฟิง ก่อตัวเป็นพลังป้องกันแน่นหนาภายนอกร่างกายของเขาอากาศรอบตัวเย่เฟิงดูเหมือนบิดเบี้ยวตามไปด้วยในพริบตา เย่เฟิงพุ่งตรงเข้าสู่ดาบไขว้ของโอดะ ชินเก็นอย่างไม่หยุดยั้งเคร้ง! เคร้ง! เคร้ง…ในวินาทีนั้นเอง ม่านตาของโอดะ ชินเก็นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจหดลง!ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม กลับถูกแทน
การต่อสู้ที่ดุเดือด ใกล้แค่ปลายจมูก!ทว่าอ้อมกอดของเย่เฟิง กลับราวกับอีกโลกหนึ่งเมื่อออกจากอ้อมกอดนั้น ก็เหมือนหลุดไปยังนรกอเวจี!แต่เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ก็เหมือนอยู่ในอ่าวที่สงบสุข!ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด รอบข้างก็กลับมาสงบอีกครั้ง หลีเอียนรู้สึกว่าตัวเองถูกวางลงบนพื้นวินาทีถัดมา ดวงตาคู่งามของเธอก็หรี่ต่ำลงด้วยความตกตะลึง!ในอีกทิศทางหนึ่ง ทุกคนต่างเผยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจอย่างรุนแรงเพียงเห็นว่าเหล่านินจาชุดดำทั้งหลาย ได้กลายเป็นศพไปแล้ว ณ ขณะนี้!ท่าทางการตายของพวกเขาแทบจะเหมือนกันทั้งหมด!หัวเข่าแตกเป็นเสี่ยง ขาทั้งสองบิดเบี้ยวไปในทิศทางตรงข้าม คุกเข่าอยู่ตรงนั้น พร้อมกับดาบซามูไรที่ปักลงจากกระหม่อมทะลุลงพื้น!มองไปกราดเดียว ก็พบร่างที่คุกเข่าถูกปักตรึงเต็มพื้นไปหมด!ซี๊ด…เสียงสูดลมหายใจเย็นดังขึ้นระงมเจียงรุ่ยฉี หลี่เฉิงหนาน ทีมงานกองถ่าย ตัวประกอบ และทีมงานร้านชุดแต่งงาน ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนจิตวิญญาณสั่นสะท้าน!ยกเว้นเจียงรุ่ยฉีที่ยังคงเกลียดชังเย่เฟิง ในขณะที่ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้น ต่างเผยแววตาเคารพและชื่นชมเมื่อมองไปยังร่างสูงเด่นที่อยู่ในทิศ
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ทุกคนต่างสูดลมหายใจลึกด้วยความตกตะลึงความเด็ดขาดและรุนแรงของเย่เฟิง ทำให้ทุกคนใจหายแม้แต่หลีเอียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา สีหน้าก็ยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย!"%¥……&!""*(¥#)……"ในวินาทีถัดมา นินจาชุดดำที่ตั้งสติได้ ต่างพากันส่งเสียงโกรธเกรี้ยวในภาษาญี่ปุ่น แล้วพุ่งเข้าหาเย่เฟิงพร้อมกันแต่ละคนปล่อยกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงออกมา!ทั้งพื้นที่เหมือนอุณหภูมิลดลงจนถึงจุดเยือกแข็งเพราะแรงกดดันนั้น!"แผ่นดินผืนนี้ ไม่ใช่ที่ที่พวกญี่ปุ่นจะมาทำร้ายผู้คนได้อีกแล้ว!""ฆ่า!"ใบหน้าคมคายของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความเย็นชาและมุ่งมั่นเขาตะโกนเสียงกร้าว พร้อมกับโอบหลีเอียนไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะกระโดดพุ่งออกไปด้วยความเร็ว!ฟิ้ว!ดาบซามูไรเล่มหนึ่งฟันเข้ามา เย่เฟิงยกมือขึ้นตอบโต้ทันทีฝ่ายตรงข้ามยังไม่ทันได้ตอบสนอง ข้อมือของเขาก็ถูกเย่เฟิงบีบจนแตก ดาบหลุดออกจากมือทันทีเย่เฟิงคว้าดาบจากมืออีกฝ่าย ก่อนจะเตะเข่าเข้าจุดอ่อน!เสียงกระดูกแตกดังขึ้นพร้อมกับเสียงดาบเสียบเข้ากับร่างนินจาชุดดำคนนี้กลายเป็นศพในพริบตา ถูกตรึงไว้กับพื้นด้วยดาบในท่าคุกเข่า!จากนั้น การสังหารที่น่าหวาดหวั
ฟิ้วๆๆ...วินาทีต่อมา แสงสะท้อนจากคมดาบวาววับ พวกผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับเชิญต่างชักดาบออกจากฝักทันใดนั้น บรรยากาศแห่งการสังหารก็ปกคลุมทั่วทั้งสถานที่!"ทุกคน ยกมือขึ้น! คุกเข่าลงกับพื้น!""ไม่อย่างนั้น...ตาย!"หัวหน้ากลุ่มนินจาตะโกนด้วยภาษาเยียนเซียที่แข็งกระด้างทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวฉั๊วะ!ในขณะที่พวกเขากำลังลังเลและสับสน แสงดาบที่เยือกเย็นพลันวาบผ่านหัวหน้านินจายกดาบขึ้นแล้วฟันลงอย่างไร้ความปรานี หัวของคนในกองถ่ายคนหนึ่งถูกตัดกระเด็นทันที!เลือดพุ่งกระจายออกมาเป็นสาย!"อ๊ากก!""ฆ่าคนแล้ว!"เมื่อเห็นภาพนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นทันทีทุกคนต่างตระหนักได้ทันทีว่าดาบโค้งที่อยู่ในมือของคนพวกนี้ ไม่ใช่อุปกรณ์ประกอบฉากมันคืออาวุธสังหารที่แท้จริง ซึ่งคมกริบจนตัดเหล็กได้ราวกับตัดกระดาษ!"หุบปาก! ทำตามที่ฉันบอก!""ยกมือขึ้น คุกเข่า!"หัวหน้านินจาตะคอกเสียงดุดันทันทีที่คำพูดนั้นสิ้นสุด เสียงกรีดร้องและความวุ่นวายก็เงียบลงทันที ทุกคนต่างตกใจจนหน้าซีดเผือด พากันยกมือขึ้นและคุกเข่าลงไม่มีใครสงสัยเลยว่า หากพวกเขาไม่ทำตาม สิ่งท
บอดี้การ์ดของเจียงรุ่ยฉี แต่ละคนแสดงสีหน้าดุดัน ขยับเข้าล้อมเย่เฟิงหลี่เฉิงหนาน ดาราหนุ่มบู๊ กลับมาตั้งสติได้ จากนั้นจ้องเย่เฟิงด้วยสายตาเยือกเย็นรัศมีความดุดันแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา!แม้ว่าเขาจะพูดว่าตัวเองมีวิชาบู๊จริงๆ ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ใช่เรื่องปลอมแต่เขาก็เป็นเพียงนักบู๊สายพลังภายในขั้นปลายเท่านั้นแน่นอน สำหรับฝีมือระดับนี้ การรับมือกับคนธรรมดา หรือแม้กระทั่งทหารพิเศษทั่วไป ก็นับว่าเพียงพอแล้ว!ดังนั้น หลี่เฉิงหนานจึงมีความมั่นใจในตัวเองสูงเสมอ และเชื่อว่าตนเองคือยอดฝีมือที่แท้จริง"พวกนายถอยไป ให้เฉิงหนานช่วยฉันสั่งสอนหมอนี่!"เจียงรุ่ยฉีแสดงแววตาคุณเล่ห์ พลางสั่งบอดี้การ์ดของเธอจากนั้น เธอพูดกับหลี่เฉิงหนานว่า "เฉิงหนาน คุณต้องช่วยจัดงานหมอนั่นให้ฉันนะ!"ต้องยอมรับว่าดาราสาวคนนี้มีชั้นเชิงไม่น้อย!ถ้าให้บอดี้การ์ดของเธอเองลงมือ แล้วทำให้เย่เฟิงเป็นอะไรขึ้นมา ไม่แน่ อาจทำให้เธอเสียชื่อเสียงได้แต่ถ้าให้หลี่เฉิงหนานเป็นคนลงมือ เรื่องนี้ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเธออย่างมาก หากเรื่องราวนี้หลุดออกไป สื่อก็จะเขียนว่า หลี่เฉิงหนานโกรธจัดเพราะเธอ จึงสั่งสอนคนให้!หลี่
"รุ่ยฉีเป็นคนดังคนโปรดของคุณชายถง พวกคุณอย่าหาเรื่องดีกว่า!"หลี่เฉิงหนาน ดาราบู๊หนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันแม้ว่าเขาจะตะลึงในความงามของหลีเอียน แต่เขาก็ยังคงอยู่ข้างเจียงรุ่ยฉีช่วงนี้ เขากำลังตามจีบอีกฝ่ายอยู่ด้วยถ้าเขาสามารถเอาชนะใจเจียงรุ่ยฉีได้ เขาก็จะใช้กระแสของเธอ ทำให้ตัวเองโด่งดังขึ้น"พอเถอะ พื้นเพของคุณเจียงไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะไปยุ่งด้วยได้ รีบไปเถอะ อย่าหาเรื่องดีกว่า!"ผู้จัดการจุดชมวิวกล่าวด้วยท่าทีเบื่อหน่าย พลางโบกมือไล่"คุณเย่ คุณหลี หรือว่า...เราจะยอมถอยไปก่อนดีไหมครับ?"ผู้จัดการร้านชุดแต่งงานพูดเกลี้ยกล่อม"ฮึ รู้ตัวหน่อยก็ไสหัวออกไปซะ! อย่าคิดว่าตัวเองมีหน้าตาแล้วใครๆ จะต้องตามใจ!"เจียงรุ่ยฉีเชิดคางขึ้น กล่าวอย่างหยิ่งผยอง พร้อมจ้องหลีเอียนด้วยสายตาเย้ยหยันความอิจฉาริษยาของผู้หญิง ทำให้เธอเต็มไปด้วยความเป็นศัตรูต่อหลีเอียนเมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลีเอียนก็โกรธจนตัวสั่นเล็กน้อยทั้งที่อีกฝ่ายเป็นฝ่ายมาบุกรุกแท้ๆ แต่ในปากของดาราสาวคนนี้ กลับกลายเป็นว่าตนเป็นฝ่ายมาสร้างปัญหาเสียเองเย่เฟิงจับมือหลีเอียน ดึงเธอมาไว้ข้างหลังเขา ใบหน้าของเขาเย็นชาราวน้
พวกเขาพูดว่าเวลาตัวเองมีค่านักมีค่าหนา แต่สุดท้ายก็แค่จะไปงานเลี้ยงตอนเที่ยง?ภรรยาของตัวเองวุ่นจนหัวหมุนเพราะเรื่องบริษัท กว่าจะหาเวลามาถ่ายรูปแต่งงานได้ทำไมต้องยอมหลีกทางให้พวกเขาด้วย?เวลาของใครไม่สำคัญบ้าง?สิ้นเสียง ทุกคนก็หันมามองเย่เฟิงคนของร้านชุดแต่งงานดูมีท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดส่วนทีมงานถ่ายละครและผู้จัดการฉางต่างมีสายตาไม่เป็นมิตร“คุณผู้ชายคนนี้ คุณไม่รู้จักคุณเจียงรุ่ยฉีเหรอ? คุณเจียงน่ะเป็นดาราดังระดับแถวหน้าของประเทศนะ เธอไม่มีเวลามารอหรอก ขอให้พวกคุณช่วยให้ความร่วมมือด้วย!”ผู้จัดการจุดชมวิวขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจียงรุ่ยฉี ดาราสาวที่ดังเปรี้ยงปร้างในช่วงไม่กี่ปีมานี้!เพราะใบหน้าของเธอมีความงดงามแบบคลาสสิก พอแต่งหน้าและแต่งตัวแบบโบราณแล้ว ยิ่งดูมีออร่าดั่งเซียนน้อยเธอเล่นละครแนวพีเรียดเซียนจอมยุทธ์มาหลายเรื่อง และทุกเรื่องก็ดังเป็นพลุแตก!ส่วนชายหนุ่มหล่อที่มีท่าทีหยิ่งผยองคนนั้นคือหลี่เฉิงหนาน ดาราหน้าใหม่สายบู๊ที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงในช่วงนี้ตั้งแต่เดบิวต์มา เขาก็ใช้ภาพลักษณ์ว่าเล่นบู๊จริงมาเป็นจุดขายในตอนนี้ ใบหน้าคมสวยของหลีเอียนก