เมื่อเห็นหน้าหลีถิง หลีเอียนก็ปั้นหน้าขรึม แล้วหันไปไม่สนใจอีกฝ่ายทันทีสายตาของเย่เฟิงเองก็มองไปที่หินหยกพวกนั้น ขี้เกียจสู้ฝีปากกับผู้หญิงคนหนึ่งเวินเสี่ยวเหมิงและจางเฉิงเฟิงขมวดคิ้ว จางเฉิงเฟิงถามเย่เฟิงว่า “พี่เย่ ใครเหรอครับ?”“น้องเมียน่ะ ไม่ต้องสนใจ”เย่เฟิงโบกมือ“แหวะ! ใครเป็นน้องเมียแกไม่ทราบ หน้าด้าน! คิดว่าตัวเองเป็นลูกเขยตระกูลหลีจริงๆ หรือไง?”หลีถิงถ่มน้ำลายอย่างไม่พอใจทันใดนั้น วัยรุ่นที่เวินต้าควงดูแลอยู่คนนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเขามองหลีเอียนด้วยสายตาตกตะลึงก่อน แล้วค่อยๆ หันไปมองเย่เฟิงพลางพูดกับหลีถิงว่า “คนนี้คือลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลหลีของพวกคุณน่ะเหรอ?”“นี่ พวกแกพูดจาระวังหน่อย! ห้ามพูดแบบนี้กับคุณเย่นะ!”เวินเสี่ยวเหมิงตักเตือนด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พ่อคะ คุณลุง คุณน้าสองคนนี้นิสัยไม่ดีเลย!”นั่วนั่วเบะปาก สะกิดมือเย่เฟิง แล้วพูดขึ้นเบาๆ“ไม่เป็นไร เราไม่ต้องสนใจพวกเขา ถือซะว่าหมาเห่าแล้วกันเนอะ”เย่เฟิงยิ้มแย้ม แล้วอุ้มนั่วนั่วขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของวัยรุ่นคนนั้นดูไม่ดีในทันใด เขาชี้ด่าเย่เฟิงว่า “ไอ้หน้าขาว แกว่าใครเป็นหมา? ไอ้คนไร้ประโย
เวินต้าควงไม่สนใจปัญหาของคนอื่นๆ สนใจแค่คุณภาพของสินค้าล็อตนี้เท่านั้น“ไม่มีปัญหาครับ! หินหยกพวกนี้เป็นหยกชั้นดีทั้งนั้น มีโอกาสผ่าเจอหยกเขียวสูงมาก ประธานเวินวางใจซื้อได้เลยครับ”ท่านเซี่ยตาสวรรค์พยักหน้า แล้วพูดอย่างมั่นใจเมื่อได้ยินดังนั้น เวินต้าควงก็เผยรอยยิ้มดีใจออกมาพร้อมกับพยักหน้าจากนั้นทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับพูดแทรกขึ้น แล้วพูดคำพูดที่ทำผู้อื่นตกใจว่า“ผมว่าประธานเวินไม่ต้องซื้อของล็อตนี้หรอกครับ! หินพวกนี้เป็นแค่ขยะทั้งนั้น!”สิ้นเสียง ทุกคนพลันตกตะลึง แล้วมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าตกใจ“พูดเหี้*อะไร!”จากนั้น กัวอี้หมิงก็สบถคำด่าออกมา“เย่เฟิง นายอิจฉาอี้หมิงที่เขาเก่งกว่านาย ก็เลยใช้วิธีนี้ทำลายเขาใช่ไหม? ตาสุนัขของนายนั่นจะแยกหินชั้นดีกับหินชั้นต่ำออกเหรอ?”หลีถิงด่าด้วยวาจาเยาะเย้ยส่วนท่านเซี่ยตาสวรรค์แค่นเสียงเย็นชาออกมา แต่แฝงด้วยน้ำโกรธ “นี่ ไอ้หนุ่ม ข้าวน่ะกินมั่วซั่วได้ แต่คำพูดน่ะห้ามมั่วซั่วเด็ดขาด! นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? จะบอกว่าฉันหลอกประธานเวินงั้นเหรอ?”เวินต้าควงพูดด้วยสีหน้านิ่งขรึม “ไอ้หนุ่ม นายมาก่อเรื่องงั้นเหรอ?”ระหว่างที่พูด เขาก็หัน
เมื่อได้ยินเย่เฟิงตอบตกลงทันที ท่านเซี่ยตาสวรรค์ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะเยาะ "ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนว่านายจะไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ นะ! หยุดดื้นรั้นได้แล้ว ถ้านายสำนึกผิดกับฉันตอนนี้ และยอมรับว่านายพูดจาไร้สาระ ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย!”“ไอ้โง่ หินชิ้นนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าต้องเป็นสีเขียว! คนไร้ประโยชน์ที่ไม่เข้าใจอะไรเลยยังกล้าสู้กับอาจารย์เซี่ยอีก!”หลี่ถิงหัวเราะและเย้ยหยัน“ฉายาตาสวรรค์ของอาจารย์เซี่ย นายคิดว่าเขาได้มาฟรีๆ หรือไง? อย่าว่าแต่อาจารย์เซี่ยเลย คนที่มีความรู้หน่อย ก็มองออกว่าหินชิ้นนี้มีแต่ได้ ไม่ขาดทุนคนไม่มีการศึกษานี่มันน่ากลัวจริงๆ ฮ่าๆ..."กัวอี้หมิงยิ้มและส่ายหัวเช่นกัน“ความรู้ไม่ใช่เหตุผลหลักหรอก! ไม่ใช่แค่หินก้อนนี้เท่านั้นนะ แต่หินหยกก้อนอื่นๆ ในล็อตนี้ทุกก้อน ฉันก็กล้าพนันให้เขาหมดตัว!”เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นหลีเอียนเหลือบมองเย่เฟิงด้วยสายตาคู่งามในความเห็นของเธอ หินหยกก้อนนี้ต้องเป็นสีเขียวแน่นอน แต่ในเมื่อเย่เฟิงมั่นใจขนาดนี้ เธอจึงไม่ได้พูดอะไรใดๆเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลีเอียนได้เห็นความอัศจรรย์จากตัวผู้
เวลานี้ เวินต้าควงสั่งให้คนนำหินยกไปวางบนเครื่องผ่าหิน กำลังเตรียมจะผ่าหินเย่เฟิงพูดอย่างมั่นใจว่าของล็อตนี้เป็นขยะ เวินต้าควงเองก็อยากรู้สั่งสอนวัยรุ่นคนนี้เหมือนกันเพราะยังไงหินก้อนนี้ เขาไม่ต้องเสียเงินจ่ายเองอยู่แล้ว เพียงแค่ออกแรงคนและอุปกรณ์เท่านั้น“ทั้งสองคน อยากผ่ายังไงดีครับ?”คนผ่าหินเอ่ยถาม“ผ่าจากเส้นนี้ แล้วก็ค่อยๆ ถู!”ท่านเซี่ยตาสวรรค์ใช้ช็อกวาดแล้วกล่าว“ผมว่า ผ่าตรงกลางโต้งๆ ไปเลยดีกว่า เสียเวลา!”เย่เฟิงเบะปาก แล้วกล่าวอย่างหมดความอดทนเมื่อได้ยินแบบนั้น หลีถิงก็ถ่มน้ำลายใส่ พูดว่า “นี่คนแซ่เย่ นายรู้ไหมว่าตัวเองต้องแพ้แน่ๆ ไม่ยอมทำแทนอาจารย์เซี่ย ก็เลยคิดจะทำลายหินก้อนนี้ใช่ไหม?”“นี่วัยรุ่น อย่าคิดอะไรไม่ดีสิ!”ท่านเซี่ยตาสวรรค์พูดด้วยเสียงเย็นชาแต่เวินต้าควงกลับขมวดคิ้ว สายตาที่มองเย่เฟิงยิ่งดูไม่พอใจรู้สึกว่าวัยรุ่นคนนี้ไม่เพียงแต่ชอบทำเรื่องใหญ่โต พูดจาโอ้อวด แต่ยังมีความคิดไม่ดีอีกด้วย“อย่าไปฟังเขา อาจารย์เซี่ยว่ายังไงก็อย่างนั้น!”กัวอี้หมิงหัวเราะแห้ง แล้วพูดกับคนผ่าหินคนผ่าหินทั้งสองคนพยักหน้า แล้วเริ่มผ่าหินตามรอยเส้นนั้นโดยไม่สนใจเย่เ
“บังเอิญ เป็นแค่เรื่องบังเอิญเฉยๆ! หินล็อตนี้เป็นหินชั้นดีทั้งนั้นนี่!”ท่านเซี่ยตาสวรรค์ปาดเหงื่อ ต่อหน้าน้ำเสียงไม่เชื่อใจของเวินต้าควง ทำให้สีหน้าของเขาดูไม่ดี“ใช่ แค่เรื่องบังเอิญเฉยๆ มีแค่ก้อนนี้ที่เป็นแบบนี้เท่านั้นแหละ หินหยกเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว! ลุงเวิน หินล็อตนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน!”กัวอี้หมิงแก้ต่างอย่างร้อนรนเมื่อครู่นี้เขาเองก็สัมผัสได้ถึงความไม่เชื่อใจได้จากสายตาของเวินต้าควงที่มองมาที่ตนแล้ว“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว อาจารย์เซี่ยจ่ายเงินก่อนแล้วกัน เงินสิบล้านซื้อหินแย่ๆ หนึ่งก้อน อาจารย์เซี่ยนี่ใจป้ำจริงๆ”ทันใดนั้น จางเฉิงเฟิงพูดเย้ยหยันขึ้นตอนนี้เขาอยู่ฝ่ายเดียวกับเย่เฟิงแล้ว คนพวกนี้รวมหัวกันกลั่นแกล้งพี่เย่แบบนี้ เขาอดทนมาตั้งนานแล้ว“นั่นน่ะสิ จ่ายเงินมาเลย! ทั้งอาจารย์ ทั้งหินแย่ๆ อะไรนั่นคืออะไรกัน? กัวอี้หมิง นายตั้งใจจะมาหลอกพ่อฉันใช่ไหม?”เวินเสี่ยวเหมิงเบะปากถาม“มั่ว! นี่มันแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น! อีกอย่าง เงินนี้ยังไงก็ต้องจ่ายให้ฉันอยู่แล้ว พวกเธอจะร้อนใจทำไม?”กัวอี้หมิงหน้าแดงก่ำ แล้วหันไปพูดกับท่านเซี่ยตาสวรรค์ “อาจารย์เซี่ย ผมไม่
พูดจบ เขาก็มองไปที่เย่เฟิง “พนันต่อ! ฉันจะพนันกับนายเอง ตาละสิบล้าน! ผ่าก้อนนี้แหละ ฉันไม่เชื่อหรอก!”กัวอี้หมิงเลือกหินขนาดเท่าหัวมนุษย์มาก้อนหนึ่ง ดูจากภายนอกแล้วมีสีเขียวมรกตแฝงอยู่เหมือนกัน“โอเค! ต่อ”เย่เฟิงรับเงินจากท่านเซี่ยตาสวรรค์มา แล้วพยักหน้ายิ้มๆเงินที่ได้มาฟรีๆ จะไม่รับไว้ได้ยังไง?ไม่กี่นาทีผ่านไป…ทุกคนมองไปที่หินหยกที่ถูกผ่าเป็นชิ้นๆ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ!กัวอี้หมิงหน้าถอดสี ท่านเซี่ยตาสวรรค์สงสัยในชีวิต หลีถิงเองก็สีหน้าดูไม่ได้เช่นกันเวินเสี่ยวเหมิงและจางเฉิงเฟิงสบตากัน แต่ก็สามารถมองเห็นความสะท้านได้จากสายตานั้นพี่เย่พูดถูกจริงๆ ด้วย หินพวกนี้เป็นหินแย่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้นเหรอเนี่ย?“พ่อคะ ที่แท้พ่อไม่ใช่จูปาเจี้ย แต่เป็นซุนหงอคงต่างหาก! แบร่ๆๆ…”เสี่ยวนั่วนั่วส่งเสียงหัวเราะเหมือนเสียงกระดิ่งเงินออกมา แล้วปรบมือพูดเย่เฟิงหมดคำจะพูด แล้วลูบจมูกของลูกสาวอย่างเอ็นดู “พ่อไม่ใช่จูปาเจี้ยอยู่แล้ว”“เหล่าหลี่ รบกวนพวกนายหน่อย ช่วยผ่าหินพวกนี้ให้หมดซะ ผ่าจากตรงกลางเลย!”ทันใดนั้น เวินต้าควงก็กวาดมองไปที่กัวอี้หมิง แล้วสั่งการคนผ่าหินความจริงตามหลักแล้ว ถ
“ประธานเวิน ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ! ผมไม่ได้ร่วมมือกับคนอื่นมาหลอกคุณนะ!”“ผม…เป็นเพราะผมตาไม่ดีเอง! แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะครับ!”ท่านเซี่ยตาสวรรค์เหงื่อเย็นไหลท่วมตัวพลางอธิบายอย่างต่อเนื่องกัวอี้หมิงยังคงนั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น มองดูหินห่วยแตกพวกนั้นจนอ้ำอึ้งไปหมด“เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้สิ เป็นไปไม่ได้…”ทันใดนั้น บนใบหน้าของหลีเอียนเผยรอยยิ้มเยาะเย้ย แล้วหันไปพูดกับหลีถิงว่า “นี่น้องสาว แฟนหนุ่มคนดีของเธอน่ะ มีวิธีหลอกลวงคนอื่นเขาเป็นชุดเลยเนอะ โชคดีนะที่เย่เฟิงจับได้ซะก่อน ผู้หญิงน่ะ ต้องหาผู้ชายที่หวังพึ่งได้ เธออย่าถูกเขาหลอกล่ะ หึๆ…”คำพูดนี้ออกจากปากของบอสสาวสวย ฟังดูเรียบนิ่ง แต่กลับำให้หลีถิงโกรธสุดขีด“แก…ฉัน…”หลีถิงโกรธจนพูดไม่ถูก เพราะแฟนหนุ่มที่เธอเพิ่งยกยอไปเมื่อครู่ ตอนนี้กลับดูทรุดโทรมมาก“ไม่ได้ตั้งใจ? ชิ้นสองชิ้นถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ คุณจะบอกว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องบังเอิญด้วยงั้นเหรอ?”เวินต้าควงถามท่านเซี่ยตาสวรรค์อีกฝ่ายถูกจี้ถามจนพูดไม่ออก หัวใจตกไปถึงตาตุ่มเขารู้ว่าเวินต้าควงไม่มีทางเชื่อเขาอีกต่อไปหลังจากเกิดเรื่องวันนี้ ชื่อเ
กัวอี้หมิงหัวเราะขมขื่น แล้วพาคนจากไปทันที และไม่มีทีท่าโอ้อวดและเหิมใจเหมือนก่อนหน้านี้อีกหลีถิงเองก็ตามไปด้วย ก่อนจากไปยังไม่ลืมที่จะหันไปมองเย่เฟิงอย่างลึกซึ้งแฝงด้วยความรู้สึกประหลาดและโกรธแค้นบางอย่างคนหน้าขาวนี่รู้ได้ยังไง?ทำไมมันถึงรู้ไปหมดทุกเรื่องเลยล่ะ!ทันใดนั้น ท่านเซี่ยตาสวรรค์พลันประสานมือให้กับเย่เฟิงอย่างซาบซึ้งใจ “คุณเย่ ขอบคุณมากนะครับ! ต่อไปถ้าคุณอยากพนันหยกหรือของโบราณอะไร สามารถติดต่อผมได้เลย ผมจะช่วยคุณฟรีๆ”เขาซาบซึ้งใจในเย่เฟิงจริงๆ!ไม่คิดจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะพูดตรงไปตรงมา แล้วคืนความบริสุทธิ์ให้กับตนต่อจากนี้ เวินต้าควงคงไม่ขอให้เขามาแล้ว แต่หลังจากที่เย่เฟิงอธิบายไปแล้วนั้น อย่างน้อยๆ ก็ไม่ถึงขั้นทำลายชื่อเสียงของเขา“เอ่อ…โอเค!”เย่เฟิงลูบจมูก แล้วพยักหน้าอย่างหมดคำพูดท่านเซี่ยตาสวรรค์รู้สึกตัว อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะตัวเอง เพราะสัมผัสได้ว่าคำพูดของตนนี้ออกจะเหมือนพูดกับผู้เชี่ยวชาญไปหน่อยด้วยความสามารถของคุณเย่นั้นยังต้องให้เขาช่วยอีกเหรอ?“นี่พ่อหนุ่ม ขอบใจนายมากนะ! วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะนาย เรื่องที่ฉันถูกหลอกเป็นเงินแปดพันล้านน่ะเรื่องเล็ก แต่