แชร์

บทที่ 902

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
นายจะยกคฤหาสน์ราคาแพงหลังนี้ให้พวกเขางั้นเหรอ? น่าเสียดายจัง!”

สีหน้าของฟีโอน่ามืดลงขณะที่เธอคิดว่าจะต้องเสียคฤหาสน์ที่สวยงามเช่นนี้ไป

“แม่คะ ตอนนี้เราก็มีเงินมากพอแล้ว ครอบครัวของพวกเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีในเมืองนางแอ่นหรือแม้แต่เมืองจิน แม้ว่าเราจะไม่ใช่ครอบครัวที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นั่น มันคงต้องใช้เวลาอีกนานในการขายคฤหาสน์หลังนี้ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่เราจะยกมันให้พวกเขา เราจะได้รีบย้ายออกไปเร็ว ๆ!”

เซเลน่ายิ้มขณะที่พยายามโน้มน้าวแม่ของเธอ

“ก็ได้ ทำไมอีวานต้องปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกองทัพด้วย? ทำไมเขาต้องเคยไปทำให้พวกแลมเบิร์ตโกรธเคืองมาก่อนด้วย? เฮ้อ คิดว่าเป็นความโชคร้ายของเราแล้วกัน!”

ฟีโอน่าถอนหายออกมาอย่างหนักและเดินเข้าไปในห้องของเธอ

เฟนด์โทรหานายท่านจอร์จ

นายท่านจอร์จที่เพิ่งทานอาหารเสร็จและกำลังเดินเล่นอยู่ในสวน หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเห็นว่าเฟนด์โทรมา “มีอะไรหรือเปล่าเฟนด์?” เขาถาม

เฟนด์ยิ้มออกมา “นายท่านจอร์จ ผมมีคนรับใช้ไม่มากนัก” เขาพูดในสาย “ผมเพิ่งฆ่าคนไปหลายสิบศพในสวนของผม ช่วยส่งคนมาช่วยเคลียร์ศพให้หน่อยได้ไหม?”

นายท่านจอร์จถึงกับอึ้งเมื่อไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 903

    “เรียกพวกเราเหรอครับนายท่าน?” ผู้ช่วยผู้บัญชาการของบอดี้การ์ดรีบถามวินส์ตัน เพราะมันดึกมากแล้วและทุกคนก็เตรียมตัวที่จะเข้านอน พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายจึงเรียกหาพวกเขา และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น “มีศพหลายสิบศพอยู่ในสวนของเฟนด์ วู๊ด ช่วยไปเคลียร์มันและหาที่เผาศพซะ!” วินส์ตันพูดออกมายิ้ม ๆ “ไม่มีทาง นายท่าน ตระกูลจอร์จเป็นตระกูลชนชั้นหนึ่งนะ ทำไมเราต้องถูกใช้ให้ไปทำแบบนั้น? และยังเป็นงานที่น่าขายหน้าแบบนั้นด้วย...” ผู้ช่วยผู้บัญชาการไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่ออีก “นายจะไปรู้อะไร? อีกไม่นานเฟนด์และครอบครัวของเขาจะออกไปจากอาณาเขตกลางแล้ว ฉันได้ยินมาว่าเขาฆ่าคนจากเมืองจินไปเมื่อตอนบ่าย พวกเขาอาจจะทำให้ตระกูลที่มีอิทธิพลบางตระกูลโกรธเคืองจึงจำเป็นต้องออกจากที่นี่ไป คฤหาสน์ของเขาก็ขายได้ไม่ง่ายนัก เขาเลยจะยกให้พวกเรา!” “ไปได้แล้ว! หลังจากที่พวกนายทำงานเสร็จ เจอกันพรุ่งนี้เพื่อรับโบนัสของพวกนาย” วินส์ตันพูดพร้อมหัวเราะ “ฉันจะให้เงินพวกนายคนละ 10,000 เหรียญ!” “ขอบคุณครับนายท่าน!” พวกบอดี้การ์ดรู้สึกมีความสุขทันที พวกเขาทุกคนรีบออกไปช่วยเฟนด์และคนอื่น ๆ จัดการกับศพ วันรุ่งขึ้นตระก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 904

    “คุณปู่พูดถูก ชีวิตคงไม่มีความหมายอยู่ดีถึงแม้จะมีเงินมากมายขนาดนั้น เราควรใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ด้วยการใช้เงินเพียงไม่กี่แสนเหรียญต่อปี!” สมาชิกในตระกูลเทย์เลอร์ยิ้มอย่างมั่นใจ “เงินที่มีอยู่เพียงพอที่จะทำให้เราใช้ชีวิตไปได้อีกนาน” เขาพูด “ไม่จำเป็นต้องเป็นตระกูลที่มีอำนาจ มันคงจะไม่ดีถ้าเราเปิดเผยตัวตน!” เซเลน่าพิจารณาความคิดเห็นนั้นแล้วเธอก็พยักหน้า “หลังจากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สำหรับตอนนี้เราคงเปิดได้แค่บริษัทเล็ก ๆ และทำธุรกิจเล็ก ๆ ไปก่อน มันคงจะปลอดภัยกว่าเพราะพวกนั้นน่าจะหาเราเจอได้ยาก และเราก็จะมีรายได้ที่มั่นคง เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้!” นายใหญ่เทย์เลอร์พยักหน้าอย่างพอใจ “หลานพูดถูก เป็นไปได้ที่เราจะทำธุรกิจเล็ก ๆ มันคงไม่เป็นไรตราบใดที่มันยังไม่เติบโตจนเกินควบคุม เราก็ทำได้!” หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มองไปที่เฟนด์ “จริงสิ เฟนด์ นายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เรามี และบอดี้การ์ดหญิงสิบคนของนายก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน ส่วนคนที่เหลือที่เรามีก็ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ แล้วตอนนี้เราควรย้ายไปที่ไหนดี? ฉันหวังว่านายจะเป็นคนตัดสินใจ เราจะฟังนาย!” เฟนด์รู้สึกตก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 905

    “ลองเอากลับไปคิดดูคืนนี้ ถ้าจะแยกออกไปอยู่เอง พรุ่งนี้เช้ามาหาผม ผมจะโอนเงินเข้าบัญชีของพวกคุณ แต่พวกคุณไม่ใช่ว่าจะได้รับเงิน 50 ล้านเหรียญต่อคนนะ ผมจะให้ครอบครัวละ 50 ล้านเหรียญ อย่างเช่น ถ้าลุงโรเจอร์อยากแยกออกไป เขาจะต้องพาครอบครัวไปด้วยแน่นอน ดังนั้นลุงจะได้รับเงิน 50 ล้านเหรียญ!” เฟนด์พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ทุกคนต่างแยกย้ายกันหลังจากทานอาหารเสร็จ ระหว่างทางกลับ เซซิเลียดูไม่ค่อยมีความสุขนัก “เฟนด์กำลังทำอะไรอยู่? เขาไม่บอกเราด้วยซ้ำว่าเขาจะไปที่ไหน? เขาคิดว่าเราเป็นคนนอกงั้นเหรอ?” เซซิเลียอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งหงุดหงิด “และคุณปู่ยังมอบเงินของตระกูลเทย์เลอร์ให้เซเลน่าดูแลด้วย เอาจริงเหรอเนี่ย? เขาไม่ไว้ใจให้เราจัดการสักส่วนเลยเหรอ?” “เฮ้ คุณแต่งงานกับครอบครัวอื่นแล้ว คงจะแปลกถ้าเขาจะมอบมันให้คุณ อีกอย่าง คุณแต่งงานกับนายน้อยจากตระกูลชนชั้นสอง พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องห่วงคุณ!” เคลลี่หัวเราะ “อ่า พวกเขาไม่อยากบอกจุดหมายปลายทางเพื่อหลีกเลี่ยงพวกเรา พวกเขาแกล้งทำว่าเราเป็นคนนอก! แต่มันก็เป็นเรื่องดี เพราะเราก็ไม่ได้อยากคบหาสมาคมกับพวกเขาอีกต่อไป พวกเขาไปทำให้ตระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 906

    “เมืองนางแอ่น?” ธีโอดอร์ตกใจเมื่อรู้จุดหมายปลายทาง เขาไม่คิดว่าเฟนด์จะตัดสินใจมุ่งหน้าไปทางเหนือ ไปทางเมืองจิน เมืองนางแอ่นนั้นอยู่ใกล้กับเมืองจิน! ตระกูลแลมเบิร์ตเป็นตระกูลที่โด่งดังในเมืองจิน พวกเขาจะเอาตัวเองไปเสิร์ฟบนจาน ถ้าพวกเขาไปมุ่งหน้าไปที่นั่น “เอาจริงเหรอ? เฟนด์ มันจะดีกว่าไหมถ้าเราหนีไปให้ไกลที่สุด? มันอันตรายเกินไปที่จะไปที่เมืองนางแอ่น” ฟีโอน่าก็ตกใจมากเหมือนกัน เธอรีบถามเขา เธอไม่คิดว่าเฟนด์จะยิ้มอย่างไม่สนใจกลับมา “ผมมีธุระที่ต้องทำในเมืองนางแอ่น อีกอย่าง ผมคิดว่าตระกูลแลมเบิร์ตจะเริ่มสืบหาจากอาณาเขตกลาง สมมตินะ ถ้าพวกเขาอยากตามล่าเรา พวกเขาจะทำยังไงเมื่อพวกเขาพบว่าเราจากไปแล้ว? พวกเขาจะตามหาเราในพื้นที่ใกล้เคียง บางทีอาจจะหาในเมืองทางตอนใต้ พวกเขาคงคิดว่าเราจะหนีไปให้ไกลที่สุดจากเมืองจิน!” ธีโอดอร์เพิ่งตระหนักได้ “ฉันเข้าใจแล้ว พวกเขาจะระมัดตัวน้อยลง ถ้าเราซ่อนตัวตัวอยู่ในที่แจ้ง พวกเขาจะไม่ค้นหาในพื้นที่พวกนั้น มันคงง่ายสำหรับพวกเขามากกว่าที่จะหาเราเจอถ้าเรามุ่งหน้าไปทางใต้ของอาณาเขตกลาง ถูกไหม?” “นั่นคือความคิดของผม อย่างน้อยที่เมืองนางแอ่นก็ปลอดภัยสักร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 907

    นายใหญ่เทย์เลอร์รู้สึกตื้นตันใจมาก สมาชิกในตระกูลเทย์เลอร์ทุกคนกลัวที่จะถูกลากลงไปในโคลนและกลัวว่าจะถูกฆ่า ทุกคนจึงออกจากอาณาเขตกลางโดยที่ไม่ได้บอกใครเลยแต่ลาน่า สกายเลอร์ และคนอื่น ๆ กลับเต็มใจที่จะปกป้องและจากมาพร้อมกับพวกเขา และเต็มใจที่จะลงนรกไปพร้อมกับพวกเขา “นายใหญ่เทย์เลอร์พูดถูก! คุณสกายเลอร์ สถานะและตัวตนของคุณกับบรรดาลูกศิษย์นั้นสูงส่งและมีเกียรติ พวกเขาแต่ละคนทรงพลังและแข็งแกร่งมาก สองหรือสามคนในบรรดาลูกศิษย์นั้นเทียบได้กับราชาสงครามเลย คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้เราเกรงว่าเราคงจะจ้างพวกคุณทุกคนไม่ได้” หัวใจเฟนด์เต็มไปด้วยความขอบคุณ ทุกคนตรงหน้าเฟนด์ที่รู้ว่าเขามีปัญหาไม่ได้วิ่งหนีไปเหมือนสมาชิกตระกูลเทย์เลอร์คนอื่น ๆ พวกเขากลับยินดีที่จะติดตามเขาไปนรกด้วยกัน ยินดีที่จะปกป้องเขาและครอบครัวของเขา คนพวกนี้เท่านั้นที่ถือว่าจงรักภักดีและซื่อสัตย์ “เราไม่ขอมากนักหรอก แค่สองล้านเหรียญต่อเดือนก็พอแล้ว ราคาไม่แพงใช่ไหม?”สีหน้าของสกายเลอร์ดูเคร่งขรึมและไม่มีชีวิตชีวาในเวลาเดียวกัน เขาอยากบอกพวกเขาว่า ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าจ้างเพื่อจ้างเขาก็ได้ แต่ถ้าเขาพูดออกไปอย่างนั้นจริง ๆ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 908

    “ฉันว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน! ตราบใดที่มีอาหารดี ๆ และมีที่ให้ฉันนอน ฉันก็พอใจแล้ว!”ลาน่ายอมรับคำแนะนำของเฟนด์พร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข นั่นทำให้ทุกคนประหลาดใจ“ท่านลาน่า ท่านเป็นเทพีสงครามที่เรียกร้องน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา!”อีกด้าน สกายเลอร์กลับหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างร่าเริงสุด ๆ“จริงสิ เรื่องรถของพวกคุณ รถทุกคันเป็นป้ายทะเบียนของอาณาเขตกลาง ดังนั้นก่อนที่เราจะถึงเมืองนางแอ่น พวกคุณต้องนั่งรถของเราเข้าไปและทิ้งรถของพวกคุณไว้ที่นอกเมือง แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากที่เราเข้าไปในเมืองแล้ว ผมจะซื้อรถให้พวกคุณคนละคัน พวกคุณเลือกรถคันไหนก็ได้ตามใจชอบเลย!” เฟนด์มองไปที่รถของลาน่าและรถของคนอื่น ๆ แล้วยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ก่อนจะพูดว่า “ฮ่าฮ่า ดีเลย ถ้าหากผมได้รถคันใหม่ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” สกายเลอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะเสียงดังอย่างร่าเริงออกมาอีกครั้ง ไม่นานทุกคนก็มาถึงใจกลางเมืองของอาณาเขตกลาง สกายเลอร์และลาน่าซื้อหน้ากากให้ตัวเอง พักสักครู่ จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อไม่ต้องพูดถึงหน้ากากที่ลาน่าเลือก มันไม่เพียงไม่ได้บดบังความงามของเธอ แต่มันยังเพิ่มความงามของรูปร่างที่มีเสน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 909

    แม้ว่ารถพวกนี้จะมียี่ห้อและมีราคาแพงมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เฟนด์ทำได้เพียงออกคำสั่งแบบนั้นอย่างช่วยไม่ได้พวกเขาผลักรถไปตรงที่โล่งทันทีและเผามันทิ้ง จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังเมืองนางแอ่นด้วยการเดินไปพวกเขามองเห็นกำแพงเมืองที่สูงตระหง่านอย่างหาที่เปรียบมิได้ของเมืองนางแอ่นจากระยะไกล เมืองนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เก่าแก่และโบราณ มีหมอกจาง ๆ ล้อมรอบ เมืองนี้ดูลึกลับแม้ว่าเมืองนางแอ่นจะเล็กกว่าเมืองจินมาก แต่ก็ใหญ่กว่าอาณาเขตกลางอย่างน้อยสองหรือสามเท่า“เมืองนนางแอ่นเป็นเมืองโบราณใช่ไหม? มีกองกำลังที่มีอำนาจสูงมากมายอยู่ในนั้น และที่สำคัญคือเมืองนี้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้คน ครอบครัว หรือบ้าน เพื่อพัฒนาและเพิ่มพลัง!”เมื่อมองเมืองที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างตั้งใจ สกายเลอร์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา“ใช่แล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”ลาน่าก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นเหมือนกันเฟนด์มองไปที่คนในกลุ่มแล้วพูดว่า “ตอนนี้เรามาถึงเมืองนางแอ่นแล้ว รีบหาซื้อวิลล่าเพื่ออยู่อาศัยโดยเร็วที่สุด โชคดีที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เราจะได้มีเวลาหาซื้อวิลล่า ส่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 910

    “ไม่มีทาง ท่านอาจารย์หมายความว่าอีกฝ่ายรู้งั้นเหรอว่าเกล็ดมังกรนี้เป็นของใคร?”หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ลาน่าก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอตกใจมาก“ฉันแค่เดา ตั้งแต่ที่เฟอร์นันโดบอกว่ามันเป็นกับดัก ฉันคิดว่าอีกฝ่ายคงจะแค่ขังเขาเอาไว้เท่านั้นแต่ไม่ฆ่าเขาหรอก การทำแบบนั้นก็เพื่อจะล่อเราออกไป ดังนั้น ฉันเดาว่าอีกฝ่ายต้องรู้เรื่องเกล็ดมังกรมาบ้างแล้ว!”สถานการณ์ทั้งหมดทำให้เฟนด์ปวดหัว มีไม่กี่คนหรอก บางทีอาจจะน้อยกว่าสิบคนด้วยซ้ำที่รู้เรื่องเกล็ดมังกร ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดของเฟอร์นันโดก็ไม่ได้ให้ข้อมูลมากนัก ดังนั้น เฟนด์จึงแนะนำให้หาที่พักเสียก่อนไม่นานเฟนด์ก็พาทุกคนเข้าไปในเมืองพวกเขามองหาโรงแรมที่จะเข้าพักก่อน จากนั้นเฟนด์และเซเลน่าก็ไปหาซื้อวิลล่าในไม่ช้าพวกเขาก็มาอยู่ที่ล็อบบี้ของแผนกขาย พนักงานขายสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นพวกเขา จึงยิ้มออกมานิด ๆ แล้วเดินเข้ามาหาพวกเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง คุณมาที่นี่เพื่อหาซื้อวิลล่าใช่หรือไม่? หรือคุณอยากจะดูบ้านพัก? ที่นี่เรามีทั้งคู่!”พนักงานขายสาวสวยยิ้มอย่างงดงามออกมา เป็นรอยยิ้มที่อาจทำให้ตาพร่ามัวได้“วิลล่า!” เฟนด์ยิ้มหวานแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status