แชร์

บทที่ 906

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เมืองนางแอ่น?”

ธีโอดอร์ตกใจเมื่อรู้จุดหมายปลายทาง เขาไม่คิดว่าเฟนด์จะตัดสินใจมุ่งหน้าไปทางเหนือ ไปทางเมืองจิน เมืองนางแอ่นนั้นอยู่ใกล้กับเมืองจิน!

ตระกูลแลมเบิร์ตเป็นตระกูลที่โด่งดังในเมืองจิน พวกเขาจะเอาตัวเองไปเสิร์ฟบนจาน ถ้าพวกเขาไปมุ่งหน้าไปที่นั่น

“เอาจริงเหรอ? เฟนด์ มันจะดีกว่าไหมถ้าเราหนีไปให้ไกลที่สุด? มันอันตรายเกินไปที่จะไปที่เมืองนางแอ่น”

ฟีโอน่าก็ตกใจมากเหมือนกัน เธอรีบถามเขา

เธอไม่คิดว่าเฟนด์จะยิ้มอย่างไม่สนใจกลับมา “ผมมีธุระที่ต้องทำในเมืองนางแอ่น อีกอย่าง ผมคิดว่าตระกูลแลมเบิร์ตจะเริ่มสืบหาจากอาณาเขตกลาง สมมตินะ ถ้าพวกเขาอยากตามล่าเรา พวกเขาจะทำยังไงเมื่อพวกเขาพบว่าเราจากไปแล้ว? พวกเขาจะตามหาเราในพื้นที่ใกล้เคียง บางทีอาจจะหาในเมืองทางตอนใต้ พวกเขาคงคิดว่าเราจะหนีไปให้ไกลที่สุดจากเมืองจิน!”

ธีโอดอร์เพิ่งตระหนักได้ “ฉันเข้าใจแล้ว พวกเขาจะระมัดตัวน้อยลง ถ้าเราซ่อนตัวตัวอยู่ในที่แจ้ง พวกเขาจะไม่ค้นหาในพื้นที่พวกนั้น มันคงง่ายสำหรับพวกเขามากกว่าที่จะหาเราเจอถ้าเรามุ่งหน้าไปทางใต้ของอาณาเขตกลาง ถูกไหม?”

“นั่นคือความคิดของผม อย่างน้อยที่เมืองนางแอ่นก็ปลอดภัยสักร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 907

    นายใหญ่เทย์เลอร์รู้สึกตื้นตันใจมาก สมาชิกในตระกูลเทย์เลอร์ทุกคนกลัวที่จะถูกลากลงไปในโคลนและกลัวว่าจะถูกฆ่า ทุกคนจึงออกจากอาณาเขตกลางโดยที่ไม่ได้บอกใครเลยแต่ลาน่า สกายเลอร์ และคนอื่น ๆ กลับเต็มใจที่จะปกป้องและจากมาพร้อมกับพวกเขา และเต็มใจที่จะลงนรกไปพร้อมกับพวกเขา “นายใหญ่เทย์เลอร์พูดถูก! คุณสกายเลอร์ สถานะและตัวตนของคุณกับบรรดาลูกศิษย์นั้นสูงส่งและมีเกียรติ พวกเขาแต่ละคนทรงพลังและแข็งแกร่งมาก สองหรือสามคนในบรรดาลูกศิษย์นั้นเทียบได้กับราชาสงครามเลย คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้เราเกรงว่าเราคงจะจ้างพวกคุณทุกคนไม่ได้” หัวใจเฟนด์เต็มไปด้วยความขอบคุณ ทุกคนตรงหน้าเฟนด์ที่รู้ว่าเขามีปัญหาไม่ได้วิ่งหนีไปเหมือนสมาชิกตระกูลเทย์เลอร์คนอื่น ๆ พวกเขากลับยินดีที่จะติดตามเขาไปนรกด้วยกัน ยินดีที่จะปกป้องเขาและครอบครัวของเขา คนพวกนี้เท่านั้นที่ถือว่าจงรักภักดีและซื่อสัตย์ “เราไม่ขอมากนักหรอก แค่สองล้านเหรียญต่อเดือนก็พอแล้ว ราคาไม่แพงใช่ไหม?”สีหน้าของสกายเลอร์ดูเคร่งขรึมและไม่มีชีวิตชีวาในเวลาเดียวกัน เขาอยากบอกพวกเขาว่า ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าจ้างเพื่อจ้างเขาก็ได้ แต่ถ้าเขาพูดออกไปอย่างนั้นจริง ๆ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 908

    “ฉันว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน! ตราบใดที่มีอาหารดี ๆ และมีที่ให้ฉันนอน ฉันก็พอใจแล้ว!”ลาน่ายอมรับคำแนะนำของเฟนด์พร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข นั่นทำให้ทุกคนประหลาดใจ“ท่านลาน่า ท่านเป็นเทพีสงครามที่เรียกร้องน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา!”อีกด้าน สกายเลอร์กลับหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างร่าเริงสุด ๆ“จริงสิ เรื่องรถของพวกคุณ รถทุกคันเป็นป้ายทะเบียนของอาณาเขตกลาง ดังนั้นก่อนที่เราจะถึงเมืองนางแอ่น พวกคุณต้องนั่งรถของเราเข้าไปและทิ้งรถของพวกคุณไว้ที่นอกเมือง แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากที่เราเข้าไปในเมืองแล้ว ผมจะซื้อรถให้พวกคุณคนละคัน พวกคุณเลือกรถคันไหนก็ได้ตามใจชอบเลย!” เฟนด์มองไปที่รถของลาน่าและรถของคนอื่น ๆ แล้วยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ก่อนจะพูดว่า “ฮ่าฮ่า ดีเลย ถ้าหากผมได้รถคันใหม่ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?” สกายเลอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะเสียงดังอย่างร่าเริงออกมาอีกครั้ง ไม่นานทุกคนก็มาถึงใจกลางเมืองของอาณาเขตกลาง สกายเลอร์และลาน่าซื้อหน้ากากให้ตัวเอง พักสักครู่ จากนั้นก็ออกเดินทางกันต่อไม่ต้องพูดถึงหน้ากากที่ลาน่าเลือก มันไม่เพียงไม่ได้บดบังความงามของเธอ แต่มันยังเพิ่มความงามของรูปร่างที่มีเสน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 909

    แม้ว่ารถพวกนี้จะมียี่ห้อและมีราคาแพงมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เฟนด์ทำได้เพียงออกคำสั่งแบบนั้นอย่างช่วยไม่ได้พวกเขาผลักรถไปตรงที่โล่งทันทีและเผามันทิ้ง จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังเมืองนางแอ่นด้วยการเดินไปพวกเขามองเห็นกำแพงเมืองที่สูงตระหง่านอย่างหาที่เปรียบมิได้ของเมืองนางแอ่นจากระยะไกล เมืองนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เก่าแก่และโบราณ มีหมอกจาง ๆ ล้อมรอบ เมืองนี้ดูลึกลับแม้ว่าเมืองนางแอ่นจะเล็กกว่าเมืองจินมาก แต่ก็ใหญ่กว่าอาณาเขตกลางอย่างน้อยสองหรือสามเท่า“เมืองนนางแอ่นเป็นเมืองโบราณใช่ไหม? มีกองกำลังที่มีอำนาจสูงมากมายอยู่ในนั้น และที่สำคัญคือเมืองนี้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้คน ครอบครัว หรือบ้าน เพื่อพัฒนาและเพิ่มพลัง!”เมื่อมองเมืองที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างตั้งใจ สกายเลอร์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา“ใช่แล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”ลาน่าก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นเหมือนกันเฟนด์มองไปที่คนในกลุ่มแล้วพูดว่า “ตอนนี้เรามาถึงเมืองนางแอ่นแล้ว รีบหาซื้อวิลล่าเพื่ออยู่อาศัยโดยเร็วที่สุด โชคดีที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เราจะได้มีเวลาหาซื้อวิลล่า ส่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 910

    “ไม่มีทาง ท่านอาจารย์หมายความว่าอีกฝ่ายรู้งั้นเหรอว่าเกล็ดมังกรนี้เป็นของใคร?”หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ลาน่าก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอตกใจมาก“ฉันแค่เดา ตั้งแต่ที่เฟอร์นันโดบอกว่ามันเป็นกับดัก ฉันคิดว่าอีกฝ่ายคงจะแค่ขังเขาเอาไว้เท่านั้นแต่ไม่ฆ่าเขาหรอก การทำแบบนั้นก็เพื่อจะล่อเราออกไป ดังนั้น ฉันเดาว่าอีกฝ่ายต้องรู้เรื่องเกล็ดมังกรมาบ้างแล้ว!”สถานการณ์ทั้งหมดทำให้เฟนด์ปวดหัว มีไม่กี่คนหรอก บางทีอาจจะน้อยกว่าสิบคนด้วยซ้ำที่รู้เรื่องเกล็ดมังกร ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดของเฟอร์นันโดก็ไม่ได้ให้ข้อมูลมากนัก ดังนั้น เฟนด์จึงแนะนำให้หาที่พักเสียก่อนไม่นานเฟนด์ก็พาทุกคนเข้าไปในเมืองพวกเขามองหาโรงแรมที่จะเข้าพักก่อน จากนั้นเฟนด์และเซเลน่าก็ไปหาซื้อวิลล่าในไม่ช้าพวกเขาก็มาอยู่ที่ล็อบบี้ของแผนกขาย พนักงานขายสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นพวกเขา จึงยิ้มออกมานิด ๆ แล้วเดินเข้ามาหาพวกเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง คุณมาที่นี่เพื่อหาซื้อวิลล่าใช่หรือไม่? หรือคุณอยากจะดูบ้านพัก? ที่นี่เรามีทั้งคู่!”พนักงานขายสาวสวยยิ้มอย่างงดงามออกมา เป็นรอยยิ้มที่อาจทำให้ตาพร่ามัวได้“วิลล่า!” เฟนด์ยิ้มหวานแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 911

    แต่คู่รักที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับไม่สนใจที่จะดูแม้แต่ห้องโชว์ด้วยซ้ำ ทั้งคู่เพียงแค่เหลือบมองแซนด์บ็อกซ์และสอบถามเกี่ยวกับราคา“ไม่จำเป็นหรอก พวกเราอยากรีบย้ายเข้ามา!”เฟนด์แสยะยิ้มและตอบอย่างไร้อารมณ์“ดีเลย ถ้าจ่ายเต็มมีส่วนลดให้แน่นอน บริษัทกำลังมีส่วนลดสำหรับบ้านพวกนี้ ดังนั้นมันจะมีราคาอยู่ที่ 110 ล้านเหรียญต่อหลัง!”พนักงานขายสาวสวยอายุน้อยคนนั้นยิ้มออกมา แต่ก็พึมพำอยู่ในใจว่า “อย่าบอกนะว่าพวกเขาวางแผนที่จะซื้อวิลล่าจริง ๆ!”เป็นเพราะราคาของบ้านพวกนี้ พวกเขาแทบจะขายไม่ได้เลยสักหลังต่อเดือน ยังไงก็ตาม ถ้าหากพวกเธอสามารถขายได้หนึ่งหลัง ค่าคอมมิชชั่นสำหรับเดือนนั้นก็จะเยอะมาก“110 ล้านเหรียญต่อหลังใช่ไหม? ถ้าผมจะซื้อ 20 หลัง มันก็จะเป็น 2.1 พันล้านเหรียญใช่ไหม?”หลังจากคำนวณในหัวแล้ว เฟนด์ก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไร้กังวล“ยี่-ยี่สิบหลัง?”พนักงานขายสาวสวยถอนหายใจออกมาอย่างแปลกใจ สงสัยว่าหูของเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า มันไม่ใช่เพียงแค่ยี่สิบเหรียญหรือ 200 เหรียญแต่มันมากถึง 2.1 พันล้านเหรียญ เป็นไปได้ไหมว่าคู่รักคู่นี้จะมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย?“ใช่ ด้านนี้ ด้านที่ใกล้ประตู ผมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 912

    “เซ็น...เซ็นสัญญา?”ผู้จัดการก็ผงะไป ในชีวิตของเขาไม่เคยเห็นการซื้อที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อน“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! ผมมีเวลาไม่มาก หลังจากนี้ผมยังต้องไปซื้อของใช้ในบ้านอีก และผมจะย้ายมาที่นี่ตอนบ่ายนี้ คุณอยากจะขายหรือไม่ขาย?”กลับกัน เฟนด์ไม่อยากพูดคุยกับผู้จัดการอีกต่อไป แต่มองเขาด้วยสายตาอันตราย เฟนด์เริ่มหมดความอดทนแล้วผู้จัดการตกใจอีกครั้ง “แน่นอนครับท่าน! ผมเพียงแค่ไม่เคยเห็นใครใจกว้างแบบนี้มาก่อน!”ผู้จัดการตอบกลับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในขณะเดียวกัน พนักงานขายสาวก็กำลังทำสัญญาซื้อขายเฟนด์ยิ้มออกมานิด ๆ ขณะที่เขาพูดกับผู้จัดการว่า “ยังไงก็ตาม ยอดขายทั้งหมดพวกนี้ต้องให้เครดิตกับพนักงานขายสาวคนนี้ เพราะเธอคือคนที่คอยตอนรับเราเป็นอย่างดี อย่าบังอาจมาขโมยเครดิตเธอล่ะ!”พนักงานขายสาวรู้สึกประทับใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์จนเธอเกือบจะร้องไห้ คู่รักคู่นี้ใจดีมากพวกเขาคิดถึงถึงพนักงานตำแหน่งต่ำ ๆ ด้วย“ไม่ต้องห่วง เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะโบนัสของผู้จัดการขึ้นอยู่กับยอดขายรวมของทุกเดือน แม้ว่าผมอยากจะได้เครดิตจากการขายในวันนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์และไม่มีความหมาย!”ผู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 913

    “เธอมาที่นี่ได้ไม่ถึงเดือนก็จริง แล้วมันผิดตรงไหน? ยอดขายและผลงานของเธอในวันนี้เป็นสิ่งที่พวกเธอไม่สามารถทำได้ ตอนที่พวกเธอสองคนอยู่ตรงทางเข้า ทำไมพวกเธอไม่ไปบริการลูกค้าคู่นั้นแล้วทำการขายแบบนี้ล่ะ?”ผู้จัดการตอบกลับไป แทนที่เขาจะถูกทำให้โมโห เขาจึงเลือกออกไปรายงานกับผู้จัดการทั่วไปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้แทนพนักงานขายทั้งสองสบตากัน ตอนนี้พวกเธอไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากรู้สึกผิดหวังมากขณะเดียวกัน ณ เมืองจิน หัวหน้าตระกูลแลมเบิร์ต ผู้พิทักษ์และผู้อาวุโสก็ได้มารวมตัวกัน“เราติดต่อลูคัสไม่ได้เลย ฉันกลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ช่วงสองสามวันมานี้เราพยายามติดต่อเขามาโดยตลอด และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น เราก็ติดต่อกับอีกสามคนไม่ได้เหมือนกัน หัวหน้าตระกูลฟรีแมนมาถามเราว่า สโนว์ ฟรีแมน ลูกสาวของเขาอยู่ที่ไหน สโนว์ออกไปกับลูคัสและมันเป็นหน้าที่ของตระกูลแลมเบิร์ตที่ต้องดูแลเธอให้ปลอดภัย!”หัวหน้าตระกูลแลมเบิร์ตขมวดคิ้ว สีหน้าเขาดูไม่ดีเลยการสูญเสียคนในตระกูลแลมเบิร์ตไปสามคนก็ทำให้หัวใจของพวกสมาชิกแตกสลายไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ลูคัส แลมเบิร์ต ยังเป็นลูกชายของนายท่านคนที่สองของตระก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 914

    เฟนด์และคนอื่น ๆ ออกมาซื้อของใช้ประจำวันก่อนที่จะไปซื้อรถใหม่ จากนั้นพวกเขาก็พักผ่อนกันอย่างมีความสุขขณะเดียวกันนั้น ในวิลล่าหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านของเขา ดาราสาวสวยอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมากับดาราสาวอีกคนว่า “นี่มันแปลกมาก ฉันเห็นผู้พัฒนาโครงการกำลังสั่งสร้างกำแพงระหว่างทางที่กลับมา ตอนที่ฉันเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ พวกเขาบอกว่ามีคนซื้อวิลล่า 20 หลังในคราวเดียว และขอให้พวกเขาสร้างกำแพงล้อมรอบพื้นที่นั้น!”“วิลล่า 20 หลัง?!” ดาราสาวอีกคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “คนคนนั้นต้องร่ำรวยและมีอำนาจมากถึงสามารถซื้อวิลล่าจำนวนมากขนาดนั้นได้ ในเมืองนางแอ่นมีเศรษฐีมากมายนั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ!”ดาราสาวอีกคนเม้มริมฝีปากและเริ่มบ่นว่า “มันค่อนข้างปกติก็จริง แต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วเห็นกับตาตัวเอง หลังจากที่สร้างกำแพงแล้ว พื้นที่ปลูกต้นไม้ที่เราสามารถทำกิจกรรมได้ก็จะลดลง ฉันซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่นี่เพราะฉันชอบพื้นที่สีเขียวมาก ตอนนี้คนคนนั้นได้สร้างกำแพงล้อมรอบวิลล่าทั้ง 20 หลังแล้ว บ้านของเราก็จะตั้งอยู่ติดกับกำแพง”เบลค ไนท์ทำได้เพียงแต่ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา “แล้วเราจะทำยังไงกันดี? ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status