แชร์

บทที่ 534

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
คำพูดของไซล์ทำให้ไมเคิลกลัวจนเกือบตาย ไขมันที่แก้มของเขาสั่นราวกับวุ้น

นามสกุลของไซล์ค่อนข้างคล้ายกับนามสกุลของไมเคิล ไซเลอร์ วอล์คเกอร์ และไมเคิล วิลสัน พวกเขาใช้ตัว ‘ว’ ร่วมกัน แต่ทว่า นอกจากราชาแห่งสงครามจะไม่ช่วยเขาแล้ว ยังพยายามจะอัดเขาอีกด้วย? ไมเคิลนึกถึงตัวเอง ตอนนี้ เขาไม่มีสมาธิเลยสักนิด เขากำลังคิดหนัก พยายามจะหาทางออก เพื่อไม่ให้ตัวเขาต้องโดนตบจนตายภายในสามครั้ง

เขาเป็นราชาแห่งสงคราม ถ้าเขาออกแรงเต็มที่ล่ะก็ เขาไม่จำเป็นต้องตบถึงสามครั้ง เพียงแค่ครั้งเดียว ก็ตายสนิทแล้ว

ไมเคิลตะโกน รู้สึกราวกับว่าเขาหายใจไม่ออก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันของเขาให้แน่น โดนกระทืบคงดีกว่าตายสำหรับเขา

นอกจากนั้นแล้ว นายน้อยอีวานถูกเลี้ยงแบบคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาจะแข็งแรงสักแค่ไหนกันเชียว? อีกอย่าง เขาก็เป็นเพื่อนที่ดี เขาคงไม่ตบเขาแรงขนาดนั้นหรอก

นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม ให้อีวานตบเขา ยังดีกว่าราชาแห่งสงครามตบ

เขาโกรธเฟนด์มาก ไอ้เวรนั่น กล้าดียังไงถึงคิดวิธีลงโทษแบบนี้!

ที่นี่เต็มไปด้วยนักธุรกิจผู้ร่ำรวยมากมาย รวมไปถึงชนชั้นสูง และคนธรรมดาด้วย ที่กำลังมองเขาอยู่…

“นายน้อยวิลสัน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 535

    นีลคิดว่าเขาโชคดี เขาดีใจกับความจริงที่ว่าเทพีแห่งสงคราม ลืมเรื่องทุกอย่างที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ ในหัวของเขา เขาภาวนาให้เธอไม่โกรธเขา และปล่อยเรื่องนั้นไปซะเขาตกใจมาก จู่ ๆ เธอก็ตะโกนบอกให้เขาเข้าไปหา อาจเป็นไปได้ว่า เป้าหมายของเธอก็คือเขา ในตอนนี้พ่อของนีล ฮิวโก้ ก็กลัวเช่นเดียวกันกับลูกชายของเขา เขาอยากจะเข้าไปขอร้องให้เธอยกโทษให้จริง ๆ เขาก้าวออกมาหนึ่งก้าว ก่อนที่จะหยุดมันไม่ใช่ใครที่ไหนเลยที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่เป็นเทพีแห่งสงคราม ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ถ้าเขาขอความเมตตาตอนนี้ เขาอาจจะทำให้เธอโกรธจัด แล้วฆ่าคนทั้งครอบครัวของเขาก็ได้ หรืออาจจะแย่กว่านั้น และสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือ โทษในความโชคร้ายของเขาเพราะฉะนั้น เขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ยืนนิ่ง ๆ เขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้ามากกว่านี้ด้วยซ้ำ“เท-เทพีแห่งสงคราม มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?”นีลกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก เสียงของเขาสั่น“นับจำนวนตบทั้งหมด อย่าพลาดแม้แต่ครั้งเดียว” ลาน่าบอกเขา“ค-ครับ คุณผู้หญิง!”นีลพยักหน้าอย่างคล่องแคล่ว เมื่อครู่นี้มันน่ากลัวมาก หัวใจของเขารู้สึกราวกับว่าจะระเบิดได้ทุกเมื่อ โ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 536

    หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เจมส์ก็หันไปหาคนใช้ของตระกูลเทย์เลอร์ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา “พวกเราตามไม่ทันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเรามาถึงช้าไปนิดหน่อย ว่าแต่ เทพีแห่งสงครามได้พูดถึงตำแหน่งจริง ๆ ของเขารึเปล่า?” เขาถามอย่างสุภาพ “อย่างเช่น ราชาแห่งสงครามน่ะ?”“โอ้ เธอไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นเลย แต่เฟนด์บอกว่า เขาได้รับป้ายประจำตำแหน่งมาแต่เขาทำมันหายไปแล้ว เขาพูดอีกด้วยว่าเงินที่เขาใช้ประมูลบ้านพักหลังนั้น เป็นเงินของเขาเอง”“เขาอาจจะเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาก็ได้ มันคงเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เลยถ้าเขาได้ตำแหน่งนั้นภายใน 5 ปี!” คนรับใช้ตอบกลับมา“ทำไมเขาถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ ถ้าเขาเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาจริง ๆ ” สเปคเตอร์เฟซที่ยืนอยู่ด้านหลัง ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“โอ้ นายท่านเฟนด์อธิบายว่า เขาเกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อเขาเพราะเขาทำป้ายประจำตำแหน่งหายไปบนถนน เขาก็เลยตัดสินใจ ที่จะไม่บอกใครเลย”“แต่ผมชื่นชมเขาจริง ๆ นะ เทพีแห่งสงครามอาจไม่มีวันยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเราอย่างงี้ ถ้าเขาไม่ได้ช่วยเธอเอาไว้ มิฉะนั้น คงไม่มีบรรดาคนที่มีชื่อเสียง มาร่วมงานวันเกิดของนายท่านเยอะขนาดนี้!”คนรับใช้พูด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 537

    “ลาน่า คุณเทพีแห่งสงคราม! ไม่เจอกันนานเลยนะ!” เจมส์เรียกลาน่า ก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอทันที หลังจากที่ไมเคิลถูกลากออกไปแล้วเธอพยักหน้า และสังเกตุเห็นสาวสวยสองคนข้าง ๆ เขา “ฉันขอเดานะ นี่คือสองสาวสวยในตำนาน ทันย่าและอีวอนน์สินะ?”เธอพูด พลางยิ้มไปด้วยทันย่ารู้สึกตกใจมาก เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอไม่เคยคิดเลยว่าเทพีแห่งสงครามจะเอ่ยชมเธอแบบนั้น “ส-สวัสดีค่ะ เทพีแห่งสงคราม ฉ-ฉันทันย่า เดรค ฉันไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณดูดีกว่าฉันมาก ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างที่น่าหลงไหล คุณยังมีออร่าที่ทรงพลังอีกด้วยค่ะ!”อีวอนน์รีบพูดเสริม “ใช่ค่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีออร่าอย่างเทพีแห่งสงคราม ไมเคิลเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาคงไม่กล้าทำตัวยโสโอหัง หลังจากโดนลงโทษแล้วล่ะค่ะ”ดวงตาของพวกเธอทั้งสอง มั่นคงและสดใสมาก พวกเธอแต่งชุดธรรมดา ๆ ลาน่าประทับใจพวกเธอทั้งสองคนจริง ๆ หลังจากเธอหยุดคิด เธอหยิบนามบัตรออกมาอย่างลวก ๆ แล้วยื่นมันให้กับทันย่า “นี่เบอร์ของฉัน ว่าง ๆ เราไปดื่มกาแฟกันนะ นอกจากนี้แล้ว ฉันรู้จักคนไม่เยอะเท่าไหร่น่ะ ในอาณาเขตกลาง!”ทันย่าอึ้งไปกับการกระทำของเทพีแห่งสงคราม เธอกลืนน้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 538

    “เขาทำให้ใครโกรธนะ? ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นใคร ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้มันมีชีวิตไว้เห็นเดือนเห็นตะวันแน่!” นายท่านวิลสันตะโกนขึ้นมา เขากำลังโกรธจัด และกำลังจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธอย่างไรก็ตาม อยู่ ๆ เขาก็อึ้งไปหลังจากที่พูดจบ “เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้นี้นายพูดว่าเขาทำให้ใครโกรธนะ? เขาทำให้เทพีแห่งสงครามโกรธอย่างงั้นเหรอ?”“ใช่ครับ นายท่าน เขาทำให้เทพีแห่งสงคราม ลาน่า เซคส์โกรธ!” บอดี้การ์ดอธิบายให้เขาฟัง“พวกเราจบเห่แล้วนายท่าน คนที่นายน้อยไปยุ่งด้วยในครั้งนี้มีอำนาจมาก เธอไม่มาที่ตระกูลของเรา ก็ดีแค่ไหนแล้ว!”พ่อบ้านของตระกูลวิลสันสีหน้าหม่นลง ยอมรับชะตากรรมทันที“ไม่ ไม่มีทาง เขาทำให้เทพีแห่งสงครามโกรธจริง ๆ อย่างงั้นรึ?” นายท่านวิลสันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ความโกรธที่พลุ่งพล่านเมื่อครู่นี้หายวับไปตา เขากลัวขึ้นมาทันทีนั่นมันเทพีแห่งสงคราม ไม่ต้องพูดถึงพวกมหาอำนาจของอาณาเขตกลาง หรือแม้แต่มหาอำนาจของเมืองใหญ่ ๆ เช่นแคทธีเซีย ก็ไม่กล้าทำให้เทพีแห่งสงครามโกรธ ถึงกระนั้น ก็มีคนมากมายออกมาเพื่อประจบประแจงพวกเขาเขาไม่เคยคิดเลยว่าลูกชายแท้ ๆ ของเขา จะทำให้คนที่มีอำนาจขนาดนั้นโกรธเข้าจร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 539

    “เฟนด์? เขาเพิ่งกลับมาจากเกณฑ์ทหาร แต่เขาก็กล้าที่จะมีเรื่องกับตระกูลของเราเนี่ยนะ แถมยังกล้าทำอะไรที่โหดร้ายกับลูกชายของฉันอีก? ฮึ่ม! ฉัน เดวิด วิลสัน จะสั่งสอนเขาให้รู้จักรสชาติของความเสียใจเอง!”คำพูดของบอดี้การ์ด ทำให้เดวิดโจมตีความเกลียดชังไปที่เฟนด์ทันที“ถูกต้องครับ เฟนด์เป็นคนร้ายกาจอย่างไม่น่าเชื่อ นายท่าน อีวานก็ไม่มีตัวเลือกเช่นเดียวกัน ที่นั่นมีคนไม่เยอะ และเทพีแห่งสงครามก็จับตาดูเขาอยู่ เขาจึงต้องออกแรงเต็มที่ มิฉะนั้น พวกเขาอาจจะบอกว่า ตบครั้งนั้นไม่นับ แล้วให้เริ่มใหม่ได้ครับ เพราะฉะนั้น…”โดยปกติแล้ว บอดี้การ์ดรู้ว่า ไมเคิลและอีวานนั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขารู้ว่าทั้งสองมีปัญหากับเฟนด์ ดังนั้น เขาจึงพูดเข้าข้างอีวาน“ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว!”เดวิดพยักหน้า “แน่นอน เฟนด์อาจจะเคยช่วยชีวิตเทพีแห่งสงครามไว้ แต่เธอก็ให้ไข่มุกเรืองแสงที่มูลค่ากว่าหาล้านเหรียญให้เขา และยังชื่นชมเขาในงานวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์อีกด้วย หนี้ของเธอที่มีต่อเขาใกล้จะหมดลงแล้ว ฉันจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์แย่ ๆ ครั้งนี้เด็ดขาด และถึงแม้ว่า ฉันจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ในตอนนี้ แต่ฉันจะหาวิธีฆ่าเข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 540

    “ตกลง งั้นปล่อยให้เฟนด์มีชีวิตอีกสักสองสามวันแล้วกัน!”ควิลเผยยิ้มอย่างหดหู่ เขาครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูดเสริม “เฮ้ ฉันเห็นว่าภรรยาของเขาไม่ใช่สไตล์ของนาย นายจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะเล่นกับเธอสักหน่อย หลังจากที่นายฆ่าเขาน่ะ?”สีหน้าของเขาเรียบเฉย ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ เขามองไปที่ควิล ที่อยู่ข้าง ๆ เขา ก่อนจะพูดว่า “นั่นมันก็เรื่องของนาย ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วย เป้าหมายของฉันคือตัดหัวไอ้สารเลวนั่นซะ!”หลังจากพูดจบ เขาก็กลับหลังหันแล้วเดินออกไปควิลรอจนกว่าเขาจะเดินออกไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แม่*เอ๊ย แกมันก็แค่หัวหน้าผู้บังคับบัญชา ทำมาอวดต่อหน้าฉันทุก ๆ วันขณะที่รออาหารดี ๆ และเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ แถมแกยังกล้าตบฉันอีกงั้นรึ เวรเอ๊ย แกนี่มันหลงตัวเองจริง ๆ ”บอดี้การ์ดที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาทำท่าทีที่แปลก ๆ พวกเขาไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่หัวหน้าผู้บังคับบัญชา แต่พวกเขาไม่ก็ไม่สามารถขัดใจเขาได้อย่างง่าย ๆ ไม่มีนักสู้คนไหนในตระกูลเซนอส ที่จะสู้กับเขาได้“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าภรรยาของเฟนด์ จะถูกตั้งฉายาว่า หญิงงามอันดับหนึ่งของอาณาเขตกลาง เหอะ คงจะมีสิ่งตอบแทนที่ไม่คาดคิดกำลัง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 541

    ซีอุสรู้ดีว่านี่จะทำให้ตระกูลเทย์เลอร์ก้าวกระโดดไปเป็นตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สอง ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาที่พวกเขาได้เซ็นไว้กับอหังสาริมทรัพย์เซ้า ฮิลล์ ช่วยให้พวกเขาได้คำนำหน้า ชนชั้นสูงระดับที่สอง เป็นเวลาอย่างน้อยสองปี พวกเขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย จากตระกูลอื่น ๆ ในระดับเดียวกันทุก ๆ คนดื่มเยอะมาก และเวลาราว ๆ บ่ายสามหรือสี่โมงเย็นแขกทั้งหลายก็เริ่มแยกย้ายกันไปทีละเล็กละน้อยหลังจากเห็นลาน่า และคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว เฟนด์เดินอย่างสบาย ๆ ไปหาเซเลน่า“ไปกันเถอะที่รัก ไปกันดีกว่า เราไปดูบ้านหลังใหม่ของพวกเรากัน!”เขาร้องเพลง พร้อมรอยยิ้มอย่างนุ่มนวลที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ก็ได้ เราไปดูกันเถอะ! เราเก็บของแล้วย้ายไปบ่ายนี้เลยดีกว่า!” เซเลน่าตอบกลับไป หลังจากคิดเกี่ยวกับคำแนะนำของเขา เธอสัมผัสได้ถึงประกายแห่งความสุข ราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังร้องเพลง“ความคิดดีจังเลย! เราไม่มีข้าวของอะไรให้เก็บอยู่แล้ว เพราะทุกสิ่งที่เราต้องการ อยู่ในบ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว เก็บของเพียงเล็กน้อย แล้วเราย้ายกันไปเลย บ่ายนี้!” เฟนด์พูด พร้อมพยักหน้า“ไปกันเถอะ! ย้ายตอนนี้เลย! ฉันอยากเห็นจะแย่แล้ว!

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 542

    รอยย่นระหว่างคิ้วของอีวาน ยิ่งยับขึ้นไปอีก หลังจากได้ยินคำพูดของเคนคำพูดที่ออกมาจากปากอันบอบบางของเคน เหมือนกับเข็มที่กำลังทิ่มแทงแก้วหูของอีวาน ทั้งโหดร้ายและเหี้ยมโหด แต่ก็จริงใจและมีเหตุผล“นายแน่ใจหรือ? เซเลน่าเป็นคนอัธยาศัยดี และใจดีตั้งแต่เด็ก ๆ เธอคงไม่แข่งกับฉันเพื่อที่จะเป็นทายาทหรอก จริงไหม? ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็อาจจะใช่ แต่ตอนนี้เงินเดือนของเฟนด์และเซเลน่าต่างก็สูงมาก ทั้งตระกูลสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลเลยด้วยซ้ำ” อีวานคิดออกมาเสียงดัง“ฮ่าฮ่า นายน้อยเทย์เลอร์ นายคิดผิดแล้วล่ะ! นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ตระกูลเทย์เลอร์ มีทรัพย์สินและเงินทองมากแค่ไหน? สิ่งเหล่านั้นอาจทำให้ตระกูลนายกลายเป็นชนชั้นสูงระดับที่สองก็ได้! ด้วยสมบัติและทรัพย์สินที่มากมาย และนายคิดว่าเซเลน่าจะยังเหมือนเดิมไหมล่ะ? เธอก็เป็นคนวัยเดียวกันกับนาย คนวัยเดียวกัน ย่อมคิดเหมือนกัน จริงไหมล่ะ? นอกเหนือจากนี้ ไม่มีใครไม่พอใจที่จะได้เป็นคนรวยหรอก!”“โอเค เราอย่ามาพูดถึงเรื่องที่ว่าเธอจะแย่งบัลลังก์ของนายหรือเปล่าเลย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำ คุณปู่ของนายก็จะแบ่งทุกอย่างให้เธอครึ่งนึง ฉันพูดถูกไห

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status