Share

บทที่ 541

Author: โมเนโต้
ซีอุสรู้ดีว่านี่จะทำให้ตระกูลเทย์เลอร์ก้าวกระโดดไปเป็นตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สอง ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาที่พวกเขาได้เซ็นไว้กับอหังสาริมทรัพย์เซ้า ฮิลล์ ช่วยให้พวกเขาได้คำนำหน้า ชนชั้นสูงระดับที่สอง เป็นเวลาอย่างน้อยสองปี พวกเขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย จากตระกูลอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน

ทุก ๆ คนดื่มเยอะมาก และเวลาราว ๆ บ่ายสามหรือสี่โมงเย็นแขกทั้งหลายก็เริ่มแยกย้ายกันไปทีละเล็กละน้อย

หลังจากเห็นลาน่า และคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว เฟนด์เดินอย่างสบาย ๆ ไปหาเซเลน่า

“ไปกันเถอะที่รัก ไปกันดีกว่า เราไปดูบ้านหลังใหม่ของพวกเรากัน!”

เขาร้องเพลง พร้อมรอยยิ้มอย่างนุ่มนวลที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“ก็ได้ เราไปดูกันเถอะ! เราเก็บของแล้วย้ายไปบ่ายนี้เลยดีกว่า!” เซเลน่าตอบกลับไป หลังจากคิดเกี่ยวกับคำแนะนำของเขา เธอสัมผัสได้ถึงประกายแห่งความสุข ราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังร้องเพลง

“ความคิดดีจังเลย! เราไม่มีข้าวของอะไรให้เก็บอยู่แล้ว เพราะทุกสิ่งที่เราต้องการ อยู่ในบ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว เก็บของเพียงเล็กน้อย แล้วเราย้ายกันไปเลย บ่ายนี้!” เฟนด์พูด พร้อมพยักหน้า

“ไปกันเถอะ! ย้ายตอนนี้เลย! ฉันอยากเห็นจะแย่แล้ว!
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 542

    รอยย่นระหว่างคิ้วของอีวาน ยิ่งยับขึ้นไปอีก หลังจากได้ยินคำพูดของเคนคำพูดที่ออกมาจากปากอันบอบบางของเคน เหมือนกับเข็มที่กำลังทิ่มแทงแก้วหูของอีวาน ทั้งโหดร้ายและเหี้ยมโหด แต่ก็จริงใจและมีเหตุผล“นายแน่ใจหรือ? เซเลน่าเป็นคนอัธยาศัยดี และใจดีตั้งแต่เด็ก ๆ เธอคงไม่แข่งกับฉันเพื่อที่จะเป็นทายาทหรอก จริงไหม? ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็อาจจะใช่ แต่ตอนนี้เงินเดือนของเฟนด์และเซเลน่าต่างก็สูงมาก ทั้งตระกูลสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลเลยด้วยซ้ำ” อีวานคิดออกมาเสียงดัง“ฮ่าฮ่า นายน้อยเทย์เลอร์ นายคิดผิดแล้วล่ะ! นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ตระกูลเทย์เลอร์ มีทรัพย์สินและเงินทองมากแค่ไหน? สิ่งเหล่านั้นอาจทำให้ตระกูลนายกลายเป็นชนชั้นสูงระดับที่สองก็ได้! ด้วยสมบัติและทรัพย์สินที่มากมาย และนายคิดว่าเซเลน่าจะยังเหมือนเดิมไหมล่ะ? เธอก็เป็นคนวัยเดียวกันกับนาย คนวัยเดียวกัน ย่อมคิดเหมือนกัน จริงไหมล่ะ? นอกเหนือจากนี้ ไม่มีใครไม่พอใจที่จะได้เป็นคนรวยหรอก!”“โอเค เราอย่ามาพูดถึงเรื่องที่ว่าเธอจะแย่งบัลลังก์ของนายหรือเปล่าเลย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำ คุณปู่ของนายก็จะแบ่งทุกอย่างให้เธอครึ่งนึง ฉันพูดถูกไห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 543

    วอร์ดที่ดูหรูหราปรากฏอยู่ในสายตาของเขา เขามองไปที่ชายคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียง ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ข้างนอกหน้าต่าง เคนถอนหายใจอย่างลึก ๆ “ลูกพี่ลูกน้อง โทรหาพ่อของฉัน ฉันจะต้องฆ่าไอ้เวรนั่น!”ฟลินน์กัดฟันแน่นเมื่อถึงวันนั้น ที่ห้างสรรพสินค้า เขาต้องการเข้าหาคุณทันย่า และบางที อาจทำให้เธอเป็นของเขาอย่างไรก็ตาม แขนของเขาถูกทุบเป็นผุยผงเพราะเฟนด์หมอบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บแขนซ้ายของเขาเอาไว้ และวิธีเดียวที่จะทำให้เขารอด คือต้องตัดแขนทิ้งความโกรธพลุ่งพลานในเส้นเลือดของเขา เมื่อเขามองไปที่ตัวเองในตอนนี้ เขาก็แค่ชายพิการคนหนึ่งเคนไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้พ่อของฟลินน์รู้เลย อย่างไรก็ตาม ลูกพี่ลูกน้องของเขาเดินทางมาที่อาณาเขตกลาง เพื่อที่จะเที่ยวเล่นกับเขา ทำให้เขาต้องรับผิดชอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาโทรไปจริง แต่เขาพูดไม่ออก เขาไม่สามารถพูดความจริงออกไปได้ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป หรือจะพูดยังไง ด้วยเหตุนั้น เขาจึงบอกฟลินน์ให้รอเพิ่มอีกสองสามวันฟลินน์กำลังจะต้องออกจากโรงพยาบาล และดูเหมือนว่า มันถึงเวลาที่ต้องโทรหาพ่อของฟลินน์แล้ว จะรอต่อไปไม่ได้อีกแล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 544

    “นายแน่ใจนะว่ามันเชื่อถือได้น่ะ? ไอ้โง่นั่นมันชั่วร้ายมาก คงไม่ง่ายแน่ที่จะจัดการมัน!”ฟลินน์เห็นว่า ในที่สุด ลูกพี่ลูกน้องของเขากำลังจะแก้แค้นไอ้เวรนั่น และจิตใจของเขาก็สดชื่นขึ้นมาทันที เขารู้สึกราวกับว่าเขาจะตายเช่นกัน ถ้าไม่ได้แก้แค้นเขาเป็นลูกของตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สอง ในเมืองโลน เขามาจากครอบครัวที่สูงส่ง! ไอ้บอดี้การ์ดนั่นกล้าดียังไงมาหักแขนของเขา ขณะที่เขากำลังเที่ยวเล่นอยู่ที่อาณาเขตกลาง มันเทียบไม่ติดเลยกับด้วยซ้ำ กับเมืองโลนมันต้องอับอายขายขี้หน้ามากแน่ ๆ ถ้าต้องกลับไปที่เมืองโลนในสภาพแบบนี้!และไม่ต้องพูดถึง ว่าคนร่ำรวยในเมืองโลนจะคิดกับเขาว่าอย่างไร? คิดว่าเขาเกือบจะเป็นชายพิการไงล่ะ!เคนบอกกับฟลินน์เกี่ยวกับแผนการแก้แค้นของเขา ตั้งแต่เริ่มจนจบ “เราไม่ได้เริ่มก่อนหน้านี้ เพราะว่าอีวานกลัวอะไรบางอย่าง เขาตั้งหน้าตั้งตารองานเลี้ยงวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์ ขณะที่เขาต้องการพยานหลักฐานว่าเฟนด์โดนไล่ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้คิดเลยว่า เฟนด์จะนำความรุ่งเรืองมาให้กับตระกูลเทย์เลอร์ และเพื่อให้นายใหญ่เทย์เลอร์ยอมรับเฟนด์! ในคราวนี้ อีวานมุ่งมั่นมากที่จะก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 545

    ฟีโอน่ากรอกตาให้เซเลน่า แล้วหันไปหาเฟนด์ ท่าทีของเธอบอกได้เลยว่าเธอโมโหอย่างมาก “เฟนด์ มีบางอย่างที่ฉันต้องพูดในตอนนี้ ฉันไม่ได้พูดก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าฉันอยากจะปกป้องภาพลักษณ์ของนายต่อหน้าฝูงชน ตอนนี้มีแค่สิ่งเดียว ที่ฉันต้องพูดออกมาให้ได้!” เธอระเบิดออกมาเฟนด์คิ้วผูกโบว์ไปครู่นึง ก่อนจะเผยยิ้มอย่างนุ่มนวลบนหน้า เขาพูดอย่างใจเย็น “แม่ครับ ผมว่าผมรู้นะว่าแม่อยากจะพูดอะไร!”“โอ้ นายรู้อย่างงั้นหรือ? งั้นบอกมาสิ ว่าทำไมฉันถึงโกรธได้ขนาดนี้!”ฟีโอน่ากอดอก“เหอะ แม่กำลังคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เหรอครับ? ตอนที่เทพีแห่งสงครามบอกผมให้สั่งสอนไมเคิล แม่คงคิดว่าบทลงโทษมันหนักเกินไปสินะครับ? แม่กลัวว่าไมเคิลจะถือโทษโกรธผม และตระกูลวิลสันก็จะมีปัญหากับเราในอนาคต อย่างงั้นเหรอครับ?”เฟนด์หัวเราะออกมา ก่อนจะพูดต่อว่า “อย่ากังวลไปเลยครับแม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่กลัวความสัมพันธ์ของผม และเทพีแห่งคราม ผม เฟนด์ วู๊ดก็ไม่กลัวพวกเขาเหมือนกันครับ!”“โอ๋ แม่คะ หนูไม่คิดเลยว่าแม่จะกลัวว่าตระกูลคลาร์กจะทำอะไรกับเฟนด์นะ!”เธอรู้สึกอบอุ่น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่แม่ของเธอแสดงออกมา ว่าเป็นห่วงเฟนด์ความปลอดภั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 546

    “ฮึ่ม! อย่ามาหลอกฉัน! ไข่มุกเรืองแสงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว มันถูกมอบให้กับคนอื่นไปแล้ว! แม้ว่าลูกจะอยากเอามันกลับคืนมาหลังจากคุณปู่ตาย ลูกคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เมื่อถึงตอนนั้นธีโอดอร์คงจะเก็บมันไว้เองและเขาคงจะไม่ยกให้ใครง่าย ๆ จนกว่าเขาจะตาย! ลูกให้ไข่มุกนั้นไปแล้วนะ ไม่ใช่แค่ให้ยืม!” ฟีโอน่าไม่ใช่คนโง่ เธอหัวเราะออกมาแล้วพูดกับเฟนด์ว่า “ไม่เป็นไร ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้เพราะเห็นแก่คฤหาสน์นะ แต่คราวหน้าถ้านายได้ของมีค่าอะไรมาอีกนายต้องบอกฉันก่อน บอกฉันเกี่ยวกับมัน เข้าใจไหม?” “ครับ เข้าใจแล้ว!” เฟนด์พยักหน้า เขายิ้มออกมาอย่างช้า ๆ “เข้าไปข้างในกันเถอะ ผมจะพาพวกคุณไปชม แล้วเราค่อยมาเลือกห้องของเรากัน แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำนะ แม่ควรอยู่ชั้นหนึ่งเพราะมันจะสะดวกมากกว่าถ้าแม่ชอบออกไปเดินรอบ ๆ เซเลน่า เบ็น และผม คนอายุน้อย ๆ เหมาะที่จะอยู่บนชั้นสอง” “ฉันขอดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ก็จริง ชั้นหนึ่งมันจะสะดวกกว่าแน่นอน!” ฟีโอน่าเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยอาการเหม่อลอย “ว้าว ๆ! นี่มันสุดยอดมาก! การออกแบบและการตกแต่งนั้นวิเศษมาก!” ซีน่าอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเสียงดังเมื่อพวกเขาก้าวเข

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 547

    ฟีโอน่ารู้สึกว่าเธอก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบา ๆ ว่า “ถ้าเขาเต็มใจที่จะเอาเงินของเขามาให้แม่ยายเพื่อเป็นค่าครองชีพ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? จริง ๆ ฉันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ ใครบ้างจะไม่อยากมีเงินมากกว่านี้ล่ะ?” เฟนด์เงียบไป คำพูดของฟีโอน่าบ่งบอกว่าถึงความอยากได้เงินที่เหลืออยู่ของเฟนด์ เธออยากให้เขาเอามันออกมาใช้ทั้งหมด ฟีโอน่าโลภมากเกินไปไหม? อย่างไรก็ตาม ฟีโอน่าเป็นแม่ยายของเขาจริง ๆ และเขาไม่อยากทำให้เธอโกรธเลย ดังนั้นเฟนด์จึงได้แต่ยิ้มและตอบว่า “แม่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง แค่บอกให้ผมรู้ถ้าแม่ใช้เงินยี่สิบล้านที่ผมให้ไปหมดแล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แน่นอน ผมจะทำให้แม่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย” ใบหน้าของฟีโอน่าเป็นประกายขึ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดของเฟนด์ รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเธอจากนั้นก็พูดว่า “ลูกเขยที่รักของฉัน นายเป็นคนดีจริง ๆ อันที่จริงฉันก็ไม่ใช่คนเห็นแก่เงินขนาดนั้นและฉันก็ไม่ได้อยากได้เงินของนาย เพราะยังไงซะ นายได้รับเงินมาด้วยชีวิตของนายในสนามรบ ดังนั้นแม้ว่านายจะมีแปดล้านหรือหมื่นล้านเหรียญ นายก็ควรเก็บมันไว้” ฟีโอน่าหยุดพูดไ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 548

    “ก็ได้ ก็ได้ อีกไม่กี่วันฉันจะโทรหาพวกเขาให้!” ซีน่ายิ้มอย่างอึดอัด เธอคิดในใจและเลือกที่จะตกลงกับสิ่งที่เธอคิดเป็นอันแรก และทำในสิ่งนั้นภายหลัง ทั้งหมดรีบขึ้นไปที่ชั้นสองอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ชมรอบ ๆ เสร็จแล้ว พวกเขาก็เลือกห้องของตัวเอง หลังจากเลือกห้องแล้วเซเลน่าก็ชวนเฟนด์ว่า “ไปกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว กลับไปเก็บของกันเถอะ จะได้รีบไปกินข้าวเย็นกัน หลังจากมื้อเย็นเราพาไคลี่ไปที่สวนสาธารณะและเดินเล่นรอบ ๆ ละแวกบ้านได้” “เป็นความคิดที่ดี! ที่นี่มีชีวิตชีวากว่าที่ที่เคยอยู่เยอะเลย!” เฟนด์ยิ้มให้เธอ จับมือของเธอแล้วลงไปที่ชั้นหนึ่งด้วยกัน ไม่นานเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็กลับไปที่บ้านหลังเล็กที่ทรุดโทรมซึ่งเป็นบ้านที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ เก็บเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็น และกำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์หลังใหม่เซเลน่ายืนอยู่ที่สนามหน้าบ้าน สายตาของเธอมองไปยังบ้านที่ทรุดโทรมและสนามเล็ก ๆ ในบ้าน หวนนึกถึงอดีต “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาห้าปีแล้ว ตอนแรกฉันก็ไม่ชินกับการใช้ชีวิตในบ้านแบบนี้!” “แต่หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ชินกับมัน ผ่านห้าปีแล้ว… เฮ้อ ฉันรู้สึกเศร้า

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 549

    “ถ-ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือก แต่อย่าไปยั่วโมโหพวกเขาล่ะ พวกเขาคงจะเลิกสนใจไปเองถ้าพวกเขารู้ว่าไม่สามารถแยกเราออกจากกันได้ เดี๋ยวพวกเขาก็คงจะยอมแพ้!” “อีกอย่าง ถ้าพวกเขาได้เจอกับสาวงามคนอื่น พวกเขาก็คงจะมีเป้าหมายใหม่และยอมแพ้ไปเอง!” เซเลน่าพูดหลังจากที่เธอคิดเกี่ยวกับมัน เฟนด์อึ้งไป “จริงเหรอ? ยังมีคนที่สวยกว่าภรรยาของผมอีกเหรอ?” จู่ ๆ แก้มของเซเลน่าก็มีสีแดงจาง ๆ ขึ้นมา “คุณพูดเรื่องอะไร? ตอนนี้ลูกสาวของเราก็โตเป็นสาวแล้ว และฉันก็เลยช่วงวัยรุ่นมานานแล้ว สวยเสยอะไรกัน? ซาซ่า อีวอนน์ และทันย่าไม่ใช่สาวสวยเหรอ? พวกเธอสิถึงจะถูกเรียกว่าคนสวย ทั้งยังเด็กและยังสวยงามอยู่!” “พวกเธอยังเด็กเกินไป พวกเธอไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนคุณ อีกอย่างพวกเธอไม่มีเสน่ห์แบบที่คุณมี!” เฟนด์ตอบพร้อมกับยิ้มขณะที่เขามองเซเลน่า สีหน้าของเขากลับกลายเป็นเขินอาย ความสุขพุ่งขึ้นมาในหัวใจขของเขา ปกติเธอเป็นคนเย็นชามาก แต่สีหน้าที่เย่อหยิ่งของเธอเมื่อกลายเป็นคนขี้อาย กลับทำให้หัวใจของคนอื่น ๆ แทบละลาย ซีน่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดูไม่ค่อยมีความสุขนัก ขณะที่ทั้งคู่คุยตอบโต้กันไปมา พวกเขาพูดอย่างกับว่าเธอไม่ใช่คนสวย โ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status