เฟนด์ไม่ได้ชอบสร้างปัญหา แต่หากเขาปล่อยสิ่งต่าง ๆ ไปทั้งที่วอร์เรนพยายามที่จะต่อต้านเขาอย่างหนัก เขาจะต่างอะไรกับขยะไร้ค่า?เขาต้องให้วอร์เรนได้ชดใช้อย่างสาสม เพราะวอร์เรนกล้าที่จะหาเรื่องเขาอย่างไร้ยางอาย ขณะที่เฟนด์กำลังคิดว่าจะกลับไปเล่นงานวอร์เรนได้อย่างไร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเฟนด์รีบขอให้แนชกลับเข้าไปในมัสตาร์ด ซี๊ดก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าและเปิดประตู แอมโบรสปรากฏตัวอยู่ข้างนอกในฐานะผู้ดูแลของตำหนักสองกษัตริย์ปกติแล้ว แอมโบรสมีหน้าที่ต้องจัดการกับเรื่องประหลาด ๆ อยู่เสมอ เขาจะไม่มาหาเฟนด์หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น แอมโบรสยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกด้วยและดูเหมือนจะอารมณ์ดีทีเดียวก่อนที่เฟนด์จะทันได้เอ่ยถามอะไร แอมโบรสก็เกริ่นขึ้นว่า "คุณไม่จำเป็นต้องเชิญฉันเข้าไป ฉันมาที่นี่เพื่อแจ้งให้คุณทราบในบางเรื่องเท่านั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศิษย์อาวุโสลีได้ทำการสอบสวนความบาดหมางระหว่างคุณกับเซฟเป็นการส่วนตัวแล้ว ปัจจุบันเซฟถูกควบคุมตัวอยู่ในสภาศิษย์อาวุโสเพื่อรอการพิจารณาโทษ”เฟนด์รู้สึกคลายใจเมื่อได้ยิน แม้ว่าแอมโบรสจะไม่ได้บอกผลของการสอบสวน แต่เขารู้ว่าพวกเขาได้สอบสวนในสิ่งที่เ
ขณะที่เฟนด์หันหลังกลับและกำลังจะปิดประตู เขาก็ได้ยินใครบางคนตะโกนมา แม้จะฟังดูค่อนข้างดุดันก็ตาม “นายคือเฟนด์ใช่ไหม?”แม้ว่านี่จะเป็นคำถาม แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการถากถางกันเสียมากกว่า เฟนด์หันกลับไปอย่างช้า ๆ และเห็นชายที่มีเคราสั้นและดูน่ากลัวยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักเฟนด์จำชายคนนี้ไม่ได้ เขาสวมเสื้อผ้าที่บ่งบอกว่าเขาเป็นศิษย์ภายนอก ชายผู้นี้ต้องเป็นศิษย์ภายนอกที่เข้าร่วมตำหนักผ่านกระบวนการรับสมัครตามปกติ ตามระดับอาวุโสพวกเขาควรเรียกชายผู้นี้ว่าว่าศิษย์พี่แต่เฟนด์ไม่อาจพูดเช่นนั้นกับชายตรงหน้าได้ เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดี อันที่จริงเฟนด์ไม่คิดอยากจะเล่นตามเกมของเขา เฟนด์เป็นหน้าใหม่ของที่นี่และไม่อยากทำตัวก้าวร้าวเขาเพียงพยักหน้าแทนคำตอบเวสลีย์ เซเยอร์ชำเลืองมองเฟนด์ ก่อนที่เขาจะมองไปที่บ้านเดี่ยวที่อยู่ด้านหลังเฟนด์ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความอิจฉา“ฉันไม่รู้ว่าตำหนักคิดอะไรอยู่ ที่นี่มีที่พักส่วนตัวเพียงสามสิบหลัง แต่พวกเขากลับยกมันให้กับโล่มนุษย์อย่างนาย!”ไม่ใช่แค่เฟนด์ แต่แม้แต่ศิษย์ที่เพิ่งเข้าร่วมตำหนักที่ล้อมรอบพวกเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคำพูดของเวส
ทุกคนเงียบลงหลังจากได้ยินสิ่งที่เวสลีย์พูด แม้ว่าจะมีศิษย์ภายนอกประมาณสามพันคน แต่สามร้อยอันดับแรกนั้นก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย เมื่อเทียบกับศิษย์สามพันคน สามร้อยอันดับแรกก็เป็นเพียงหนึ่งในสิบของจำนวนคนทั้งหมด แต่ก็ยังถือเป็นจำนวนที่มากแน่นอน ศิษย์อาวุโสลีแน่ใจว่าเฟนด์น่าจะอยู่ในสามร้อยอันดับแรกในหมู่ศิษย์ภายนอก แต่เวสลีย์ก็พูดเข้าท่านั่นเป็นเพียงการคาดคะเนของศิษย์อาวุโสลีเท่านั้น แต่กลับเวสลีย์ เขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในสองร้อยอันดับแรกของศิษย์ภายนอกจากความแข็งแกร่งของเขามันไม่น่าแปลกใจเลยที่เวสลีย์จะผู้ชายโอ้อวดเช่นนี้ได้ แน่นอนว่าเขาสามารถเอาชนะศิษย์ภายนอกที่เพิ่งได้รับคัดเลือกเข้ามาได้ด้วยพละกำลังของเขา หลายคนไม่สามารถค้านเรื่องนี้ได้เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็นหนึ่งในสองร้อยอันดับแรกแต่ยังมีคนที่ไม่กลัวในอำนาจของเขาและตะโกนใส่เวสลีย์ด้วยเสียงดังสนั่น “นายพูดแบบนั้นไม่ได้ นายน่ะเป็นศิษย์ภายนอกมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากฝึกฝนและบ่มเพาะตัวเองมาเป็นเวลานาน ย่อมเป็นเรื่องปกติที่นายจะแข็งแกร่งกว่าเรา หากเราเข้ารับการฝึกฝนในช่วงเวลาเดียวกับนาย ใครจะบอกได้ว่าผู้ใดแข็งแก
“แม้แต่พวกเราที่เข้าร่วมตำหนักสองกษัตริย์ในรอบปกติก็ไม่กล้าอ้างตัวเองว่าสามารถเป็นหนึ่งในศิษย์ภายนอกสองร้อยคนแรกได้ภายในหกเดือน”หลังจากที่ชายผู้มีตาสามเหลี่ยมพูด ผู้ติดตามทั้งสองก็พูดพร้อมกันทันทีว่า “ใช่แล้ว! นายมันก็แค่คนโง่ที่ดีแต่คุยโว นายมันทำไม่ได้อย่างที่พูดหรอก โล่มนุษย์อย่างพวกนายมีสิทธิ์อะไรเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับศิษย์พี่เวสลีย์? ฉันจะบอกนายให้นะ ศึกระหว่างตำหนักกำลังจะเกิดขึ้นและเราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเราจะรอดชีวิตไปได้หรือเปล่า ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าใครให้ท้ายพวกนายในการคุยโวแบบนี้”ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมเย้ยหยันอย่างเย็นชาและมองไปที่ศิษย์ภายนอกที่เพิ่งได้รับคัดเลือกด้วยสายตารังเกียจ “หนุ่มน้อย อย่าแม้แต่จะพูดถึงการแข่งกับศิษย์พี่เวสลีย์เลย ฉันจะให้เวลานายหกเดือนก่อนที่นายจะต่อสู้กับศิษย์น้องของฉันในสนามประลองเดิมพันถึงตอนนั้นนายคงไม่อาจแม้แต่จะรับมือกับเขาได้ถึงห้ากระบวนท่าด้วยซ้ำ ต่อให้เราจะให้โอกาสนายโจมตีล่วงหน้าสามกระบวนท่าก็ตาม”เหล่าศิษย์ภายนอกที่ได้รับคัดเลือกใหม่ใบหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่ไม่มีใครกล้าตอบโต้อะไร แม้แต่ศิษย์ภายนอ
คำพูดของเฟนด์ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในหมู่ศิษย์ภายนอก บรรดาผู้ที่แต่เดิมได้แต่สงบปากสงบคำรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นในทันที"จริงด้วย! พวกนายรู้สึกภูมิใจที่ทำให้พวกเราอับอายได้อย่างนั้นเหรอ? ต่อให้นายจะเป็นคนที่แข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในสองร้อยอันดับแรกของศิษย์ภายนอก แต่เราเพิ่งเข้าร่วมตำหนัก ศิษย์ศิษย์พี่ที่เข้าร่วมตำหนักมานานกว่าพวกนายเคยทำให้พวกนายขายหน้าตอนที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของตำหนักหรือไง?”"ใช่แล้ว! พวกนายก็ทำได้แค่แกล้งพวกเราเท่านั้นแหละ!”เวสลีย์โกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาเย้ยหยันและเชิดหน้าอย่างหยิ่งยโส “อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับพวกนาย พวกนายคิดว่าตัวเองมีค่าพอหรือไง? พวกนายก็เป็นแค่ของลดราคาตอนเปลี่ยนฤดูก็เท่านั้นแหละ หากไม่มีเรื่องศึกระหว่างเผ่าปฐมหายนะและตำหนักสองกษัตริย์ คิดว่าคนอย่างพวกนายจะมีโอกาสเข้าร่วมตำหนักสองกษัตริย์รึไง!”จากนั้นเวสลีย์ก็หันหน้าไปทางเฟนด์และความเกลียดชังในดวงตาตรงไปที่เฟนด์ราวกับดาบอาบยาพิษ แต่ก็ดูเหมือนว่าเฟนด์จะไม่ได้รับผลกระทบการจ้องมองเวสลีย์ เขายังคงสงบนิ่งจู่ ๆ เวสลีย์ชี้ไปที่ห้องด้านหลังของเฟนด์ “นายไม่คู่ควรที่จะได้เป็นเจ้าของห้
เมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่ายใช้ความกล้าหาญในทางที่น่ารังเกียจเช่นนี้ เฟนด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเย็นชา คำท้าทายเช่นนี้อาจได้ผลกับผู้อื่น แต่ไม่ใช่กับเฟนด์ศิษย์ภายนอกที่ได้รับคัดเลือกใหม่คนอื่น ๆ รู้สึกมีชีวิตชีวา หลังจากได้ยินสิ่งนี้และมองไปที่เฟนด์อย่างตื่นเต้นเนื่องจากพวกเขาต้องการให้เฟนด์รับคำท้า ในสายตาของพวกเขาแล้วเฟนด์สามารถต่อสู้กับเวสลีย์ได้เมื่อพอเดาได้ว่าเฟนด์จะไม่ตอบรับการเดิมพันเนื่องจากเห็นแล้วว่าเฟนด์นิ่งเฉย เวสลีย์จึงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “นายเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาศิษย์ที่ได้รับคัดเลือกใหม่ ถ้านายกลัว คิดว่าคนอื่นจะคิดต่อไปคนอื่นจะคิดยังไงกับนาย”เฟนด์พูดด้วยเสียงต่ำ “ฉันไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับฉัน นายอยากสู้กับฉันในสนามประลองเดิมพันไม่ใช่หรือ? ฉันจะทำให้นายสมความปรารถนา แต่ฉันไม่ได้รับคำท้าเพราะสิ่งที่นายพูด ฉันแค่รู้สึกว่านายสมควรได้รับบทเรียน”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวสลีย์ทันทีที่เฟนด์ตอบตกลง เพียงแต่ประโยคสุดท้ายที่เฟนด์พูดนั้นเหมือนกับการตบหน้าเขาอย่างแรง และสีหน้าดีใจของเขาก็หายไปทันทีเวสลีย์กัดฟันจ้องมองเฟนด์ เขาอยากจะเอ่ยปากดุด่าอีกฝ่ายให้ดังสนั่นห
เนื่องจากพวกเขาไม่มีกำลังพอที่จะเอาชนะเวสลีย์ได้ พวกเขาจึงได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอให้เฟนด์ล้างแค้นให้พวกเขา ข่าวการปะทะกันของเฟนด์และเวสลีย์ในสนามประลองเดิมพันแพร่กระจายไปราวกับติดปีก ศิษย์ภายนอกทั้งหมดรับรู้ถึงข่าวคราวนี้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงดังนั้น ทุกคนจึงได้แต่เฝ้ารอให้เวลานั้นมาถึง พวกเขาต่างคาดหวังถึงการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น หลังจากที่เขาเข้าไปในห้องของตัวเอง เฟนด์ขอให้แนชออกมาอีกครั้งและให้คำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น“พ่อรู้ว่าลูกมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมาโดยตลอด แต่การสู้กับเวสลีย์มันไม่ง่ายเลย” แนชกลุ้มใจ “แม้ว่าศิษย์อาวุโสลีจะยกย่องว่าลูกน่าจะเป็นหนึ่งในสามร้อยอันดับแรกของศิษย์ภายนอก แต่เวสลีย์เป็นถึงหนึ่งในสองร้อยอันดับแรกเชียวนะ ลูกมั่นใจหรือว่าจะสู้กับเขาได้”เฟนด์ส่ายหน้า “ตอนนี้ผมไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์”ไม่แปลกเลยที่แนชจะรู้สึกกังวลเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และเขาก็นั่งยืดตัวตามสัญชาตญาณ “แล้วทำไมถึงรับคำท้าล่ะ?”เฟนด์ยกกาน้ำชาบนโต๊ะมารินชาสองถ้วยสำหรับตัวเขาและพ่อ “หมายถึงว่าตอนนี้ผมไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าผมจะไม่ม
เฟนด์มองไปที่บรู๊คด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขารู้สึกได้ว่าคำพูดของบรู๊คกำลังสื่อไปอีกอย่าง และเฟนด์ขมวดคิ้วเล็กน้อยถามว่า “เขาจะกลายเป็นศิษย์อาวุโสหลังจากเพิ่งขึ้นเป็นศิษย์ภายในเนี่ยนะ?”ขั้นตอนในการเป็นศิษย์ภายในมีการระบุไว้ในป้ายหยกประจำตัว แต่วิธีการเป็นขึ้นเป็นศิษย์อาวุโสหรือศิษย์ที่ถูกเลือกกลับไม่มีอยู่ในนั้น เฟนด์รู้ว่าศิษย์อาวุโสนั้นมีตำแหน่งสูงกว่าศิษย์ภายในหนึ่งระดับ แต่ก็ไม่ได้มีตำแหน่งที่สูงไปกว่ากันมากนักศิษย์ที่สำคัญที่สุดจากทั้งตำหนักคือศิษย์ที่ถูกเลือก เนื่องจากเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตำหนัก เฉพาะผู้ที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับศิษย์ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนทักษะศิลปยุทธและทักษะยุทธในระดับสูงสุดได้แต่กระนั้นเฟนด์ไม่รู้ว่าจะก้าวขึ้นเป็นศิษย์ที่ถูกเลือกได้อย่างไรบรู๊คยิ้มอย่างสุภาพ เขาต้องตระหนักว่าเฟนด์ไม่รู้เรื่องนี้มากนัก ดังนั้นเขาจึงอธิบายด้วยความอดทนอดกลั้นว่า “อันที่จริง เราจะได้ชื่อว่าเป็นศิษย์อาวุโสก็ต่อเมื่อศิษย์อาวุโสภายนอกและศิษย์อาวุโสภายในทั้งหลายเลือกศิษย์ในหมู่ศิษย์ภายในให้เป็นศิษย์ที่ถูกเลือกของพวกเขา ศิษย์พี่เวสลีย์ม