แชร์

บทที่ 1842

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เราจะไม่เข้าร่วมกับคุณ จะให้พวกเราทุกคนจะเข้าร่วมกับคุณ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะเอาชีวิตของทุกคนมาเดิมพันหรอก!”

เฟนด์หัวเราะ “กองกำลังภาคีของคุณต่อต้านเรามาโดยตลอด หากเราตามคุณไปและถูกกองกำลังขนาดใหญ่สองสามกองกำลังซุ่มโจมตีเข้า เราก็ไม่มีทางตอบโต้ได้!”

“คุณพูดถูก น้องเฟนด์ เราไม่อาจเชื่อคำพูดของพวกเขาได้หรอก!”

ออสตินกำหมัดแน่น จ้องมองคนตรงหน้า “ผมขอแนะนำให้พวกคุณทุกคนกลับไปซะ หัวหน้าเผ่าวอลล์แมน มิฉะนั้นหากเราต่อสู้กับคุณ สมาชิกเผ่าของคุณจะต้องเดือดร้อนไม่น้อย! พวกเราน่ะถือไพ่เหนือกว่านะ!”

"โถ่ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผมก็ไม่มีทางเลือก ดูเหมือนว่าวันนี้ผมคงต้องฆ่าคุณซะแล้ว!”

จอชถอนหายใจและพูดว่า “อย่ามาขู่ให้ผมกลัวเลย หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง คุณมีคนมากมายก็จริง แต่คนของคุณต่อสู้กับเผ่ากระหายเลือดมานานสองนานแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่อาจไม่เหลือพลังฉีในร่างกายมากนัก การมีคนอยู่เคียงข้างคุณมากมายแล้วมันยังไงล่ะ? เรามีนักสู้ในระดับเทพสูงสุดอยู่กับเรามากมาย และเรามีระดับทะลวงวิญญาณถึงสามคนอีกด้วย! ที่สำคัญกว่านั้น พรรคพวกของคุณยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1843

    ในไม่ช้ากลุ่มคนเรานั้นก็เข้ามาใกล้เฟนด์และคนอื่น ๆ“นั่นไม่ถูกต้อง ทำไมถึงมีคนจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย? และดูเหมือนว่าจะมีคนจากตำหนักนภาด้วยอีกต่างหาก!”ชายคนหนึ่งจากตระกูลวู๊ดพินิจมอง และท้ายที่สุด เขาก็พูดด้วยความตกใจว่า “พระเจ้า นายท่านดูนั่นสิ ลิลลี่อยู่กับพวกเขาจริง ๆ !”“ลิลลี่!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของแนชก็ดูบูดบึ้ง ผู้หญิงคนนั้นเป็นนังงูพิษ พวกเขาเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน แต่ปัจจุบันเขาเห็นเธอเป็นเพียงศัตรูมานานแล้ว เขาอยากให้เธอตายไปซะเดิมที เมื่อเขาเห็นโจเอลหลังจากเข้ามาในพื้นที่นี้ เขาจึงคิดว่าลิลลี่ก็น่าจะเข้ามาเช่นกันแต่เขาไม่เคยพบเธอเลย ยิ่งไปกว่านั้น เพราะระดับพลังยุทธ์ของเธอเคยถูกเขาทำลายไปแล้ว ตอนนี้ระดับพลังยุทธ์ของเธอจึงไม่สูงอะไรเท่าไหร่ เขาจึงเดาว่าต่อให้เธอเข้ามาในพื้นที่นี้ได้ เธอก็น่าจะตายในป่าไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยเขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะโชคดีถึงขนาดที่จะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้“แลนซ์?”เฟนด์เป็นก็ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ แลนซ์หายไปเจ็ดหรือแปดเดือนแล้ว ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้วด้วยซ้ำเฟนด์เองก็ไม่ได้ข่าวของคนที่เรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1844

    “นายหญิง พี่แรนดัลล์ วิเศษจริง ๆ ในที่สุดเราก็พบพวกคุณ!”เยาวชนจากตระกูลแลงคาสเตอร์รีบบินไปอย่างมีความสุขทันทีที่ได้เห็นเชลบี้และคนอื่น ๆ“สุดยอดไปเลยนายหญิง ขอบคุณพระเจ้า…"เยาวชนสองคนจากตระกูลซีเมเนสก็บินออกไปเช่นกัน พวกเขาต่างตื่นเต้นมากมีเพียงแลนซ์จากตระกูลวู๊ดที่ยืนอยู่ที่เดิมอย่างเย็นชาโดยไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาเห็นแนชและสมาชิกตระกูลวู๊ดคนอื่น ๆ เขาก็ไม่คิดที่จะบินเข้าหาอีกฝ่าย“วิเศษจริง ๆ เลยแลนซ์ ลูกยังมีชีวิตอยู่! ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกยังมีชีวิตอยู่!”แนชรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแลนซ์ยังมีชีวิตอยู่ เพราะแลนซ์มักจะเก่งในทุก ๆ เรื่อง และชายหนุ่มก็เป็นลูกชายของเขา มิฉะนั้นเขาคงไม่ส่งคนออกไปตามหาเขาเป็นเวลานานตั้งแต่แรกเขาต้องยอมรับความจริงว่าแลนซ์ตายแล้ว หลังจากไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับแลนซ์เป็นเวลานาน ถึงกระนั้นเขาก็ยังหวังว่าแลนซ์จะยังมีชีวิตอยู่"ถูกต้อง ผมยังมีชีวิตอยู่ แน่สิ ผมยังไม่ตาย ผมไม่มีทางตายง่าย ๆ หรอก!”หัวใจของแลนซ์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาอยากจะฆ่าแนช เฟนด์และคนอื่น ๆ เสียเดี๋ยวนี้ทว่าที่นี่มีคนอยู่มากเกินไป นอกจากนี้ แม้ว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1845

    “อย่าพูดอีกเลยแม่!”แลนซ์หันศีรษะไปมองลิลลี่ “ขอเพียงแม่วางอดีตทุกอย่างลง ตอนนี้ผมไม่สนใจตำแหน่งหัวหน้าตระกูลวู๊ดหรอก แค่ผมได้มาเจอกับแม่อีกก็ดีแค่ไหนแล้ว และผมก็หวังว่าแม่กับพ่อจะละทิ้งความขุ่นข้องหมองใจต่อกันลงได้ อย่าโกรธเคืองกันเลย ทำเป็นไม่รู้จักกันไปเลยยังจะดีกว่า!”"ลูก…"ลิลลี่โกรธมาก แต่เธอก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “แม่ไม่สนใจเรื่องนั้นอีกแล้ว แค่ลูกยังมีชีวิตอยู่และได้เจอลูกอีกครั้งแม่ก็ดีใจมากแล้ว!”แนชไม่คิดว่าแลนซ์จะเข้าใจอะไรได้ง่ายขนาดนี้ เขายังกังวลว่าแลนซ์จะเกลียดเขา แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของแลนซ์ เขาก็พูดด้วยสีหน้าโล่งใจ “ใช่แล้ว ทิ้งอดีตไปเถอะ ช่างมัน ตราบใดที่ลูกไม่เกลียดพ่อ แลนซ์ ต่อให้พ่อจะต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับแม่ของลูก แต่ลูกก็ยังเป็นลูกชายของพ่อเสมอ!”“อืมมม!”แลนซ์พยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มให้เฟนด์และยื่นมือออกไป “นายเป็นน้องชายของฉันใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าพรสวรรค์ในทักษะยุทธของนายไม่เลวเลย ฉันหวังว่านายจะสามารถนำพาตระกูลวู๊ดไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้ในอนาคต สำหรับฉัน ฉันจะอยู่ที่ตำหนักคลื่นเมฆาต่อจากนี้ไปอย่างแน่นอน”เฟนด์ยังคงสับสนเล็กน้อย ในตอนที่แลนซ์เห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1846

    คำพูดเหล่านี้ทำให้มุมปากของจอชกระตุกเล็กน้อยเขาไม่ใช่คนขลาดเขลา เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่ส่งคนเหล่านั้นมาให้ง่าย ๆ แต่ในฐานะคนจากกองกำลังภาคีเขาก็ต้องพูด มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถอธิบายทุกอย่างได้เมื่อเขากลับไป นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องการแสดงอำนาจของเขาหลังจากคิดแล้ว เขาก็พูดว่า “เอาล่ะ โทมัส คุณแน่ใจหรือว่าจะไม่ส่งพวกเขามาให้เรา? คุณไม่กลัวว่าจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างทั้งสองฝ่ายจริง ๆ เหรอ? พอถึงตอนนั้นคุณจะกลายเป็นคนบาปอันดับหนึ่งทันที!”โทมัสยิ้มเหมือนเคย “ฮ่าฮ่า ถึงตอนนั้นเราค่อยมากังวลเรื่องอนาคตก็แล้วกัน ยังไงซะในตอนนี้ผมก็จะไม่ส่งพวกเขาใส่มือคุณ ถ้าคุณกล้าพอ คุณก็เข้ามาแย่งไปเองเลยสิ ดูสิว่าคุณจะฆ่าพวกเขาต่อหน้าผมได้หรือเปล่า?”หลังจากพูดอย่างนั้น โทมัสคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดกับชายอีกคนว่า “นายท่านวอลล์แมน ผมขอแนะนำให้เราวางเรื่องนี้ลงวันนี้ก่อน พวกเขาเข้ามาราวหกแสนคน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณสองแสนคนเท่านั้น อีกอย่างเผ่ากระหายเลือดและกองทัพทั้งเก้าเองก็ได้สูญเสียผู้คนไปมากมาย วันนี้พอแค่นี้เถอะ มิฉะนั้นทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้เลย!”“ฮึ่ม ผมไม่อาจตัดส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1847

    "เฮ้อ! ในที่สุดพวกเขาก็จากไป! โชคดีที่คุณและคนของคุณมาทันเวลา เจ้าตำหนักโทมัส!” หลังจากจอชและพรรคพวกจากไป ออสติน ดราโก หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งของกองทัพทั้งเก้าก็ถอนหายใจพรืดยาวด้วยความโล่งอก ก่อนที่ตำหนักคลื่นเมฆาจะมาถึง เขาอยู่ในสภาพขวัญหนีดีฝ่ออย่างแท้จริง เพราะกลัวว่าหากพวกเขาจำเป็นต้องต่อสู้กับเผ่าดาบราชันย์พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะพวกนั้นได้ “ฮ่าฮ่าฮ่า! ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะทำให้เผ่ากระหายเลือดต้องสูญเสียครั้งใหญ่ถึงเพียงนี้! เผ่ากระหายเลือดถึงคราวอวสานแล้ว ไม่มีเผ่ากระหายเลือดอีกต่อไป! อืมมม… เผ่ากระหายเลือดเป็นกองกำลังภาคีที่ใกล้ที่สุดสำหรับคุณ และพวกเขามักจะมาที่ป่าแห่งนี้เพื่อตามหาสิ่งของล้ำค่า ตอนนี้พวกเขาจากไปแล้ว ก็จะไม่มีใครมาแย่งทรัพยากรยุทธกับพวกคุณแล้ว!” โทมัสหัวเราะเสียงดัง จากนั้นเสริมว่า “และเรื่องนี้จะส่งผลดีกับกองทัพทั้งเก้าในการพัฒนาและก้าวหน้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น!” มีเส้นบาง ๆ ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของออสตินเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น “เผ่ากระหายเลือดประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ก็จริง แต่มีคนจากดินแดนรกร้างที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้มากเกินไป! ผมไม่คิดว่ากองกำลังภา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1848

    “น้องเฟนด์ ขอบคุณที่เลือกจะอยู่ต่อ ผมยังนึกว่าคุณจะเลือกไปกับตำหนักคลื่นเมฆาเสียอีก พวกเขามีพลังมากกว่าเรา แถมยังมีนักสู้ในระดับทะลวงวิญญาณมากกว่าเราเล็กน้อยอีกด้วย เจ้าตำหนักคลื่นเมฆายังอยู่ในขั้นที่สองระดับทะลวงวิญญาณอีกต่างหาก!” หลังจากที่ฝูงชนจำนวนไม่น้อยออกจากที่เกิดเหตุ ออสตินก็มองไปที่เฟนด์และกลุ่มของเขาด้วยใบหน้าที่ซาบซึ้ง ในครั้งนี้กองทัพทั้งเก้าก็เผชิญกลับการสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงกลัวจริง ๆ ว่าเฟนด์และคนของเขาจะตัดสินใจไปกับตำหนักคลื่นเมฆาและกองทัพทั้งเก้าจะต้องพบกับปัญหาใหญ่ หากกองกำลังภาคีส่งลูกน้องเข้ามาหาเรื่อง เฟนด์ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “ผมไม่คิดว่าแลนซ์ พี่ชายของผมจะยกโทษให้ผมง่ายขนาดนั้น ตอนนี้เขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตำหนักคลื่นเมฆาผมไม่มีทางไปกับพวกเขา อีกอย่าง จู่ ๆ เราก็บุกเข้ามาที่นี่และทำให้พวกคุณตกอยู่ในอันตราย และผมก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องนั้นจริง ๆ ดังนั้น ผมจึงคิดว่ามันจะดีกว่าและฉลาดกว่าที่เราจะอยู่กับพวกคุณ และผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปด้วยกัน!” คำพูดของเฟนด์ทำให้ออสตินรู้สึกผิดและละอายใจในตัวเองเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาเทียบกับเผ่ากระหายเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1849

    ออสตินคิดว่าเฟนด์กำลังโม้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธอีกฝ่าย ออสตินกล่าวต่อว่า “เอาล่ะ น้องเฟนด์ คุณมีคนมากกว่าแสนคนอยู่ในมือ แต่พวกเขาทั้งหมดมาจากชนเผ่าและตระกูลที่แตกต่างกัน และสถานการณ์ก็คล้ายกับกองทัพทั้งเก้าไม่มีผิด กองทัพทั้งเก้าเองก็มาจากกองกำลังที่ต่างกัน อืมมม… ผมมีคำแนะนำนะ แต่ไม่แน่ใจว่าผมควรที่จะเสนอออกไปหรือเปล่า?” “อย่างนั้นเหรอ? เช่นนั้นก็บอกมาเถอะ หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง!” เฟนด์โค้งคำนับให้ออสตินอย่างสุภาพและพูดว่า “เนื่องจากเราตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ จึงถือว่าเราทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความภักดีของเราที่มีต่อคุณ เราไม่มีอะไรแอบแฝงและไม่มีแผนที่จะหักหลังคุณอย่างแน่นอน!” “แน่ใจนะ! เราร่วมมือกันและจะสู้ไปด้วยกัน! คนของเราจะไม่คิดร้ายอะไรกับคุณเช่นกัน! ผมเอาหัวเป็นประกัน!” ออสตินพยักหน้าแล้วเสนอความคิด “น้องเฟนด์ แนวคิดเรื่องนี้นั้นไม่ยากเลย คุณมีผู้คนมากมายจากชนเผ่าและตระกูลที่แตกต่างกัน และกองทัพทั้งเก้าก็ไม่ต่างไปจากคุณ! ทำไม…ทำไมเราไม่จับมือรวมกันเป็นกองกำลังเดียวล่ะ? เราทุกคนสามารถรวมเป็นกองกำลังเดียวกันได้! คุณคิดเห็นยังไง?" “กอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1850

    "แน่นอน! ไม่มีปัญหา! เราเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมา เราควรได้พักและรักษาตัวในช่วงเวลานี้จริง ๆ ใช้เวลาพักผ่อนและฟื้นตัวกันเถอะ แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลายี่สิบวันก็ตาม!” หัวใจของออสตินกระโจนขึ้นด้วยความปิติ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการรับคนเหล่านี้เข้ากลุ่มของเขาและยังสามารถควบคุมพวกเขาได้อีก เฟนด์และกลุ่มของเขาโดดเด่นในแง่ของจำนวน และสิ่งที่ดีที่สุดคือนอกจากเฟนด์แล้ว ยังมีนักสู้ในขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดอยู่หลายคนและยังมีนักสู้ในขั้นที่ห้าของระดับเทพสูงสุดอยู่ด้วย พวกเขาไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด และทักษะยุทธของพวกเขาก็แข็งแกร่งอีกต่างหาก! นอกจากนี้ พวกเขามีคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอีกหลายคน เมื่อเขารับเฟนด์และคนของเขาแล้ว พลังการต่อสู้โดยรวมของกองกำลังจะเพิ่มขึ้นยังแน่นอน "ดี! เช่นนั้นก็เอาตามที่คุณว่า! เราจะพักกันอีกยี่สิบวัน แล้วจึงจะจัดการเลือกตั้งหลังจากนั้น!” เฟนด์ตอบด้วยรอยยิ้มที่แขวนอยู่บนใบหน้าของเขา ออสตินพูดไม่ออก เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เฟนด์ได้รับวันเพิ่มอีกห้าวัน! แต่เขาเชื่อว่า ต่อให้เขาจะให้เวลาเผื่อแก่เฟนด์ไปเป็นเวลาสามสิบวัน ตำแหน่งผู้นำก็ยังอยู่ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status