แชร์

บทที่ 1780

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
คำแนะนำของอาเธอร์ทำให้สกายโกรธมากเธอปราดสายตามองเขา “อาเธอร์ คุณบ้าไปแล้วเหรอ? คุณก็รู้นี่ว่ามันอันตรายแค่ไหน? นี่ยังคิดที่จะเข้าไปในนั้นอีก? ฮ่า ๆ! คุณแค่เฝ้าอยู่นอกป่ากับทุกคนได้ไหม?”

เฮนดริกเอ่ยขอร้องกับอาเธอร์ว่า “นายน้อยอาเธอร์ คุณจะทำตัวหุนหันพลันแล่นไม่ได้ เราจะเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ คนของพวกเขาอาจฆ่าเรา อย่างไรซะ กองทัพทั้งเก้าก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรใหญ่โตเพียงเพราะคนพวกนั้นฆ่าคนไปหลายคนหรอก รอดูไปก่อนเถอะ”

เอลล่าเองยังนึกประหลาดใจนและช่วยเกลี้ยกล่อมอาเธอร์ทันที “อาเธอร์ นี่คุณหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้ว คุณคิดว่าคนจากเผ่ากระหายเลือดจะยอมให้เราเข้าไปงั้นเหรอ? การอนุญาตให้เราเข้าไปก็คือการอนุญาตให้เราไปช่วยฆ่าสมาชิกของพวกเขา พวกเขาจะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ยังไง? พวกเขาอาจฆ่าเราทันทีที่เราไปถึงทางเข้า!”

อาเธอร์ถอนหายใจและกลับไปนั่งบนก้อนหินที่เคยนั่งก่อนหน้านี้ “เฮ้อ… ฉันได้แต่กังวลแทนพวกเขาในตอนที่ฉันได้ยินเสียงการต่อสู้ที่กำลังดำเนินอยู่ในพื้นที่เบื้องหน้า ไหนจะเรื่องที่เหล่าสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดกำลังดักพวกเขาไว้นอกป่าอีก”

ในขณะนี้ดวงตาของเขาเป็นประกาย และพูดอย่างไร้เดียง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1781

    สกายพูดทันทีว่า “เห็นไหมล่ะ? เห็นไหม?! แม้แต่เจ้าอ้วนนี่ยังเข้าใจอะไร ๆ ได้ดีกว่าพวกคุณอีก! ไปกันเถอะ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เรากลับไปฝึกซ้อมกันดีกว่า หลังจากนี้อีกสองวันเราอาจจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้ขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้”อาเธอร์ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เราอาจจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้ขึ้นมาก็ได้ งั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า… ดูจากทัศนคติของหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งแล้ว โอกาสที่เราจะเข้าร่วมการต่อสู้กับพวกเขานั้นคงมีไม่มากนักหรอก และหลังจากออกไปสู้แค่แป๊บเดียว ผู้คนจากตำหนักคลื่นเมฆาก็จะมาถึง พอถึงตอนนั้น ก็จะเหลือเพียงแค่การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเท่านั้น!”เฮนดริกยังกล่าวอีกว่า “ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น เราก็ไม่อาจทะลวงไปในขั้นที่สูงขึ้นได้ภายในสองสามวันหรอก แล้วจะบ่มเพาะตัวเองไปเพื่ออะไรกันล่ะ?”ในขณะเดียวกัน ชายคนหนึ่งมาปรากฏตัวต่อหน้าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งมองไปที่ชายตรงหน้าและพูดช้า ๆ “เป็นยังไงบ้าง? สถานการณ์ในป่าเป็นยังไง?”ชายคนนั้นทำความเคารพด้วยมือและพูดว่า “พวกเขาเริ่มต่อสู้กันแล้ว ผู้คนจากเผ่ากระหายเลือดมาถึงเมื่อเช้าและส่งสมาชิกกลุ่มใหญ่เข้าไปในพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1782

    สิ่งที่ชายตรงหน้าพูดทำให้หัวใจของออสตินสั่นสะท้าน เป็นความจริงที่มีทรัพยากรเสริมพลังยุทธมากมายในป่า และเมื่อศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดได้รับมันไป พวกเขาจะไม่มีวันได้มันกลับคืนมาเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันแน่ใจว่าศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดจะต้องตายไปไม่น้อย และข้าวของของศิษย์จากกระหายเลือดจะตกไปอยู่ในมือของคนนอกพวกนั้นด้วยเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น หากคนนอกพวกนั้นสามารถฆ่าศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดได้ แล้วถ้าจะปล่อยให้คนเหล่านั้นได้รับค่าตอบแทนสักหน่อยจะเป็นไรไป?”หลังจากที่ชายวัยกลางคนได้ยินสิ่งนี้ก็พยักหน้าและพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดนั้นถูกต้อง แต่เราจะต้องรอกันอีกกี่วันล่ะ?” “อย่างน้อยก็อาจจะอีกสักสองสามวัน? เพราะถ้าเราออกไปเร็วเกิน ฉันกลัวว่าคนของตำหนักคลื่นเมฆาก็จะมาช้าเช่นกัน แล้วถ้าผู้คนจากตำหนักคลื่นเมฆามาช้ากว่าที่คิด เราจะเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่หากต้องต่อสู้กับพวกนั้นนานเกินไป!” ออสตินครุ่นคิดก่อนที่จะพูดต่อ “พวกนายไปจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าต่อเถอะ ถ้ามีข่าวคราวอะไรให้รีบมารายงานฉันทันที เข้าใจไหม?”“ไม่ต้องห่วงครับ หัวหน้าป้อมปราการที่หนึ่ง เราจะรีบมารา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1783

    ทันใดนั้น ศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดก็วิ่งออกจากป่ากันหลายคน เขาตามหาหัวหน้าเผ่าและเหล่าผู้อาวุโสทันทีผู้อาวุโสลำดับที่สองยิ้มราบเรียบและถามเหล่าศิษย์ด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้น? พวกนายออกมาพักผ่อนกันงั้นหรือ?”พวกเขาอาจจะเหนื่อยล้าจากการสังหารพวกที่มาจากดินแดนรกร้างมาทั้งวัน ถึงได้พากันออกมาเพื่อพักผ่อนศิษย์ชราที่อยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุด พยายามกลั้นหายใจหอบก่อนจะตอบว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น หัวหน้าเผ่าและเหล่าผู้อาวุโส ผมมีบางอย่างที่จะรายงาน เราสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เราจึงวิ่งออกไปดู!”“แล้วมันยังไงล่ะ?” ผู้อาวุโสหนึ่งขมวดคิ้ว กวาดสายตามองไปยังเหล่าศิษย์จากนั้นชายชราก็พูดว่า “เรา… เราพบว่าคนของเราเสียชีวิตหลังจากต่อสู้กับคนนอกพวกนั้นไปจำนวนมาก ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เห็นศิษย์ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดเสียชีวิตในสนามรบถึงสามคน นอกจากนี้ยังมีศิษย์ในขั้นที่หนึ่งและสองของระดับเทพสูงสุดของเราเสียชีวิตอีกหลายร้อยคนท่ามกลางศพของคนนอกที่มีเพียงร้อยกว่า ๆ ถึงอย่างนั้นพวกคนนอกที่ตายไปก็ไม่มีใครอยู่ในระดับเทพสูงสุดเลยสักคน!”"อะไรนะ?!" เอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ ตกใจสุดขีดเม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1784

    ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งมองไปที่เอ็ดเวิร์ดอย่างเคร่งขรึม “หัวหน้าเผ่า ตอนนี้เราควรทำยังไงดี? เราไม่รู้ว่ากองทัพทั้งเก้าส่งคนไปมากน้อยแค่ไหน และความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาเป็นอย่างไร ดูท่าว่าเราควรจะส่งศิษย์ของเราที่อยู่ในขั้นที่ห้า เจ็ด และแปดในระดับเทพสูงสุดเข้าไปในป่า”เอ็ดเวิร์ดคิดก่อนจะพูดว่า “อย่าห่วงไปเลย ผมรู้จักผู้ชายคนนั้นดีอยู่ ออสติน ดราโกน่ะมีนิสัยประหลาดไม่เหมือนใคร เขาจะไม่ส่งปรมาจารย์ที่ทรงพลังเข้าไปในป่าเยอะขนาดนั้นหรอก สิ่งที่เขาจะทำมากที่สุดคือ การส่งคนในขั้นที่ห้าหรือหกของระดับเทพสูงสุดเข้าไปเท่านั้น ถ้าเขาคิดที่จะต่อต้านเราอย่างไม่คิดชีวิตขึ้นมา นั่นก็ไม่ต่างอะไรกันรนหาที่ตาย!”ผู้อาวุโสลำดับที่สองพยักหน้าและพูดเห็นด้วย “สิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดนั้นถูกต้อง ถ้าพวกเขาส่งยอดฝีมือมาที่นี่ พวกเขาคงนำคนพวกนั้นมาต่อสู้กับเรา พวกเขาต้องส่งคนบางคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ระดับกลางและช่วยคนพวกนั้นฆ่าคนของเราก็เท่านั้น ถ้าเป็นกรณีนั้น พวกเขาก็จะถือว่าตัวเองได้ช่วยเหลือคนนอกพวกนั้นแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาจะสามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นต่อกองกำลังปฏิภาคีได้ แต่ถ้าพวกเขาวางเฉย พวกเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1785

    แน่นอนว่าเฟนด์ไม่ได้ฝึกบ่มเพาะพลังยุทธ แต่เลือกที่จะบ่มเพาะโอสถชั้นกลางระดับสามในช่วงเวลากลางคืนแทน เขาหยิบส่วนผสมและหม้อหลอมโอสถออกมาเนื่องจากอัตราความสำเร็จมีความสำคัญอย่างยิ่ง เฟนด์จึงไม่มีความคิดที่จะลองบ่มเพาะโอสถชั้นกลางระดับสามสูตรอื่น ๆ เขากำลังบ่มเพาะโอสถที่เขาเคยบ่มเพาะสำเร็จไปก่อนหน้านี้กลุ่มของพวกเขารวมทั้งเมโลดี้ต้องการโอสถทั้งหมดเจ็ดเม็ด ถือเป็นแรงกดดันอย่างมากสำหรับเฟนด์เฟนด์บ่มเพาะโอสถด้วยส่วนผสมแปดชุดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน และเขาประสบความสำเร็จสามครั้ง ส่งผลให้ตอนนี้เขาได้รับโอสถชั้นกลางระดับสามมาสามเม็ดแล้วถือได้ว่าอัตราความสำเร็จนั้นน่าประทับใจทีเดียว“ฮึ่ม!” เมื่อถึงเวลากลางวันเฟนด์ก็ลุกขึ้นยืนและถอนหายใจอย่างหนัก “ดูเหมือนว่าผมจะเชี่ยวชาญขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว คืนนี้ผมจะบ่มเพาะโอสถเพิ่มอีกสี่เม็ด แล้วเราจะมีมันคนละหนึ่งเม็ด พลังยุทธของเราจะเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน ถ้าเราตั้งใจทะลวงไปด้วยกัน!” “ฮ่าฮ่า… หมายความว่าเราจะสามารถขวางคนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย!” อเล็กซานเดอร์หัวเราะและพูดว่า “ในบรรดาศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดที่เราฆ่าไปเมื่อวานนี้ คนที่มีพลังยุทธส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1786

    “เห้ย! ตรงนั้นมีถ้ำ แถมยังมีคนอยู่ตรงนั้นหลายคนด้วย ฮ่าฮ่า… ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้คนพวกนี้จะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำนี่!” ทันใดนั้นเองศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดร่วมโหลก็ได้พบเฟนด์และคนอื่น ๆ พวกเขาบินเข้าหาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าในทันที“จุ๊ จุ๊…ไม่เลวเลยนี่ เราได้พบพวกเขาถึงเจ็ดคน มีสาวสวยอยู่ในหมู่พวกเขาอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปกปิดไว้ แต่ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยแน่!” ศิษย์อีกคนของเผ่ากระหายเลือดพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“ฮ่าฮ่า… ศิษย์น้อง ดูนายสิ! ทุกครั้งที่นายเห็นผู้หญิงสวย นายก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที ถ้ายังไม่เลิกเป็นเช่นนี้ สักวันหนึ่งนายอาจตายด้วยน้ำมือผู้หญิงเอานะ!” ชายชราคนหนึ่งเริ่มหัวเราะเสียงดังเฟนด์มองไปที่คนเหล่านี้ก่อนที่รอยยิ้มอันอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “ผู้ที่มีพลังยุทธสูงสุดนั้นอยู่แค่เพียงขั้นที่สามในระดับเทพสูงสุด ส่วนพวกที่เหลืออีกเกินครึ่งอยู่ในระดับเทพแท้จริงเท่านั้น จุ๊ จุ๊… พวกคุณมีกันน้อยเกินไปเพราะมีคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดเพียงห้าคนเท่านั้น ถ้าคุณมีกันมากกว่านี้ก็คงจะดีกว่า!”มุมปากของชายชรากระตุกไม่หยุดเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1787

    ศิษย์หญิงที่ดูแคลนเฟนด์ตกใจจนอ้าปากค้างหลังจากที่เธอเห็นฉากนี้ เธอไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ"หนีเร็ว! ระดับพลังยุทธของผู้ชายคนนั้นเทียบได้กับนักสู้ขั้นที่ห้าหรือหกของระดับเทพสูงสุดเชียวนะ บ้าไปแล้ว! ทำไมในป่าแห่งนี้ถึงได้มีผู้ที่มีพลังยุทธสูงส่งถึงขนาดนี้ได้ล่ะ!” ชายอีกคนที่อยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดตะโกนด้วยความตกใจในทันทีและหันหลังเตรียมจะหลบหนีถึงอย่างนั้นเฟนด์ก็เคลื่อนเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วดุจเงา เขายังไม่ได้ขยับไปไหนแต่เฟนด์ปรากฏตัวต่อหน้าชายคนนั้นและโจมตีเขาในทันทีวิ้ง วิ้ง วิ้ง!ในเวลาเดียวกัน แนชและคนอื่น ๆ ก็เริ่มพุ่งตัวไปข้างหน้า พวกเขาพุ่งไปข้างหน้ากันทีละคน เหล่าศิษย์ร่วมโหลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาจึงถูกฆ่าตายภายในไม่กี่วินาที“เมื่อคืนเราเดินทางเข้ามาในป่าค่อนข้างลึก ก่อนที่เราจะหลบซ่อนตัวเพื่อฝึกยุทธ ไม่คาดคิดเลยว่าคนพวกนี้จะล่วงล้ำเข้ามาในป่าได้ไกลถึงขนาดนี้”เฟนด์พูดในขณะที่เขากำลังตรวจสอบแหวนยุทธของอีกฝ่ายหลังจากที่เขาฆ่าคนเหล่านั้นลงได้"ใช่ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้อาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในป่านี้แน่ชัดนัก” แนชพยักหน้าหลังจากเก็บของร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1788

    ในปัจจุบันแรนดัลล์ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้ว และเขาก็อยู่ห่างจากขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดเพียงขั้นเดียว เฟนด์จำได้ว่าในตอนที่เขาเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แรนดัลล์อยู่ในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น เขาใช้เวลาไม่นานก็สามารถก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เฟนด์ประหลาดใจที่สุดคือ การที่หัวหน้าตระกูลแลงคาสเตอร์รวมถึงผู้อาวุโสอีกหลายคนยังคงอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริง ยังไม่มีใครทะลวงไปถึงระดับเทพสูงสุดได้แม้แต่คนเดียว โชคดีที่พวกที่ไล่ล่าพวกเขาไม่ได้มีพลังยุทธสูงนัก พวกเขามีจำนวนคนน้อยกว่าและในกลุ่มของพวกเขา ก็มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นนักสู้ในระดับเทพสูงสุด ดังนั้นแรนดัลล์และคนของเขาจึงสามารถต้านทานอยู่ได้ชั่วขณะหนึ่ง “แม่งเอ๊ย! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราต้องเดือดร้อนแน่! เราไม่สามารถเอาชนะนักสู้ในระดับเทพสูงสุดสองคนนั้นได้เลย! อย่างมากที่สุดเราก็สามารถฆ่านักสู้ในระดับเทพแท้จริงและในระดับกึ่งเทพเท่านั้น!” หลังจากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งใช้ทักษะการต่อสู้ เขาก็หันหน้าไปมองเชลบี้ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “นายหญิงแลงคาสเตอร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status