“เห้ย! ตรงนั้นมีถ้ำ แถมยังมีคนอยู่ตรงนั้นหลายคนด้วย ฮ่าฮ่า… ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้คนพวกนี้จะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำนี่!” ทันใดนั้นเองศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดร่วมโหลก็ได้พบเฟนด์และคนอื่น ๆ พวกเขาบินเข้าหาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าในทันที“จุ๊ จุ๊…ไม่เลวเลยนี่ เราได้พบพวกเขาถึงเจ็ดคน มีสาวสวยอยู่ในหมู่พวกเขาอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปกปิดไว้ แต่ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยแน่!” ศิษย์อีกคนของเผ่ากระหายเลือดพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“ฮ่าฮ่า… ศิษย์น้อง ดูนายสิ! ทุกครั้งที่นายเห็นผู้หญิงสวย นายก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที ถ้ายังไม่เลิกเป็นเช่นนี้ สักวันหนึ่งนายอาจตายด้วยน้ำมือผู้หญิงเอานะ!” ชายชราคนหนึ่งเริ่มหัวเราะเสียงดังเฟนด์มองไปที่คนเหล่านี้ก่อนที่รอยยิ้มอันอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “ผู้ที่มีพลังยุทธสูงสุดนั้นอยู่แค่เพียงขั้นที่สามในระดับเทพสูงสุด ส่วนพวกที่เหลืออีกเกินครึ่งอยู่ในระดับเทพแท้จริงเท่านั้น จุ๊ จุ๊… พวกคุณมีกันน้อยเกินไปเพราะมีคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดเพียงห้าคนเท่านั้น ถ้าคุณมีกันมากกว่านี้ก็คงจะดีกว่า!”มุมปากของชายชรากระตุกไม่หยุดเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้
ศิษย์หญิงที่ดูแคลนเฟนด์ตกใจจนอ้าปากค้างหลังจากที่เธอเห็นฉากนี้ เธอไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ"หนีเร็ว! ระดับพลังยุทธของผู้ชายคนนั้นเทียบได้กับนักสู้ขั้นที่ห้าหรือหกของระดับเทพสูงสุดเชียวนะ บ้าไปแล้ว! ทำไมในป่าแห่งนี้ถึงได้มีผู้ที่มีพลังยุทธสูงส่งถึงขนาดนี้ได้ล่ะ!” ชายอีกคนที่อยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดตะโกนด้วยความตกใจในทันทีและหันหลังเตรียมจะหลบหนีถึงอย่างนั้นเฟนด์ก็เคลื่อนเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วดุจเงา เขายังไม่ได้ขยับไปไหนแต่เฟนด์ปรากฏตัวต่อหน้าชายคนนั้นและโจมตีเขาในทันทีวิ้ง วิ้ง วิ้ง!ในเวลาเดียวกัน แนชและคนอื่น ๆ ก็เริ่มพุ่งตัวไปข้างหน้า พวกเขาพุ่งไปข้างหน้ากันทีละคน เหล่าศิษย์ร่วมโหลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาจึงถูกฆ่าตายภายในไม่กี่วินาที“เมื่อคืนเราเดินทางเข้ามาในป่าค่อนข้างลึก ก่อนที่เราจะหลบซ่อนตัวเพื่อฝึกยุทธ ไม่คาดคิดเลยว่าคนพวกนี้จะล่วงล้ำเข้ามาในป่าได้ไกลถึงขนาดนี้”เฟนด์พูดในขณะที่เขากำลังตรวจสอบแหวนยุทธของอีกฝ่ายหลังจากที่เขาฆ่าคนเหล่านั้นลงได้"ใช่ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้อาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในป่านี้แน่ชัดนัก” แนชพยักหน้าหลังจากเก็บของร
ในปัจจุบันแรนดัลล์ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้ว และเขาก็อยู่ห่างจากขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดเพียงขั้นเดียว เฟนด์จำได้ว่าในตอนที่เขาเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ แรนดัลล์อยู่ในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น เขาใช้เวลาไม่นานก็สามารถก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เฟนด์ประหลาดใจที่สุดคือ การที่หัวหน้าตระกูลแลงคาสเตอร์รวมถึงผู้อาวุโสอีกหลายคนยังคงอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริง ยังไม่มีใครทะลวงไปถึงระดับเทพสูงสุดได้แม้แต่คนเดียว โชคดีที่พวกที่ไล่ล่าพวกเขาไม่ได้มีพลังยุทธสูงนัก พวกเขามีจำนวนคนน้อยกว่าและในกลุ่มของพวกเขา ก็มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นนักสู้ในระดับเทพสูงสุด ดังนั้นแรนดัลล์และคนของเขาจึงสามารถต้านทานอยู่ได้ชั่วขณะหนึ่ง “แม่งเอ๊ย! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราต้องเดือดร้อนแน่! เราไม่สามารถเอาชนะนักสู้ในระดับเทพสูงสุดสองคนนั้นได้เลย! อย่างมากที่สุดเราก็สามารถฆ่านักสู้ในระดับเทพแท้จริงและในระดับกึ่งเทพเท่านั้น!” หลังจากผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งใช้ทักษะการต่อสู้ เขาก็หันหน้าไปมองเชลบี้ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “นายหญิงแลงคาสเตอร
“ฮ่าฮ่า! รอดูเลยแล้วกัน!" เพราะว่าแนชดูสบายใจมาก เขาดูไม่กังวลเลยสักนิด เขายังหัวเราะและชี้ไปที่สนามรบและพูดอย่างสบาย ๆ เชลบี้หันตามไปมองในทันที สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้เธอตกใจ เช่นเดียวกับสมาชิกตระกูลแลงคาสเตอร์คนอื่น ๆ นักสู้ระดับเทพสูงสุดสองคนนั้นถูกเคนเนธและเวสตันฆ่าลงภายในไม่กี่นาที พวกเขาไม่อาจป้องกันตัวเองจากเคนเนธและเวสตันได้ด้วยซ้ำ “คุณพระคุณเจ้า! ตอนนี้พวกเขาอยู่ในระดับไหนกัน? ไม่ใช่แค่ขั้นหนึ่งหรอกใช่ไหม? พลังฉีของพวกเขาเป็นสีทอง! และหนาแน่นกว่าพลังฉีของอีกฝ่ายด้วย!” เชลบี้อ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น เธอมองไปที่เฟนด์ด้วยสายตาคาดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น ไททัส อเล็กซานเดอร์ และคนอื่น ๆ ต่างก็แข็งแกร่งและทรงพลังอย่างเหลือล้นเช่นกัน! เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นนักสู้ในระดับเทพสูงสุด! จากนั้นเฟนด์ก็ยิ้มอย่างอบอุ่นและตอบว่า “พวกเขาล้วนอยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุด เมโลดี้อยู่ในขั้นที่สอง ส่วนผมเป็นขั้นที่สี่ของระดับเทพสูงสุด” "อะไรนะ? คุณอยู่ในขั้นที่สี่ในระดับเทพสูงสุดแล้วหรือ?” เสียงแหลมสูงของเชลบี้ดังขึ้นในทันที ด้วยความตกใจและตื่นเต้นในตัวเธอถาโถมราวกับกระแสน้ำ พวกเขาม
“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอบคุณ นายน้อยเฟนด์!”เชลบี้พยักหน้า เธอรู้ดีถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ช่องว่างระหว่างขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดกับขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงนั้นกว้างเกินไปไม่ใช่แค่ระดับการบ่มเพาะทั้งสองระดับจะต่างกันเท่านั้น แต่มีช่องว่างในแง่ของพลังยุทธมากเกินไปอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นพลังฉีของคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดนั้นต่างออกไป เพราะมันบริสุทธิ์อย่างยิ่งและมีสีทองอร่าม การระเบิดพลังของพลังฉีที่ขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงไม่อาจเทียบได้ “ที่นี่มีคนไม่น้อยเลย! พระเจ้า การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่นึกเลยว่าคนของเราจะตายมากมายแบบนี้!”ในขณะนั้นเองกลุ่มศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดก็เข้ามาเพิ่มอีกสี่หรือห้าร้อยคน และมีคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดถึงสิบคน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ขั้นที่สองหรือสาม แถมตัวผู้นำยังอยู่ในขั้นที่ห้าของระดับเทพสูงสุดอีกด้วยเคนเนธและคนอื่น ๆ ที่รวบรวมสิ่งของที่ริบมาจากสงครามเสร็จแล้ว ก็มาหาเฟนด์และคนอื่น ๆ ทันที ทุกคนมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง“พวกเขามีกันไม่น้อยเลย ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดอยู่หลายคน ไม่อย่างนั้น ศิษย์ในร
“พวกเขาเจ็ดคนคิดจะหยุดเรางั้นเหรอ? ไม่ไร้เดียงสาเกินไปหน่อยเหรอ?”หญิงวัยกลางคนที่อยู่ในขั้นที่ห้าระดับเทพสูงสุดยิ้มอย่างเย็นชา เมื่อเธอเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเหลือกันเพียงเจ็ดคนเท่านั้น ในพริบตาเดียวเธอรุดไปหาเฟนด์ “ดูเหมือนว่าระดับพลังยุทธ์ของนายจะค่อนข้างสูงนะ ไอ้เด็กเหลือขอ วันนี้ขอฉันทดสอบนายสักหน่อยแล้วกัน!”"บุก!"เฟนด์กวักมือและพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่เกรงกลัวหญิงวัยกลางคนแม้แต่น้อย“นายกล้าที่จะพุ่งเข้ามาหาฉันเองเลยงั้นเหรอ?”ดวงตาของหญิงวัยกลางคนประเมินฝ่ายตรงข้ามเมื่อเธอเห็นว่าเฟนด์มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ดี จากมุมมองของเธออย่างมากเฟนด์ก็อยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุด และเขาไม่ได้ทำให้เธอกังวลเลย"ไม่ เดี๋ยวก่อน ความเร็วของเขา มันเร็วมาก!”ในวินาทีต่อมาเฟนด์ก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ความเร็วของเขาทำให้ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนใบหน้าของเธอมืดมนลงทันทีเมื่อเธอเห็นว่าหมัดของเฟนด์เคลือบด้วยพลังฉีสีทองหนา หญิงวัยกลางคนก็ผงะไปเล็กน้อย “นายอยู่ในขั้นที่สี่ของระดับเทพสูงสุดจริงหรือ? เป็นไปได้ยังไง? หรือว่านายเป็นคนจากกองทัพทั้งเก้า?”หญิงวัยกลางคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่เธอมองเห
"หึ ไว้ชีวิตคุณ? คุณฆ่าคนของเราไปมากมาย ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องบอกให้ตัวเองไว้ชีวิตคุณ! ถ้าตอนนี้เราเอาชนะคุณไม่ได้ ผมก็ไม่คิดว่าคุณจะไว้ชีวิตพวกเราหรอก!”เฟนด์ยิ้มเย็นราวกับว่าเขากำลังฟังเรื่องตลก เขาพลิกฝ่ามือก่อนที่ดาบสีดำจะปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาขว้างดาบออกไปฆ่าผู้หญิงคนนั้นทันที“จากนี้ไป ในตอนที่เรารวบรวมของที่ริบมาจากสงคราม เราต้องหาแหวนยุทธของผู้ที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดเท่านั้น ถ้าไม่ได้มีของที่เราต้องการก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมา ปกติแล้ว แหวนยุทธของคนในระดับเทพสูงสุดจะมีของมากกว่าอยู่แล้ว เราต้องใช้เวลาให้น้อยลงเพื่อจะได้ช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น!”หลังจากที่เฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกทุกคนว่า “นอกจากนี้ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เผ่ากระหายเลือด ได้ส่งศิษย์เข้ามาในป่าแห่งนี้มากขึ้น หากเรามัวชักช้า อีกไม่นานจะมีศิษย์จากเผ่ากระหายเลือดมาหาเรามากขึ้นกว่านี้!”เคนเนธพูดด้วยรอยยิ้ม “เราต้องกลัวอะไรล่ะ? ถ้าพวกเขากล้ามาเราก็จะฆ่าพวกเขาซะ ฮิฮิ!"“แค่นั้นไม่พอหรอก เราจะประมาทไม่ได้ ถ้านักสู้ของเขาเจอพวกเราเข้าเราจะลำบาก” อเล็กซานเดอร์ กล่าว “แล้วถึงแม้ว่าเฟนด์จะมีพลังยุทธที่ยอดเยี่
อเล็กซานเดอร์รู้สึกยินดีเมื่อได้ยินสิ่งนี้"ใช่ และมีอีกหลายคนที่มาจากตระกูลเฮมเพอร์ลี ดาร์ซี เฮมเพอร์ลี, พอล เฮมเพอร์ลีและคนอื่น ๆ อยู่ในนั้นทั้งหมด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่!”เฟนด์รีบพาทุกคนออกไปเมื่อเห็นสิ่งนี้แม้ว่าตระกูลเฮมเพอร์ลีจะเป็นเพียงตระกูลลึกลับชั้นสอง แต่ดาร์ซี พอลและคนอื่น ๆ ก็เป็นคนดีพอสมควร แต่ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาไม่สูงมากนัก เฟนด์ไม่ได้เจอพวกเขามาหลายวัน และหลังจากได้พบเห็นศพของสมาชิกตระกูลเฮมเพอร์ลีตามทางมาเป็นจำนวนมาก เขาก็คิดว่าดาร์ซีและคนอื่น ๆ น่าจะตายไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าดาร์ซีและพอลจะยังมีชีวิตอยู่“พ่อ เราเป็นลูกไก่ในกำมือของพวกเขา เรามีผู้คนมากมาย แต่ศัตรูของเราแข็งแกร่งเกินไป!”ขณะที่พอลหลบหนี เขาพูดกับผู้เป็นพ่อ"ใช่ แม้ว่าในที่สุดเราจะเข้าสู่ขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงได้ และแม้กระทั่งมีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะยุทธก็ตามที แต่น่าเสียดายที่เรากำลังจะต้องมาตายก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุด โธ่เอ๊ย! พ่อได้แต่รู้สึกเสียใจเพราะเรื่องนี้!”ดาร์ซีถอนหายใจ หัวใจของเขาไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา“นายท่าน นายท่าน นั่นนายน้อยเฟนด์!