Share

บทที่ 1692

Author: โมเนโต้
เฟนรู้สึกงุนงง เขาคิดว่าหญิงสาวต้องติดตามเขาและทุกคนมา และค้นพบทักษะยุทธบางอย่างได้เพราะโชคช่วยเท่านั้น บางทีเธออาจได้รับของล้ำค่าบางอย่างในการทะลวงเข้าสู่ในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุด แถมเขายังคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นผู้อาวุโสจากตำหนักเทพยดา

เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องงุนงงหลังจากได้เห็นเธอชัด ๆ นี่เป็นเพราะหญิงสาวตรงหน้าเขาอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีเท่านั้น นักฝึกยุทธรุ่นเยาว์คนนี้ไม่ได้ติดตามทุกคนเข้ามา

“คุณหนู โชคดีที่เธอรอดเพราะลูกชายของฉันกระโดดลงมาได้ทันเวลาพอดี เธอคงจะไม่ตำหนิที่เขาเอาหญ้าวิญญาณของเธอไปหรอกใช่ไหม?”

ในตอนนั้นเอง แนชและคนอื่น ๆ ก็บินตามมาเช่นกัน และเขายังพูดด้วยรอยยิ้มที่เจืออยู่บนใบหน้าของเขา

ทว่าเมื่อเขาพิจารณาใบหน้าของหญิงสาว รอยยิ้มของเขาก็แข็งทื่อขึ้น

นี่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าหญิงสาวดูเด็กเกินไปเช่นกัน นอกจากนี้ เขาจำเธอไม่ได้เลยสักนิด

หญิงสาวสังเกตผู้คนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง และพูดออกมาด้วยความประหลาดใจในตอนท้าย “นั่นสิ พวกคุณมีกันตั้งหลายคน คุณมาจากที่ไหน? คุณมาจากกองทัพใดในกองทัพทั้งเก้างั้นเหรอ?”

"ไม่นะ นายท่าน ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นชนพื้นเม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1693

    "จริงเหรอ? คุณจะไม่กลับคำใช่ไหม?” เด็กสาวมองไปที่เฟนด์และถามด้วยความสงสัยบนใบหน้าของเธอ "ไม่ต้องกังวล เชื่อในคำพูดของผมได้เลย!” เฟนส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธอ จากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือและหยิบยารักษาออกมาโยนให้เด็กสาว “คุณได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นกินยารักษานี้สิ ผมบ่มเพาะมันเอง” “ฮึ่ม ถ้าคุณโกหกฉันและนี่คือยาพิษล่ะ?” หญิงสาวตะคอกอย่างเย็นชา และดวงตาของเธอก็แสดงนัยของการระแวดระวัง “ฮึ? ตอนนี้คุณบาดเจ็บสาหัส ถ้าผมอยากฆ่าคุณ ผมก็ลงมือได้เดี๋ยวนี้เลย ทำไมผมถึงต้องเสียสิ่งที่เรียกว่ายาพิษไปด้วย? นั่นจำเป็นด้วยเหรอ?” เฟนด์หัวเราะเบา ๆ เขาไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะกับความคิดของหญิงสาวดี เด็กสาวขมวดคิ้ว จากนั้นก็กลืนยาลงคอไปอย่างไม่เต็มใจนัก “ฉันจะบอกคุณให้ว่าฉันเป็นคนจากหนึ่งในกองทัพทั้งเก้า นอกป่านี้ไปมีป้อมปราการเก้าแห่งอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งเป็นกองทัพทั้งเก้า ผู้ฝึกยุทธแห่งกองทัพทั้งเก้าจะมาที่ป่าแห่งนี้เพื่อค้นหาหญ้าวิญญาณและทรัพยากรยุทธและทรัพยากรสำหรับการบ่มเพาะเมื่อพวกเขาว่าง! ตอนแรกฉันคิดว่าคุณเป็นคนจากหนึ่งในกองทัพทั้งเก้านี้ แต่เห็นได้ชัดว่าฉันคิดผิด!” เด็กสาวมองไปที่เฟนด์และเริ่มอธิ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1694

    "อืม ดูเหมือนว่าเหล่านักสู้ผู้ยิ่งใหญ่เมื่อหลายร้อยปีก่อนตั้งใจจะละทิ้งเราจริง ๆ!” แนชฝืนยิ้มอย่างขมขื่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก หากไม่ใช่เพราะตำนานของระดับเทพสูงสุดนั้นถูกเล่าขานสืบต่อกันมา บวกกับความจริงที่ว่าทุกคนต่างพากันมองหาหนทางที่จะบุกทะลวงระดับเทพสูงสุด แนชก็กลัวว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะไม่เหลือตำนานเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดอีกต่อไป และจะไม่มีใครที่จะสามารถเข้ามาที่นี่และบุกเข้ามาในระดับเทพสูงสุดได้อีกต่อไป “เฮ้อ! จู่ ๆ พวกคุณทั้งหลายก็เข้ามาที่นี่ หากคนของกองกำลังภาคีรู้เรื่องนี้เข้า มันคงเป็นปัญหาแน่! พวกคุณเข้ามาที่นี่กันมากเกินไป!” เมื่อมองไปที่คนหลายร้อยที่อยู่ข้างหน้าเธอ ระหว่างคิ้วของเด็กสาวก็ยับย่น ใบหน้าของเธอดูไม่ดีนัก ทว่าหลังจากที่เธอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็หันไปหาเฟนด์และพูดว่า "ไม่ ช่างมันเถอะ อย่างไรเสียพวกคุณก็มาช่วยชีวิตฉันได้ทันเวลา ฉันจะเป็นธุระช่วยพวกคุณเอง!” “คุณหนู หมายความว่า... คุณตัดสินใจที่จะช่วยเราหรือ?” ดวงตาของเคนเน็ธเป็นประกายทันทีที่ได้ยินคำพูดของเด็กสาว และแม้แต่ท่าทางของเขาก็สุภาพและอ่อนโยน “พวกคุณหลายร้อยคน… ก็ได้! ฉันจะช่วยคุณหาทา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1695

    "ที่คุณพูดมาก็ถูก มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร! พวกคุณโชคดีมาก! ไม่มีใครสามารถค้นพบสถานที่นี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครเคยเข้ามาที่นี่! เมื่อก่อนเคยมีผู้คนจำนวนมากคอยปกป้องสถานที่แห่งนี้ไว้ แต่ต่อมาก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ เคยมีนักสู้ที่แข็งแกร่งของระดับทะลวงวิญญาณเฝ้าทางเข้าอยู่ด้วย!” เด็กสาวหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดต่อ “แต่พอผ่านไปหลายปี หลังจากที่ตระหนักว่าไม่มีใครสามารถหาทางเข้ามาที่นี่ได้ ก็ไม่มีใครสนใจที่จะปกป้องมันอีกต่อไป! ดังนั้น ผู้ที่ถูกส่งไปเฝ้าทางเข้ามักจะเป็นผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำ คุณโชคดีในแง่นี้ ไม่เช่นนั้น คุณคงตายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่นี่! อีกอย่างเป็นเพราะไม่มีใครคอยดูแล ทางเข้าก็ไม่ได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นเมื่อคุณเข้ามา คุณจึงไม่ได้เข้ามาจากทางด้านบนสุดของเนินเขา แต่กลับมาเข้าจากทางด้านล่างแทน ตำแหน่งของทางเข้าเปลี่ยนไปแล้ว!” "เห็นด้วย อืม วันนั้นเราโชคดีจริง ๆ! หากเป็นในอดีต ผู้พิทักษ์ทางเข้าเป็นผู้ที่อยู่ในระดับทะลวงวิญญาณ พวกเราจะตายทันทีที่ไปปรากฏตัวอยู่บนยอดเขา!” ฝูงชนอ้าปากค้างกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับการแบ่งปันโดยหญิงสาว หัวใจของพวกเขาเต้นแรงและสั่นสะท้านอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1696

    "ใช่ ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะเป็นเช่นไร เฮ้อ! ถ้าพวกเขาเจอคนของกองกำลังภาคีพวกเขาจะต้องเดือดร้อนแน่!” แนชขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด หัวใจของเขาหนักอึ้ง ทั้งยูลและลิซซี่ ลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคนที่สองของเขาก็ติดตามเขามาที่นี่ด้วย หากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา เขาจะต้องเจ็บปวดอย่างมากแน่นอน “หึหึ อย่าเพิ่งกังวลเรื่องนี้ไป ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังปลอดภัยอยู่ เพราะคนของกองกำลังภาคีก็ไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่เพื่อหาของล้ำค่า นี่เป็นเพราะพื้นที่นี้เป็นของกองทัพทั้งเก้า!” หญิงสาวผู้สวมชุดสีม่วงยิ้มและแนะนำ “และกองทัพทั้งเก้ากำลังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คติพจน์ 'กองกำลังปฏิภาคี' คุณน่าจะรู้นะว่ามันหมายถึงอะไร?” “กองกำลังปฏิภาคี?” แนชและคนอื่น ๆ ผงะกับคำพูดของเธอ จากนั้นจิตใจของพวกเขาก็เบิกบานอีกครั้ง เฟนด์รู้สึกยินดีกับสถานการณ์นี้เช่นกัน “งั้นก็หมายความว่ายังมีคนบางส่วนที่ไม่เกลียดคนนอกอย่างเราอยู่งั้นเหรอ?” เขาถามอย่างระมัดระวัง หญิงสาวผงกหัวและเสริมว่า “แน่นอน! ผู้ที่นับถือแนวคิดกองกำลังปฏิภาคีมักชอบในความธรรมดาของโลก นั่นหมายความว่าหากมีคนพบสถานที่นี้และเ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1697

    “อืม…ถ้าอย่างนั้น…” ระหว่างคิ้วของเอลล่าขมวดเข้าหากัน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าวันนี้ไม่ได้พบกับพวกคุณเลย กองทัพทั้งเก้าจะประกอบด้วยป้อมปราการเก้าแห่ง และมีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับเรา แม้ว่าเราจะเป็นสมาชิกของกองกำลังปฏิภาคีแต่ความจริงแล้วเราไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ป้อมปราการทั้งหมดมีเส้นทางและความต้องการของตนเอง ดังนั้นฉันขอแนะนำว่าหากไม่จวนตัวจริง ๆ ก็อย่าเข้าไปในป้อมปราการใด ๆ” เอลล่าจ้องมองไปที่เฟนด์และสัญลักษณ์ที่เอวของพวกเขา “ความจริงแล้ว มันง่ายมากที่จะแยกแยะได้ว่าคุณมาจากโลกภายนอกหรือเปล่า เช่นแผ่นป้ายที่ห้อยเอวพวกนี้ ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นกองทัพทั้งเก้าหรือกองกำลังภาคีเราทุกคนต่างมีสัญลักษณ์ประจำเผ่าอยู่ที่เข็มขัดคาดเอว ด้วยสัญลักษณ์เหล่านี้ เราจะสามารถระบุได้ทันทีว่าใครมาจากไหน!” มุมปากของฝูงชนกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดของเอลล่า หากสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง มันคงเป็นเรื่องลำบากสำหรับเฟนด์และพรรคพวก มันจะเสี่ยงและอันตรายในการเดินทางไปไหนมาไหน! "อ้อจริงสิ คุณเอลล่า ในที่ดินผืนนี้ เหล่าผู้ที่แข็งแกร่งจากเผ่ากระหายเลือดและคนของก

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1698

    เมื่อมองไปที่ร่างของเอลล่าขณะที่เธอบินจากไปอเล็กซานเดอร์ขมวดคิ้ว และอารมณ์นับร้อยท่วมท้นหัวใจของเขา ในเวลานี้ชายชราจากตระกูลคาเบลโลก้าวไปข้างหน้าและกระซิบกับเฟนด์ว่า “นายน้อยเฟนด์ คุณจะปล่อยเธอไปจริง ๆ เหรอ? แค่นี้เลยเหรอ? ถ้าเธอกลับไปยังชนเผ่าของเธอแล้วบอกคนอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่จะทำอย่างไร? เพื่อความปลอดภัยของเรา ฉันขอแนะนำให้ฆ่าเธอเสียเดี๋ยวนี้! เธอบาดเจ็บและสู้กับคุณไม่ไหวหรอก!” อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราเสนอความคิด เขาก็ต้องพบกับสายตาที่เย็นชาและดุร้ายจากเฟนด์ “เราเป็นพวกสับปลับตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เราสัญญากับเธอแล้วนี่ว่าจะไว้ชีวิตเธอ!” เฟนด์หยุดพูดและรอยยิ้มแกน ๆ ก็คืบคลานเข้ามาบนใบหน้าของเขา “อีกอย่าง เธอยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายแก่เรา! มันเป็นข้อมูลที่สามารถช่วยชีวิตเราได้ ถ้าเธอไม่บอกเราจนหมดเปลือกอย่างนี้ เราคงท่องไปโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวและเข้าสู่พื้นที่ของพวกกองกำลังภาคีและเมื่อเราเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา คุณคิดว่าเราจะมีโอกาสรอดชีวิตหรือไง?” “เฟนด์พูดถูก เอลล่าบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายแก่เรา!” อเล็กซานเดอร์ผงกศีรษะอย่างเห็นด้วย “นอกจากนี้ ถ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1699

    หลังจากที่เฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกทุกคนว่า “ท้ายที่สุด ถ้าพวกเราทุกคนทะลวงเข้าสู่ในขั้นที่สามของระดับเทพขั้นสูงสุด ความสามารถของเราในการป้องกันตัวเองในป่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป!”อเล็กซานเดอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลวู๊ดเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าสู่ดินแดนนี้ได้อย่างง่ายดายและทะลวงเข้าสู่ในระดับเทพสูงสุดในเร็ว ๆ นี้ได้อย่างไร!หัวใจของแลนสล็อตเต็มไปด้วยความชื่นชม ในครั้งก่อน เขาล้มเหลวในการก้าวไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด เขาอาจต้องรออีกสองสามวันก่อนที่จะได้ลองพยายามทะลวงไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด มันดูราวกับว่าห่างกันเพียงก้าวเดียว แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ แค่ก้าวเดียวก็รู้สึกเหมือนเดินข้ามช่องเขา พลังยุทธของขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดและขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงนั้นเป็นสองระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนค้นหาหญ้าวิญญาณอย่างมีความสุขทว่าพวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าระหว่างทา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1700

    “ฮ่าฮ่า ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนคันไม้คันมือ ถ้าคุณต้องการก็ออกไปสู้ได้เลย ผมจะคอยดู!”เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและตอบกลับพวกเขา"บุก!"เคนเนธ ไททัส และคนอื่น ๆ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะแสดงทักษะของพวกเขา หลังจากได้ยินเฟนด์พูดแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็กระจายออกไปฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าแน่นอนว่าเวสตัน อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ก็ตื่นตัวเช่นกัน พวกเขาบินออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าพวกเขาจะช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย"ไม่มีทาง ระดับเทพสูงสุด?”"พระเจ้า พวกเขามีกันมากมายเหลือเกิน!”ผู้คนจากตำหนักนภามืดแปดทางเมื่อเห็นสิ่งนี้"พระเจ้า พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป!”“ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน กลับมีคนที่ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดแล้วได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”สมาชิกของตำหนักอินทรีทะยานรู้สึกประหลาดใจ แสงสีทองจาง ๆ ของพลังฉีทำให้พวกเขาแปลกใจปัง ปัง ปัง!เสียงการต่อสู้ดังขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกของตำหนักนภาก็กลายเป็นศพที่กระจายอยู่บนพื้น“ทำไมพวกคุณถึงรีบร้อนกันนัก? เราเพิ่งอุ่นเครื่องและทุกคนก็ตายหมดแล้วงั้นเหรอ?”เคนเนธมองไปที่เวสตัน และคนอื่น ๆ เอ่ยปากด้ว

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status