แชร์

บทที่ 1695

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
"ที่คุณพูดมาก็ถูก มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร! พวกคุณโชคดีมาก! ไม่มีใครสามารถค้นพบสถานที่นี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครเคยเข้ามาที่นี่! เมื่อก่อนเคยมีผู้คนจำนวนมากคอยปกป้องสถานที่แห่งนี้ไว้ แต่ต่อมาก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ เคยมีนักสู้ที่แข็งแกร่งของระดับทะลวงวิญญาณเฝ้าทางเข้าอยู่ด้วย!”

เด็กสาวหัวเราะคิกคักก่อนจะพูดต่อ “แต่พอผ่านไปหลายปี หลังจากที่ตระหนักว่าไม่มีใครสามารถหาทางเข้ามาที่นี่ได้ ก็ไม่มีใครสนใจที่จะปกป้องมันอีกต่อไป! ดังนั้น ผู้ที่ถูกส่งไปเฝ้าทางเข้ามักจะเป็นผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่ต่ำ คุณโชคดีในแง่นี้ ไม่เช่นนั้น คุณคงตายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่นี่! อีกอย่างเป็นเพราะไม่มีใครคอยดูแล ทางเข้าก็ไม่ได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นเมื่อคุณเข้ามา คุณจึงไม่ได้เข้ามาจากทางด้านบนสุดของเนินเขา แต่กลับมาเข้าจากทางด้านล่างแทน ตำแหน่งของทางเข้าเปลี่ยนไปแล้ว!”

"เห็นด้วย อืม วันนั้นเราโชคดีจริง ๆ! หากเป็นในอดีต ผู้พิทักษ์ทางเข้าเป็นผู้ที่อยู่ในระดับทะลวงวิญญาณ พวกเราจะตายทันทีที่ไปปรากฏตัวอยู่บนยอดเขา!”

ฝูงชนอ้าปากค้างกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับการแบ่งปันโดยหญิงสาว หัวใจของพวกเขาเต้นแรงและสั่นสะท้านอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1696

    "ใช่ ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะเป็นเช่นไร เฮ้อ! ถ้าพวกเขาเจอคนของกองกำลังภาคีพวกเขาจะต้องเดือดร้อนแน่!” แนชขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด หัวใจของเขาหนักอึ้ง ทั้งยูลและลิซซี่ ลูกสาวสุดที่รักและภรรยาคนที่สองของเขาก็ติดตามเขามาที่นี่ด้วย หากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา เขาจะต้องเจ็บปวดอย่างมากแน่นอน “หึหึ อย่าเพิ่งกังวลเรื่องนี้ไป ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังปลอดภัยอยู่ เพราะคนของกองกำลังภาคีก็ไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาที่นี่เพื่อหาของล้ำค่า นี่เป็นเพราะพื้นที่นี้เป็นของกองทัพทั้งเก้า!” หญิงสาวผู้สวมชุดสีม่วงยิ้มและแนะนำ “และกองทัพทั้งเก้ากำลังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คติพจน์ 'กองกำลังปฏิภาคี' คุณน่าจะรู้นะว่ามันหมายถึงอะไร?” “กองกำลังปฏิภาคี?” แนชและคนอื่น ๆ ผงะกับคำพูดของเธอ จากนั้นจิตใจของพวกเขาก็เบิกบานอีกครั้ง เฟนด์รู้สึกยินดีกับสถานการณ์นี้เช่นกัน “งั้นก็หมายความว่ายังมีคนบางส่วนที่ไม่เกลียดคนนอกอย่างเราอยู่งั้นเหรอ?” เขาถามอย่างระมัดระวัง หญิงสาวผงกหัวและเสริมว่า “แน่นอน! ผู้ที่นับถือแนวคิดกองกำลังปฏิภาคีมักชอบในความธรรมดาของโลก นั่นหมายความว่าหากมีคนพบสถานที่นี้และเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1697

    “อืม…ถ้าอย่างนั้น…” ระหว่างคิ้วของเอลล่าขมวดเข้าหากัน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าวันนี้ไม่ได้พบกับพวกคุณเลย กองทัพทั้งเก้าจะประกอบด้วยป้อมปราการเก้าแห่ง และมีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับเรา แม้ว่าเราจะเป็นสมาชิกของกองกำลังปฏิภาคีแต่ความจริงแล้วเราไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ป้อมปราการทั้งหมดมีเส้นทางและความต้องการของตนเอง ดังนั้นฉันขอแนะนำว่าหากไม่จวนตัวจริง ๆ ก็อย่าเข้าไปในป้อมปราการใด ๆ” เอลล่าจ้องมองไปที่เฟนด์และสัญลักษณ์ที่เอวของพวกเขา “ความจริงแล้ว มันง่ายมากที่จะแยกแยะได้ว่าคุณมาจากโลกภายนอกหรือเปล่า เช่นแผ่นป้ายที่ห้อยเอวพวกนี้ ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นกองทัพทั้งเก้าหรือกองกำลังภาคีเราทุกคนต่างมีสัญลักษณ์ประจำเผ่าอยู่ที่เข็มขัดคาดเอว ด้วยสัญลักษณ์เหล่านี้ เราจะสามารถระบุได้ทันทีว่าใครมาจากไหน!” มุมปากของฝูงชนกระตุกเมื่อได้ยินคำพูดของเอลล่า หากสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง มันคงเป็นเรื่องลำบากสำหรับเฟนด์และพรรคพวก มันจะเสี่ยงและอันตรายในการเดินทางไปไหนมาไหน! "อ้อจริงสิ คุณเอลล่า ในที่ดินผืนนี้ เหล่าผู้ที่แข็งแกร่งจากเผ่ากระหายเลือดและคนของก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1698

    เมื่อมองไปที่ร่างของเอลล่าขณะที่เธอบินจากไปอเล็กซานเดอร์ขมวดคิ้ว และอารมณ์นับร้อยท่วมท้นหัวใจของเขา ในเวลานี้ชายชราจากตระกูลคาเบลโลก้าวไปข้างหน้าและกระซิบกับเฟนด์ว่า “นายน้อยเฟนด์ คุณจะปล่อยเธอไปจริง ๆ เหรอ? แค่นี้เลยเหรอ? ถ้าเธอกลับไปยังชนเผ่าของเธอแล้วบอกคนอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่จะทำอย่างไร? เพื่อความปลอดภัยของเรา ฉันขอแนะนำให้ฆ่าเธอเสียเดี๋ยวนี้! เธอบาดเจ็บและสู้กับคุณไม่ไหวหรอก!” อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราเสนอความคิด เขาก็ต้องพบกับสายตาที่เย็นชาและดุร้ายจากเฟนด์ “เราเป็นพวกสับปลับตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เราสัญญากับเธอแล้วนี่ว่าจะไว้ชีวิตเธอ!” เฟนด์หยุดพูดและรอยยิ้มแกน ๆ ก็คืบคลานเข้ามาบนใบหน้าของเขา “อีกอย่าง เธอยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายแก่เรา! มันเป็นข้อมูลที่สามารถช่วยชีวิตเราได้ ถ้าเธอไม่บอกเราจนหมดเปลือกอย่างนี้ เราคงท่องไปโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวและเข้าสู่พื้นที่ของพวกกองกำลังภาคีและเมื่อเราเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา คุณคิดว่าเราจะมีโอกาสรอดชีวิตหรือไง?” “เฟนด์พูดถูก เอลล่าบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายแก่เรา!” อเล็กซานเดอร์ผงกศีรษะอย่างเห็นด้วย “นอกจากนี้ ถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1699

    หลังจากที่เฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกทุกคนว่า “ท้ายที่สุด ถ้าพวกเราทุกคนทะลวงเข้าสู่ในขั้นที่สามของระดับเทพขั้นสูงสุด ความสามารถของเราในการป้องกันตัวเองในป่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป!”อเล็กซานเดอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลวู๊ดเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าสู่ดินแดนนี้ได้อย่างง่ายดายและทะลวงเข้าสู่ในระดับเทพสูงสุดในเร็ว ๆ นี้ได้อย่างไร!หัวใจของแลนสล็อตเต็มไปด้วยความชื่นชม ในครั้งก่อน เขาล้มเหลวในการก้าวไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด เขาอาจต้องรออีกสองสามวันก่อนที่จะได้ลองพยายามทะลวงไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด มันดูราวกับว่าห่างกันเพียงก้าวเดียว แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ แค่ก้าวเดียวก็รู้สึกเหมือนเดินข้ามช่องเขา พลังยุทธของขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดและขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงนั้นเป็นสองระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนค้นหาหญ้าวิญญาณอย่างมีความสุขทว่าพวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าระหว่างทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1700

    “ฮ่าฮ่า ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนคันไม้คันมือ ถ้าคุณต้องการก็ออกไปสู้ได้เลย ผมจะคอยดู!”เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและตอบกลับพวกเขา"บุก!"เคนเนธ ไททัส และคนอื่น ๆ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะแสดงทักษะของพวกเขา หลังจากได้ยินเฟนด์พูดแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็กระจายออกไปฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าแน่นอนว่าเวสตัน อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ก็ตื่นตัวเช่นกัน พวกเขาบินออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าพวกเขาจะช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย"ไม่มีทาง ระดับเทพสูงสุด?”"พระเจ้า พวกเขามีกันมากมายเหลือเกิน!”ผู้คนจากตำหนักนภามืดแปดทางเมื่อเห็นสิ่งนี้"พระเจ้า พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป!”“ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน กลับมีคนที่ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดแล้วได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”สมาชิกของตำหนักอินทรีทะยานรู้สึกประหลาดใจ แสงสีทองจาง ๆ ของพลังฉีทำให้พวกเขาแปลกใจปัง ปัง ปัง!เสียงการต่อสู้ดังขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกของตำหนักนภาก็กลายเป็นศพที่กระจายอยู่บนพื้น“ทำไมพวกคุณถึงรีบร้อนกันนัก? เราเพิ่งอุ่นเครื่องและทุกคนก็ตายหมดแล้วงั้นเหรอ?”เคนเนธมองไปที่เวสตัน และคนอื่น ๆ เอ่ยปากด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1701

    ณ จุดนี้เฟนด์คือความหวังของทุกคน พวกเขาทำได้เพียงรีบเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง เพื่อให้สามารถป้องกันตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อรองรับการเผชิญหน้าที่จะเกิดขึ้นกับพวกกองกำลังภาคี“ฮ่า ๆ ๆ ผมจะเลือกล่ะนะ!”เฟนด์เริ่มเลือกหลังจากหัวเราะอย่างเต็มที่ในตอนบ่ายพวกเขายังคงค้นหาหญ้าวิญญาณกันต่อไป บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาฝึกทักษะยุทธกันอยู่ เฟนด์และคนอื่น ๆ จึงเดินทางล่าช้ากว่ากลุ่มอื่น ๆ อยู่สองสามวัน พวกเขาจึงแทบไม่ได้เจอกับคนอื่นเลยระหว่างทางนั่นทำให้เฟนรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขากังวลว่าอาจมีคนจำนวนมากถูกสังหารโดยกองกำลังภาคีหลังจากพ้นเขตป่านี้ไปแน่นอน เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับผู้ที่มาจากตำหนักนภาหรือวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพวกเขาเป็นศัตรูของฝ่ายเฟนด์ ถ้าเขาพบพวกนั้น เขาคงจะฆ่าพวกนั้นเหมือนกันในตอนกลางคืน เฟนด์และคนอื่น ๆ ก็พบถ้ำที่ค่อนข้างเงียบสงบ พวกเขาจัดการให้บางคนลาดตระเวนอยู่รอบ ๆ คอยคุ้มกัน ในขณะที่คนที่จำเป็นต้องฝึกก็ทำเช่นนั้นอยู่ภายในถ้ำกลุ่มผู้มีทักษะสูงทั้งหกคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดขั้นที่หนึ่งทั้งหมดนั่งลงภายในถ้ำและนำโอสถระดับชั้นต้นระดับสามที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1702

    “ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องขอบคุณนายน้อยเฟนด์เพราะถ้าไม่ได้เขา เราคงไม่ได้รับโอสถชั้นต้นระดับสามที่มีค่าเหล่านี้ ใครจะรู้ว่าหากต้องใช้เพียงแค่หญ้าวิญญาณ การฝึกฝนของเราจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน?!” อเล็กซานเดอร์หัวเราะเขามองออกไปข้างนอกและขมวดคิ้ว “น่าเสียดายที่ข้างนอกมืดแล้ว มิฉะนั้นผมคงจะหาสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาทดสอบความแข็งแกร่งของฉันสักสองสามตัว!”“เอาไว้พรุ่งนี้เช้าแล้วกัน!”แนชหัวเราะอย่างขมขื่นขณะกำหมัดแน่น ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกายทำให้เขารู้สึกสบายตัวมาก“พี่เฟนด์ พี่เฟนด์ ฉันมีข่าวดีจะบอก พี่สะใภ้กับฉันต่างก็ทะลวงผ่านมาพร้อมกัน!” ยูลประกาศอย่างมีความสุขในขณะที่เธอรีบเข้าไปหาเฟนด์เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเฟนด์ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม "จริงเหรอเนี่ย? เธออยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้วงั้นหรือ? เธอน่ะมีพรสวรรค์พอตัวเลยนะ ฝึกให้หนักและตั้งเป้าที่จะไปให้ถึงขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้เธอก็จะแข็งแกร่งขึ้น! เมื่อเธอไปถึงระดับเทพสูงสุด เธอก็จะยิ่งเด็กลงไปอีก!”"จริงเหรอ? ฮิ ฮิ ฮิ ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นไปอีก!”ยูลหัวเราะเบา ๆ แล้วมองเซเลน่าอี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1703

    “เธอมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เฟนด์เป็นผู้นำที่เที่ยงธรรม ย้อนกลับไปตอนที่ฉันไปส่งลิลลี่กลับไปยังตระกูลลาโกริโอ เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เขาไม่เคยเลือกปฏิบัติกับฉันเพราะเหตุนั้นเลย เชื่อฉันสิ เฟนด์จะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พวกเขาแต่งเธอให้เธอเป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูล นับว่าเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด!”ซาเวียร์ยังคงยิ้ม “ถ้าเธออายเกินไปที่จะขอเขาด้วยตัวเอง ฉันจะขอเขาให้ ฉันจะบอกว่าเธอทะลวงถึงขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้วและต้องการรับใช้ตระกูลวู๊ดให้มากยิ่งขึ้น นายน้อยเฟนด์จะต้องเข้าใจในความตั้งใจของฉันอย่างแน่นอน!”“นั่น…นั่นไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าเลย!”แม้ว่าโยลันดาอยากจะได้โอสถชั้นเลิศระดับสองมาครอบครองเพราะมันจะช่วยให้การเพิ่มระดับพลังยุทธเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่เธอก็หน้าบางเกินกว่าที่จะเอ่ยปากขอมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง“ไม่เข้าท่าตรงไหน? อีกสองสามวันฉันจะถามเขาแทนเธอเอง!” ซาเวียร์กล่าวอย่างไม่แยแส"ตกลง ฉันสงสัยว่านายน้อยเฟนด์และคนอื่น ๆ ในตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง? พวกเขาทะลวงผ่านไปอีกขั้นแล้วหรือยัง? พวกเขากำลังใช้โอสถชั้นต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status