“เธอมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เฟนด์เป็นผู้นำที่เที่ยงธรรม ย้อนกลับไปตอนที่ฉันไปส่งลิลลี่กลับไปยังตระกูลลาโกริโอ เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เขาไม่เคยเลือกปฏิบัติกับฉันเพราะเหตุนั้นเลย เชื่อฉันสิ เฟนด์จะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พวกเขาแต่งเธอให้เธอเป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูล นับว่าเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด!”ซาเวียร์ยังคงยิ้ม “ถ้าเธออายเกินไปที่จะขอเขาด้วยตัวเอง ฉันจะขอเขาให้ ฉันจะบอกว่าเธอทะลวงถึงขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้วและต้องการรับใช้ตระกูลวู๊ดให้มากยิ่งขึ้น นายน้อยเฟนด์จะต้องเข้าใจในความตั้งใจของฉันอย่างแน่นอน!”“นั่น…นั่นไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าเลย!”แม้ว่าโยลันดาอยากจะได้โอสถชั้นเลิศระดับสองมาครอบครองเพราะมันจะช่วยให้การเพิ่มระดับพลังยุทธเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่เธอก็หน้าบางเกินกว่าที่จะเอ่ยปากขอมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง“ไม่เข้าท่าตรงไหน? อีกสองสามวันฉันจะถามเขาแทนเธอเอง!” ซาเวียร์กล่าวอย่างไม่แยแส"ตกลง ฉันสงสัยว่านายน้อยเฟนด์และคนอื่น ๆ ในตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง? พวกเขาทะลวงผ่านไปอีกขั้นแล้วหรือยัง? พวกเขากำลังใช้โอสถชั้นต
“แน่นอน ฉันจะฝึกให้หนักขึ้นอย่างแน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อตระกูลวู๊ด!”โยลันดารับยาไปด้วยความขอบคุณและเก็บมันอย่างระมัดระวังที่สุด"ออกเดินทางกันเถอะ ป่านี้เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างดี มันมีหญ้าวิญญาณมากมาย ตราบใดที่กองกำลังภาคีไม่ได้จับตามองพื้นที่นี้ เราจะสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้อีกหน่อยและหวังว่าจะเราเพิ่มระดับพลังยุทธของเราได้มากขึ้น” เฟนด์กล่าวหลังจากมองดูป่าที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง“ฮ่าฮ่า ไปกันเถอะ แม้ว่าป่าแห่งนี้จะมีสัตว์อสูรระดับเทพสูงสุด แต่ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันดูเหมือนจะขาดหายไป เราเคยพบสัตว์อสูรขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดแล้วมากสุดที่ระดับนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณของสัตว์อสูรในระดับเทพสูงสุดขั้นที่สามหรือสี่เลย มันน่าจะปลอดภัยดี!”แนชซึ่งเพิ่งทะลวงมาถึงขั้นที่สามในระดับเทพสูงสุดเริ่มหัวเราะเบา ๆ พลังของเขาอัดแน่นและกระตือรือร้นที่จะลองโจมตีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่า“เฮ้อ ฉันล่ะสงสัยจังว่าพี่สาวของฉันจะเป็นยังไงบ้าง”ในขณะเดียวกัน ดาเนียลล่าก็นึกถึงเฮเลน่าพี่สาวของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย"ใช่ ถ้าเราซ่อนตัวเพื่อฝึกทักษะยุทธต่ออีกสองวัน คนอื
ในขณะนั้น เสียงของการต่อสู้ที่น่ากลัวดังมาจากทิศทางที่เฟนด์และคนอื่น ๆ กำลังมุ่งหน้าไป เจ้าวิหารเยเกอร์และสมาชิกวิหารแห่งทวยเทพและราชาของเขาถูกผู้อาวุโสโมสลีย์และสมาชิกจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ล้อมอยู่แฮร์รี่ เยเกอร์มีสีหน้าสยดสยอง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้พบทักษะยุทธเข้าและสามารถช่วยให้ผู้อาวุโสในระดับเทพแท้จริงอีกสองคนทะลวงไปสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดได้สมาชิกคนอื่น ๆ จากชนเผ่าของเขาต่างกระจัดกระจายกันออกไป แต่พวกเขาก็กลับมากลุ่มกันใหม่ได้เกือบแปดร้อยคน ทว่าน่าแปลก พวกเขาได้ไปพบเข้ากับกลุ่มของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ และถูกล้อมเข้าหากไม่ใช่เพราะมีปรมาจารย์ในระดับเทพแท้จริงอยู่เคียงข้างเขา กลุ่มของพวกเขาคงถูกฝ่ายตรงข้ามบดขยี้ไปแล้วทว่าสถานการณ์ของพวกเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก ไม่เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามจะมีจำนวนมากกว่า แต่ผู้อาวุโสโมสลีย์จากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ทะลวงไปถึงขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมีปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอีกสามคนด้วย เห็นได้ชัดว่าหลังจากเข้าไปในป่าแห่งนี้แล้ว พวกเขาก็ได้รับประโยชน์มาอย่างมากมายขณะนั้น ก
“เจ้าวิหาร ผม…ผมยังไม่อยากตาย ที่นี่มีหญ้าวิญญาณมากมายและพลังฉีก็อุดมสมบูรณ์ ถ้าผมต้องมาตายทั้ง ๆ ที่เพิ่งมีหวังอย่างนี้ ผมคงตายตาไม่หลับแน่!” ผู้อาวุโสของวิหารแห่งทวยเทพและราชาเดินเข้ามาหาแฮร์รี่ และกัดฟันพูดเบา ๆแฮร์รี่เหลือบมองผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน เขากัดฟันพูดกลับไปว่า “บ้าเอ๊ย คุณคิดว่าผมอยากตายเหรอ? แต่ที่นี่พวกเราก็มีกันเพียงไม่กี่ร้อยคน และเรายังไม่พบสมาชิกคนอื่น ๆ ของ วิหารแห่งทวยเทพและราชาเลย หากเรายอมจำนวนมันคงน่าละอายมาก นอกเหนือจากนั้น เราจะยอมจำนนได้อย่างไรในเมื่อเราเองก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดแล้ว”ผู้อาวุโสพูดไม่ออกและเขาเอ่ยปากอย่างหมดหนทาง “แต่เราไม่มีทางอื่น ทำไมเราไม่แสร้งทำเป็นยอมแพ้และหาโอกาสหลบหนีเมื่อมีโอกาสล่ะ? เราไม่รู้ว่ามีผู้อาวุโสคนใดจากวิหารของเราที่ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดไปบ้างแล้วหรือยัง ถ้ามีก็จะดีมาก!”“แม้ว่าพวกเขาจะทะลวงไปแล้วก็ไร้ประโยชน์ ถ้าพวกเขาไม่ปรากฏตัวในตอนนี้ เราต้องตายแน่นอนไม่ใช่หรือ? เราต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านี้ไปให้ได้ก่อน!” แฮร์รี่มีสีหน้ามืดมน เขารู้สึกว่าการยอมก้มหัวให
ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะยอมแพ้ ผู้อาวุโสที่เกลี้ยกล่อมให้เขายอมจำนนก็มองเห็นกลุ่มคนที่บินมาแต่ไกล“ใช่ แต่เราไม่รู้ว่ากองกำลังเหล่านี้เป็นฝ่ายไหน คนของกองกองกำลังแห่งท้องทะเลมีจำนวนมากมาย และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนจากแผ่นดินใหญ่ แต่สมาชิกของชนเผ่าอื่น ๆ อาจไม่ช่วยเรา บางพวกชอบที่จะเหยียบซ้ำตอนที่เราล้ม!” แฮร์รี่ขมวดคิ้วและยังคงไม่มีความหวังมากนัก“ฮ่าฮ่า… พวกเขาดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของตระกูลวู๊ด และหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นแนช วู๊ด ตระกูลวู๊ดก็เป็นปฏิปักษ์กับกองกำลังแห่งท้องทะเล ในตอนที่พวกเขาไปที่เกาะวายุมืด กับตระกูลต่าง ๆ พวกเขาได้ต่อสู้กับสมาชิกจากกองกำลังแห่งท้องทะเลด้วย! ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะเต็มใจช่วยเรา!” ผู้อาวุโสรู้สึกยินดีเมื่อจู่ ๆ เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยท่ามกลางกลุ่มคนตรงหน้า"จริงหรือ? ดูเหมือนจะจริงอย่างที่คุณว่า แ-่งเอ๊ย นายน้อยเฟนด์ก็อยู่ที่นั่นด้วย!” แฮร์รี่ขยี้ตาอย่างระมัดระวัง เขามีความสุขมากที่เฟนด์และคนอื่น ๆ ดูคล้ายจะมุ่งหน้ามายังทิศทางของพวกเขา“เจ้าวิหารเราควรทำอย่างไรดี? ดูเหมือนว่าจะมีกองกำลังอื่นมุ่งหน้ามาที่นี่ และยังมี
คำพูดของเฟนด์ทำให้อีกฝ่ายโกรธมาก แองกัสปรารถนาที่จะเป็นเจ้าวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว แต่เขาก็ไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้กลายมาเป็นเจ้าวิหารของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ ทว่าอีกฝ่ายกลับเอ่ยปากพูดเรื่องนั้นออกมา เขาโกรธมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวก่อนจะกลายเป็นซีดเผือดทว่าเขากัดฟัน แต่ยังไม่กล้าลงมือในทันที อย่างไรเสียมันก็ไม่สำคัญว่าเฟนด์จะทะลวงไปอีกขั้นแล้วหรือไม่ แม้ว่าชายผู้นี้จะไม่ทะลวงผ่านขั้นไป เขาก็มีพลังยุทธเทียบได้กับปรมาจารย์ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนคนของเฟนด์และคนจากวิหารแห่งทวยเทพและราชารวมกันนั้นมากกว่าพวกเขามาก แถมจำนวนคนในระดับเทพสูงสุดในฝั่งของพวกเขาเมื่อเทียบกับคนในฝั่งของเฟนด์ก็นับว่าน้อยกว่ามาก หากพวกเขาต่อสู้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่จะชนะก็คงมีเพียงแค่ริบหรี่ และแม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่พวกเขาก็คงต้องสูญเสียผู้คนไปมากมาย“เจ้าวิหารลองดูนั่นสิ คนพวกนั้นดูเหมือนจะเป็นคนของเรา!” ทว่าแองกัสไม่คาดคิดเลยว่าผู้อาวุโสคนหนึ่งจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดจะเห็นกลุ่มคนที่บินตรงมาหาพวกเขาในขณ
ชายอีกคนหนึ่งก็แสดงความคับแค้นใจออกมาและทำท่าราวกับว่าเขากำลังจะร้องไห้“ทุกคนไม่จำเป็นต้องเศร้าเกินไป เพราะเราเรียนรู้เรื่องการตั้งอยู่และดับไปมาตั้งแต่เรายังเป็นผู้ฝึกยุทธ แม้ว่าการตายของเจ้าวิหารจะน่าเสียดายไปสักหน่อย แต่ชีวิตก็เป็นเช่นนี้!” แองกัสยังทำสีหน้าเจ็บปวดก่อนที่จะพูดต่อด้วยท่าทางจริงจัง “แต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล หลังจากที่ผมได้เป็นเจ้าวิหารคนใหม่แล้ว ฉันจะนำพาวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ของเราไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ได้อย่างแน่นอน”แองกัสหยุดอยู่ตรงนี้ก่อนที่จะพูดต่อ “ทว่าที่นี่มีปัญหาบางอย่างที่ต้องแก้ไข และผมหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันและช่วยเหลือเรา เรามาช่วยกันจัดการศัตรูของเราที่นี่ ก่อนที่เราจะพูดเรื่องอื่นกันต่อ!”ทว่าผู้อาวุโสลอว์เรนซ์มีสีหน้ามืดมนและเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผู้อาวุโสโมสลีย์ การที่คุณจะประกาศตัวเองว่าเป็นจะขึ้นเจ้าวิหารมันฟังดูเข้าท่านักเหรอ? ใช่ ก่อนหน้านี้คุณถือว่าเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสอันดับที่หนึ่งของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ และคุณเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าวิหารอีกต่างหาก แถมไม่เพียงแต่คุณจะกล้าหาญและชาญฉลาดเท่านั้น คุณยังมีพลังยุทธสูงอีกด้วย พวกเราทุกคนท
“ฮ่าฮ่า… นายน้อยเฟนด์พูดถูก! โจมตีเลย!" อเล็กซานเดอร์ตั้งตารอที่จะได้ลองฝีมือ เขาบินไปข้างหน้าทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด และปล่อยรัศมีที่แข็งแกร่งออกมา รัศมีที่น่าสยดสยองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้แซงหน้าแองกัสซึ่งอยู่ในขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดได้ในไม่ช้า“เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสโมสลีย์ แรงกดดันของเขาสูงกว่ามาก” ผู้อาวุโสลอว์เรนซ์ตกใจมากเผลออ้าปากค้าง เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หากผู้คนรอบข้างไม่แสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ต่างกัน เขาคงคิดไปว่าตัวเองกำลังฝันอยู่"เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!" แองกัสส่ายหัวไม่หยุดเพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่นานหลังจากที่เขาเข้ามาในพื้นที่นี้เขาได้รับทักษะยุทธและสิ่งของล้ำค่ามากมาย เขาได้รับหญ้าวิญญาณระดับสามจำนวนมากและยังได้รับหญ้าวิญญาณระดับสี่อีกด้วยเขายังสามารถกลั่นหญ้าวิญญาณระดับสี่ได้ และนั่นเป็นวิธีที่เขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเขาเชื่อว่าคงมีไม่กี่คนที่โชคดีเหมือนเขา ดังนั้นเขาจึงมั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกินทว่าอเล็กซานเดอร์ที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นแท้จริงแล้วอยู่ในขั้นที่สามข