ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะยอมแพ้ ผู้อาวุโสที่เกลี้ยกล่อมให้เขายอมจำนนก็มองเห็นกลุ่มคนที่บินมาแต่ไกล“ใช่ แต่เราไม่รู้ว่ากองกำลังเหล่านี้เป็นฝ่ายไหน คนของกองกองกำลังแห่งท้องทะเลมีจำนวนมากมาย และมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะเป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนจากแผ่นดินใหญ่ แต่สมาชิกของชนเผ่าอื่น ๆ อาจไม่ช่วยเรา บางพวกชอบที่จะเหยียบซ้ำตอนที่เราล้ม!” แฮร์รี่ขมวดคิ้วและยังคงไม่มีความหวังมากนัก“ฮ่าฮ่า… พวกเขาดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของตระกูลวู๊ด และหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นแนช วู๊ด ตระกูลวู๊ดก็เป็นปฏิปักษ์กับกองกำลังแห่งท้องทะเล ในตอนที่พวกเขาไปที่เกาะวายุมืด กับตระกูลต่าง ๆ พวกเขาได้ต่อสู้กับสมาชิกจากกองกำลังแห่งท้องทะเลด้วย! ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะเต็มใจช่วยเรา!” ผู้อาวุโสรู้สึกยินดีเมื่อจู่ ๆ เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยท่ามกลางกลุ่มคนตรงหน้า"จริงหรือ? ดูเหมือนจะจริงอย่างที่คุณว่า แ-่งเอ๊ย นายน้อยเฟนด์ก็อยู่ที่นั่นด้วย!” แฮร์รี่ขยี้ตาอย่างระมัดระวัง เขามีความสุขมากที่เฟนด์และคนอื่น ๆ ดูคล้ายจะมุ่งหน้ามายังทิศทางของพวกเขา“เจ้าวิหารเราควรทำอย่างไรดี? ดูเหมือนว่าจะมีกองกำลังอื่นมุ่งหน้ามาที่นี่ และยังมี
คำพูดของเฟนด์ทำให้อีกฝ่ายโกรธมาก แองกัสปรารถนาที่จะเป็นเจ้าวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว แต่เขาก็ไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้กลายมาเป็นเจ้าวิหารของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ ทว่าอีกฝ่ายกลับเอ่ยปากพูดเรื่องนั้นออกมา เขาโกรธมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวก่อนจะกลายเป็นซีดเผือดทว่าเขากัดฟัน แต่ยังไม่กล้าลงมือในทันที อย่างไรเสียมันก็ไม่สำคัญว่าเฟนด์จะทะลวงไปอีกขั้นแล้วหรือไม่ แม้ว่าชายผู้นี้จะไม่ทะลวงผ่านขั้นไป เขาก็มีพลังยุทธเทียบได้กับปรมาจารย์ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนคนของเฟนด์และคนจากวิหารแห่งทวยเทพและราชารวมกันนั้นมากกว่าพวกเขามาก แถมจำนวนคนในระดับเทพสูงสุดในฝั่งของพวกเขาเมื่อเทียบกับคนในฝั่งของเฟนด์ก็นับว่าน้อยกว่ามาก หากพวกเขาต่อสู้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่จะชนะก็คงมีเพียงแค่ริบหรี่ และแม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่พวกเขาก็คงต้องสูญเสียผู้คนไปมากมาย“เจ้าวิหารลองดูนั่นสิ คนพวกนั้นดูเหมือนจะเป็นคนของเรา!” ทว่าแองกัสไม่คาดคิดเลยว่าผู้อาวุโสคนหนึ่งจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดจะเห็นกลุ่มคนที่บินตรงมาหาพวกเขาในขณ
ชายอีกคนหนึ่งก็แสดงความคับแค้นใจออกมาและทำท่าราวกับว่าเขากำลังจะร้องไห้“ทุกคนไม่จำเป็นต้องเศร้าเกินไป เพราะเราเรียนรู้เรื่องการตั้งอยู่และดับไปมาตั้งแต่เรายังเป็นผู้ฝึกยุทธ แม้ว่าการตายของเจ้าวิหารจะน่าเสียดายไปสักหน่อย แต่ชีวิตก็เป็นเช่นนี้!” แองกัสยังทำสีหน้าเจ็บปวดก่อนที่จะพูดต่อด้วยท่าทางจริงจัง “แต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล หลังจากที่ผมได้เป็นเจ้าวิหารคนใหม่แล้ว ฉันจะนำพาวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ของเราไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ได้อย่างแน่นอน”แองกัสหยุดอยู่ตรงนี้ก่อนที่จะพูดต่อ “ทว่าที่นี่มีปัญหาบางอย่างที่ต้องแก้ไข และผมหวังว่าทุกคนจะร่วมมือกันและช่วยเหลือเรา เรามาช่วยกันจัดการศัตรูของเราที่นี่ ก่อนที่เราจะพูดเรื่องอื่นกันต่อ!”ทว่าผู้อาวุโสลอว์เรนซ์มีสีหน้ามืดมนและเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผู้อาวุโสโมสลีย์ การที่คุณจะประกาศตัวเองว่าเป็นจะขึ้นเจ้าวิหารมันฟังดูเข้าท่านักเหรอ? ใช่ ก่อนหน้านี้คุณถือว่าเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสอันดับที่หนึ่งของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ และคุณเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าวิหารอีกต่างหาก แถมไม่เพียงแต่คุณจะกล้าหาญและชาญฉลาดเท่านั้น คุณยังมีพลังยุทธสูงอีกด้วย พวกเราทุกคนท
“ฮ่าฮ่า… นายน้อยเฟนด์พูดถูก! โจมตีเลย!" อเล็กซานเดอร์ตั้งตารอที่จะได้ลองฝีมือ เขาบินไปข้างหน้าทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด และปล่อยรัศมีที่แข็งแกร่งออกมา รัศมีที่น่าสยดสยองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้แซงหน้าแองกัสซึ่งอยู่ในขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดได้ในไม่ช้า“เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสโมสลีย์ แรงกดดันของเขาสูงกว่ามาก” ผู้อาวุโสลอว์เรนซ์ตกใจมากเผลออ้าปากค้าง เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หากผู้คนรอบข้างไม่แสดงสีหน้าประหลาดใจไม่ต่างกัน เขาคงคิดไปว่าตัวเองกำลังฝันอยู่"เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!" แองกัสส่ายหัวไม่หยุดเพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่นานหลังจากที่เขาเข้ามาในพื้นที่นี้เขาได้รับทักษะยุทธและสิ่งของล้ำค่ามากมาย เขาได้รับหญ้าวิญญาณระดับสามจำนวนมากและยังได้รับหญ้าวิญญาณระดับสี่อีกด้วยเขายังสามารถกลั่นหญ้าวิญญาณระดับสี่ได้ และนั่นเป็นวิธีที่เขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเขาเชื่อว่าคงมีไม่กี่คนที่โชคดีเหมือนเขา ดังนั้นเขาจึงมั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกินทว่าอเล็กซานเดอร์ที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นแท้จริงแล้วอยู่ในขั้นที่สามข
“แม่เจ้า ผู้อาวุโสคนนี้ต้องอยู่ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดอย่างแน่นอน!” เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ผู้ชมคนหนึ่งก็อุทานด้วยความตระหนกและตกใจสุดขีด“เยี่ยมไปเลย! มีปรมาจารย์ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดจากตระกูลวู๊ดและตระกูลคาเบลโลอย่างน้อยสองคน ครั้งนี้เราจะชนะแน่นอน เมื่อใดที่เหล่าผู้อาวุโสจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดและแองกัส โมสลีย์ที่อยู่ในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดถูกสังหาร คนของพวกเขาก็จะหมดกำลังใจที่จะต่อสู้!” ความหวังเริ่มลุกโชนนหัวใจของแฮร์รี่อีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าเคนเนธสังหารเหล่าปรมาจารย์ในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดเทพได้ด้วยหมัดเดียว เขาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ก็กลับมามีสีหน้ายินดี“ใช่แล้ว เจ้าวิหาร เราได้รับการช่วยเหลือแล้ว ฆ่า ฆ่าพวกเขาให้หมด! ฮ่า ฮ่า…เฟนด์และคนอื่น ๆ แข็งแกร่งมาก พวกเขาไม่เคยทำให้เราผิดหวัง!” ผู้อาวุโสหญิงที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดจาก วิหารแห่งทวยเทพและราชารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากในขณะนี้ ความรู้สึกฟื้นกลับคืนมาจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางออกนั้นช่างน่าเศร้าจริง ๆ“ใช่ ฆ่าพวกเขา! ฆ
แองกัสซึ่งอยู่ในขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดแล้วถูกเฟนด์ฆ่าตายด้วยการชกเพียงครั้งเดียว ภาพเบื้องหน้านี้ทำให้ทุกคนตกใจมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟนด์สามารถทำสิ่งนี้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังฉีด้วย นี่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพลังยุทธของชายคนนั้นน่ากลัวเพียงใด“พ่อหนุ่มนี่อยู่ในขั้นที่สามระดับเทพสูงสุดไม่ใช่หรือ? ดูเหมือนว่าพลังยุทธของเขาจะเทียบได้กับระดับเทพสูงสุดเทพขั้นที่ห้าหรือหกเลยทีเดียว!” อเล็กซานเดอร์มองไปที่เฟนด์และมองไปที่กำปั้นของเขาอีกครั้ง พลังยุทธของเฟนด์ดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเขาไปไกล เขาเกิดข้อสงสัยว่าทักษะยุทธที่เฟนด์กำลังฝึกฝนอยู่นั้นจะเป็นระดับที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับทักษะของพวกเขา"หนีเร็ว! แม้แต่ผู้อาวุโสแองกัสก็ยังไม่รอดเลย!” สมาชิกของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หวาดกลัวจนหัวหด พวกเขาตื่นตระหนกและวิ่งหนีไปรอบ ๆตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ทว่าเฟนด์และคนอื่น ๆ มีพลังยุทธที่แข็งแกร่งมาก การโจมตีพุ่งตรงไปที่กลุ่มคนที่กำลังพยายามหลบหนี เมื่อรวมกับความจริงที่ว่ามีเหล่าปรมาจารย์ในขั้นที่สามของระดับเทพสูงสุดหลายคน จำนวนคนที่หลบหนีจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้าพวกเขาเกือบทั้งหมดก็ตาย
แฮร์รี่พูดอย่างมีความสุข “ผมแค่สงสัยว่าทำไมบริเวณนี้ถึงอุดมไปด้วยพลังฉีถึงเพียงนี้ นอกจากนี้ยังมีทักษะยุทธบางอย่าง และผมรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีในการค้นหาสิ่งของมีค่า สิ่งที่ผมกังวลที่สุดคือพวกที่เข้ามาในพื้นที่นี้ตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต แม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้ว แต่ก็คงจะยังมีเหล่าปรมาจารย์จำนวนมากในปัจจุบัน เพราะพวกเขาย่อมมีทายาทมากมาย ว่าไหม? หากเราเผชิญหน้ากับพวกเขาเข้า พวกเขาจะทำร้ายเรารึเปล่า? เพราะเราก็ไม่ใช่คนของที่นี่!”แนชยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ฉันต้องบอกคุณเกี่ยวกับบางอย่างของพื้นที่นี้…”ในไม่ช้าแนชก็แจ้งให้แฮร์รี่และคนอื่น ๆ ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดสีหน้าของแฮร์รี่และคนอื่น ๆ มืดลงหลังจากได้ยินสิ่งที่แนชพูด พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีกองกำลังอย่างกองกำลังภาคี ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพื้นที่และต่อต้านผู้คนจากภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่นี้แต่สมาชิกของกองกำลังภาคีได้ลดการป้องกันลงเนื่องจากไม่มีใครเข้ามาในพื้นที่นี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นั่นเป็นเหตุผลที่สมาชิกที่ถูกส่งมาเฝ้าทางเข้าทั้งสองคนมีทักษะยุทธอยู่ในขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดเท่านั้น
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ แนชก็ยังไม่ได้รับปากกับอีกฝ่ายในทันที เขากลับพูดว่า “ต้องขออภัย เจ้าวิหารเยเกอร์ ผมต้องปรึกษาเรื่องนี้กับลูกชายของผมก่อน คุณเองก็รู้ว่าเขามีพลังยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ ไม่เพียงแต่สมาชิกในตระกูลวู๊ดเท่านั้นที่เชื่อมั่นในตัวเขาอย่างมาก แต่แม้แต่สมาชิกในตระกูลคาเบลโล เองก็ยังเชื่อฟังเขาด้วย!”“ถูกต้อง...ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะปล่อยให้คุณไปปรึกษากัน ขอบคุณมาก!” ในขณะที่แฮร์รี่พูด เขาก็แสดงความเคารพด้วยมือของเขาอย่างสุภาพทันทีแนชรีบเดินไปคุยกับเฟนด์ก่อนจะบินกลับมา “เจ้าวิหารเยเกอร์ เรามีการปรึกษาหารือกันแล้ว และลูกชายของผมก็เห็นด้วย!”ในไม่ช้าทุกคนก็รวบรวมรางวัลเข้าด้วยกันเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทุกคนยอมให้เฟนด์เลือกก่อน เพราะเขาต้องเลือกหญ้าวิญญาณหรือส่วนผสมที่ต้องใช้ในการบ่มเพาะโอสถเฟนด์ไม่เกรงใจนัก เพราะเขาเองก็สังหารคนไปได้มาก พวกเขาได้รับหญ้าวิญญาณจำนวนมากพอสมควร แม้ว่าจะมีหญ้าวิญญาณระดับสี่เพียงต้นเดียว แต่เฟนด์ก็ดูค่อนข้างพอใจเฟนด์ปล่อยให้สมาชิกของตระกูลคาเบลโล และตระกูลวู๊ด แบ่งปันทรัพยาอื่น ๆ ระหว่างกัน อย่างน้อยมันก็เพียงพอสำหรับทุกคนใ