หลังจากที่เฟนด์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็บอกทุกคนว่า “ท้ายที่สุด ถ้าพวกเราทุกคนทะลวงเข้าสู่ในขั้นที่สามของระดับเทพขั้นสูงสุด ความสามารถของเราในการป้องกันตัวเองในป่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก”“ฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป!”อเล็กซานเดอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลวู๊ดเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ถือว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าสู่ดินแดนนี้ได้อย่างง่ายดายและทะลวงเข้าสู่ในระดับเทพสูงสุดในเร็ว ๆ นี้ได้อย่างไร!หัวใจของแลนสล็อตเต็มไปด้วยความชื่นชม ในครั้งก่อน เขาล้มเหลวในการก้าวไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด เขาอาจต้องรออีกสองสามวันก่อนที่จะได้ลองพยายามทะลวงไปสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุด มันดูราวกับว่าห่างกันเพียงก้าวเดียว แต่แท้จริงแล้วมันเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ แค่ก้าวเดียวก็รู้สึกเหมือนเดินข้ามช่องเขา พลังยุทธของขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดและขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงนั้นเป็นสองระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนค้นหาหญ้าวิญญาณอย่างมีความสุขทว่าพวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าระหว่างทา
“ฮ่าฮ่า ผมรู้ว่าพวกคุณทุกคนคันไม้คันมือ ถ้าคุณต้องการก็ออกไปสู้ได้เลย ผมจะคอยดู!”เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและตอบกลับพวกเขา"บุก!"เคนเนธ ไททัส และคนอื่น ๆ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะแสดงทักษะของพวกเขา หลังจากได้ยินเฟนด์พูดแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็กระจายออกไปฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าแน่นอนว่าเวสตัน อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ ก็ตื่นตัวเช่นกัน พวกเขาบินออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าพวกเขาจะช้ากว่าคนอื่นเล็กน้อย"ไม่มีทาง ระดับเทพสูงสุด?”"พระเจ้า พวกเขามีกันมากมายเหลือเกิน!”ผู้คนจากตำหนักนภามืดแปดทางเมื่อเห็นสิ่งนี้"พระเจ้า พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป!”“ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน กลับมีคนที่ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดแล้วได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?”สมาชิกของตำหนักอินทรีทะยานรู้สึกประหลาดใจ แสงสีทองจาง ๆ ของพลังฉีทำให้พวกเขาแปลกใจปัง ปัง ปัง!เสียงการต่อสู้ดังขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกของตำหนักนภาก็กลายเป็นศพที่กระจายอยู่บนพื้น“ทำไมพวกคุณถึงรีบร้อนกันนัก? เราเพิ่งอุ่นเครื่องและทุกคนก็ตายหมดแล้วงั้นเหรอ?”เคนเนธมองไปที่เวสตัน และคนอื่น ๆ เอ่ยปากด้ว
ณ จุดนี้เฟนด์คือความหวังของทุกคน พวกเขาทำได้เพียงรีบเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง เพื่อให้สามารถป้องกันตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อรองรับการเผชิญหน้าที่จะเกิดขึ้นกับพวกกองกำลังภาคี“ฮ่า ๆ ๆ ผมจะเลือกล่ะนะ!”เฟนด์เริ่มเลือกหลังจากหัวเราะอย่างเต็มที่ในตอนบ่ายพวกเขายังคงค้นหาหญ้าวิญญาณกันต่อไป บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาฝึกทักษะยุทธกันอยู่ เฟนด์และคนอื่น ๆ จึงเดินทางล่าช้ากว่ากลุ่มอื่น ๆ อยู่สองสามวัน พวกเขาจึงแทบไม่ได้เจอกับคนอื่นเลยระหว่างทางนั่นทำให้เฟนรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขากังวลว่าอาจมีคนจำนวนมากถูกสังหารโดยกองกำลังภาคีหลังจากพ้นเขตป่านี้ไปแน่นอน เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับผู้ที่มาจากตำหนักนภาหรือวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพวกเขาเป็นศัตรูของฝ่ายเฟนด์ ถ้าเขาพบพวกนั้น เขาคงจะฆ่าพวกนั้นเหมือนกันในตอนกลางคืน เฟนด์และคนอื่น ๆ ก็พบถ้ำที่ค่อนข้างเงียบสงบ พวกเขาจัดการให้บางคนลาดตระเวนอยู่รอบ ๆ คอยคุ้มกัน ในขณะที่คนที่จำเป็นต้องฝึกก็ทำเช่นนั้นอยู่ภายในถ้ำกลุ่มผู้มีทักษะสูงทั้งหกคนที่อยู่ในระดับเทพสูงสุดขั้นที่หนึ่งทั้งหมดนั่งลงภายในถ้ำและนำโอสถระดับชั้นต้นระดับสามที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงออ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องขอบคุณนายน้อยเฟนด์เพราะถ้าไม่ได้เขา เราคงไม่ได้รับโอสถชั้นต้นระดับสามที่มีค่าเหล่านี้ ใครจะรู้ว่าหากต้องใช้เพียงแค่หญ้าวิญญาณ การฝึกฝนของเราจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน?!” อเล็กซานเดอร์หัวเราะเขามองออกไปข้างนอกและขมวดคิ้ว “น่าเสียดายที่ข้างนอกมืดแล้ว มิฉะนั้นผมคงจะหาสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาทดสอบความแข็งแกร่งของฉันสักสองสามตัว!”“เอาไว้พรุ่งนี้เช้าแล้วกัน!”แนชหัวเราะอย่างขมขื่นขณะกำหมัดแน่น ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นในร่างกายทำให้เขารู้สึกสบายตัวมาก“พี่เฟนด์ พี่เฟนด์ ฉันมีข่าวดีจะบอก พี่สะใภ้กับฉันต่างก็ทะลวงผ่านมาพร้อมกัน!” ยูลประกาศอย่างมีความสุขในขณะที่เธอรีบเข้าไปหาเฟนด์เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเฟนด์ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม "จริงเหรอเนี่ย? เธออยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงแล้วงั้นหรือ? เธอน่ะมีพรสวรรค์พอตัวเลยนะ ฝึกให้หนักและตั้งเป้าที่จะไปให้ถึงขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้เธอก็จะแข็งแกร่งขึ้น! เมื่อเธอไปถึงระดับเทพสูงสุด เธอก็จะยิ่งเด็กลงไปอีก!”"จริงเหรอ? ฮิ ฮิ ฮิ ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นไปอีก!”ยูลหัวเราะเบา ๆ แล้วมองเซเลน่าอี
“เธอมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เฟนด์เป็นผู้นำที่เที่ยงธรรม ย้อนกลับไปตอนที่ฉันไปส่งลิลลี่กลับไปยังตระกูลลาโกริโอ เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เขาไม่เคยเลือกปฏิบัติกับฉันเพราะเหตุนั้นเลย เชื่อฉันสิ เฟนด์จะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พวกเขาแต่งเธอให้เธอเป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูล นับว่าเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด!”ซาเวียร์ยังคงยิ้ม “ถ้าเธออายเกินไปที่จะขอเขาด้วยตัวเอง ฉันจะขอเขาให้ ฉันจะบอกว่าเธอทะลวงถึงขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้วและต้องการรับใช้ตระกูลวู๊ดให้มากยิ่งขึ้น นายน้อยเฟนด์จะต้องเข้าใจในความตั้งใจของฉันอย่างแน่นอน!”“นั่น…นั่นไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าเลย!”แม้ว่าโยลันดาอยากจะได้โอสถชั้นเลิศระดับสองมาครอบครองเพราะมันจะช่วยให้การเพิ่มระดับพลังยุทธเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่เธอก็หน้าบางเกินกว่าที่จะเอ่ยปากขอมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง“ไม่เข้าท่าตรงไหน? อีกสองสามวันฉันจะถามเขาแทนเธอเอง!” ซาเวียร์กล่าวอย่างไม่แยแส"ตกลง ฉันสงสัยว่านายน้อยเฟนด์และคนอื่น ๆ ในตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง? พวกเขาทะลวงผ่านไปอีกขั้นแล้วหรือยัง? พวกเขากำลังใช้โอสถชั้นต
“แน่นอน ฉันจะฝึกให้หนักขึ้นอย่างแน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อตระกูลวู๊ด!”โยลันดารับยาไปด้วยความขอบคุณและเก็บมันอย่างระมัดระวังที่สุด"ออกเดินทางกันเถอะ ป่านี้เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างดี มันมีหญ้าวิญญาณมากมาย ตราบใดที่กองกำลังภาคีไม่ได้จับตามองพื้นที่นี้ เราจะสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้อีกหน่อยและหวังว่าจะเราเพิ่มระดับพลังยุทธของเราได้มากขึ้น” เฟนด์กล่าวหลังจากมองดูป่าที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง“ฮ่าฮ่า ไปกันเถอะ แม้ว่าป่าแห่งนี้จะมีสัตว์อสูรระดับเทพสูงสุด แต่ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันดูเหมือนจะขาดหายไป เราเคยพบสัตว์อสูรขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดแล้วมากสุดที่ระดับนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณของสัตว์อสูรในระดับเทพสูงสุดขั้นที่สามหรือสี่เลย มันน่าจะปลอดภัยดี!”แนชซึ่งเพิ่งทะลวงมาถึงขั้นที่สามในระดับเทพสูงสุดเริ่มหัวเราะเบา ๆ พลังของเขาอัดแน่นและกระตือรือร้นที่จะลองโจมตีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่า“เฮ้อ ฉันล่ะสงสัยจังว่าพี่สาวของฉันจะเป็นยังไงบ้าง”ในขณะเดียวกัน ดาเนียลล่าก็นึกถึงเฮเลน่าพี่สาวของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย"ใช่ ถ้าเราซ่อนตัวเพื่อฝึกทักษะยุทธต่ออีกสองวัน คนอื
ในขณะนั้น เสียงของการต่อสู้ที่น่ากลัวดังมาจากทิศทางที่เฟนด์และคนอื่น ๆ กำลังมุ่งหน้าไป เจ้าวิหารเยเกอร์และสมาชิกวิหารแห่งทวยเทพและราชาของเขาถูกผู้อาวุโสโมสลีย์และสมาชิกจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ล้อมอยู่แฮร์รี่ เยเกอร์มีสีหน้าสยดสยอง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาได้พบทักษะยุทธเข้าและสามารถช่วยให้ผู้อาวุโสในระดับเทพแท้จริงอีกสองคนทะลวงไปสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดได้สมาชิกคนอื่น ๆ จากชนเผ่าของเขาต่างกระจัดกระจายกันออกไป แต่พวกเขาก็กลับมากลุ่มกันใหม่ได้เกือบแปดร้อยคน ทว่าน่าแปลก พวกเขาได้ไปพบเข้ากับกลุ่มของวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ และถูกล้อมเข้าหากไม่ใช่เพราะมีปรมาจารย์ในระดับเทพแท้จริงอยู่เคียงข้างเขา กลุ่มของพวกเขาคงถูกฝ่ายตรงข้ามบดขยี้ไปแล้วทว่าสถานการณ์ของพวกเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก ไม่เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามจะมีจำนวนมากกว่า แต่ผู้อาวุโสโมสลีย์จากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ทะลวงไปถึงขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมีปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดอีกสามคนด้วย เห็นได้ชัดว่าหลังจากเข้าไปในป่าแห่งนี้แล้ว พวกเขาก็ได้รับประโยชน์มาอย่างมากมายขณะนั้น ก
“เจ้าวิหาร ผม…ผมยังไม่อยากตาย ที่นี่มีหญ้าวิญญาณมากมายและพลังฉีก็อุดมสมบูรณ์ ถ้าผมต้องมาตายทั้ง ๆ ที่เพิ่งมีหวังอย่างนี้ ผมคงตายตาไม่หลับแน่!” ผู้อาวุโสของวิหารแห่งทวยเทพและราชาเดินเข้ามาหาแฮร์รี่ และกัดฟันพูดเบา ๆแฮร์รี่เหลือบมองผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน เขากัดฟันพูดกลับไปว่า “บ้าเอ๊ย คุณคิดว่าผมอยากตายเหรอ? แต่ที่นี่พวกเราก็มีกันเพียงไม่กี่ร้อยคน และเรายังไม่พบสมาชิกคนอื่น ๆ ของ วิหารแห่งทวยเทพและราชาเลย หากเรายอมจำนวนมันคงน่าละอายมาก นอกเหนือจากนั้น เราจะยอมจำนนได้อย่างไรในเมื่อเราเองก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดแล้ว”ผู้อาวุโสพูดไม่ออกและเขาเอ่ยปากอย่างหมดหนทาง “แต่เราไม่มีทางอื่น ทำไมเราไม่แสร้งทำเป็นยอมแพ้และหาโอกาสหลบหนีเมื่อมีโอกาสล่ะ? เราไม่รู้ว่ามีผู้อาวุโสคนใดจากวิหารของเราที่ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองของระดับเทพสูงสุดไปบ้างแล้วหรือยัง ถ้ามีก็จะดีมาก!”“แม้ว่าพวกเขาจะทะลวงไปแล้วก็ไร้ประโยชน์ ถ้าพวกเขาไม่ปรากฏตัวในตอนนี้ เราต้องตายแน่นอนไม่ใช่หรือ? เราต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านี้ไปให้ได้ก่อน!” แฮร์รี่มีสีหน้ามืดมน เขารู้สึกว่าการยอมก้มหัวให