เมื่อท้องฟ้ามืดลง ทุกคนก็ได้ใช้พลังฉีไปค่อนข้างมากแล้ว เนื่องจากใช้เวลาบนท้องฟ้ามาเป็นเวลายาวนาน และแล้วพวกเขาก็พบเกาะร้างและใช้เวลาช่วงกลางคืนฟื้นพลังตัวเองเมื่อเฟนด์ว่าง เขานั่งลงข้างกองไฟอ่านหนังสือโบราณ เขามีข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ เชื่อมโยงกับรายการที่เกี่ยวข้องกับโอสถด้วยเขาพบโอสถรักษาโรคมากมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่ในหนังสือโบราณ และหลงใหลไปในสิ่งที่เขาได้อ่าน พยายามจดจํามันอย่างเต็มที่เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนกลับมาเริ่มเดินทางกันต่อดังที่คาดไว้ พวกเขาพบกับสัตว์อสูรมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันแรก และสัตว์อสูรเหล่านี้มีความสามารถในการต่อสู้และพลังการต่อสู้ที่สูงขึ้นไม่ต้องบอกเลย ยิ่งพวกเขาข้ามทะเลลึกเข้าไปมากขึ้นเท่าไร สัตว์อสูรก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นเกาะเล็ก ๆ บางแห่งมีกองกําลังเล็ก ๆ อยู่บ้าง แต่ชาวเกาะเหล่านี้ไม่กล้าออกมาถามอะไรเลยเมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่ ประมาณสองแสนถึงสามแสนคนลอยมาบนท้องฟ้า พวกเขายังแอบสวดอ้อนวอนให้คนเหล่านี้จะไม่ลงมาทำให้พวกเขาเดือดร้อนแน่นอนว่าการรวมตัวของผู้คนจํานวนมหาศาลเช่นนี้ดึงดูดความสนใจของกองกําลังที่มีขนาดใหญ่กว่าในท้องทะเลเหล่านี้เมื่อเวลาผ่า
ดวงตาของชายชราเปล่งประกายขณะที่พูด “เรามีปรมาจารย์มากมายในระดับเทพแท้จริงอยู่ที่นี่ ร่วมกับกองกําลังทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การนําของเรา หากเราดําเนินการร่วมกัน เราจะมีจํานวนมากกว่าพวกเขา ฉันเชื่อว่าพวกเขาคงไม่กล้าต่อสู้และจะส่งมอบของมีค่าของพวกเขาแต่โดยดี”หลายคนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้ โดยคิดไปว่าพวกเขาสามารถบรรลุความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เจ้าวิหารแห่งวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หันไปหา ผู้อาวุโสโมสลีย์ ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างและไม่พูดอะไรเลย เขาจึงถามว่า “ท่านผู้อาวุโสโมสลีย์ ทําไมคุณไม่พูดอะไรเลย? มีความคิดเห็นถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?”ผู้อาวุโสเกือบทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วยกับมุมมองของชายชรา แต่มีเพียงผู้อาวุโสโมสลีย์เท่านั้นที่ยืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น“ฮ่าฮ่า! ท่านผู้อาวุโสโมสลีย์คิดอะไรได้หรือ? ฉันมั่นใจว่าความคิดของฉันดีที่สุด และเนื่องจากคนอื่น ๆ ทุกคนก็เห็นด้วยกับฉัน เขาจะมีความคิดอะไรออกมาอีกก็ไม่สำคัญ!” ผู้อาวุโสฮาร์ทแมนหัวเราะ ดวงตาเต็มไปด้วยการสบประมาทและยั่วยุเหมือนที่เขาทําอยู่ ท้ายที่สุด เขาและผู้อาวุโสโมสลีย์ชิงความได้เปรียบกันอยู่เสมอ ผู้อาวุ
“ระดับเทพสูงสุด!”ทุกคนตะลึงเมื่อได้ยินคํานั้นถึงกับผงะหงายอย่างเห็นได้ชัดแต่ละคนที่เข้าการประชุมนั้นคือนักสู้ระดับบนสุด ด้วยระดับการบ่มเพาะอย่างน้อยขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง เนื่องจากพวกเขาต่อสู้กับบรรดาสัตว์อสูรในทะเลบ่อยครั้ง นักสู้จากดินแดนท้องทะเลจึงมีวิชายุทธต่างๆ ที่น่าหวาดหวั่น สมรรรถนะความอดทนของร่างกายพวกเขาถูกหล่อหลอมผ่านประสบการณ์มากมาย“ผู้อาวุโสโมสลีย์ คุณต้องล้อเล่นแน่ ๆ? คุณกําลังบอกว่าพวกเขามาที่ดินแดนของเราเพื่อบรรลุระดับเทพสูงสุด? คุณมีหลักฐานอะไร?”ผู้อาวุโสฮาร์ทแมนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และถามผู้อาวุโสโมสลีย์“ถูกต้อง.. ผู้อาวุโสโมสลีย์ อย่าหลงกลพวกเขา เราอยู่ในมหาสมุทรมาตั้งหลายปีแล้วและไม่เคยรู้เรื่องระดับเทพสูงสุด เบาะแสอะไรที่พวกเขาบนแผ่นดินมาตามหา? อย่าบอกฉันนะว่าพวกเขาคุ้นเคยกับมหาสมุทรมากกว่าพวกเรา?”ผู้อาวุโสอีกคนที่อยู่เบื้องหลังผู้อาวุโสฮาร์ทแมนก็ก้าวมาข้างหน้าด้วยเช่นกัน พร้อมกับรอยยิ้มเย็นเยือกทว่าผู้อาวุโสโมสลีย์ไม่สนใจทั้งสองคน เขาเผชิญหน้ากับเจ้าวิหารแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งและยกมือขึ้นทำการคารวะ “ท่านอาจารย์ คิดทบ
“นายท่าน เราไม่อาจให้พวกเขารู้ตัวก่อนที่เราจะเคลื่อนไหว แต่ฉันคิดว่าเราก็ไม่อาจปล่อยให้พวกเขาอยู่โดยลำพังด้วยเช่นกัน!”ไม่มีใครคิดว่าผู้อาวุโสโมสลีย์จะพูดขึ้นมาอีกในตอนนั้น“คุณหมายความว่าอะไร? ก็คุณบอกว่าเราไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้ไม่ใช่หรอกเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้น ทําไมคุณถึงบอกว่าเราไม่สามารถปล่อยพวกเขาไว้? คุณกําลังพูดถึงอะไร?"เจ้าวิหารแห่งวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วถาม“เราสามารถตรวจสอบอย่างเงียบ ๆ และดูว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน! หรือตรวจสอบเพื่อดูว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อระดับเทพสูงสุดหรือไม่!”ผู้อาวุโสโมสลีย์ตอบอย่างยิ้มแย้ม“เราจะตรวจสอบอย่างไรหรือว่าแรงจูงใจของพวกเขาคืออะไร? เราคงทำเช่นนั้นไม่ได้ถ้าเราไม่ลงมือ!” ผู้อาวุโสฮาร์ทแมนแกว่งแขนของเขา เขารู้สึกว่าผู้อาวุโสโมสลีย์แค่ล้อเล่น“มันก็ง่าย ๆ เราแค่ต้องส่งนักสู้กลุ่มเล็ก ๆ ไปกลุ่มนึงเข้าไปโจมตีพวกเขา เราจะบอกให้พวกเขาออกจากมหาสมุทรและไม่คิดที่จะเอาทรัพยากรของเราไป แค่นั้นก็พอแล้วที่เราจะคุกคามพวกเขา หากพวกเขายืนกรานเดินหน้าต่อและไม่กลัวว่าจะทำให้เราขุ่นเคือง นั่นหมายความว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อระดับเทพสูงสุดอย่างแน่น
แก้มของเฮเลน่าแดงขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ เธอจ้องที่เขา “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ยังไม่เกิดขึ้นหรอก ยังไงก็ตามฉันไม่ได้รู้จักเขามานานเกินไปแล้ว!”จากนั้นเฮเลน่าก็มองไปที่เฟนด์อีกครั้ง “อันที่จริง เขาไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คุณคิด!” เธอกล่าว“โอ้โห คุณหนูใหญ่คาเบลโล ผู้ชายเช่นนี้ยังไม่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอีกหรือ? ระดับการบ่มเพาะของเขาสูงมาก และเขาก็เป็นหนุ่มหล่อ แม้แต่เหล่าเจ้าตำหนักแห่งชนเผ่าโบราณทั้งสี่ก็เทียบเขาไม่ได้ นอกจากนี้เขารู้จักเล่นแร่แปรธาตุ ขนาดผมเองยังคิดว่าผู้ชายคนนี้สมบูรณ์แบบแล้ว แล้วคุณคิดว่าเขาไม่ใช่เหรอ?”ท่าทีของชายคนนั้นดูไม่เชื่อเอาซะเลยหลังจากที่เขาได้ยินแบบนั้น “ผู้หญิงในตระกูลของเราทุกคนล้วนเป็นแฟนคลับเขา และพวกเธอล้วนใฝ่ฝันที่จะแต่งงานกับเขา คุณคิดว่าเขาไม่ดีพออีกเหรอ?”เฮเลน่าโกรธมาก เธอจ้องอย่างดุร้าย และพูดอย่างฉุนเฉียวใส่เขาว่า “คนคนนึงจะพูดเรื่องไร้สาระขนาดนี้ได้ยังไง? ทําไมมันถึงสําคัญกับคุณนักว่าเขาจะสมบูรณ์แบบหรือไม่? ออกไป!"ชายคนนั้นก็ยิ่งไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมเฮเลน่าถึงกับโกรธขึ้นมา เขาอดไม่ได้ที่จะพูดงึมงัมขอโทษและรีบกลับไปหาครอบครัวเขาดาเนียลล่
“แล้วทําไมเราไม่ประลองกันหน่อยล่ะ?”ดวงตาของชายชราหรี่ลงเล็กน้อย และเขารวบรวมพลังฉีเข้ามาในฝ่ามือของเขา พอเขาโบกมือของเขา ดาบอันน่ากลัวที่มาจากพลังฉีก็ปรากฏขึ้นดาบบินขนาดมหึมาราวกว่ายี่สิบฟุต ปรากฏขึ้นมา แล้วยกตัวขึ้นฟาดฟันฉวัดเฉวียนไปมา จากนั้นก็ฟันฉับลงมา"ฮึ่ม!"อเล็กซานเดอร์รู้สึกว่าชายชราผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่ง่ายหลังจากได้เห็นการโจมตีของเขา จากที่ดู ชายผู้นี้ต้องเป็นนักสู้ที่เข้าถึงขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริง ยิ่งกว่านั้น การโจมตีครั้งแรกของเขาก็ดุร้ายเหลือเกิน ราวกับเขาไม่มีความตั้งใจที่จะยั้งมันเขากําหมัดจนแน่นและต่อยออกไป ทันใดนั้น กำปั้นหมัดยักษ์ที่เกิดขึ้นจากพลังฉีก็ปรากฏขึ้น หมัดนี้มีออร่าที่น่ากลัว และลอยไปหาดาบที่กำลังลอยอยู่ปัง!เสียงโครมครามดังขึ้นในอากาศระหว่างทั้งสองฝ่าย การปะทะกันอย่างรุนแรงทําให้คลื่นพลังงานกระเพื่อมไปทุกทิศทาง ลมอันน่าสะพรึงกลัวพัดผ่านผู้คนมากมาย และผู้ที่ยังฝึกฝนอยู่ในระดับต่ำกว่าต่างก็กลัวกันมากจนถอยหลังไปสองก้าวเกิดระลอกคลื่นปรากฏบนผืนน้ำของมหาสมุทรเบื้องล่าง บอกได้เลยว่านักสู้ทั้งสองอยู่จุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริงถึงได้มีการปะทะ
“พวกเขามีนักสู้จำนวนมาก? และพวกเขายังเคลื่อนไปข้างหน้าต่อ?” คืนนั้น เจ้าวิหารแห่งวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ เรียกผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ให้มารวมตัวกัน เขาบอกทุกคนเกี่ยวกับรายงานที่เขาได้รับหลังจากที่เขาแจ้งพวกเขาถึงรายงานแล้ว เขาก็พูดว่า "พิจารณาจากเส้นทางของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขากําลังมุ่งหน้าไปยังเกาะวายุมืด!"“ไม่มีทาง พวกเขากําลังจะไปเกาะวายุมืดจริง ๆ เหรอ? มีกองกําลังมากมายที่นั่น พวกนั้นไม่เหมาะกับเราเช่นกัน แต่ถ้าคนเหล่านั้นกําลังมุ่งหน้าตรงไปที่ป่าวายุมืดเพื่อค้นหาบางสิ่ง หึหึ กองกําลังเหล่านั้นอาจจะโจมตีพวกเขา!”ผู้อาวุโสฮาร์ทแมนหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า“นั่นเป็นเขตอันตรายและหลายคนกําลังมุ่งหน้าสู่เขตอันตรายอย่างงั้นหรือ? เกาะวายุมืดอันตรายมาก เรายังไม่สามารถเข้าไปได้โดยง่าย ทําไมพวกเขาถึงไปที่นั่น? เว้นแต่ว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาได้พบเบาะแสที่จะทะลวงเข้าถึงระดับเทพสูงสุดที่นั่นแล้ว”ผู้อาวุโสโมสลีย์ขมวดคิ้วและเริ่มพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง“เรากลัวอะไรกันอยู่หรือ? เจ้าวิหารแห่งวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมาก ในทางกลับกัน ตระกูลเหล่านั้นเป็นเพียงฝูงชนที่มารวมตัวกันเม
เห็นได้ชัดว่าเฟนด์ได้กลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในนั้น เพราะแม้แต่หัวหน้าตระกูลชั้นหนึ่งอย่างตระกูลซีเมเนสก็ยังต้องขอความคิดเห็นของเฟนด์ด้วยน้ำเสียงยำเกรงเสียก่อนเฟนด์พยักหน้า “ผมก็คิดถึงวิธีที่เราจะใช้เข้าไปในเกาะอยู่เหมือนกัน! สรุปว่าเราจะเข้าไปตอนกลางคืน! ตอนนี้คงต้องพักผ่อนที่เกาะตรงนั้นก่อน ที่นั่นมีต้นไม้มากพอให้เราหลบได้ชั่วคราว!”ในไม่ช้าทุกคนก็บินไปและซ่อนตัวอยู่บนเกาะเล็ก ๆ นั่นเป็นการชั่วคราวในตอนกลางคืน ทุกคนออกเดินทางไปยังป่าวายุมืด"ที่นี่ไง มาเถอะ ทุกคนระวังด้วย ยิ่งเราเข้าไปในผืนป่าแห่งนี้ลึกเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีสิทธิ์เจอสัตว์อสูรมากขึ้นเท่านั้น แถมยังมีสัตว์อสูรในระดับเทพแท้จริงไม่น้อยอีกด้วย!”เควินมองไปข้างหน้าและเห็นว่าข้างหน้าเขานอกจากต้นไม้แล้วก็ไม่มีอะไรเลย ดวงตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น โชคดีที่มีนักสู้หลายคน การเข้าป่าด้วยวิธีนี้นั้นดูปลอดภัยกว่า เพราะหากทุกคนแยกไปทางใครทางมันและคิดจะต่อสู่แก่งแย่งกันโดยขาดกลยุทธ์ที่เหมาะสม คนสุดท้ายที่เดินออกมาโดยที่ร่างกายไม่บุบสลายไปครึ่งหนึ่งก็ถือว่าโชคดี ไหนนะจำนวนสัตว์อสูรที่อยู่ข้างในอีกโฮก!เสียงคำรามที่น่ากลัวข