“การล่าสังหารคนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง หลังจากที่เราออกจากที่นี่ไปได้ ผมจะแจ้งให้หัวหน้าตระกูลทราบอย่างแน่นอน!” ชายจากตระกูลแลงคาสเตอร์คำรามในขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะนั้น ตระกูลวู๊ด และตระกูลคาเบลโลได้รวบรวมแหวนยุทธทั้งหมดขึ้นมา“เราควรจัดสรรของพวกนี้ยังไงดี?” เฟนด์ขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เฮเลน่าเฮเลน่าขมวดคิ้วเข้าหากันโดยไม่รู้ว่าจะแจกจ่ายสิ่งของที่พวกเขามีอย่างไรพวกแลงคาสเตอร์ก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดอย่างถ่อมตนว่า “เพื่อแทบคำขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้ เราจะไม่ขอรับของพวกนี้ ดังนั้นพวกคุณก็แค่แจกจ่ายกันเอาเองเถอะ!”เฮเลน่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เอาแบบนี้ไหมเฟนด์ ครั้งนี้พวกคุณได้หกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนพวกเราคาเบโลจะรับแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ในอนาคต เรามาเป็นพันธมิตรกับพวกแลงคาสเตอร์กันเถอะ ตระกูลของฉันและตระกูลแลงคาสเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งคนละ 30 เปอร์เซ็นต์ในอนาคต ในขณะที่ตระกูลวู๊ดของคุณได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ คุณคิดว่าดีไหม?"เฟนด์ผงะเมื่อได้ยินคำแนะนำของเธอ “พวกคุณจะไม่ขาดทุนกับแผนนี้เหรอ? ถ้าผมได้รับของมากที่สุดทุกครั้ง พวกคุณจะไม่สามารถชน
เฮเลน่าพยักหน้าก่อนจะเหลือบมองไปยังพวกแลงคาสเตอร์และเตือนพวกเขา “ฉันได้แต่หวังว่าทุกคนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่บอกคนอื่นว่าใครเป็นคนฆ่าเขา เข้าใจไหม? แม้ว่ากฎจะถูกกำหนดไว้แล้วก็เถอะ แต่ก็มันจะยังคงสร้างปัญหาให้เราในอนาคต หากหัวหน้าตระกูลฮันท์รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกชายของเขา”“ไม่ต้องห่วง เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างแน่นอน” สมาชิกทุกคนในตระกูลแลงคาสเตอร์ที่มาร่วมวงรับคำขณะที่พวกเขาตบหน้าอกให้คำปฏิญาณเฮเลน่าคิดถึงเรื่องนี้และขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อหันไปหาเฟนด์ “เฟนด์ จะเป็นยังไงถ้าเราบังเอิญไปเจอกับ นายน้อยลำดับที่หนึ่งตระกูลฮันท์ล่ะ?” เธอพูด “ถ้าเราไม่ได้พบเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเจอเขาเข้าเราก็ต้องสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! ผู้ชายคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับนายน้อยลำดับที่สอง!”เฟนด์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบอย่างเคร่งขรึม “มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น? หากเราไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ได้แต่คิดหาวิธีที่จะกำจัดเขาเท่านั้น เราไม่อาจปล่อยให้เขาฆ่าคนของเราได้ตามใจชอบหรอก!”“ฉันรู้ว่าคุณมีพลังการต่อสู้ที่น่าประทับใจ แต่ฉันก็ยังอดกังวลไม่ได้ ฉันกังวลเกี
อีกสองวันผ่านไป เฟนด์และคนอื่น ๆ ได้พบกับสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ และตระกูลคาเบลโล ระหว่างทาง ซึ่งมันเพิ่มขนาดของกลุ่มพวกเขาขึ้นไปกว่าเดิมเฟนด์ และกลุ่มของเขาไม่จับเชลย เมื่อสมาชิกจากตระกูลฮันต์ ตระกูลเชิร์ช และตระกูลลาโกริโอ มาโจมตีพวกเขา เฟนด์ได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ของข้าวของที่พวกเขาริบจากพวกนั้น ในขณะที่พวกแลงคาสเตอร์ และคาเบลโล ได้รับไปฝ่ายละ 30 เปอร์เซ็นต์...ในขณะนั้น ทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงบนดวงแสงสีน้ำเงินขนาดใหญ่จากภายนอก“คุณเห็นนั่นไหม? คนกลุ่มนั้นต้องมีประมาณสองร้อยคนได้เลยมั้ง? พวกนั้นกำจัดจุดแสงอย่างต่อเนื่องและยังคงเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วย!” ผู้อาวุโสจากตระกูลหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ในตอนนี้ มีคนไม่มากนักที่เคลื่อนไหวเพียงลำพัง พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มที่เกิดจากคนหลายคนหรือหลายสิบคน ยังมีกลุ่มที่เกือบร้อยคนอีก แต่มีเพียงสองกลุ่มเท่านั้นที่มีจำนวนคนที่น่าประทับใจ!”"ใช่แล้วล่ะ ผมสงสัยว่าคนเหล่านี้อยู่ในตระกูลไหน พวกเขารวบรวมคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว! มีกลุ่มแสงอีกกลุ่มหนึ่งที่มีผู้คนจำนวนเยอะไม่แพ้กัน แต่พวกเขายังคงอยู่กับที่และไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ผู้คนจากกลุ่มแส
ภายในโดมนั้น สมาชิกหลายร้อยคนจากตระกูลวู๊ดรู้สึกยินดีเมื่อได้พบกับเฟนด์ และคนอื่น ๆ พวกเขาซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้และกระโดดลงมาเมื่อเห็นเฟนด์และพรรคพวกของเขาเท่านั้น“นี่มันเยี่ยมไปเลย อย่างน้อยก็ยังมีสมาชิกตระกูลวู๊ดรออยู่ที่นี่!” เฟนด์รู้สึกสบายใจเล็กน้อยเมื่อเขาสังเกตเห็นจำนวนอัจฉริยะของตระกูลวู๊ด ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าสมาชิกตระกูลของเขาทั้งหลายแหล่จะถูกสังหารในการสู้รบทว่าสำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลวู๊ดในปัจจุบันก็มีอย่างน้อย 100 คนแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกเขากระจายอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง?ยูลคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามเฟนด์ว่า "พี่เฟนด์ เราควรทำอย่างไรดี? เรายังต้องรออยู่ตรงนี้ต่อไปไหม?”“ใช่ รออีกสักสองวัน เพราะท้ายที่สุดสมาชิกอีกหลายคนจากตระกูลวู๊ดควรจะเดินทางมาถึงที่นี่” เฟนด์ตอบขณะที่เขาตัดสินใจ"พระเจ้า คนของคุณรออยู่ที่นี่เหรอ? พวกคุณเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนไหม? ผมอิจฉาคุณนะ ได้แต่สงสัยว่าตอนนี้สมาชิกในตระกูลของผมจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ใครจะรู้ว่ามีสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ของเรากี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้!” อัจฉริยะจากตระกูลแลงคาสเตอร์และอยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงรู้ส
“เดาว่าคนจากตระกูลเชิร์ชได้กลายเป็นผู้ติดตามที่เชื่อฟังของตระกูลฮันท์ไปเต็มตัวแล้วล่ะ!” เฮเลน่าเหาะขึ้นไปด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตามหลังเฟนด์ไป เพราะรู้ว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายเพียงลำพังในการแข่งขันครั้งนี้ คนเดียวที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสีกันนั้น ก็มีแต่นายน้อยลำดับที่หนึ่งตระกูลฮันท์คลาวด์ ฮันท์แต่เพียงผู้เดียว!“ทุกคนเร็วเข้า เคลื่อนตัวให้เร็วกว่านี้! เร่งมือหน่อย! น่าจะมีสมาชิกของตระกูลวู๊ดอยู่ข้างหน้านี้แน่ เพราะนายน้อยเฟนด์ห้พวกเขารออยู่ที่นั่น เหาะต่อไปกันเถอะ เราจะรอดหากมีสมาชิกของตระกูลวู๊ดอยู่ข้างหน้า!” หญิงสาวที่บินอยู่ข้างหน้ามีทักษะในการต่อสู้ขั้นสูงสุดของระดับกึ่งเทพ มีทักษะในการต่อสู้เช่นนี้ถือได้ว่าน่ายกย่องแต่แขนของเธอเต็มไปด้วยเลือด ในขณะที่หน้าผากมีเหงื่อไหลโทรม เธอหน้าซีดเล็กน้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะทรุดหนักมีคนเจ็ดถึงแปดคนอยู่ข้างหลังเธอ บางคนเป็นพวกแลงคาสเตอร์ ในขณะที่คนอื่น ๆ ที่เหลือมาจากตระกูลวู๊ดที่ตามหลังพวกเขามาคือสมาชิกตระกูลฮันท์กว่า 20 ชีวิต ซึ่งเปิดการโจมตีพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่ง“จับพ
ไอเดนตกตะลึงเล็กน้อยและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน เขาคิดว่าหนึ่งในเพื่อนร่วมกลุ่มของเขาที่วิ่งหนีไปพร้อมกับคนอื่น ๆ หันกลับมาหาเขาเขารู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าคนผู้นี้โง่เขลา ทำอย่างนี้ไม่เท่ากับรนหาที่ตายรึอย่างไร?จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่าร่างที่เข้ามาดูคุ้นเคยและแข็งแกร่งมาก“นายน้อยเฟนด์!” ในไม่ช้าเขาก็จำเฟนด์ได้และความสุขก็เอ่อล้นขึ้น เฟนด์เป็นมีทักษะในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง แม้ว่าเฟนด์จะไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ใด ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างเฟนด์ที่จะรับมือกับการโจมตีจากคนในขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพได้ตู้ม!แน่นอนว่าหลังจากเกิดเสียงระเบิดที่น่ากลัว เฟนด์ได้ทำลายหมัดพลังฉีจากอีกฝ่ายให้กลายเป็นเถ้าถ่านอย่างง่ายดาย“แ*งเอ๊ย*! นั่นใครวะ?" เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สมาชิกจากตระกูลเชิร์ชตกใจกลัวจนหยุดไล่ตามฝ่ายตรงข้ามทันทีสมาชิกของตระกูลวู๊ด และตระกูลแลงคาสเตอร์ที่หนีเอาชีวิตรอดก็หยุดลงเพราะพยายามกลั้นหายใจเช่นกัน“ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นนายน้อยของตระกูลวู๊ดนะ!” อัจฉริยะคนหนึ่งจากตระกูลเชิร์ชขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขายังคงมืดมนหลังจากที่
“นายน้อยวู๊ด ที่นั่นมีคู่ต่อสู้มากมาย อีกอย่างนายน้อยของเราก็ยังอยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง และพวกเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้ามาปิดล้อมเขาด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะตระกูลลาโกริโอมีสมาชิกในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงถึงสามคน และในพวกเขาก็มีไม่กี่คนที่อยู่ในขั้นต้นของระดับเทพแท้จริง ฉันเองไม่รู้ว่านายน้อยของเราจะอดทนได้นานแค่ไหน!”บนดาบบิน หญิงสาวจากตระกูลแลงคาสเตอร์แสดงความกังวลของเธอ เธอประทับใจกับการที่เฟนด์ กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือนายน้อยของเธอ แต่มันคงหุนหันผลันแล่นเกินไปสำหรับเขาที่จะเร่งรัดไปเพียงลำพัง"ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง เราจะเสียเวลาถ้าพาคนอื่นมาด้วย ผมเกรงว่าหากเรายังช้าไปกว่านี้อีก นายน้อยของคุณอาจจะเสร็จพวกมันไปแล้ว!”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น หลังจากบินไปได้สักพัก เสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้น“อยู่ทางนั้นใช่ไหม?”เฟนด์ชี้ไปยังทิศทางของเสียง"ใช่ เราเกือบจะถึงแล้ว!”หญิงสาวผงกศีรษะ พลางเหลือบมองเฟนด์อย่างมีเลศนัย เขาดูมั่นใจมากเกินไป ราวกับว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะเหนือกว่าคนอื่น ๆ มาก“นายน้อย เราจบเห่แล้ว เราตายแน่!”ผู้คนที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางยังคงต่อสู้เพื่อเอาชีว
“นายน้อย ดูนั่น ดูสิ! มีคนกำลังมา!”ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งจากตระกูลแลงคาสเตอร์ก็สังเกตเห็นคนสองคนยืนอยู่บนยอดดาบบินซึ่งกำลังพุ่งตรงเข้าหาพวกเขาหัวใจของแรนดัลล์เต้นรัวด้วยความคาดหวังเมื่อเขาได้ยินว่ามีคนกำลังมา เมื่อเขาเห็นว่ามีเพียงสองคน รอยยิ้มของเขาก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นทันที แค่สองคนจะทำอะไรได้?“บางทีพวกเขาอาจจะแค่ผ่านไป!”แรนดัลล์ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่โชคร้าย“นั่น… นั่นคือนายน้อยวู๊ด!”ชายอีกคนจำเฟนด์ได้อย่างรวดเร็ว เขาดูท่าทางดีใจ"จริง ๆ เหรอ? เยี่ยมมาก เขาอยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง!”เมื่อเขาได้ยินว่านั่นคือเฟนด์ อารมณ์ที่ขุ่นมัวของแรนดัลล์ก็สลายกลายเป็นความตื่นเต้นในทันที“เขามีดาบบิน ถ้ามันพาเขาเข้ามาได้ เราอาจจะใช้มันหนีได้ คงจะดีมากหากพวกเราจะหนีไปได้สักครึ่งหนึ่ง!”หลังจากคิดเรื่องนี้ ผู้หญิงอีกคนมีความหวังขึ้นมา มุมปากของชายจากตระกูลเชิร์ชกระตุกเล็กน้อย “เขากล้ามาที่นี่จริงหรือ?”ตอนนั้นเองทีเขาหมัดและขว้างไปที่เฟนด์ “แต่ก็คงไม่พ้นต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นั่นแหละ เพราะมาแค่คนเดียว นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราเลยล่ะ ที่จะได้ฆ่าแก!”กำ