แชร์

บทที่ 1378

ผู้เขียน: โมเนโต้
ทุกคนพักผ่อนด้วยกันในคืนนี้เพื่อความปลอดภัย เฟนด์ไม่ให้ยูลและคนอื่น ๆ เดินทางเพียงลำพัง เมื่อสมาชิกของตระกูลคาเบลโลมารวมกัน ก็ทำให้มีกันราว 70 ถึง 80 คนทีเดียว และพวกเขาทั้งหมดยังคงเดินทางต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทุกคนรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขาเพื่อค้นหาแผ่นป้าย จากนั้นพวกเขาก็แยกจากกัน แม้ว่าจะไม่ไกลกันนัก ก่อนจะค่อย ๆ เดินทางไปที่ตีเขาของภูเขาโกเบ

ต้องบอกว่ามีสิ่งของล้ำค่ามากมายในแหวนยุทธของนายน้อยฮันท์ นอกจากแผ่นป้ายจำนวนมากแล้ว เฟนด์ ยังได้รับหญ้าวิญญาณจำนวนมากพอดู แต่นี่ไม่ใช่ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับเขา สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือมีเตาปรุงยาที่ดีและยารักษาโรคอีกสองสามอย่างในแหวนยุทธของไทเรลด้วย

ยาเม็ดบางชนิดนั้นเป็นยาเม็ดระดับสอง สิ่งนี้ทำให้เฟนด์ตื่นเต้นอย่างมากเนื่องจากเขาไม่รู้วิธีปรุงยาเม็ดระดับสองนี้ และเขากังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองจะสามารถทำได้ในอนาคต เขาไม่เคยคิดว่าหลังจากสังหารไทเรลแล้วเขาจะได้รับสิ่งของมีค่ามากมายอย่างนี้

แน่นอน เฟนด์หยิบสิ่งเหล่านี้ออกมาและใส่ไว้ในแหวนยุทธของเขาก่อนที่จะโยนแหวนยุทธของนายน้อยลำดับที่สองตระกูลฮันท์ทิ้งไป คงลำบากหากตระกูลฮันต์พบว่าแห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1379

    หนุ่มน้อย เราเป็นสมาชิกของตระกูลฮันท์นะ ตระกูลวู๊ดคิดจะต่อต้านตระกูลฮันท์ของเรารึไง?” ชายจากตระกูลฮันท์หันกลับมามองพวกเขาก่อนที่จะพูดอย่างเย่อหยิ่ง “เราเป็นคนเจอคนตระกูลแลงคาสเตอร์ก่อน พวกแกอยากมีปัญหาเพิ่มอีกกลุ่มไหมล่ะ?”“นายเพิ่งบอกว่านี่คือกฎ แถมยังได้รับอนุญาตให้ฆ่าได้ตามต้องการด้วย! สมาชิกของตระกูลฮันท์กำลังเล่นสนุกและถือไพ่เหนือกว่าอยู่ด้วยงั้นสินะ” ด้วยการพลิกมือ เฟนด์หยิบดาบของเขาออกมาชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!สมาชิกของตระกูลวู๊ด และตระกูลคาเบลโล บินไปล้อมฝ่ายตรงข้ามทันที"สุดยอด! ตระกูลวู๊ดน่าทึ่งมาก!”"ใช่ ไม่เคยคิดว่าพวกคาเบลโลจะช่วยเราด้วยซ้ำ!” ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงพวกแลงคาสเตอร์อยู่ในภาวะสิ้นหวัง พวกเขามีจำนวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย และพวกเขาสู้พวกฮันท์ที่มีทักษะในการต่อสู้สูงกว่าไม่ได้พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจุดเปลี่ยนของพวกเขาจะมาถึงเร็วอย่างนี้“พวกแกต้องคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบนะ สิ่งที่แกกำลังทำคือการดูหมิ่นตระกูลฮันท์ และพวกแกกำลังตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลฮันท์!” ชายจากตระกูลฮันท์ตกใจมากจนเสียงของเขาสั่น เมื่อเขาเห็นเฟนด์และคนอื่น ๆ เริ่มลงมือ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นที่ไห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1380

    “การล่าสังหารคนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง หลังจากที่เราออกจากที่นี่ไปได้ ผมจะแจ้งให้หัวหน้าตระกูลทราบอย่างแน่นอน!” ชายจากตระกูลแลงคาสเตอร์คำรามในขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะนั้น ตระกูลวู๊ด และตระกูลคาเบลโลได้รวบรวมแหวนยุทธทั้งหมดขึ้นมา“เราควรจัดสรรของพวกนี้ยังไงดี?” เฟนด์ขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เฮเลน่าเฮเลน่าขมวดคิ้วเข้าหากันโดยไม่รู้ว่าจะแจกจ่ายสิ่งของที่พวกเขามีอย่างไรพวกแลงคาสเตอร์ก้าวไปข้างหน้าทันทีและพูดอย่างถ่อมตนว่า “เพื่อแทบคำขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้ เราจะไม่ขอรับของพวกนี้ ดังนั้นพวกคุณก็แค่แจกจ่ายกันเอาเองเถอะ!”เฮเลน่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เอาแบบนี้ไหมเฟนด์ ครั้งนี้พวกคุณได้หกสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนพวกเราคาเบโลจะรับแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ในอนาคต เรามาเป็นพันธมิตรกับพวกแลงคาสเตอร์กันเถอะ ตระกูลของฉันและตระกูลแลงคาสเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งคนละ 30 เปอร์เซ็นต์ในอนาคต ในขณะที่ตระกูลวู๊ดของคุณได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ คุณคิดว่าดีไหม?"เฟนด์ผงะเมื่อได้ยินคำแนะนำของเธอ “พวกคุณจะไม่ขาดทุนกับแผนนี้เหรอ? ถ้าผมได้รับของมากที่สุดทุกครั้ง พวกคุณจะไม่สามารถชน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1381

    เฮเลน่าพยักหน้าก่อนจะเหลือบมองไปยังพวกแลงคาสเตอร์และเตือนพวกเขา “ฉันได้แต่หวังว่าทุกคนจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและไม่บอกคนอื่นว่าใครเป็นคนฆ่าเขา เข้าใจไหม? แม้ว่ากฎจะถูกกำหนดไว้แล้วก็เถอะ แต่ก็มันจะยังคงสร้างปัญหาให้เราในอนาคต หากหัวหน้าตระกูลฮันท์รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกชายของเขา”“ไม่ต้องห่วง เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างแน่นอน” สมาชิกทุกคนในตระกูลแลงคาสเตอร์ที่มาร่วมวงรับคำขณะที่พวกเขาตบหน้าอกให้คำปฏิญาณเฮเลน่าคิดถึงเรื่องนี้และขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อหันไปหาเฟนด์ “เฟนด์ จะเป็นยังไงถ้าเราบังเอิญไปเจอกับ นายน้อยลำดับที่หนึ่งตระกูลฮันท์ล่ะ?” เธอพูด “ถ้าเราไม่ได้พบเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเจอเขาเข้าเราก็ต้องสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! ผู้ชายคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับนายน้อยลำดับที่สอง!”เฟนด์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบอย่างเคร่งขรึม “มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น? หากเราไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ได้แต่คิดหาวิธีที่จะกำจัดเขาเท่านั้น เราไม่อาจปล่อยให้เขาฆ่าคนของเราได้ตามใจชอบหรอก!”“ฉันรู้ว่าคุณมีพลังการต่อสู้ที่น่าประทับใจ แต่ฉันก็ยังอดกังวลไม่ได้ ฉันกังวลเกี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1382

    อีกสองวันผ่านไป เฟนด์และคนอื่น ๆ ได้พบกับสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ และตระกูลคาเบลโล ระหว่างทาง ซึ่งมันเพิ่มขนาดของกลุ่มพวกเขาขึ้นไปกว่าเดิมเฟนด์ และกลุ่มของเขาไม่จับเชลย เมื่อสมาชิกจากตระกูลฮันต์ ตระกูลเชิร์ช และตระกูลลาโกริโอ มาโจมตีพวกเขา เฟนด์ได้รับ 40 เปอร์เซ็นต์ของข้าวของที่พวกเขาริบจากพวกนั้น ในขณะที่พวกแลงคาสเตอร์ และคาเบลโล ได้รับไปฝ่ายละ 30 เปอร์เซ็นต์...ในขณะนั้น ทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงบนดวงแสงสีน้ำเงินขนาดใหญ่จากภายนอก“คุณเห็นนั่นไหม? คนกลุ่มนั้นต้องมีประมาณสองร้อยคนได้เลยมั้ง? พวกนั้นกำจัดจุดแสงอย่างต่อเนื่องและยังคงเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วย!” ผู้อาวุโสจากตระกูลหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ในตอนนี้ มีคนไม่มากนักที่เคลื่อนไหวเพียงลำพัง พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มที่เกิดจากคนหลายคนหรือหลายสิบคน ยังมีกลุ่มที่เกือบร้อยคนอีก แต่มีเพียงสองกลุ่มเท่านั้นที่มีจำนวนคนที่น่าประทับใจ!”"ใช่แล้วล่ะ ผมสงสัยว่าคนเหล่านี้อยู่ในตระกูลไหน พวกเขารวบรวมคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว! มีกลุ่มแสงอีกกลุ่มหนึ่งที่มีผู้คนจำนวนเยอะไม่แพ้กัน แต่พวกเขายังคงอยู่กับที่และไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ผู้คนจากกลุ่มแส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1383

    ภายในโดมนั้น สมาชิกหลายร้อยคนจากตระกูลวู๊ดรู้สึกยินดีเมื่อได้พบกับเฟนด์ และคนอื่น ๆ พวกเขาซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้และกระโดดลงมาเมื่อเห็นเฟนด์และพรรคพวกของเขาเท่านั้น“นี่มันเยี่ยมไปเลย อย่างน้อยก็ยังมีสมาชิกตระกูลวู๊ดรออยู่ที่นี่!” เฟนด์รู้สึกสบายใจเล็กน้อยเมื่อเขาสังเกตเห็นจำนวนอัจฉริยะของตระกูลวู๊ด ก่อนหน้านี้เขากลัวว่าสมาชิกตระกูลของเขาทั้งหลายแหล่จะถูกสังหารในการสู้รบทว่าสำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลวู๊ดในปัจจุบันก็มีอย่างน้อย 100 คนแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกเขากระจายอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง?ยูลคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามเฟนด์ว่า "พี่เฟนด์ เราควรทำอย่างไรดี? เรายังต้องรออยู่ตรงนี้ต่อไปไหม?”“ใช่ รออีกสักสองวัน เพราะท้ายที่สุดสมาชิกอีกหลายคนจากตระกูลวู๊ดควรจะเดินทางมาถึงที่นี่” เฟนด์ตอบขณะที่เขาตัดสินใจ"พระเจ้า คนของคุณรออยู่ที่นี่เหรอ? พวกคุณเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนไหม? ผมอิจฉาคุณนะ ได้แต่สงสัยว่าตอนนี้สมาชิกในตระกูลของผมจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ใครจะรู้ว่ามีสมาชิกจากตระกูลแลงคาสเตอร์ของเรากี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้!” อัจฉริยะจากตระกูลแลงคาสเตอร์และอยู่ในขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงรู้ส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1384

    “เดาว่าคนจากตระกูลเชิร์ชได้กลายเป็นผู้ติดตามที่เชื่อฟังของตระกูลฮันท์ไปเต็มตัวแล้วล่ะ!” เฮเลน่าเหาะขึ้นไปด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตามหลังเฟนด์ไป เพราะรู้ว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายเพียงลำพังในการแข่งขันครั้งนี้ คนเดียวที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสีกันนั้น ก็มีแต่นายน้อยลำดับที่หนึ่งตระกูลฮันท์คลาวด์ ฮันท์แต่เพียงผู้เดียว!“ทุกคนเร็วเข้า เคลื่อนตัวให้เร็วกว่านี้! เร่งมือหน่อย! น่าจะมีสมาชิกของตระกูลวู๊ดอยู่ข้างหน้านี้แน่ เพราะนายน้อยเฟนด์ห้พวกเขารออยู่ที่นั่น เหาะต่อไปกันเถอะ เราจะรอดหากมีสมาชิกของตระกูลวู๊ดอยู่ข้างหน้า!” หญิงสาวที่บินอยู่ข้างหน้ามีทักษะในการต่อสู้ขั้นสูงสุดของระดับกึ่งเทพ มีทักษะในการต่อสู้เช่นนี้ถือได้ว่าน่ายกย่องแต่แขนของเธอเต็มไปด้วยเลือด ในขณะที่หน้าผากมีเหงื่อไหลโทรม เธอหน้าซีดเล็กน้อย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะทรุดหนักมีคนเจ็ดถึงแปดคนอยู่ข้างหลังเธอ บางคนเป็นพวกแลงคาสเตอร์ ในขณะที่คนอื่น ๆ ที่เหลือมาจากตระกูลวู๊ดที่ตามหลังพวกเขามาคือสมาชิกตระกูลฮันท์กว่า 20 ชีวิต ซึ่งเปิดการโจมตีพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่ง“จับพ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1385

    ไอเดนตกตะลึงเล็กน้อยและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน เขาคิดว่าหนึ่งในเพื่อนร่วมกลุ่มของเขาที่วิ่งหนีไปพร้อมกับคนอื่น ๆ หันกลับมาหาเขาเขารู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าคนผู้นี้โง่เขลา ทำอย่างนี้ไม่เท่ากับรนหาที่ตายรึอย่างไร?จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่าร่างที่เข้ามาดูคุ้นเคยและแข็งแกร่งมาก“นายน้อยเฟนด์!” ในไม่ช้าเขาก็จำเฟนด์ได้และความสุขก็เอ่อล้นขึ้น เฟนด์เป็นมีทักษะในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง แม้ว่าเฟนด์จะไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ใด ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างเฟนด์ที่จะรับมือกับการโจมตีจากคนในขั้นสุดท้ายของระดับกึ่งเทพได้ตู้ม!แน่นอนว่าหลังจากเกิดเสียงระเบิดที่น่ากลัว เฟนด์ได้ทำลายหมัดพลังฉีจากอีกฝ่ายให้กลายเป็นเถ้าถ่านอย่างง่ายดาย“แ*งเอ๊ย*! นั่นใครวะ?" เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สมาชิกจากตระกูลเชิร์ชตกใจกลัวจนหยุดไล่ตามฝ่ายตรงข้ามทันทีสมาชิกของตระกูลวู๊ด และตระกูลแลงคาสเตอร์ที่หนีเอาชีวิตรอดก็หยุดลงเพราะพยายามกลั้นหายใจเช่นกัน“ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นนายน้อยของตระกูลวู๊ดนะ!” อัจฉริยะคนหนึ่งจากตระกูลเชิร์ชขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขายังคงมืดมนหลังจากที่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1386

    “นายน้อยวู๊ด ที่นั่นมีคู่ต่อสู้มากมาย อีกอย่างนายน้อยของเราก็ยังอยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง และพวกเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้ามาปิดล้อมเขาด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะตระกูลลาโกริโอมีสมาชิกในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงถึงสามคน และในพวกเขาก็มีไม่กี่คนที่อยู่ในขั้นต้นของระดับเทพแท้จริง ฉันเองไม่รู้ว่านายน้อยของเราจะอดทนได้นานแค่ไหน!”บนดาบบิน หญิงสาวจากตระกูลแลงคาสเตอร์แสดงความกังวลของเธอ เธอประทับใจกับการที่เฟนด์ กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือนายน้อยของเธอ แต่มันคงหุนหันผลันแล่นเกินไปสำหรับเขาที่จะเร่งรัดไปเพียงลำพัง"ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง เราจะเสียเวลาถ้าพาคนอื่นมาด้วย ผมเกรงว่าหากเรายังช้าไปกว่านี้อีก นายน้อยของคุณอาจจะเสร็จพวกมันไปแล้ว!”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น หลังจากบินไปได้สักพัก เสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้น“อยู่ทางนั้นใช่ไหม?”เฟนด์ชี้ไปยังทิศทางของเสียง"ใช่ เราเกือบจะถึงแล้ว!”หญิงสาวผงกศีรษะ พลางเหลือบมองเฟนด์อย่างมีเลศนัย เขาดูมั่นใจมากเกินไป ราวกับว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะเหนือกว่าคนอื่น ๆ มาก“นายน้อย เราจบเห่แล้ว เราตายแน่!”ผู้คนที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางยังคงต่อสู้เพื่อเอาชีว

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status