Share

บทที่ 1387

Author: โมเนโต้
“นายน้อย ดูนั่น ดูสิ! มีคนกำลังมา!”

ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งจากตระกูลแลงคาสเตอร์ก็สังเกตเห็นคนสองคนยืนอยู่บนยอดดาบบินซึ่งกำลังพุ่งตรงเข้าหาพวกเขา

หัวใจของแรนดัลล์เต้นรัวด้วยความคาดหวังเมื่อเขาได้ยินว่ามีคนกำลังมา เมื่อเขาเห็นว่ามีเพียงสองคน รอยยิ้มของเขาก็ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นทันที แค่สองคนจะทำอะไรได้?

“บางทีพวกเขาอาจจะแค่ผ่านไป!”

แรนดัลล์ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่โชคร้าย

“นั่น… นั่นคือนายน้อยวู๊ด!”

ชายอีกคนจำเฟนด์ได้อย่างรวดเร็ว เขาดูท่าทางดีใจ

"จริง ๆ เหรอ? เยี่ยมมาก เขาอยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง!”

เมื่อเขาได้ยินว่านั่นคือเฟนด์ อารมณ์ที่ขุ่นมัวของแรนดัลล์ก็สลายกลายเป็นความตื่นเต้นในทันที

“เขามีดาบบิน ถ้ามันพาเขาเข้ามาได้ เราอาจจะใช้มันหนีได้ คงจะดีมากหากพวกเราจะหนีไปได้สักครึ่งหนึ่ง!”

หลังจากคิดเรื่องนี้ ผู้หญิงอีกคนมีความหวังขึ้นมา

มุมปากของชายจากตระกูลเชิร์ชกระตุกเล็กน้อย “เขากล้ามาที่นี่จริงหรือ?”

ตอนนั้นเองทีเขาหมัดและขว้างไปที่เฟนด์ “แต่ก็คงไม่พ้นต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่นั่นแหละ เพราะมาแค่คนเดียว นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราเลยล่ะ ที่จะได้ฆ่าแก!”

กำ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1388

    เฟนด์อยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริง แต่ในขณะนั้น ชายจากตระกูลเชิร์ชรู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริง นั่นเป็นแรงกดดันมหาศาลจากมุมมองของผู้ยืนดู ทั้งสองใช้การโจมตีขั้นพื้นฐานสุด ๆ แต่เขากลับพ่ายแพ้อย่างเทียบไม่ติด“ไอ้บ้านี้แข็งแกร่งมา ผมจะช่วยคุณฆ่าเขา พวกที่เหลือไปฆ่าสมาชิกตระกูลแลงคาสเตอร์กับตระกูลวู๊ดซะ แรนดัลล์และคนอื่น ๆ บาดเจ็บสาหัส พวกเขาคงยืนอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว!”ชายอีกคนหนึ่งจากตระกูลเชิร์ช ซึ่งอยู่ในขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงสัมผัสได้ว่าเฟนด์น่ากลัวเพียงใด เขาบินอยู่ข้างสหายของเขา“ไปพักข้าง ๆ ก่อน!”เฟนด์หันไปมองหญิงสาวจากตระกูลคาสเตอร์ที่อยู่ข้างหลัง แล้วบอกเธอ"เข้าใจแล้ว!"หญิงสาวผงะเล็กน้อย แต่ก็เป็นความจริงที่เธอบาดเจ็บหนักและใช้พลังฉีไปเกือบหมด เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะบินไปด้านข้างและหยิบศิลาวิญญาณชิ้นเล็ก ๆ ออกมา เพื่อดูดซับพลังฉีจากพวกมันเพื่อเติมเต็มให้กับตัวเธอเองเฟนด์ย่อดาบบินให้เหลือขนาดปกติและพันนิ้วกำรอบดาบ “ฉันคิดว่านายคงอายุไม่ยืนหรอก!”“หึ.. มีเราสองคนนะ ไอ้สมองนิ่ม เราก็แค่ต้องอยู่ให้นานพอที่คนของเราจะฆ่า

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1389

    "มหัศจรรย์ ฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลย!"วิญญาณของแรนดัลล์ฟื้นกลับทันทีที่เขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อนักสู้สองคนของพวกนั้นตาย ข้างคู่ต่อสู้มีเพียงหนึ่งคนที่อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น และเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน คราวนี้พวกเขาสามารถพลิกเกมส์ได้แล้ว!"ไม่มีทาง หากเป็นอย่างนี้ แผนของเราก็พัหมด!”ชายจากตระกูลลาโกริโอซึ่งอยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเห็นว่านักสู้ขั้นกลางอีกสองคนสู้กับเฟนด์ไม่ได้แม้แต่น้อย แถมยังถูกฆ่าตายอีก จู่ ๆ เขาก็รู้สึกกลัวและสังเกตเห็นว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรนั้นค่อย ๆ จางลง เขากัดฟันกรอดแล้วหันหลังเตรียมหนีแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อเขาหันหลังไปอีกด้าน เขาจะได้เห็นว่าเฟนด์ยืนอยู่ต่อหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้าง“นายน้อยเฟนด์ ตระกูลลาโกริโอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลวู๊ดมาก่อน ถึงจะมีความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายหญิงลิลลี่ แต่คุณก็ไม่ควรลืมมิตรภาพของเราก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และเขาพูดกับเฟนด์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“มิตรภาพของเราก่อนหน้านี้งั้นเหรอ?”เเฟนเกือบคิดว่ามันตลก เขาชี้ไปที่ศพของสมาชิกตระกูลวู๊ด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1390

    “ฮ่า คุณโลภเกินไป!”แรนดัลล์หัวเราะ “ผมพอใจที่เราได้ฆ่าพวกมันไปมากมายแล้ว เราคงตายแน่ถ้าคุณมาช้าเกินไป!”"ใช่ ขอบคุณพระเจ้าที่คุณมา นายน้อยเฟนด์ ไม่งั้นเราคงนอนตัวเย็นอยู่บนพื้นแทนพวกนั้น พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าเราจะตาย!”อัจฉริยะจากตระกูลวู๊ดมีสีหน้าโล่งใจ"เอาล่ะ เราจะสะสางความยุ่งเหยิงก่อน จากนั้นผมจะใช้ดาบบินของผมพาพวกคุณไปยังที่ที่ตระกูลวู๊ด ตระกูลคาเบลโล และสมาชิกตระกูลแลงคาสเตอร์รวมตัวกันอยู่!”เฟนด์ยิ้มและบอกทุกคน“ตระกูลแลงคาสเตอร์เหรอ? มีพวกเขาอยู่กันมากแค่ไหน?”ดวงตาของแรนดัลล์เป็นประกายเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเขาก็เต้นรัวด้วยความปิติ“ไม่มากเท่าไหร่! พวกเขากำลังรออยู่ในป่าที่เชิงเขา!”เฟนด์ตอบพร้อมพยักหน้า“ทุกคน มาเร็ว!”แรนดัลล์สั่งให้สมาชิกในตระกูลของเขาเข้ามาใกล้ และเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฟนด์ “ขอบคุณนายน้อยเฟนด์ ที่ช่วยเราไว้ เราจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำเพื่อเราแน่!”“ขอบคุณนายน้อยเฟนด์ คุณมีบุญคุณกับเราอย่างที่สุด!”อัจฉริยะคนอื่น ๆ จากตระกูลแลงคาสเตอร์ต่างก็คุกเข่าลงและสรรเสริญเฟนด์"ลุกขึ้น! พวกคุณกำลังทำให้ฉันต้องอาย!”เฟนด์พูดไม่ออกอยู่ลึก ๆ เขาร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1391

    "เอาล่ะ เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้ว” แรนดัลล์ประกาศ “ต่อจากนี้ไปคุณคือพี่ใหญ่ของผม!”"ก็ได้ ไปกันเถอะ น้องชายแรนดัลล์!”เมื่อเห็นว่าทุกคนเก็บของที่ริบมาจากการต่อสู้เสร็จแล้ว เฟนด์ก็โยนดาบของเขาไปข้างหน้า มันขยายขนาดขึ้นทันทีและลอยต่อหน้าทุกคน"ไปกันเถอะ เราจะได้พักเมื่อไปถึงที่ที่คนอื่นอยู่!”แรนดัลล์และคนอื่น ๆ กระโดดขึ้นไปบนดาบก่อนจะทรงตัวยืนบนมัน “นี่เป็นดาบที่น่าทึ่งมาก พี่ใหญ่เฟนด์ มันสามารถบินได้และใช้เป็นอาวุธได้ด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มพลังในการต่อสู้ของพี่ใหญ่ได้ดีนะ อย่างน้อยมันก็ต้องเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลาง ใช่ไหม?”ก่อนที่เฟนด์จะได้ตอบ หญิงสาวคนหนึ่งจากตระกูลวู๊ดก็ตัดบทขึ้นมาอย่างภูมิใจว่า “นายน้อยแรนดัลล์ ครั้งนี้คุณเดาผิดแล้วล่ะ ดาบบินของนายน้อยเฟนด์ไม่ใช่อาวุธวิญญาณระดับกลาง แต่เป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด!”“โอ้พระเจ้า ระดับสุดยอด?”แรนดัลล์และคนอื่น ๆ ต่างสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ สงสัยว่าพวกเขาได้ยินเธอพูดผิดไปหรือเปล่า พวกเขาได้ยินมาว่ามีเพียงตระกูลฮันท์เท่านั้นที่มีอาวุธระดับนั้นหนิ พวกเขาไม่คิดเลยว่าเฟนด์จะมีสมบัติเช่นนี้ด้วยเฟนด์พยกหน้านิ่ง ๆ เมื่อเห็นสีหน้าตะลึงง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1392

    "ไม่มีทาง ฉันฟังผิดไปหรือเปล่าเนี่ย? คุณ คุณเต็มใจที่จะเป็นน้องชายคนเล็กของเขางั้นเหรอ?”เฮเลน่าตกตะลึง นี่คือลูกชายของนายท่านแลงคาสเตอร์ ผู้ซึ่งมีอำนาจและมีตำแหน่งสำคัญ อีกอย่าง ในบรรดาตระกูลลึกลับทั้งแปด ตระกูลแลงคาสเตอร์ก็อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลคาเบลโล ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“คุณพูดเรื่องอะไร? เราเป็นพี่น้องกัน ไม่สำคัญว่าจะเป็น พี่ใหญ่ หรือ น้องเล็ก!”ริมฝีปากของเฟนด์หยักเป็นรอยยิ้มแห้ง ๆ ตอนที่เขาอธิบายอย่างรีบร้อน“หึ.. ยังไงก็ตาม พี่ใหญ่ ผมจะฟังทุกอย่างที่พี่พูด!”แรนดัลล์หัวเราะเบา ๆ และทุบหน้าอกของเขา “ไม่ว่ายังไงก็ตาม พี่ช่วยชีวิตผมไว้พี่ใหญ่ ดังนั้นผมจะอุทิศชีวิตให้พี่!”"เอาล่ะ พวกคุณทุกคนควรพักดีสักสองวัน อีกไม่นานเกินรอการแข่งขันจะสิ้นสุดลง เมื่อพวกคุณพักฟื้นหายดีแล้ว เรายังมีเวลาที่จะขึ้นไปบนภูเขา!”เฟนด์ตัดสินใจในขณะที่มองดูคนอื่น ๆทุกคนกระโดดลงมาจากดาบบินทีละคน บางคนหยิบโอสถออกมาและเริ่มรักษาตัวเองขณะนั่งลงบนพื้น ในขณะที่คนอื่นๆ หยิบหญ้าวิญญาณหรือหินวิญญาณออกมาและเริ่มดูดซับพลังฉีเพื่อเติมเต็มพลังให้กับตนเอง“ที่นี่มีคนเยอะมาก โดยเฉพ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1393

    ในที่สุดทั้งสองก็เข้าสู่ขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงได้ แต่เฟนด์ก็บุกทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางได้แล้ว ระดับพลังยุทธของเขาเหนือกว่าพวกเขามาก ทักษะการต่อสู้ของเขาจะไม่ยิ่งกว่าเหรอ? ความจริงเรื่องนี้ทำให้พวกเขายอมจำนนต่อเขาอย่างสมบูรณ์“สัตว์อสูรนั่นหนังหนามาก เราสองคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”ลีอาห์พูดอย่างสิ้นหวังขณะที่เธอต่อสู้กับงูเหลือม “ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวนี้จะไม่ได้อยู่ขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงแล้ว เมื่อไม่นานมานี้มันน่าจะเข้าสู่ขั้นกลางแล้ว!”"คุณพูดถูก เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแม้ว่าเราสองคนจะรวมพลังกันก็ตาม ให้ตายสิ ฉันสงสัยว่านายน้อยเฟนด์จะมาถึงจุดนัดแล้วหรือยัง! ถ้าเขาไม่อยู่ที่นั่น เราอาจจะทำร้ายสมาชิกตระกูลวู๊ดมากกว่าด้วยการพามันไปที่นั่น!”มาร์ตินคิดเกี่ยวกับมันอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาก็มืดลง ในใจเขาเต็มไปด้วยความกังวลลีอาห์หัวเราะแห้ง ๆ "คุณพูดถูก แล้วเราจะทำยังไงกันดี? เราจะทำให้มันอันตรายมากขึ้น ถ้าสมาชิกในตระกูลวู๊ดที่รออยู่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับกึ่งเทพ”“เรายังไม่รู้ว่าเบธกับคนอื่น ๆ อยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า เรายังมีผู้ฝึกยุทธสองสามคนที่อยู่ในขั้นต้นระดับเทพแท้จริง แต่เรา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1394

    “พรวด!” ลีอาห์ถูกกระแทกจนล้มลง และของเหลวสีแดงอุ่น ๆ ก็พุ่งออกมาจากปาก ใบหน้าของเธอซีดเผือดทันทีถึงอย่างนั้นเธอก็ยังกัดฟันทนเตรียมที่จะต่อสู้ต่อไป ไอ้งูเหลือมเวรนั่น! ก่อนหน้านี้มันฆ่าคนจากตระกูลวู๊ดไปหลายคน ตระกูลวู๊ดต้องการฆ่าสัตว์อสูรตัวนี้มานานแล้ว เมื่อเห็นมาร์ตินได้รับบาดเจ็บเพราะมัน ทำให้ลีอาห์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้นไปอีก “ลีอาห์ อย่าสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้อีกเลย! หนังของมันแข็งแกร่งเกินกว่าจะเจาะทะลุได้! อีกไม่นาน นายน้อยเฟนด์จะมาถึงและจัดการมัน!”ทันทีที่มาร์ตินเห็นว่าลีอาห์ยืนขึ้น แล้ววางแผนที่จะโจมตีและต่อสู้อีกครั้ง เขาก็เหาะไปด้านข้างของเธอและแนะนำเธอฟ่อออ! อย่างไรก็ตาม งูเหลือมยักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บอีกรอบ ครั้งนี้กลับยิ่งโกรธมากขึ้นอีก หลังจากส่งเสียงคำราม มันก็พุ่งตรงไปทางลีอาห์กับมาร์ติน “ตายซะ เจ้าสัตว์อสูร!” จู่ ๆ เงาหนึ่งก็พุ่งเคลื่อนตัวมาถึงที่เกิดเหตุ ในที่สุดเฟนด์ก็มาถึง เขากำหมัด พลังฉีหนาแน่นล้อมรอบหมัดของเขาไว้อย่างสมบูรณ์ ในพริบตา เขาก็มายืนข้าง ๆ งูเหลือมยักษ์และชกหมัดของเขาใส่มันตรง ๆ ปัง! เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วอวกาศ ร่าง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1395

    “นายน้อยเฟนด์คุณแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมาก!” ลีอาห์ก็เหาะไปรวมกลุ่มและมองเฟนด์ด้วยสีหน้าอิจฉา “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเลยล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของคุณ อย่างน้อยคุณคงอยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นสุดท้ายหรืออาจจะอยู่ขั้นสูงสุดแล้วด้วยซ้ำ!”“เธอพูดถูก! ไอ้หมอนี่ ถ้าเขาทะลวงไปสู่ขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้ว ฉันคิดว่าแม้แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งบางคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก็คงจะกลัวเขา!” มาร์ตินรู้สึกอิจฉาเฟนด์ “ฉันนึกถึงอดีตตอนที่ฉันเคยดูถูกคุณ เฮ้อ ฉันละอายใจจัง ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลยด้วยซ้ำ! เฮ้อ! ฉันคงต้องยอมรับใช่ไหม?” เขาคิดถึงอดีตและอดสงสารตัวเองไม่ได้ “ฮ่าฮ่า พวกคุณสองคน หยุดชื่นชมผมได้แล้ว!” เฟนด์ยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็โบกมือ โอสถสมานแผลสองเม็ดก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา "รับมันไปสิ พวกคุณดูบาดเจ็บหนัก!” “ฮ่า ๆ ขอบคุณมาก นายน้อยเฟนด์ที่รักของพวกเรา!” ทั้งสองหัวเราะอย่างเขินอายและรับโอสถที่เฟนด์เสนอให้ จากนั้นพวกเขาก็กลืนยาลงไป หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที มาร์ตินก็สัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพของโอสถสมานแผน และรู้สึ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status