"มหัศจรรย์ ฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลย!"วิญญาณของแรนดัลล์ฟื้นกลับทันทีที่เขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อนักสู้สองคนของพวกนั้นตาย ข้างคู่ต่อสู้มีเพียงหนึ่งคนที่อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น และเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน คราวนี้พวกเขาสามารถพลิกเกมส์ได้แล้ว!"ไม่มีทาง หากเป็นอย่างนี้ แผนของเราก็พัหมด!”ชายจากตระกูลลาโกริโอซึ่งอยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเห็นว่านักสู้ขั้นกลางอีกสองคนสู้กับเฟนด์ไม่ได้แม้แต่น้อย แถมยังถูกฆ่าตายอีก จู่ ๆ เขาก็รู้สึกกลัวและสังเกตเห็นว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรนั้นค่อย ๆ จางลง เขากัดฟันกรอดแล้วหันหลังเตรียมหนีแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อเขาหันหลังไปอีกด้าน เขาจะได้เห็นว่าเฟนด์ยืนอยู่ต่อหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้าง“นายน้อยเฟนด์ ตระกูลลาโกริโอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลวู๊ดมาก่อน ถึงจะมีความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายหญิงลิลลี่ แต่คุณก็ไม่ควรลืมมิตรภาพของเราก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และเขาพูดกับเฟนด์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“มิตรภาพของเราก่อนหน้านี้งั้นเหรอ?”เเฟนเกือบคิดว่ามันตลก เขาชี้ไปที่ศพของสมาชิกตระกูลวู๊ด
“ฮ่า คุณโลภเกินไป!”แรนดัลล์หัวเราะ “ผมพอใจที่เราได้ฆ่าพวกมันไปมากมายแล้ว เราคงตายแน่ถ้าคุณมาช้าเกินไป!”"ใช่ ขอบคุณพระเจ้าที่คุณมา นายน้อยเฟนด์ ไม่งั้นเราคงนอนตัวเย็นอยู่บนพื้นแทนพวกนั้น พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าเราจะตาย!”อัจฉริยะจากตระกูลวู๊ดมีสีหน้าโล่งใจ"เอาล่ะ เราจะสะสางความยุ่งเหยิงก่อน จากนั้นผมจะใช้ดาบบินของผมพาพวกคุณไปยังที่ที่ตระกูลวู๊ด ตระกูลคาเบลโล และสมาชิกตระกูลแลงคาสเตอร์รวมตัวกันอยู่!”เฟนด์ยิ้มและบอกทุกคน“ตระกูลแลงคาสเตอร์เหรอ? มีพวกเขาอยู่กันมากแค่ไหน?”ดวงตาของแรนดัลล์เป็นประกายเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเขาก็เต้นรัวด้วยความปิติ“ไม่มากเท่าไหร่! พวกเขากำลังรออยู่ในป่าที่เชิงเขา!”เฟนด์ตอบพร้อมพยักหน้า“ทุกคน มาเร็ว!”แรนดัลล์สั่งให้สมาชิกในตระกูลของเขาเข้ามาใกล้ และเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฟนด์ “ขอบคุณนายน้อยเฟนด์ ที่ช่วยเราไว้ เราจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำเพื่อเราแน่!”“ขอบคุณนายน้อยเฟนด์ คุณมีบุญคุณกับเราอย่างที่สุด!”อัจฉริยะคนอื่น ๆ จากตระกูลแลงคาสเตอร์ต่างก็คุกเข่าลงและสรรเสริญเฟนด์"ลุกขึ้น! พวกคุณกำลังทำให้ฉันต้องอาย!”เฟนด์พูดไม่ออกอยู่ลึก ๆ เขาร
"เอาล่ะ เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้ว” แรนดัลล์ประกาศ “ต่อจากนี้ไปคุณคือพี่ใหญ่ของผม!”"ก็ได้ ไปกันเถอะ น้องชายแรนดัลล์!”เมื่อเห็นว่าทุกคนเก็บของที่ริบมาจากการต่อสู้เสร็จแล้ว เฟนด์ก็โยนดาบของเขาไปข้างหน้า มันขยายขนาดขึ้นทันทีและลอยต่อหน้าทุกคน"ไปกันเถอะ เราจะได้พักเมื่อไปถึงที่ที่คนอื่นอยู่!”แรนดัลล์และคนอื่น ๆ กระโดดขึ้นไปบนดาบก่อนจะทรงตัวยืนบนมัน “นี่เป็นดาบที่น่าทึ่งมาก พี่ใหญ่เฟนด์ มันสามารถบินได้และใช้เป็นอาวุธได้ด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มพลังในการต่อสู้ของพี่ใหญ่ได้ดีนะ อย่างน้อยมันก็ต้องเป็นอาวุธวิญญาณระดับกลาง ใช่ไหม?”ก่อนที่เฟนด์จะได้ตอบ หญิงสาวคนหนึ่งจากตระกูลวู๊ดก็ตัดบทขึ้นมาอย่างภูมิใจว่า “นายน้อยแรนดัลล์ ครั้งนี้คุณเดาผิดแล้วล่ะ ดาบบินของนายน้อยเฟนด์ไม่ใช่อาวุธวิญญาณระดับกลาง แต่เป็นอาวุธวิญญาณระดับสุดยอด!”“โอ้พระเจ้า ระดับสุดยอด?”แรนดัลล์และคนอื่น ๆ ต่างสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ สงสัยว่าพวกเขาได้ยินเธอพูดผิดไปหรือเปล่า พวกเขาได้ยินมาว่ามีเพียงตระกูลฮันท์เท่านั้นที่มีอาวุธระดับนั้นหนิ พวกเขาไม่คิดเลยว่าเฟนด์จะมีสมบัติเช่นนี้ด้วยเฟนด์พยกหน้านิ่ง ๆ เมื่อเห็นสีหน้าตะลึงง
"ไม่มีทาง ฉันฟังผิดไปหรือเปล่าเนี่ย? คุณ คุณเต็มใจที่จะเป็นน้องชายคนเล็กของเขางั้นเหรอ?”เฮเลน่าตกตะลึง นี่คือลูกชายของนายท่านแลงคาสเตอร์ ผู้ซึ่งมีอำนาจและมีตำแหน่งสำคัญ อีกอย่าง ในบรรดาตระกูลลึกลับทั้งแปด ตระกูลแลงคาสเตอร์ก็อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลคาเบลโล ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“คุณพูดเรื่องอะไร? เราเป็นพี่น้องกัน ไม่สำคัญว่าจะเป็น พี่ใหญ่ หรือ น้องเล็ก!”ริมฝีปากของเฟนด์หยักเป็นรอยยิ้มแห้ง ๆ ตอนที่เขาอธิบายอย่างรีบร้อน“หึ.. ยังไงก็ตาม พี่ใหญ่ ผมจะฟังทุกอย่างที่พี่พูด!”แรนดัลล์หัวเราะเบา ๆ และทุบหน้าอกของเขา “ไม่ว่ายังไงก็ตาม พี่ช่วยชีวิตผมไว้พี่ใหญ่ ดังนั้นผมจะอุทิศชีวิตให้พี่!”"เอาล่ะ พวกคุณทุกคนควรพักดีสักสองวัน อีกไม่นานเกินรอการแข่งขันจะสิ้นสุดลง เมื่อพวกคุณพักฟื้นหายดีแล้ว เรายังมีเวลาที่จะขึ้นไปบนภูเขา!”เฟนด์ตัดสินใจในขณะที่มองดูคนอื่น ๆทุกคนกระโดดลงมาจากดาบบินทีละคน บางคนหยิบโอสถออกมาและเริ่มรักษาตัวเองขณะนั่งลงบนพื้น ในขณะที่คนอื่นๆ หยิบหญ้าวิญญาณหรือหินวิญญาณออกมาและเริ่มดูดซับพลังฉีเพื่อเติมเต็มพลังให้กับตนเอง“ที่นี่มีคนเยอะมาก โดยเฉพ
ในที่สุดทั้งสองก็เข้าสู่ขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงได้ แต่เฟนด์ก็บุกทะลวงเข้าสู่ขั้นกลางได้แล้ว ระดับพลังยุทธของเขาเหนือกว่าพวกเขามาก ทักษะการต่อสู้ของเขาจะไม่ยิ่งกว่าเหรอ? ความจริงเรื่องนี้ทำให้พวกเขายอมจำนนต่อเขาอย่างสมบูรณ์“สัตว์อสูรนั่นหนังหนามาก เราสองคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”ลีอาห์พูดอย่างสิ้นหวังขณะที่เธอต่อสู้กับงูเหลือม “ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวนี้จะไม่ได้อยู่ขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงแล้ว เมื่อไม่นานมานี้มันน่าจะเข้าสู่ขั้นกลางแล้ว!”"คุณพูดถูก เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแม้ว่าเราสองคนจะรวมพลังกันก็ตาม ให้ตายสิ ฉันสงสัยว่านายน้อยเฟนด์จะมาถึงจุดนัดแล้วหรือยัง! ถ้าเขาไม่อยู่ที่นั่น เราอาจจะทำร้ายสมาชิกตระกูลวู๊ดมากกว่าด้วยการพามันไปที่นั่น!”มาร์ตินคิดเกี่ยวกับมันอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาก็มืดลง ในใจเขาเต็มไปด้วยความกังวลลีอาห์หัวเราะแห้ง ๆ "คุณพูดถูก แล้วเราจะทำยังไงกันดี? เราจะทำให้มันอันตรายมากขึ้น ถ้าสมาชิกในตระกูลวู๊ดที่รออยู่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับกึ่งเทพ”“เรายังไม่รู้ว่าเบธกับคนอื่น ๆ อยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า เรายังมีผู้ฝึกยุทธสองสามคนที่อยู่ในขั้นต้นระดับเทพแท้จริง แต่เรา
“พรวด!” ลีอาห์ถูกกระแทกจนล้มลง และของเหลวสีแดงอุ่น ๆ ก็พุ่งออกมาจากปาก ใบหน้าของเธอซีดเผือดทันทีถึงอย่างนั้นเธอก็ยังกัดฟันทนเตรียมที่จะต่อสู้ต่อไป ไอ้งูเหลือมเวรนั่น! ก่อนหน้านี้มันฆ่าคนจากตระกูลวู๊ดไปหลายคน ตระกูลวู๊ดต้องการฆ่าสัตว์อสูรตัวนี้มานานแล้ว เมื่อเห็นมาร์ตินได้รับบาดเจ็บเพราะมัน ทำให้ลีอาห์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้นไปอีก “ลีอาห์ อย่าสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้อีกเลย! หนังของมันแข็งแกร่งเกินกว่าจะเจาะทะลุได้! อีกไม่นาน นายน้อยเฟนด์จะมาถึงและจัดการมัน!”ทันทีที่มาร์ตินเห็นว่าลีอาห์ยืนขึ้น แล้ววางแผนที่จะโจมตีและต่อสู้อีกครั้ง เขาก็เหาะไปด้านข้างของเธอและแนะนำเธอฟ่อออ! อย่างไรก็ตาม งูเหลือมยักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บอีกรอบ ครั้งนี้กลับยิ่งโกรธมากขึ้นอีก หลังจากส่งเสียงคำราม มันก็พุ่งตรงไปทางลีอาห์กับมาร์ติน “ตายซะ เจ้าสัตว์อสูร!” จู่ ๆ เงาหนึ่งก็พุ่งเคลื่อนตัวมาถึงที่เกิดเหตุ ในที่สุดเฟนด์ก็มาถึง เขากำหมัด พลังฉีหนาแน่นล้อมรอบหมัดของเขาไว้อย่างสมบูรณ์ ในพริบตา เขาก็มายืนข้าง ๆ งูเหลือมยักษ์และชกหมัดของเขาใส่มันตรง ๆ ปัง! เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วอวกาศ ร่าง
“นายน้อยเฟนด์คุณแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมาก!” ลีอาห์ก็เหาะไปรวมกลุ่มและมองเฟนด์ด้วยสีหน้าอิจฉา “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณไม่ได้อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงเลยล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของคุณ อย่างน้อยคุณคงอยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นสุดท้ายหรืออาจจะอยู่ขั้นสูงสุดแล้วด้วยซ้ำ!”“เธอพูดถูก! ไอ้หมอนี่ ถ้าเขาทะลวงไปสู่ขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้ว ฉันคิดว่าแม้แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งบางคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก็คงจะกลัวเขา!” มาร์ตินรู้สึกอิจฉาเฟนด์ “ฉันนึกถึงอดีตตอนที่ฉันเคยดูถูกคุณ เฮ้อ ฉันละอายใจจัง ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลยด้วยซ้ำ! เฮ้อ! ฉันคงต้องยอมรับใช่ไหม?” เขาคิดถึงอดีตและอดสงสารตัวเองไม่ได้ “ฮ่าฮ่า พวกคุณสองคน หยุดชื่นชมผมได้แล้ว!” เฟนด์ยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็โบกมือ โอสถสมานแผลสองเม็ดก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าพวกเขา "รับมันไปสิ พวกคุณดูบาดเจ็บหนัก!” “ฮ่า ๆ ขอบคุณมาก นายน้อยเฟนด์ที่รักของพวกเรา!” ทั้งสองหัวเราะอย่างเขินอายและรับโอสถที่เฟนด์เสนอให้ จากนั้นพวกเขาก็กลืนยาลงไป หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที มาร์ตินก็สัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพของโอสถสมานแผน และรู้สึ
มุมปากของคลาวด์กระตุกสองสามครั้ง ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ ไม่อยากจะเชื่อความจริงเรื่องใหม่ที่ได้ยินหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็คว้าคอเสื้อของชายคนนั้นขึ้นมา "พูดอีกครั้งสิ! ถ้านายกล้าโกหก ฉันจะฉีกนายเป็นชิ้น ๆ!” เขาจ้องมองชายคนนั้นอย่างเกลียดชัง“นายน้อยคลาวด์ มันเป็นเรื่องจริง! คุณสามารถถามคนที่เหลือดูได้ พวกเขาก็เห็นศพด้วยเหมือนกัน และเราพบแหวนจอมยุทธของนายน้อยไทเรลในพุ่มไม้! ฆาตกรต้องเอาของที่อยู่ในแหวนไปแล้วโยนมันทิ้ง!” ชายคนนั้นทำหน้าโศกเศร้า เสียงของเขาสั่นด้วยความกลัว จากนั้นเขาก็หยิบแหวนออกมาอย่างสั่นเทาและส่งให้คลาวด์คลาวด์จึงปล่อยมือจากคอเขาและหยิบแหวนมาจากชายคนนั้น ดวงตาของเขาแดงก่ำจนเขาต้องกัดฟันแน่น “ไอ้เวรที่ไหนมันเป็นคนทำเรื่องนี้? ใครกันที่สามารถฆ่าน้องชายของฉันได้? คน ๆ นั้นต้องทะลวงเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของระดับเทพแท้จริงแล้วถึงจะทำอย่างนั้นได้ และจะต้องมีทักษะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว น้องชายของฉันตายไปแล้วจริง ๆ…”“นายน้อยคลาวด์ เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ตอนเราไปถึงที่นั่น หมาป่าฝูงหนึ่งก็อยู่ที่นั่นแล้ว มันกำลังกัดแทะร่างของนายน้อยไทเรล ถ้าเราไปที่นั่นช้ากว่านั้น