หลังจากที่ได้เห็นรถหรูเหล่านั้นทั้งหมด ผู้หญิงทุกคนที่นั่นจึงยิ่งอิจฉามากขึ้น เมื่อพวกเธอพบว่าจริง ๆ แล้วควินแลนเกี่ยวข้องกับกองกำลังทั้งห้านั้น “ทำไมคุณถึงไม่ทำงานให้กับกลุ่มของคุณละถ้างั้น?” เพื่อนร่วมงานอีกคนถาม “ฮ่าฮ่า! ผมไม่อยากจะทำงานในเขตเมืองทาลโก้ตอนนี้ เนื่องจากความวุ่นวายทั้งหมดที่รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ก่อเรื่องขึ้น กองกำลังทั้งห้าจะต้องเชื่อฟังกลุ่มนั้นกันในตอนนี้ รู้ไหมครับ? นอกจากนี้ พ่อของผมก็บอกผมว่ามันจะดีกว่าสำหรับผมที่จะออกมา และพยายามเลี้ยงชีพตัวเองก่อน” ควินแลนตอบกลับ ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา เมื่อได้ยืนแบบนั้น มาร์จอรีก็ยิ้มบาง ๆ เมื่อคิดว่าควินแลนมั่นคงและเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้! “พ่อของคุณมีเหตุผลนะคะ คุณโยซอน ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็ยังคงอายุน้อยอยู่ ดังนั้นใครจะไปรู้? บางทีคุณอาจจะสามารถจุดประกายทางออกใหม่ โดยการผจญภัยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และการหาเลี้ยงชีพเพื่อตัวคุณเองที่นี่ก็ได้!” มาร์จอรีกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอเข้าไปใกล้ควินแลนมากขึ้น “ฉันเห็นด้วย!” ตอนนี้พวกผู้หญิงค่อย ๆ เข้าไปใกล้ควินแลนกันมากขึ้น ขณะท
เมื่อเงยหน้าขึ้น เจอรัลด์ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมงานหญิงอีกคนที่อยู่ทีมเดียวกันกับเขา เมื่อเห็นว่าพวกเธอบังเอิญพบเขา ขณะที่พวกเธอกำลังมองหาที่นั่งเพื่อจะนั่งทานอาหารกัน เจอรัลด์จึงยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ ขณะที่เขามองไปที่พวกเธอ อย่างไรก็ตามไม่มีพวกเธอคนไหนดูเหมือนจะสนใจรอยยิ้มของเขาเยด้วยซ้ำ ความจริงแล้ว เพื่อนร่วมงานบางคนยังพบว่าตัวเองกำลังเอามือป้องปากด้วยความขบขันกันขณะที่พวกเธอพูดขึ้นมา “ช่างน่าประหลาดใจอะไรอย่างนี้! คุณไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ใช่ไหม? ทำไมคุณถึงตัดสินใจทานอาหารที่นี่ แทนที่จะเป็นสถานที่อื่น ๆ ล่ะ?” หลังจากพูดไปแบบนั้น พวกเธอก็เพียงหันหลังกลับจากไปกัน ไม่กี่วินาทีต่อมา หนึ่งในเพื่อนร่วมงานก็พูดขึ้นมา “ฮะ? เฮ้ ดูนั่นสิ! คุณโยซอนและคุณสวิฟต์หนิ! ไงคะ!” ทันทีที่พวกเธอเห็นควินแลน อารมณ์ของพวกเธอก็เปลี่ยนไปในทันที พวกเธอยิ้มให้ ขณะที่พวกเธอโบกมือให้เขากัน “ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ครับ! ทำไมคุณไม่นั่งกับพวกเราล่ะ? ถ้าผมรู้ว่าคุณจะมาทานอาหารกันที่นี่ ผมก็คงจะเชิญพวกคุณทั้งหมดมาด้วยกันแล้วอย่างแน่นอน!” ควินแลนกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส “ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ ถ้าพวกเราจะนั่ง
โดยการกระแอมในลำคอก่อนจะพูดไปแบบนั้น จากนั้นควินแลนก็ล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยิ้มเยาะ “ความวุ่นวายทั้งหมดนี้คืออะไรกัน? พวกเราพยายามที่จะเรียนกันที่นี่นะ!” อาจารย์หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ขณะที่เธอและเพื่อนร่วมงานของเธอก้าวออกมาจากห้องปฏิบัติการข้าง ๆ ด้วยความไม่พอใจ เมื่อหันไปเผชิญหน้ากับพวกเธอ จากนั้นควินแลนก็พูดขึ้นมา “ก็คุณคลอฟอร์ดน่ะสิครับ…ผมขอให้คุณสวิฟต์มีชั้นเรียนร่วมกันกับผม เพราะผมอยากจะมีประสบการณ์สอนบ้าง… ช่างบังเอิญ ช่วงเวลาที่ผมเลือกดันไปชนกับชั้นเรียนของคุณคลอฟอร์ด! พูดตามตรงทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของผมเอง…” “มันไม่ใช่อย่างงั้นจริง ๆ คุณคลอฟอร์ดแค่ไม่นึกถึงคนอื่นเลย! ก็แค่ใช้บทเรียนถัดไปสิคะ! ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย ใช่ไหมคะ?” เพื่อนร่วมงานหญิงคนอื่นกล่าว ขณะที่พวกเธอทั้งคู่พยักหน้าพร้อมเพรียงกัน เมื่อลูบผมเธอให้ตรง จากนั้นมาร์จอรีก็พูดเสริม “ทำไมคุณไม่ย้อนกลับไปที่ชั้นเรียนของคุณก่อนล่ะคะ คุณคลอฟอร์ด?” เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์จึงทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น เขารู้เป็นอย่างดีว่าการพยายามที่จะโต้เถียงกับพวกเขาจะไม่เป็นการ
“ให้ตาย! คุณยังเป็นอาจารย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย? คุณไม่รู้จักภูเขาบลูมลินได้ยังไงกัน? นั่นคือสถานที่ที่คนหนุ่มสาวมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแก๊งกัน มักจะไปรวมตัวเพื่อจัดปาร์ตี้! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ชอบมีการแข่งรถกันที่นั่น เพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเองเช่นกัน! สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ไม่ดี!” นักเรียนอีกคนอธิบายอย่างค่อนข้างช่วยไม่ได้ “ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายมันให้เขาฟังหรอก! ไม่ว่ายังไง ทิวลิปก็กล้าพอที่จะไปที่ไหนก็ตาม เมื่อความไม่ยั้งคิดของเธอเริ่มขึ้น! ฉันก็น่าจะรู้อยู่แล้ว เพราะเรื่องแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้น เมื่อเธอเดือดร้อนครั้งล่าสุด! เอาน่า รีบไปกันเถอะและพยายามพาเธอกลับมาได้แล้ว!” นิโคลที่ตอนนี้กังวลใจมาก จนเธอแทบจะร้องไห้ได้อยู่แล้วเอ่ยออกมา แม้นิโคลเป็นเพื่อนรักของทิวลิป แต่เธอก็ยังเป็นลูกสาวของพ่อบ้านของตระกูลโยเวลล์เช่นกัน เพราะเช่นนั้น นิโคลจึงมักจะได้รับมอบหมายให้จับตาดูทิวลิปเอาไว้ ท้ายที่สุดแล้ว เกือบจะทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณหนูรองแห่งตระกูลโยเวลล์ก็รู้ว่า เธอมีชื่อเสียจากการทำตัวไม่ยั้งคิด เธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความเพลิดเพลินของตัวเธอเองเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ซึ
เมื่อสังเกตเห็นการมาถึงของนิโคลและเพื่อนร่วมชั้นของเธอ วัยรุ่นคนอื่นมากมายที่อยู่ที่นั่นก็เริ่มกรีดร้องและผิวปากใส่พวกเขากันทันที ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีพวกเขาคนไหนเคยเห็นนักเรียนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องแบบที่นั่นมาก่อนเลย ยิ่งไปกว่านั้น ในหมู่นักเรียนสามสิบกว่าคน ครึ่งหนึ่งของพวกเขาต่างก็เป็นผู้หญิงตัวสูงและผอมเพรียวที่ดูไร้เดียงสาและน่ารัก การปรากฏตัวของพวกเขาที่ภูเขาบลูมลินก็ไม่ต่างอะไรไปจากเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับพวกอันธพาล แม้แต่ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ก็กระโดดออกมาจากรถของเขาด้วยความตื่นเต้น สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้น “นิโคล… พวกเธอทั้งหมด… ทำไมพวกเธอทุกคนถึงมาที่นี่ล่ะ?” ทิวลิปถาม “ทำไมพวกเราจะมาที่นี่งั้นเหรอ? แน่นอน พวกเราเป็นห่วงเธอไง! รีบไปกันเถอะ! พอคิดว่าเธอจะกล้ามาที่นี่จริง ๆ ล่ะก็! ถ้าเกิดว่าพ่อของเธอรู้เข้าล่ะ? เธออยากจะทนทุกข์ทรมานขนาดนั้นจริง ๆ ใช่ไหม?” นิโคลตอบกลับ ขณะที่เธอจับแขนของทิวลิปไว้ เนื่องจากมันชัดเจนว่าทิวลิปต้องการจะไปกับพวกเขา ผู้ชายก่อนหน้านี้จึงเพียงพูดเยาะเย้ย “ไม่เอาน่า ไม่ต้องรีบร้อนที่จะจากไปหรอก! ทำไมพวกเราไม่แข่งกันก่อนล่ะ? ท้ายที่สุดแล้ว มันต้อง
“อย่ามองฉัน…ฉันไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าเขาจะตามพวกเรามาที่นี่จริง…” นิโคลตอบกลับอย่างข่วยไม่ได้ “ฉันจะจบเห่แน่ถ้าเขาบอกมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับเรื่องนี้! นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่เลวร้ายที่สุดด้วยซ้ำ! ถ้าเกิดว่ามหาวิทยาลัยแจ้งให้พ่อของฉันรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ?!” ทิวลิปร้องออกมาด้วยสภาพที่บ้าคลั่ง “ใจเย็น ๆ ทิวลิป ฉันมีวิธีที่จะให้เขาร่วมมืออย่างเชื่อฟัง ในเวลานี้เธอต้องการผู้ชายในรถของเธอ ใช่ไหม? ทำไมพวกเราไม่ให้เขาทำมันล่ะ? เมื่อเขาอยู่ด้านในแล้ว เขาก็จะกลัวเธออย่างแน่นอน!” สเปคกี้แนะนำ “แม่งเอ้ย…” แม้ทิวลิปอยากจะต่อว่าสเปคกี้ แน่นอนหลังจากได้ยินคำล้อเลียนทางอ้อมของเขาต่อทักษะการขับรถของเธอ แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาก็พูดมีเหตุผล เนื่องจากเธอก็รำคาญเจอรัลด์อยู่แล้ว หลังจากเหตุการณ์ของเช้าวันนั้นที่ห้องปฏบัติการ ทิวลิปจึงไม่เป็นกังวลมากเกินไป ที่จะทำให้เขาทนทุกข์เช่นกัน นอกจากนี้ เขาก็ดูเหมือนเป็นผู้ชายจริงใจและค่อนข้างเซ่อซ่าคนหนึ่ง เมื่อเธอจัดการเขาในรถเสร็จ เขาก็จะไม่กล้ารายงานความประพฤติของเธออย่างแน่นอน ด้วยความคิดทั้งหมดนั้นในใจ เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตามแผนการของสเปคกี้ “พวกเธอทุก
ในตอนนี้ รถด้านหลังของพวกเขาก็หยุดลงแล้วเช่นกัน โดยปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ไว้แล้ว ‘มีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองขณะที่เขาเฝ้ามองผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ และผู้หญิงก้าวลงมาจากรถของพวกเขา “เฮ้ ตอนนี้! พวกนายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? สิ่งกีดขวางบนถนนเหล่านี้ไม่ควรอยู่ที่นี่อย่างเห็นได้ชัด! ฉันต้องการให้พวกเราเริ่มใหม่!” ทิวลิปทำหน้าบึ้ง รู้สึกว่าถูกโกง “แน่นอน คุณทิวลิป โยเวลล์! คุณคือคุณหนูรองแห่งตระกูลโยเวลล์ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม…พวกเราสามารถเริ่มต้นใหม่กี่ครั้งก็ได้ตามที่คุณต้องการ!” ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ตอบกลับ ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง “…นาย…นายรู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?” ทิวลิปถาม ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ฮึ่ม! ลงจากรถมาได้แล้ว คุณหนู! อย่าสร้างปัญหาให้พวกเรามากเกินความจำเป็นเลย!” ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ตะโกนขึ้น ขณะที่เขาดึงวิกผมออก เผยให้เห็นหัวโล้นของเขา! ตามมาหลังจากนั้น เขาก็หยิบปืนออกมา โดยเล็งมันไปที่ทิวลิปก่อนจะคำรามใส่ “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? ลงมา!” เมื่อเห็นปืนทิวลิปก็ถึงกับหน้าซีดด้วยความตกใจกลัวทันที เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้าใจแล
“…นั่น…เอาล่ะ ตอนที่เขาจับเธอไว้ ฉันเพียงใช้โอกาสนั้นสไลด์ตัวลงที่ลาดเอียงไปน่ะ! ทั้งหมดที่ฉันจำเป็นต้องทำหลังจากนั้นก็คืออ้อมไปด้านหลังที่รถอยู่ไง!” เจอรัลด์อธิบาย “เข้าใจแล้ว! ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคุณจะฉลาดขนาดนั้น!” ทิวลิปตอบกลับด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เพียงส่ายหัวของเขาเงียบ ๆ เท่านั้น เมื่อมาถึงตรงเชิงเขา เจอรัลด์ก็หรี่ตาของเขา และเห็นว่ารถหรูคันอื่นหลายคันกำลังเร่งความเร็วมาทางพวกเขาในเวลานี้ เมื่อรถมาล้อบรอบพื้นที่ไว้ ทิวลิปจึงร้องเสียงแหลมขึ้นมาฉับพลัน “ตายแล้ว! นั่นคือรถของพ่อของฉัน! นิโคลต้องบอกเขาว่าฉันอยู่ที่นี่แน่! ฉันพังแน่ตอนนี้!” ทิวลิปกล่าว ขณะที่เธอตัวสั่นด้วยความกลัว ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากรถ และเดินมาหาเธอก่อนจะถามอย่างกระวนกระวายใจ “คุณ…คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณหนูรอง…?” “ฮ ฮึ่ม! ถ้าคุณมาถึงช้ากว่านี้ งั้นคุณก็คงจะไม่ได้เห็นอีกต่อไปแล้วล่ะ!” ทิวลิปตอบกลับ ร่องรอยของความกลัวยังคงแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ “ขอบคุณพระเจ้าพวกเรามาได้ทันเวลา คือ…นิโคลเป็นคนที่เตือนผมว่าคุณอาจตกอยู่ในอันตราย เป็นผลให้ผมนำคนเห