อย่างไรก็ตาม เขาถอนสายตาออกไปไม่นานหลังจากนั้น ในทางกลับกัน คนสวยคนนั้นเพียงเหลือบมองไปที่ผู้ชายตัวอ้วนก่อนจะพูดขึ้นมา “ถ้านายต้องการมีชีวิตอยู่ งั้นก็ถือกระเป๋าเดินทางของฉันและตามฉันมา ทำให้ดี ๆ และฉันจะมองเงินสามพันดอลลาร์ให้ เมื่อพวกเราเสร็จธุระกันแล้ว!” ขณะที่เธอมองผู้ชายตัวอ้วนพยักหน้าเงียบ ๆ ด้วยความหวาดกลัว หางตาของเธอก็เห็นผู้ชายอีกสามคนที่ลงจากมารถบัสมาก่อนหน้านี้แวบ ๆ โดยการเฝ้ามองพวกเขาเดินจากไปในทิศทางตรงกันข้าม เธออดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วเล็กน้อย ‘ผู้ชายในชุดคลุมตัวยาวสีดำนั้นลึกลับอย่างแท้จริง…’ เธอคิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะยังไง เขาไม่ได้รบกวนเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด เธอก็มีเรื่องของตัวเธอเองให้สนใจในขณะเดียวกัน จากนั้นเธอก็นั่งลงยอง ๆ และเริ่มถอดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดออกจากศพทั้งห้า เมื่อเธอเสร็จแล้ว เธอก็แสดงท่าทางให้ผู้ชายตัวอ้วนตามไป และจากนั้นทั้งสองคนก็เดินจากไปเงียบ ๆ “ผู้อาวุโส…นายท่าน…ไม่ว่าคุณต้องการแบบไหน…คุณกำลังพาผมไปที่ไหนกัน…? ถ้ามันเป็นเรื่องเงินที่คุณต้องการ งั้นครอบครัวของผมก็สามารถมอบเงินให้คุณได้มากเท่าที่คุณต้องการเลย! แม
หนึ่งชี่วโมงภายหลัง เมื่อเจอรัลด์เดินออกมาจากหุบเขานั้นในที่สุด เจอรัลด์เองเอาชีวิตรอดออกมาได้เพราะเสี้อคลุมตัวยาวที่เขาสวมอยู่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเขาจากยุงทั้งหลายที่นั่น ขณะที่เขาสวมเสื้อผ้าปกติอย่างรวดเร็ว เขาก็นึกถึงช่วงเวลาอันน่าสังเวชของเจ็ตต์ ขณะที่เขาตายอย่างช้า ๆ เพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อน ในที่สุดการแก้แค้นของเขาก็ทำให้เจอรัลด์รู้สึกถึงความรู้สึกความพอใจได้ หลังจากนานมาแล้ว แม้ว่าคนของคอร์ดจะสามารถตามรอยลูกชายของเขามาจนถึงพื้นที่ภูเขาแห่งนี้ได้ แต่เจอรัลด์ก็มั่นใจว่าหุบเขาป่าพิษแห่งนี้จะเป็นสถานที่สุดท้ายที่พวกเขาคิดที่จะค้นหา ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ คอร์ดก็จะยังคงค้นหาเจ็ตต์ต่อไปอีกสักพักแน่นอน ในระหว่างช่วงเวลานั้น ในที่สุดครอบครัวของเจอรัลด์ก็จะมีโอกาสได้พักผ่อนกันบ้างชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจอรัลด์จะไม่สามารถย้อนกลับไปยังเวสตันได้สักพัก เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องรีบหาที่อื่นเพื่อล่าถอย อย่างน้อยก็สำหรับช่วงนี้ โดยการสะพายกระเป๋าเป้ของเขา เมื่อเขาเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาดูเหมือนกับนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ เขามีท่าทางที่เรียบง่ายและปราศจากเครื่อ
เจอรัลด์พยักหน้า ขณะที่เขากล่าวไปแบบนั้น “…ให้ตาย มันดีที่สุดที่พวกเราไม่ได้ไปไกลกว่านี้ น้องชาย! จากสิ่งที่ฉันเคยได้ยินมา ยุงพวกนั้นไม่แม้แต่จะทิ้งร่องรอยใด ๆ ของผิวหนังเหยื่อของพวกมันเลยด้วยซ้ำ! พวกเราถูกกระสุนยิงยังดีกว่าต้องทนต่อการโจมตีของยุงพิษนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนกล่าว รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “คุณน่าจะคิดถึงเรื่องนั้น ในขณะที่คุณวิ่งมาหาผมก่อนหน้านี้ ความจริงที่ว่าคุณทำแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รังเกียจที่ผมจะตายด้วยกันกับคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอกเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างไรก็ตาม ผู้ชายตัวอ้วนก็แทบจะไม่สำนึกผิดใด ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกกลัวมากเกินไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เจอรัลด์เองก็กำลังคำนวนโอกาสของเขาในการมีชีวิตรอด ถ้าเขาพยายามต่อสู้กับผู้ชายพวกนั้น สุดท้ายแล้ว เขามั่นใจว่าผู้ชายพวกนั้นจะถล่มยิงจากระยะไกลทันทีที่พวกเขาเห็นเขาแน่ การหลบซ่อนยังคงเป็นไปได้ ณ จุดนั้น แต่เขาจะยังคงลงเอยด้วยการได้รับบาดเจ็บ! ไม่มีสิ่งด้านดีที่เป็นความหวังใด ๆ ในการเผชิญหน้ากับผู้ชายพวกนั้นในตอนนี้ ด้วยข้อสรุปเช่นนั้นในใจ เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเล
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตขึ้นมา หญิงสาวมักจะรู้สึกไวเป็นพิเศษ เมื่อเป็นเรื่องการติดต่อกับผู้ชาย ความรู้สึกไวยังไม่ใช่คำที่ถูกต้องในกรณีนี้ด้วยซ้ำ ถ้าจะพูดให้ถูก มันคล้ายกับความรังเกียจมากกว่า ตราบใดที่เธอต้องจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เธอแค่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้อย่างมาก บางครั้งมันอาจจะเลวร้ายมากจนเธอรู้สึกรังเกียจกับการอยู่ต่อหน้าของพวกผู้ชายด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอแทบจะไม่รู้สึกผิดเลย เมื่อเธอพูดว่าพวกเขาควรตายไปด้วยกันก่อนหน้านี้ เจอรัลด์เองก็ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เย็นชาและเฉยเมยเช่นนี้จะต่อต้านอย่างแรงเช่นนี้ได้ “ดูนะ ผมแค่พยายามจะช่วยชีวิตคุณที่นี่ ถ้าพวกเราไม่รักษาแผลของคุณตอนนี้ มันจะกัดกินเนื้อคุณอย่างแน่นอนเมื่อพวกเราทำการหลบหนีในภายหลัง คุณจะเป็นต้องให้ผมบอกไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตกอยู่ในมือของพวกเขา?” เจอรัลด์โน้มน้าว “…นาย…” เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวคนนั้นจึงตกตะลึงไปชั่วขณะ มันชัดเจนว่าเธอกำลังมีการต่อสู้ภายในขณะนั้น ด้วยการที่เธอกำหมัดแน่นอย่างไร “…ได้! แต่ต้องนายต้องหลับตาตลอดกระบวนการไม่อย่างงั้น
“นาย…นายจะมุ่งหน้าไปที่ไหนกัน?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างค่อนข้างลังเลใจ ขณะที่เธอมองไปที่เจอรัลด์ “ไม่รู้สิ! เมื่อผมไปหยุดอยู่ที่จังหวัดซอลฟอร์ด ผมก็อาจจะเดินทางต่อไปจนกว่าผมจะถึงจุดสิ้นสุดของโลกล่ะมั้ง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเร่งเครื่องยนต์รถออฟโรดที่เขาขับอยู่ มันชัดเจนว่าเขาคือคนที่จัดการคนของฮันเซลในข่วงกลางคืน เป็นเพราะแบบนั้นเช่นกันที่เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ไปได้นานกว่านี้ “ก่อนที่นายจะจากไป บอกชื่อของให้ฉัน! ฉันชื่อเรนนี่ เลวิงตัน!” เรนนี่ตะโกนออกมา ขณะที่ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมา เอาตามตรงนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่เธอเคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้ สำหรับเธอ เจอรัลด์แตกต่างจากผู้ชายคนอื่นทั้งหมดที่เธอเคยพบก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็บอกเธอว่าเขาจะไม่มีความคิดสกปรกใด ๆ ต่อเธอ และเรนนี่ก็เห็นมันในดวงตาของเขาว่าเขาไม่ได้โกหก “อ่า อืม…แค่เรียกผมว่าแซนเดอร์สัน!” เจอรัลด์ตอบกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น เรนนี่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบกลับเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่เจอรัลด์จะเหยียบคันเร่งและขับจากไปในขณะที่โบกมือให้ “…แซนเดอร์สันงั้นเหรอ? ใครจะบ้าตั้งชื่อเช่
“…เดี๋ยว มีถ้ำอยู่ตรงนั้น! ทำไมพวกเราไม่พยายามไปหลบซ่อนกันที่นั่นล่ะ หัวหน้า? อย่างที่พวกเราพูดไป พวกเราจะไม่ทิ้งคุณให้ตายที่นี่ตามลำพัง!” ผู้ชายอีกคนพูด ขณะที่คนอื่น ๆ พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรู้ดีว่าคนอื่น ๆ จะไม่ฟังเขา เขาจึงอนุญาตให้พวกเขาแบกร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลของเขาไปยังถ้ำนั้น “…ฮะ? เป็นแค่ฉันเอง หรือดูเหมือนว่ามีใครบางคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า…?” หนึ่งในผู้พูดด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาเห็นกองไฟที่ยังคงเหลืออยู่ “ไม่ใช่แค่นายหรอก…ยังไงซะ อย่าไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นก่อนเลย พวกเราควรให้ความสนใจกับการพันแผลของหัวหน้าก่อน” “พูดตามตรง มันจะดีกว่าสำหรับเขาที่จะมีเลือดออกมาเล็กน้อยภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ เขาจะตายเร็วขึ้นถ้าคุณพันแผลของเขาตอนนี้” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาฉับพลัน พวกเขารู้สึกตกใจที่ได้ยินความเห็นแบบนั้น ทุกคนยกปืนของพวกเขาขึ้นทันที ขณะที่พวกเขาเล็งไปยังชายหนุ่มที่เพิ่งพูด เจอรัลด์ยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าของถ้ำ เขาเพียงจ้องตรงไปยังปากกระบอกปืนก่อนจะนั่งลงข้างถ้ำอย่างไม่สนใจ ในมือของเขาคือกระต่ายป่าที่เขาเพิ่งย่างเสร็จอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บอสของกลุ่มจ้อ
“หืมม? นักเดินทางเหรอ? เด็กเหลือขอ ถ้านายรู้ว่าอะไรดีสำหรับนาย ก็ไปซะเดี๋ยวนี้ ถ้านายไม่ ฉันจะสิ้นเปลืองลูกกระสุนของฉันกับนายเท่านั้น!” ลีโอโพลด์กล่าว ขณะที่เขาเล็งปืนไปยังข้างหัวของเจอรัลด์โดยตรง ในการตอบสนอง อย่างไรก็ตามเจอรัลด์เพียงหันไปมองตรงเข้าไปในดวงตาของลีโอโพลด์ “แกกำลังมองบ้าอะไร ห๊ะ เจ้าเด็กนี่?” ลีโอโพลด์คำรามอย่างโกรธเคือง “รู้ไหม ฉันเตร็ดเตร่ไปทั่วมาพักหนึ่งแล้วตอนนี้ ฉันต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วไม่มีใครกล้าที่จะชี้ปืนมาที่หน้าผากของฉันโดยตรงมาก่อน!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการหัวเราะ “อยากตายใช่ไหม? ได้เลย!” ลีโอโพลด์คำรามใส่ ขณะที่นิ้วชี้ของเขาขยับเพื่อจะเหนี่ยวไก อย่างไรก็ตามสิ่งต่อมาที่เขารู้ เสียงแกล๊งของโลหะก็ดังก้องไปทั่วถ้ำนั้น ลีโอโพลด์ใช้เวลาครู่หนึ่งที่จะตระหนักได้ว่าปืนไม่ได้อยู่ในมือของเขาอีกต่อไป และเป็นตอนนั้นเองเมื่อเขารู้ว่าเขาแย่แล้ว ขณะที่เหงื่อเริ่มไหลลงที่หน้าผากของลีโอโพลด์ ทุกคน รวมถึงวิสเลอร์และคนของเขา ก็ตกตะลึงมาก จนพวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าหายใจด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนได้เห็นว่ามันเกิดขึ้น ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ไกปืนจะถูกลั่น เจอรัลด์ได้ตะ
“น่าทึ่งมาก! คุณไม่เพียงมีทักษะและแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น แต่คุณยังเชี่ยวชาญในด้านการแพทย์อีกด้วย! ตอนนี้ความชื่นชมคุณของผมไม่มีข้อจำกันแล้ว!” วิสเลอร์กล่าวอย่างเคารพ เจอรัลด์ตอยสนองเขาเพียงส่ายหัวของเขาเงียบ ๆ เท่านั้น หลังจากการแลกเปลี่ยนสายตากันกับคนของเขาครู่หนึ่ง จากนั้นวิสเลอร์ก็พูดเสริม “ผมสงสัยจริง ๆ ว่ามีอะไรที่คนของผม และผมจะทำเพื่อคุณในอนาคตหรือไม่ครับ นายท่าน? เพราะคุณช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ พวกเราจึงยิ่งกว่าเต็มใจที่จะติดตามคุณไปทั่ว และทำอะไรก็ตามที่พวกเราสามารถทำได้เพื่อคุณ!” เขาไม่ได้เพียงพูดแบบนั้นเพื่อให้เจอรัลด์พอใจเช่นกัน ความสำนึกในบุญคุณของพวกเขานั้นจริงใจ ท้ายที่สุดแล้ว ใคร ๆ ก็จะรู้สึกแบบเดียวกันหลังจากได้รับความช่วยเหลือจากสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ความจริงที่ว่าเจอรัลด์ก็รู้ดีว่าวิสเลอร์และคนของเขาให้ความสำคัญกับความเป็นพี่น้องของพวกเขามากแค่ไหน ก็เพียงแต่ทำให้ข้อเสนอของพวกเขามีความหมายมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ มันก็ไม่เหมือนว่าพวกเขามีที่อื่นให้ไปในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าการติดตามชายหนุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้ อนาคตที่สดใสจะไม่มีทางเป็น