ในเวลานี้รถบัสกำลังเดินทางขึ้นไปตามถนนภูเขา และนอกเหนือจากคนขับรถเฉพาะกาลแล้ว ส่วนใหญ่ของถนนก็ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ตาม ภูเขาก็เป็นสิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้ต่อเนื่อง “รู้ไหม ผมได้ยินว่ามีการโจรกรรมมากมายเกิดขึ้นบนถนนแห่งนี้!” ชายหนุ่มตัวอ้วนคนหนึ่งที่พบว่าการเดินทางทั้งหมดนี้ค่อนข้างหดหู่ใจอย่างชัดเจนกล่าวขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่าคนอื่น ๆ กำลังมองเขาในตอนนี้ จากนั้นเขาจึงพูดต่อไป “มันอยู่ในข่าวเมื่อนานมาแล้ว! โจรกลุ่มหนึ่งเข้ายึดครองรถบัสบนถนนสายนี้ และเมื่อพวกเขาทำการปล้นเสร็จ พวกเขาก็ฆ่าทุกคนในรถบัส!” “นั่นไม่จริงหรอก! ฉันค่อนข้างตื่นตัวกับข่าวเช่นนี้…ทำไมฉันถึงไม่เคยเจอมันเลยล่ะถ้างั้น?” ผู้หญิงวัยหกลางคนถามอย่างค่อนข้างประหม่า “อืม ข่าวนั้นหายไปไม่นานมากนักหลังจากมันถูกปล่อยสู่สาธารณะ! อย่าลืมว่า การกระจายข่าวแบบนี้อย่างฉับพลันก็อาจเป็นการเพิ่มความตื่นตกใจได้อย่างง่ายดายน่ะสิ!” ผู้ชายตัวอ้วนอธิบาย “ฮ่า แม้ว่าโจรจะโจมตีพวกเรา แต่พวกเราก็จะอัดพวกเขาให้ตายเลย! ท้ายที่สุดแล้ว ในนี้ก็มีพวกเราหลายคนมากมาย!” ผู้ชายที่ค่อนข้างตัวใหญ่และล่ำสันพูดเยาะเย้ย “ใช่ แ
“ฉันกำลังพูดความจริง!” หญิงสาวกล่าวเสริม ขณะที่เธอขมวดคิ้วแน่น “เฮ้ เจ้าอ้วน! ช่วงเหอะน่า! เธอเป็นคนสวยอยู่ดี! ถ้านายยืนกรานจริง ๆ งั้นก็นี่! เอาสามดอลลาร์ไปจากฉันแทนแล้วกัน!” หนึ่งในผู้โดยสารเสนอ ขณะที่เขาหัวเราะออกมา “พูดเป็นเล่น! เมื่อคิดว่าผู้หญิงเช่นนี้มีอยู่จริงล่ะก็! อยากจะกินแต่ไม่เต็มใจที่จะจ่ายสามดอลลาร์ด้วยซ้ำเนี่ยนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนมุ้ยปาก เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ทันทีหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม ความดุร้ายสั้น ๆ ฉายผ่านในดวงตาของเธอขณะที่เธอพูดขึ้นมา “ถ้านายต้องการเงินฉันมากขนาดนั้น งั้นก็ลงจากรถบัสไปกับฉันในภายหลัง ถ้านายกล้ารับคำท้า อย่าว่าแต่สามดอลลาร์เลย ฉันจะให้นายสามพันดอลลาร์ถ้านายต้องการ! ว่าไง?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างเย็นชา “ผมจะบอกคุณให้นะ ทำไมผมจะไม่กล้าทำแบบนั้นล่ะ! อย่างไรก็ตาม คุณพูดมันด้วยตัวเองนะว่าคุณจะมอบสามพันดอลลาร์ให้ผม! มันยังไม่สายมากเกินไปที่คุณจะคืนคำพูดนั้น!” ผู้ชายตัวอ้วนตอบกลับ ขณะที่เขาแสดงอาการดูถูก “ตกลง!” หญิงสาวตะโกนใส่ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ตลอดบทสนทนาของพวกเขา ผู้ชายในชุดดำก็แอบมองไปที่หญิงสาวคนนั้นอยู่ตลอด
อย่างไรก็ตาม เขาถอนสายตาออกไปไม่นานหลังจากนั้น ในทางกลับกัน คนสวยคนนั้นเพียงเหลือบมองไปที่ผู้ชายตัวอ้วนก่อนจะพูดขึ้นมา “ถ้านายต้องการมีชีวิตอยู่ งั้นก็ถือกระเป๋าเดินทางของฉันและตามฉันมา ทำให้ดี ๆ และฉันจะมองเงินสามพันดอลลาร์ให้ เมื่อพวกเราเสร็จธุระกันแล้ว!” ขณะที่เธอมองผู้ชายตัวอ้วนพยักหน้าเงียบ ๆ ด้วยความหวาดกลัว หางตาของเธอก็เห็นผู้ชายอีกสามคนที่ลงจากมารถบัสมาก่อนหน้านี้แวบ ๆ โดยการเฝ้ามองพวกเขาเดินจากไปในทิศทางตรงกันข้าม เธออดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วเล็กน้อย ‘ผู้ชายในชุดคลุมตัวยาวสีดำนั้นลึกลับอย่างแท้จริง…’ เธอคิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะยังไง เขาไม่ได้รบกวนเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด เธอก็มีเรื่องของตัวเธอเองให้สนใจในขณะเดียวกัน จากนั้นเธอก็นั่งลงยอง ๆ และเริ่มถอดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดออกจากศพทั้งห้า เมื่อเธอเสร็จแล้ว เธอก็แสดงท่าทางให้ผู้ชายตัวอ้วนตามไป และจากนั้นทั้งสองคนก็เดินจากไปเงียบ ๆ “ผู้อาวุโส…นายท่าน…ไม่ว่าคุณต้องการแบบไหน…คุณกำลังพาผมไปที่ไหนกัน…? ถ้ามันเป็นเรื่องเงินที่คุณต้องการ งั้นครอบครัวของผมก็สามารถมอบเงินให้คุณได้มากเท่าที่คุณต้องการเลย! แม
หนึ่งชี่วโมงภายหลัง เมื่อเจอรัลด์เดินออกมาจากหุบเขานั้นในที่สุด เจอรัลด์เองเอาชีวิตรอดออกมาได้เพราะเสี้อคลุมตัวยาวที่เขาสวมอยู่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเขาจากยุงทั้งหลายที่นั่น ขณะที่เขาสวมเสื้อผ้าปกติอย่างรวดเร็ว เขาก็นึกถึงช่วงเวลาอันน่าสังเวชของเจ็ตต์ ขณะที่เขาตายอย่างช้า ๆ เพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อน ในที่สุดการแก้แค้นของเขาก็ทำให้เจอรัลด์รู้สึกถึงความรู้สึกความพอใจได้ หลังจากนานมาแล้ว แม้ว่าคนของคอร์ดจะสามารถตามรอยลูกชายของเขามาจนถึงพื้นที่ภูเขาแห่งนี้ได้ แต่เจอรัลด์ก็มั่นใจว่าหุบเขาป่าพิษแห่งนี้จะเป็นสถานที่สุดท้ายที่พวกเขาคิดที่จะค้นหา ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ คอร์ดก็จะยังคงค้นหาเจ็ตต์ต่อไปอีกสักพักแน่นอน ในระหว่างช่วงเวลานั้น ในที่สุดครอบครัวของเจอรัลด์ก็จะมีโอกาสได้พักผ่อนกันบ้างชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจอรัลด์จะไม่สามารถย้อนกลับไปยังเวสตันได้สักพัก เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องรีบหาที่อื่นเพื่อล่าถอย อย่างน้อยก็สำหรับช่วงนี้ โดยการสะพายกระเป๋าเป้ของเขา เมื่อเขาเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาดูเหมือนกับนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ เขามีท่าทางที่เรียบง่ายและปราศจากเครื่อ
เจอรัลด์พยักหน้า ขณะที่เขากล่าวไปแบบนั้น “…ให้ตาย มันดีที่สุดที่พวกเราไม่ได้ไปไกลกว่านี้ น้องชาย! จากสิ่งที่ฉันเคยได้ยินมา ยุงพวกนั้นไม่แม้แต่จะทิ้งร่องรอยใด ๆ ของผิวหนังเหยื่อของพวกมันเลยด้วยซ้ำ! พวกเราถูกกระสุนยิงยังดีกว่าต้องทนต่อการโจมตีของยุงพิษนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนกล่าว รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “คุณน่าจะคิดถึงเรื่องนั้น ในขณะที่คุณวิ่งมาหาผมก่อนหน้านี้ ความจริงที่ว่าคุณทำแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รังเกียจที่ผมจะตายด้วยกันกับคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอกเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างไรก็ตาม ผู้ชายตัวอ้วนก็แทบจะไม่สำนึกผิดใด ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกกลัวมากเกินไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เจอรัลด์เองก็กำลังคำนวนโอกาสของเขาในการมีชีวิตรอด ถ้าเขาพยายามต่อสู้กับผู้ชายพวกนั้น สุดท้ายแล้ว เขามั่นใจว่าผู้ชายพวกนั้นจะถล่มยิงจากระยะไกลทันทีที่พวกเขาเห็นเขาแน่ การหลบซ่อนยังคงเป็นไปได้ ณ จุดนั้น แต่เขาจะยังคงลงเอยด้วยการได้รับบาดเจ็บ! ไม่มีสิ่งด้านดีที่เป็นความหวังใด ๆ ในการเผชิญหน้ากับผู้ชายพวกนั้นในตอนนี้ ด้วยข้อสรุปเช่นนั้นในใจ เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเล
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตขึ้นมา หญิงสาวมักจะรู้สึกไวเป็นพิเศษ เมื่อเป็นเรื่องการติดต่อกับผู้ชาย ความรู้สึกไวยังไม่ใช่คำที่ถูกต้องในกรณีนี้ด้วยซ้ำ ถ้าจะพูดให้ถูก มันคล้ายกับความรังเกียจมากกว่า ตราบใดที่เธอต้องจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เธอแค่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้อย่างมาก บางครั้งมันอาจจะเลวร้ายมากจนเธอรู้สึกรังเกียจกับการอยู่ต่อหน้าของพวกผู้ชายด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอแทบจะไม่รู้สึกผิดเลย เมื่อเธอพูดว่าพวกเขาควรตายไปด้วยกันก่อนหน้านี้ เจอรัลด์เองก็ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เย็นชาและเฉยเมยเช่นนี้จะต่อต้านอย่างแรงเช่นนี้ได้ “ดูนะ ผมแค่พยายามจะช่วยชีวิตคุณที่นี่ ถ้าพวกเราไม่รักษาแผลของคุณตอนนี้ มันจะกัดกินเนื้อคุณอย่างแน่นอนเมื่อพวกเราทำการหลบหนีในภายหลัง คุณจะเป็นต้องให้ผมบอกไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตกอยู่ในมือของพวกเขา?” เจอรัลด์โน้มน้าว “…นาย…” เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวคนนั้นจึงตกตะลึงไปชั่วขณะ มันชัดเจนว่าเธอกำลังมีการต่อสู้ภายในขณะนั้น ด้วยการที่เธอกำหมัดแน่นอย่างไร “…ได้! แต่ต้องนายต้องหลับตาตลอดกระบวนการไม่อย่างงั้น
“นาย…นายจะมุ่งหน้าไปที่ไหนกัน?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างค่อนข้างลังเลใจ ขณะที่เธอมองไปที่เจอรัลด์ “ไม่รู้สิ! เมื่อผมไปหยุดอยู่ที่จังหวัดซอลฟอร์ด ผมก็อาจจะเดินทางต่อไปจนกว่าผมจะถึงจุดสิ้นสุดของโลกล่ะมั้ง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเร่งเครื่องยนต์รถออฟโรดที่เขาขับอยู่ มันชัดเจนว่าเขาคือคนที่จัดการคนของฮันเซลในข่วงกลางคืน เป็นเพราะแบบนั้นเช่นกันที่เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ไปได้นานกว่านี้ “ก่อนที่นายจะจากไป บอกชื่อของให้ฉัน! ฉันชื่อเรนนี่ เลวิงตัน!” เรนนี่ตะโกนออกมา ขณะที่ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมา เอาตามตรงนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่เธอเคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้ สำหรับเธอ เจอรัลด์แตกต่างจากผู้ชายคนอื่นทั้งหมดที่เธอเคยพบก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็บอกเธอว่าเขาจะไม่มีความคิดสกปรกใด ๆ ต่อเธอ และเรนนี่ก็เห็นมันในดวงตาของเขาว่าเขาไม่ได้โกหก “อ่า อืม…แค่เรียกผมว่าแซนเดอร์สัน!” เจอรัลด์ตอบกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น เรนนี่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบกลับเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่เจอรัลด์จะเหยียบคันเร่งและขับจากไปในขณะที่โบกมือให้ “…แซนเดอร์สันงั้นเหรอ? ใครจะบ้าตั้งชื่อเช่
“…เดี๋ยว มีถ้ำอยู่ตรงนั้น! ทำไมพวกเราไม่พยายามไปหลบซ่อนกันที่นั่นล่ะ หัวหน้า? อย่างที่พวกเราพูดไป พวกเราจะไม่ทิ้งคุณให้ตายที่นี่ตามลำพัง!” ผู้ชายอีกคนพูด ขณะที่คนอื่น ๆ พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรู้ดีว่าคนอื่น ๆ จะไม่ฟังเขา เขาจึงอนุญาตให้พวกเขาแบกร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลของเขาไปยังถ้ำนั้น “…ฮะ? เป็นแค่ฉันเอง หรือดูเหมือนว่ามีใครบางคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า…?” หนึ่งในผู้พูดด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาเห็นกองไฟที่ยังคงเหลืออยู่ “ไม่ใช่แค่นายหรอก…ยังไงซะ อย่าไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นก่อนเลย พวกเราควรให้ความสนใจกับการพันแผลของหัวหน้าก่อน” “พูดตามตรง มันจะดีกว่าสำหรับเขาที่จะมีเลือดออกมาเล็กน้อยภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ เขาจะตายเร็วขึ้นถ้าคุณพันแผลของเขาตอนนี้” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาฉับพลัน พวกเขารู้สึกตกใจที่ได้ยินความเห็นแบบนั้น ทุกคนยกปืนของพวกเขาขึ้นทันที ขณะที่พวกเขาเล็งไปยังชายหนุ่มที่เพิ่งพูด เจอรัลด์ยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าของถ้ำ เขาเพียงจ้องตรงไปยังปากกระบอกปืนก่อนจะนั่งลงข้างถ้ำอย่างไม่สนใจ ในมือของเขาคือกระต่ายป่าที่เขาเพิ่งย่างเสร็จอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บอสของกลุ่มจ้อ