เจอรัลด์พยักหน้า ขณะที่เขากล่าวไปแบบนั้น “…ให้ตาย มันดีที่สุดที่พวกเราไม่ได้ไปไกลกว่านี้ น้องชาย! จากสิ่งที่ฉันเคยได้ยินมา ยุงพวกนั้นไม่แม้แต่จะทิ้งร่องรอยใด ๆ ของผิวหนังเหยื่อของพวกมันเลยด้วยซ้ำ! พวกเราถูกกระสุนยิงยังดีกว่าต้องทนต่อการโจมตีของยุงพิษนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนกล่าว รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “คุณน่าจะคิดถึงเรื่องนั้น ในขณะที่คุณวิ่งมาหาผมก่อนหน้านี้ ความจริงที่ว่าคุณทำแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รังเกียจที่ผมจะตายด้วยกันกับคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอกเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างไรก็ตาม ผู้ชายตัวอ้วนก็แทบจะไม่สำนึกผิดใด ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกกลัวมากเกินไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เจอรัลด์เองก็กำลังคำนวนโอกาสของเขาในการมีชีวิตรอด ถ้าเขาพยายามต่อสู้กับผู้ชายพวกนั้น สุดท้ายแล้ว เขามั่นใจว่าผู้ชายพวกนั้นจะถล่มยิงจากระยะไกลทันทีที่พวกเขาเห็นเขาแน่ การหลบซ่อนยังคงเป็นไปได้ ณ จุดนั้น แต่เขาจะยังคงลงเอยด้วยการได้รับบาดเจ็บ! ไม่มีสิ่งด้านดีที่เป็นความหวังใด ๆ ในการเผชิญหน้ากับผู้ชายพวกนั้นในตอนนี้ ด้วยข้อสรุปเช่นนั้นในใจ เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเล
เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตขึ้นมา หญิงสาวมักจะรู้สึกไวเป็นพิเศษ เมื่อเป็นเรื่องการติดต่อกับผู้ชาย ความรู้สึกไวยังไม่ใช่คำที่ถูกต้องในกรณีนี้ด้วยซ้ำ ถ้าจะพูดให้ถูก มันคล้ายกับความรังเกียจมากกว่า ตราบใดที่เธอต้องจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เธอแค่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้อย่างมาก บางครั้งมันอาจจะเลวร้ายมากจนเธอรู้สึกรังเกียจกับการอยู่ต่อหน้าของพวกผู้ชายด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอแทบจะไม่รู้สึกผิดเลย เมื่อเธอพูดว่าพวกเขาควรตายไปด้วยกันก่อนหน้านี้ เจอรัลด์เองก็ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เย็นชาและเฉยเมยเช่นนี้จะต่อต้านอย่างแรงเช่นนี้ได้ “ดูนะ ผมแค่พยายามจะช่วยชีวิตคุณที่นี่ ถ้าพวกเราไม่รักษาแผลของคุณตอนนี้ มันจะกัดกินเนื้อคุณอย่างแน่นอนเมื่อพวกเราทำการหลบหนีในภายหลัง คุณจะเป็นต้องให้ผมบอกไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตกอยู่ในมือของพวกเขา?” เจอรัลด์โน้มน้าว “…นาย…” เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวคนนั้นจึงตกตะลึงไปชั่วขณะ มันชัดเจนว่าเธอกำลังมีการต่อสู้ภายในขณะนั้น ด้วยการที่เธอกำหมัดแน่นอย่างไร “…ได้! แต่ต้องนายต้องหลับตาตลอดกระบวนการไม่อย่างงั้น
“นาย…นายจะมุ่งหน้าไปที่ไหนกัน?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างค่อนข้างลังเลใจ ขณะที่เธอมองไปที่เจอรัลด์ “ไม่รู้สิ! เมื่อผมไปหยุดอยู่ที่จังหวัดซอลฟอร์ด ผมก็อาจจะเดินทางต่อไปจนกว่าผมจะถึงจุดสิ้นสุดของโลกล่ะมั้ง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเร่งเครื่องยนต์รถออฟโรดที่เขาขับอยู่ มันชัดเจนว่าเขาคือคนที่จัดการคนของฮันเซลในข่วงกลางคืน เป็นเพราะแบบนั้นเช่นกันที่เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ไปได้นานกว่านี้ “ก่อนที่นายจะจากไป บอกชื่อของให้ฉัน! ฉันชื่อเรนนี่ เลวิงตัน!” เรนนี่ตะโกนออกมา ขณะที่ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมา เอาตามตรงนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่เธอเคยใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้ สำหรับเธอ เจอรัลด์แตกต่างจากผู้ชายคนอื่นทั้งหมดที่เธอเคยพบก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็บอกเธอว่าเขาจะไม่มีความคิดสกปรกใด ๆ ต่อเธอ และเรนนี่ก็เห็นมันในดวงตาของเขาว่าเขาไม่ได้โกหก “อ่า อืม…แค่เรียกผมว่าแซนเดอร์สัน!” เจอรัลด์ตอบกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น เรนนี่ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบกลับเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่เจอรัลด์จะเหยียบคันเร่งและขับจากไปในขณะที่โบกมือให้ “…แซนเดอร์สันงั้นเหรอ? ใครจะบ้าตั้งชื่อเช่
“…เดี๋ยว มีถ้ำอยู่ตรงนั้น! ทำไมพวกเราไม่พยายามไปหลบซ่อนกันที่นั่นล่ะ หัวหน้า? อย่างที่พวกเราพูดไป พวกเราจะไม่ทิ้งคุณให้ตายที่นี่ตามลำพัง!” ผู้ชายอีกคนพูด ขณะที่คนอื่น ๆ พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรู้ดีว่าคนอื่น ๆ จะไม่ฟังเขา เขาจึงอนุญาตให้พวกเขาแบกร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลของเขาไปยังถ้ำนั้น “…ฮะ? เป็นแค่ฉันเอง หรือดูเหมือนว่ามีใครบางคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า…?” หนึ่งในผู้พูดด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาเห็นกองไฟที่ยังคงเหลืออยู่ “ไม่ใช่แค่นายหรอก…ยังไงซะ อย่าไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นก่อนเลย พวกเราควรให้ความสนใจกับการพันแผลของหัวหน้าก่อน” “พูดตามตรง มันจะดีกว่าสำหรับเขาที่จะมีเลือดออกมาเล็กน้อยภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ เขาจะตายเร็วขึ้นถ้าคุณพันแผลของเขาตอนนี้” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาฉับพลัน พวกเขารู้สึกตกใจที่ได้ยินความเห็นแบบนั้น ทุกคนยกปืนของพวกเขาขึ้นทันที ขณะที่พวกเขาเล็งไปยังชายหนุ่มที่เพิ่งพูด เจอรัลด์ยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าของถ้ำ เขาเพียงจ้องตรงไปยังปากกระบอกปืนก่อนจะนั่งลงข้างถ้ำอย่างไม่สนใจ ในมือของเขาคือกระต่ายป่าที่เขาเพิ่งย่างเสร็จอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บอสของกลุ่มจ้อ
“หืมม? นักเดินทางเหรอ? เด็กเหลือขอ ถ้านายรู้ว่าอะไรดีสำหรับนาย ก็ไปซะเดี๋ยวนี้ ถ้านายไม่ ฉันจะสิ้นเปลืองลูกกระสุนของฉันกับนายเท่านั้น!” ลีโอโพลด์กล่าว ขณะที่เขาเล็งปืนไปยังข้างหัวของเจอรัลด์โดยตรง ในการตอบสนอง อย่างไรก็ตามเจอรัลด์เพียงหันไปมองตรงเข้าไปในดวงตาของลีโอโพลด์ “แกกำลังมองบ้าอะไร ห๊ะ เจ้าเด็กนี่?” ลีโอโพลด์คำรามอย่างโกรธเคือง “รู้ไหม ฉันเตร็ดเตร่ไปทั่วมาพักหนึ่งแล้วตอนนี้ ฉันต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วไม่มีใครกล้าที่จะชี้ปืนมาที่หน้าผากของฉันโดยตรงมาก่อน!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการหัวเราะ “อยากตายใช่ไหม? ได้เลย!” ลีโอโพลด์คำรามใส่ ขณะที่นิ้วชี้ของเขาขยับเพื่อจะเหนี่ยวไก อย่างไรก็ตามสิ่งต่อมาที่เขารู้ เสียงแกล๊งของโลหะก็ดังก้องไปทั่วถ้ำนั้น ลีโอโพลด์ใช้เวลาครู่หนึ่งที่จะตระหนักได้ว่าปืนไม่ได้อยู่ในมือของเขาอีกต่อไป และเป็นตอนนั้นเองเมื่อเขารู้ว่าเขาแย่แล้ว ขณะที่เหงื่อเริ่มไหลลงที่หน้าผากของลีโอโพลด์ ทุกคน รวมถึงวิสเลอร์และคนของเขา ก็ตกตะลึงมาก จนพวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าหายใจด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนได้เห็นว่ามันเกิดขึ้น ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ไกปืนจะถูกลั่น เจอรัลด์ได้ตะ
“น่าทึ่งมาก! คุณไม่เพียงมีทักษะและแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น แต่คุณยังเชี่ยวชาญในด้านการแพทย์อีกด้วย! ตอนนี้ความชื่นชมคุณของผมไม่มีข้อจำกันแล้ว!” วิสเลอร์กล่าวอย่างเคารพ เจอรัลด์ตอยสนองเขาเพียงส่ายหัวของเขาเงียบ ๆ เท่านั้น หลังจากการแลกเปลี่ยนสายตากันกับคนของเขาครู่หนึ่ง จากนั้นวิสเลอร์ก็พูดเสริม “ผมสงสัยจริง ๆ ว่ามีอะไรที่คนของผม และผมจะทำเพื่อคุณในอนาคตหรือไม่ครับ นายท่าน? เพราะคุณช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ พวกเราจึงยิ่งกว่าเต็มใจที่จะติดตามคุณไปทั่ว และทำอะไรก็ตามที่พวกเราสามารถทำได้เพื่อคุณ!” เขาไม่ได้เพียงพูดแบบนั้นเพื่อให้เจอรัลด์พอใจเช่นกัน ความสำนึกในบุญคุณของพวกเขานั้นจริงใจ ท้ายที่สุดแล้ว ใคร ๆ ก็จะรู้สึกแบบเดียวกันหลังจากได้รับความช่วยเหลือจากสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ความจริงที่ว่าเจอรัลด์ก็รู้ดีว่าวิสเลอร์และคนของเขาให้ความสำคัญกับความเป็นพี่น้องของพวกเขามากแค่ไหน ก็เพียงแต่ทำให้ข้อเสนอของพวกเขามีความหมายมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ มันก็ไม่เหมือนว่าพวกเขามีที่อื่นให้ไปในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าการติดตามชายหนุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้ อนาคตที่สดใสจะไม่มีทางเป็น
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” เจอรัลด์ถาม เขาไอกระแอมในลำคอ จากนั้นวิสเลอร์ก็พูดขึ้น “เอ่อ เจ้าของโรงงานถูกกองกำลังท้องถิ่นที่นี่รังควานอยู่บ่อยครั้งมาเป็นเวลานานแล้ว… เขาแค่ไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว จริง ๆ แล้วเขาก็ค่อนข้างเต็มใจที่จะขายโรงงานในราคาต่ำ! จึงเป็นผลให้ พวกเรายังคงมีเงินเหลือเล็กน้อยกับพวกเราในตอนนี้ครับ พูดแล้วก็นะ เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานอีกต่อไปแล้ว พวกเราควรเปลี่ยนชื่อบริษัทไหมครับ?” วิสเลอร์ถาม “อืมม… งั้นก็ใช้ชื่อรอลยัลดราก้อนกันเถอะ!” เจอรัลด์กล่าวอย่างไม่ค่อยสนใจ “โอ้? บริษัทรอลยัลดราก้อน จำกัด เหรอครับ? หรือบางทีอาจเป็น รอยยัลดราก้อน กรุ๊ป? ไม่ว่าจะยังไง นั่นก็ฟังดูเป็นชื่อที่ยอดเยี่ยม! มันฟังดูน่าเกรงขามอย่างชัดเจน แน่นอนเลยทีเดียว ผมจะดำเนินการเอกสารที่เหลือเดี๋ยวน้ี! อีกอย่าง ก่อนที่ผมจะออกไป พี่น้องของผมและผมได้รวมเงินกองกลางของพวกเราเพื่อซื้อคฤหาสน์ซึ่งเจ้าของโรงงานคนก่อนเคยอาศัยอยู่! คุณก็สามารถอยู่ที่นั่นได้ในอนาคต!” วิสเลอร์กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม “เพื่อความมั่นใจ คุณไม่ได้บีบบังคับเขาให้ทำแบบนั้นใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม โดยรู้ดีว่าวิสเลอร์และกลุ
“ป ประทานโทษนะครับ…? ส่งพวกเขากลับบ้านงั้นเหรอครับ…?” เชอร์แมนถามด้วยความประหลาดใจ “ยังไม่เข้าใจนายท่านพูดอีกเหรอ?!” วิสเลอร์ตะคอกใส่อย่างเย็นชา “ช ชัดเจนมากครับ! ผมจะส่งพวกเธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้ครับ เจ้านาย!” เชอร์แมนตอบกลับ ขณะที่เขาพยักหน้าซ้ำ ๆ ด้วยความตกใจกลัว เมื่อได้ยินแบบนั้น สาวใช้ทั้งหลายจึงเริ่มโค้งอย่างรู้สึกขอบคุณให้เจอรัลด์ทันที ขณะที่พวกเธอผลัดกันกล่าว ‘ขอบคุณ’ เขา “เอาล่ะ เอาล่ะ เงียบ ๆ กันหน่อย…ตอนนี้พวกเธอทั้งหมดก็มีอิสระที่จะกลับบ้านกันได้แล้ว!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขายิ้มบาง ๆ เนื่องจากเจอรัลด์มีประสบการณ์เป็นการส่วนตัวว่ามันรู้สึกยังไงที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของตัวเขาเองไป เขาจะไม่ยอมให้หญิงสาวเหล่านี้ต้องเผชิญกับความเศร้าโศกและความทุกข์ใจเช่นเดียวกับที่เขามี สำหรับเขา พวกเธอก็ประสบความทุกข์มาเพียงพอแล้วหลังจากทนทุกข์กับความอัปยศอดสูของการถูกซื้อให้มาเป็นคนรับใช้ นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่นตั้งแต่แรกเลยจริง ๆ ไม่นานหลังจากนั้น สาวใช้ส่วนใหญ่ก็จากไปด้วยกันกับเชอร์แมน อย่างไรก็ตามพวกเธอสองคนยังคนยืนอยู่ที่นั่นกัน โดยกำลังร้องไห้สะอึกสะอ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ