ในทางกลับกัน เกสท์ถูกบอกกล่าวให้ยังคงอยู่ในจังหวัดซอลฟอร์ดด้วยกันกับผู้เชี่ยวชาญเจนคินสัน หลังจากการปฏิบัติการชุยเลอร์ทั้งหมดนั้น ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่เกสท์จะติดตามเขามาจนถึงเมืองเมย์เบอร์รี่ นอกจากนี้ การที่เกสท์กลับบ้านไปอย่างปลอดภัยดี เจอรัลด์รู้ว่าเขาก็มีที่พักพิงที่เชื่อถือได้ในจังหวัดซอลฟอร์ด ซึ่งเขาสามารถล่าถอยไปได้หากสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คาด เอาตามตรงมันก็เป็นที่พักพิงเดียวที่เขาเหลือ ถ้ามีช่วงเวลาที่ตระกูลเวสลีย์ถูกเปิดเผยขึ้นมา เจอรัลด์รู้ถึงความจริงว่าเขาจะไม่มีที่ไหนให้ขอหลบภัยได้ เมื่อโมลเดลตามกลิ่นเขาเจอ อย่าลืมว่าเขาก็ฆ่าโมลเดลสี่คนในตอนที่อยู่จังหวัดซอลฟอร์ด แม้เขามั่นใจว่าโมลเดลจะไม่ฆ่าเขาอย่างง่ายดายก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าตระกูลของพวกเขานั้นมีอำนาจอย่างมาก เจอรัลด์รู้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ควรคิดที่จะจัดการกับโมลเดลด้วยตัวเขาเองด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมตอนนี้เขาถึงพิจารณาอย่างรอบคอบในทุก ๆ การเคลื่อนไหวที่เขากำลังจะทำ หลังจากการจัดเตรียมการเดินทางของโยเอลเพื่อไปจังหวัดซอลฟอร์ด เจอรัลด์จึงมุ่งหน้าไปยังเมาน์เ
คราวนี้ อย่างไรก็ตามผู้ชายคนนั้นจะไม่แค่ยืนอยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว ทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้พอ ผู้ชายคนนั้นจึงคว้าของผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาทันที ก่อนจะงอข้อมือของเขาเบา ๆ ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ชายทั้งคู่ก็เริ่มกระอักเลือดออกมาทันทีขณะที่พวกเขาได้ยินเสียงคอที่แตกละเอียดของพวกเขาง่าย ๆ แบบนั้น พวกเขาไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว จบลงอย่างง่ายดายเหมือนกับดับเทียนเล่มหนึ่ง ตามมาหลังจากนั้น เขาทำซ้ำขั้นตอนเดียวกันกับผู้โจมตีที่เหลือของเขา โดยการกำจัดพวกเขาทั้งหมดด้วยความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด “น นายเป็นใครกันแน่…” เจ็ตต์พูดตะกุกตะกัก คน ๆ นี้แข็งแกร่งอย่างมาก นอกจากนี้ วิธีการของเขาก็มีความชำนาญไม่แพ้กันกับพวกเขา ซึ่งน่ากลัวอย่างโหดเหี้ยม นอกเหนือจากคอร์ด เจ็ตต์ก็ไม่เคยเห็นใครอื่นที่มีพลังแท้ ๆ เช่นนี้เลย มันจึงทำให้เขาคิดว่าผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ คือคนมีฝีมือที่มีประสิทธิภาพสูงไม่น้อยไปกว่าพ่อของเขาเลย เมื่อรู้ว่าแบบนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงตกใจมาก ขณะที่เขายังคงจ้องมองเจอรัลด์ต่อไป “ไม่มีความจำเป็นต้องถาม แค่ตามฉันมา!” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับ “…
คืนต่อมาในคฤหาสน์ตระกูลคลอฟอร์ด ในนอร์ทเบย์ พ่อบ้านวิ่งเข้ามาในขณะที่ตะโกน “คุณผู้ชาย! ผมมีข่าวดีครับ คุณ!” ขณะนั้นดีแลนกำลังอ่านหนังสือในห้องหนังสือของเขา เมื่ออนุญาตให้พ่อบ้านของเขาเข้าไป จากนั้นดีแลนจึงวางแว่นตาของเขาลง ก่อนจะนวดหัวคิ้วของเขาและพูดขึ้น “ว่ามา…” “เกี่ยวกับคอร์ด โมลเดล ครับ! ในขณะที่คอร์ดและเจ็ตต์ทำเรื่องทุกอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อต่อต้านตระกูลของเราในหกเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเราก็ได้รับข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าเจ็ตต์หายตัวไปครับ!” “อะไรนะ? เจ็ตต์หายตัวไปงั้นเหรอ?” ดีแลนกล่าว ขณะที่เขาลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ เจ็ตต์เป็นลูกชายคนที่สามของคอร์ดที่ค่อย ๆ สร้างอำนาจของเขาในหกเดือนที่ผ่านมา เขายังเป็นคนที่สร้างความรำคาญมากอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยการก่อเรื่องให้คลอฟอร์ดอย่างจงใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสามารถทำได้ แม้ดีแลนเพียงเห็นเขาเป็นสัตว์ที่รบกวนตัวหนึ่งซึ่งไม่จำเป็นต้องจริงจังมากเกินไปก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเจ็ตต์สร้างความน่ารำคาญอย่างต่อเนื่องให้ครอบครัวของพวกเขา อันที่จริงเขาน่ารำคาญมาก จนคลอฟอร์ดรู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะจัดการกับเ
ในเวลานี้รถบัสกำลังเดินทางขึ้นไปตามถนนภูเขา และนอกเหนือจากคนขับรถเฉพาะกาลแล้ว ส่วนใหญ่ของถนนก็ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ตาม ภูเขาก็เป็นสิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้ต่อเนื่อง “รู้ไหม ผมได้ยินว่ามีการโจรกรรมมากมายเกิดขึ้นบนถนนแห่งนี้!” ชายหนุ่มตัวอ้วนคนหนึ่งที่พบว่าการเดินทางทั้งหมดนี้ค่อนข้างหดหู่ใจอย่างชัดเจนกล่าวขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่าคนอื่น ๆ กำลังมองเขาในตอนนี้ จากนั้นเขาจึงพูดต่อไป “มันอยู่ในข่าวเมื่อนานมาแล้ว! โจรกลุ่มหนึ่งเข้ายึดครองรถบัสบนถนนสายนี้ และเมื่อพวกเขาทำการปล้นเสร็จ พวกเขาก็ฆ่าทุกคนในรถบัส!” “นั่นไม่จริงหรอก! ฉันค่อนข้างตื่นตัวกับข่าวเช่นนี้…ทำไมฉันถึงไม่เคยเจอมันเลยล่ะถ้างั้น?” ผู้หญิงวัยหกลางคนถามอย่างค่อนข้างประหม่า “อืม ข่าวนั้นหายไปไม่นานมากนักหลังจากมันถูกปล่อยสู่สาธารณะ! อย่าลืมว่า การกระจายข่าวแบบนี้อย่างฉับพลันก็อาจเป็นการเพิ่มความตื่นตกใจได้อย่างง่ายดายน่ะสิ!” ผู้ชายตัวอ้วนอธิบาย “ฮ่า แม้ว่าโจรจะโจมตีพวกเรา แต่พวกเราก็จะอัดพวกเขาให้ตายเลย! ท้ายที่สุดแล้ว ในนี้ก็มีพวกเราหลายคนมากมาย!” ผู้ชายที่ค่อนข้างตัวใหญ่และล่ำสันพูดเยาะเย้ย “ใช่ แ
“ฉันกำลังพูดความจริง!” หญิงสาวกล่าวเสริม ขณะที่เธอขมวดคิ้วแน่น “เฮ้ เจ้าอ้วน! ช่วงเหอะน่า! เธอเป็นคนสวยอยู่ดี! ถ้านายยืนกรานจริง ๆ งั้นก็นี่! เอาสามดอลลาร์ไปจากฉันแทนแล้วกัน!” หนึ่งในผู้โดยสารเสนอ ขณะที่เขาหัวเราะออกมา “พูดเป็นเล่น! เมื่อคิดว่าผู้หญิงเช่นนี้มีอยู่จริงล่ะก็! อยากจะกินแต่ไม่เต็มใจที่จะจ่ายสามดอลลาร์ด้วยซ้ำเนี่ยนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนมุ้ยปาก เมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ทันทีหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม ความดุร้ายสั้น ๆ ฉายผ่านในดวงตาของเธอขณะที่เธอพูดขึ้นมา “ถ้านายต้องการเงินฉันมากขนาดนั้น งั้นก็ลงจากรถบัสไปกับฉันในภายหลัง ถ้านายกล้ารับคำท้า อย่าว่าแต่สามดอลลาร์เลย ฉันจะให้นายสามพันดอลลาร์ถ้านายต้องการ! ว่าไง?” ผู้หญิงคนนั้นถามอย่างเย็นชา “ผมจะบอกคุณให้นะ ทำไมผมจะไม่กล้าทำแบบนั้นล่ะ! อย่างไรก็ตาม คุณพูดมันด้วยตัวเองนะว่าคุณจะมอบสามพันดอลลาร์ให้ผม! มันยังไม่สายมากเกินไปที่คุณจะคืนคำพูดนั้น!” ผู้ชายตัวอ้วนตอบกลับ ขณะที่เขาแสดงอาการดูถูก “ตกลง!” หญิงสาวตะโกนใส่ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ตลอดบทสนทนาของพวกเขา ผู้ชายในชุดดำก็แอบมองไปที่หญิงสาวคนนั้นอยู่ตลอด
อย่างไรก็ตาม เขาถอนสายตาออกไปไม่นานหลังจากนั้น ในทางกลับกัน คนสวยคนนั้นเพียงเหลือบมองไปที่ผู้ชายตัวอ้วนก่อนจะพูดขึ้นมา “ถ้านายต้องการมีชีวิตอยู่ งั้นก็ถือกระเป๋าเดินทางของฉันและตามฉันมา ทำให้ดี ๆ และฉันจะมองเงินสามพันดอลลาร์ให้ เมื่อพวกเราเสร็จธุระกันแล้ว!” ขณะที่เธอมองผู้ชายตัวอ้วนพยักหน้าเงียบ ๆ ด้วยความหวาดกลัว หางตาของเธอก็เห็นผู้ชายอีกสามคนที่ลงจากมารถบัสมาก่อนหน้านี้แวบ ๆ โดยการเฝ้ามองพวกเขาเดินจากไปในทิศทางตรงกันข้าม เธออดไม่ได้ที่จะย่นคิ้วเล็กน้อย ‘ผู้ชายในชุดคลุมตัวยาวสีดำนั้นลึกลับอย่างแท้จริง…’ เธอคิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะยังไง เขาไม่ได้รบกวนเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด เธอก็มีเรื่องของตัวเธอเองให้สนใจในขณะเดียวกัน จากนั้นเธอก็นั่งลงยอง ๆ และเริ่มถอดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดออกจากศพทั้งห้า เมื่อเธอเสร็จแล้ว เธอก็แสดงท่าทางให้ผู้ชายตัวอ้วนตามไป และจากนั้นทั้งสองคนก็เดินจากไปเงียบ ๆ “ผู้อาวุโส…นายท่าน…ไม่ว่าคุณต้องการแบบไหน…คุณกำลังพาผมไปที่ไหนกัน…? ถ้ามันเป็นเรื่องเงินที่คุณต้องการ งั้นครอบครัวของผมก็สามารถมอบเงินให้คุณได้มากเท่าที่คุณต้องการเลย! แม
หนึ่งชี่วโมงภายหลัง เมื่อเจอรัลด์เดินออกมาจากหุบเขานั้นในที่สุด เจอรัลด์เองเอาชีวิตรอดออกมาได้เพราะเสี้อคลุมตัวยาวที่เขาสวมอยู่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเขาจากยุงทั้งหลายที่นั่น ขณะที่เขาสวมเสื้อผ้าปกติอย่างรวดเร็ว เขาก็นึกถึงช่วงเวลาอันน่าสังเวชของเจ็ตต์ ขณะที่เขาตายอย่างช้า ๆ เพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อน ในที่สุดการแก้แค้นของเขาก็ทำให้เจอรัลด์รู้สึกถึงความรู้สึกความพอใจได้ หลังจากนานมาแล้ว แม้ว่าคนของคอร์ดจะสามารถตามรอยลูกชายของเขามาจนถึงพื้นที่ภูเขาแห่งนี้ได้ แต่เจอรัลด์ก็มั่นใจว่าหุบเขาป่าพิษแห่งนี้จะเป็นสถานที่สุดท้ายที่พวกเขาคิดที่จะค้นหา ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ คอร์ดก็จะยังคงค้นหาเจ็ตต์ต่อไปอีกสักพักแน่นอน ในระหว่างช่วงเวลานั้น ในที่สุดครอบครัวของเจอรัลด์ก็จะมีโอกาสได้พักผ่อนกันบ้างชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจอรัลด์จะไม่สามารถย้อนกลับไปยังเวสตันได้สักพัก เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องรีบหาที่อื่นเพื่อล่าถอย อย่างน้อยก็สำหรับช่วงนี้ โดยการสะพายกระเป๋าเป้ของเขา เมื่อเขาเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาดูเหมือนกับนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ เขามีท่าทางที่เรียบง่ายและปราศจากเครื่อ
เจอรัลด์พยักหน้า ขณะที่เขากล่าวไปแบบนั้น “…ให้ตาย มันดีที่สุดที่พวกเราไม่ได้ไปไกลกว่านี้ น้องชาย! จากสิ่งที่ฉันเคยได้ยินมา ยุงพวกนั้นไม่แม้แต่จะทิ้งร่องรอยใด ๆ ของผิวหนังเหยื่อของพวกมันเลยด้วยซ้ำ! พวกเราถูกกระสุนยิงยังดีกว่าต้องทนต่อการโจมตีของยุงพิษนะ!” ผู้ชายตัวอ้วนกล่าว รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “คุณน่าจะคิดถึงเรื่องนั้น ในขณะที่คุณวิ่งมาหาผมก่อนหน้านี้ ความจริงที่ว่าคุณทำแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รังเกียจที่ผมจะตายด้วยกันกับคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรอกเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างไรก็ตาม ผู้ชายตัวอ้วนก็แทบจะไม่สำนึกผิดใด ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเขารู้สึกกลัวมากเกินไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เจอรัลด์เองก็กำลังคำนวนโอกาสของเขาในการมีชีวิตรอด ถ้าเขาพยายามต่อสู้กับผู้ชายพวกนั้น สุดท้ายแล้ว เขามั่นใจว่าผู้ชายพวกนั้นจะถล่มยิงจากระยะไกลทันทีที่พวกเขาเห็นเขาแน่ การหลบซ่อนยังคงเป็นไปได้ ณ จุดนั้น แต่เขาจะยังคงลงเอยด้วยการได้รับบาดเจ็บ! ไม่มีสิ่งด้านดีที่เป็นความหวังใด ๆ ในการเผชิญหน้ากับผู้ชายพวกนั้นในตอนนี้ ด้วยข้อสรุปเช่นนั้นในใจ เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเล
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ