ลูกน้องพวกนั้นต่างเดินลงบันไดไป เพื่อทำตามคําสั่งของเขา อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากพวกเขาลงไปแล้ว ก็ไม่มีเสียงใดตามมา ทุกอย่างเงียบสงบเช่นเดิม ตอนนั้นเองที่เชนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างมาก “นายตรงนั้น อยู่คุ้มกันที่นี่ไว้ พวกนายที่เหลือตามฉันลงไปชั้นล่าง!” เชนสั่งลูกน้องคนเดียวให้ยืนระวังอยู่ในห้อง ในขณะที่พวกเขาที่เหลือลงไปชั้นล่างด้วยกันกับเชน ทันทีที่เชนมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย ทันใดนั้นเขาก็หยุดเดิน ห้องนั้นมืดสนิทและไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ก่อนที่เขาจะทันได้เดินต่อไป เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดฉับพลันตรงด้านหลังศีรษะของเขา! เขาจึงทำได้เพียงคาดเดาเอาเท่านั้นว่าใครบางคนได้ทุบหัวของเขาด้วยกระบอง ก่อนที่เขาจะหมดสติไปในท้ายที่สุด คืนนั้นดึกมากแล้ว เจอรัลด์และเบที่เหนื่อยล้า ในที่สุดก็กลับมายังห้องของเบ ขณะที่เธอผล็อยหลับไปแทบจะในทันที เจอรัลด์จึงห่มผ้าให้เธอก่อนจะออกจากห้องไป ที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องของเธอ คือกลุ่มบอดี้การ์ดที่แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำ “ฮึ! ตระกูลหลงต้องพบว่ามันยากที่จะนอนหลับได้อย่างสงบสุขในคืนนี้อย่างแน่นอน คุณคลอฟอร์ด! ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็สูญเสียคนที่มีศักย
“ช่างหรูหราจริง ๆ!” ผู้หญิงอีกคนกล่าวเสริมด้วยความประหลาดใจ ด้วยความสงสัยว่าผู้อิทธิพลแบบไหนกันที่ขับรถที่ดูราคาแพงขนาดนี้ได้ มาริลินและคนอื่น ๆ จึงเลือกที่จะรออยู่ใกล้ประตูเพื่อดูว่าใครจะลงมา พวกเธอสองสามคนยังนำกระจกกะทัดรัดของพวกเธอออกมาด้วยซ้ำ และเริ่มแต่งหน้ากัน! อย่าลืมว่า ถ้าคนที่ลงมาจากรถคือทายาทหนุ่มที่ร่ำรวย ใครจะบอกได้บ้างว่าพวกเขาจะไม่ลงเอยด้วยการตกหลุมรักกับพวกเธอคนใดคนหนึ่ง? ฮ่าฮ่า! สุดท้ายแล้ว บอดี้การ์ดที่สวมชุดสูทสีดำกลุ่มหนึ่งก็ลงมาจากรถกัน ก่อนที่ในที่สุดจะเปิดประตูรถที่ดูราคาแพงมากที่สุดคันนั้น ที่ก้าวลงมาคือทายาทร่ำรวยที่ดูค่อนข้างคุ้นเคย… “…เฮ้ นั่น…นั่นไม่ใช่เจอรัลด์หรอกหรือ?” มาริลินถาม รู้สึกมึนงงกับสิ่งที่เธอกำลังเห็น “กีย่า นั่นคือ…นั่นคือเจอรัลด์ ไม่ใช่หรือไง?” มาริลินกล่าวซ้ำ ขณะที่เธอเริ่มกระโดดอย่างตื่นเต้นอยู่กับที่ กีย่าตอบรับโดยการพยักหน้า ก่อนที่จะพูด “ใช่!” “ให้ตายเถอะ! เจอรัลด์… เมื่อคิดว่าจริง ๆ แล้วเขามีทีมรถ… เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่…?” อาการตกใจของเธอได้รับการยืนยันได้จากก่อนหน้านี้ มาริลินเพิ่งรู้ว่าเจอรัลด์รำ่รวยก็เท่านั้น แต่
ทันทีที่กระสอบถูกเปิดออก คนอื่น ๆ ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่ได้สติที่ถูกซ้อมอย่างรุนแรง “ช เชน!” นายท่านหลงตะโกนขึ้นมาอย่างประหม่า เมื่อเขาเห็นว่าผู้ชายคนนั้นถูกซ้อมอย่างรุนแรงแค่ไหน “ตอนนี้ก็อย่าใจร้อนไปเลย! ยังคงมีอีกอย่างนะ!” ฟิลิปกล่าว ขณะที่เขาก้าวมาข้างหน้าเหมือนกัน ด้วยกิริยาที่รวดเร็ว หนึ่งในคนของฟิลิปโยนถุงใบหนึ่งให้นายท่านหลง เมื่อมันตกลงแทบเท้าของเขา สิ่งของภายในก็กระเด็นออกมา “…นี่คืออะไร?” “ฉัน… ฉันจำเสื้อผ้าพวกนี้ได้! พวกมันเป็นเสื้อผ้าแบบที่คุณยูนัสมักจะสวมใส่!” ใครบางคนตะโกนขึ้นมาจากภายในฝูงชน “ผมมั่นใจว่าคุณตามหาเขาไปทั่วทุกที่แล้ว ใช่ไหม? ความจริงก็คือ ยูนัสขับรถตกเหว และเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งพวกนี้คือซากเพียงเดียวที่พวกเราเจอ” ฟิลิปอธิบาย “อ อะไรนะ…?” นายท่านหลงถูกความโกรธและเศร้าโศกถาโถมเข้ามามากมาย ขณะที่เขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น “จ เจอรัลด์…นายและพี่สาวของนายช่างโอหังนัก! การรังแกพวกเราแบบนี้… เอาตามตรงนายคิดจริง ๆ เหรอว่าจะไม่มีใครสามารถต่อต้านนายได้ภายในตระกูลหลงของพวกเรานี้?!” นายท่านหลงคำรามใส่ สายตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธจัด เพียงแค่นั้น เ
“ขอบคุณในการให้ความร่วมมือ พวกเราจะมารับทรัพย์สินทั้งหลายจากคุณในเจ็ดวันนี้” ฟิลิปกล่าว ด้วยเหตุนี้เจอรัลด์ก็เริ่มจากไป และลูกน้องของเขาก็ติดตามหลังเขาไป แขกคนอื่น ๆ ไม่กล้าที่จะยังคงอยู่ที่นั่นต่อเหมือนกัน หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตระกูลหลง พวกเขาก็รีบออกไป หลังจากคนของเจอรัลด์จากไปแล้ว “พ่อ…ทำไมล่ะ? ทำไมพ่อถึงเซ็นมันไปล่ะ?! มันจะเป็นปัญหาตรงไหนกัน? พวกเราก็สามารถสู้พวกเขาได้! ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็ไม่ได้กลัวตายกันสักหน่อย!” ผู้ชายวัยกลางคน คนหนึ่งร้องออกมา การตบอย่างรุนแรงจากนายท่านหลงคือ การตอบกลับในทันที! “โง่จริง! แกอยากจะให้ทั้งตระกูลของเราถูกทำลายลงจนถึงจุดที่ไม่ได้กลับมาจริง ๆ หรือไง? แกอยากให้ตระกูลหลงไม่มีลูกหลานเหลือไว้ข้างหลังเหรอ?!” นายท่านหลงคำรามใส่ เมื่อจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างดุร้าย ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงกระตุกต่อไปอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเราถูกพี่น้องคลอฟอร์ดเอาชนะโดยสิ้นเชิงคราวนี้! ในขณะที่พวกเราวางแผนต่อต้านพวกเขาอย่างลับ ๆ ในหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่ภูมิหลังของพวกเขามีอำนาจมากเกินไป!” นายท่านหลงกล่าวเสริม ขณะที่เขากำหมัดแน่น “แต
ในการตอบสนองนายท่านหลงเพียงแค่ถอนหายใจออกมา“เอาล่ะ นั่นก็ดีเหมือนกัน มันดีกว่าที่ปล่อยให้ชอว์ได้อยู่อย่างมีความสุข…” “อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเราไม่ได้ติดต่อคอร์ดมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ตระกูลของเราก็ยังคงรุ่งโรจน์ต่อไปได้!” โจเอลกล่าว “ฮึ่ม! แน่นอน! ฉันสันนิษฐานเอาว่าคอร์ดไม่เคยโจมตีพวกเราอีกตั้งแต่พ่อของเขาตายไปไม่นานหลังจากนั้น เนื่องจากการตายของเขา คอร์ดจึงมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อตำแหน่งนายท่านคนที่สองของโมลเดล ตามปกติแล้วนั่นจึงหมายความว่าเขาจะไม่มีเวลาที่จะมายุ่งกับพวกเรานานพอสมควร แม้ฉันไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ตามข้อเท็จจริงที่เขาเป็นนักวางแผนการโดยธรรมชาติ มันคงไม่ไกลเกินจริงที่จะคาดเดาได้ว่า เขาลงเอยด้วยการกลายมาเป็นนายท่านคนที่สองของตระกูลโมลเดลอย่างแท้จริง” “เข้าใจแล้วครับ…พ่อวางแผนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากคอร์ด เพื่อจัดการกับคลอฟอร์ดใช่ไหม?” โจเอลที่เริ่มเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นถามขึ้นมาในตอนนี้ “อืม การคาดเดาของแกนั้นถูกครึ่งหนึ่ง ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือของเขาโดยตรง ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าฉันทำแบบนั้น ก็อย่างที่ฉันได้พูดไปก่อนหน้านี้ ชื่อเสียงและชื่อของตระกูลหลงจะเ
“เฮ้ น้องสาว ฉันรู้ว่านาร์คเคยทำเธอเจ็บปวดมาครั้งหนึ่ง แต่เธอดูภรรยาของเขาสิ หล่อนช่างเป็นคนบ้าวัตถุนิยมเช่นนั้น!” ยูเซลล์กล่าววินนี่จ้องเธอออย่างโกรธเคือง “เงียบไปเลย! ฉันบอกพี่กี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำให้ฉันนึกถึงเขา! อย่าแม้แต่จะมาแหย่ฉันด้วยเรื่องผู้หญิงคนนั้น!” “อ อืม…ฉันรู้ น้องสาว ฉันรู้ว่าเธอเกลียดผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น ฉันสาบานว่าฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก!” ดวงตาของยูเซลล์มีน้ำตารื้อขึ้นมา ขณะที่เธอพูดเมื่อตระหนักได้ว่าเธอพูดแรงมากเกินไป วินนี่จึงลูบหัวของยูเซลล์และพูดขึ้นมา “ฉันแค่พยายามที่จะระมัดระวังให้พี่ เจอรัลด์ผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยเงิน เขาเพียงมีสิ่งที่คนบ้าวัตถุนิยมต้องการเท่านั้น คือเงิน เขาไม่คู่ควรที่จะมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับตระกูลของเรา พวกเราเพียงมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเขาในนามของลูกชายของนายท่านของเรา เพื่อรักษาสัญญากับพวกเรา พวกเราตระกูลโมลเดลแตกต่างจากคนอื่นในโลก เรารักษาสัญญาของเราอย่างจริงจัง!” “เช่นนั้น แม้ว่าพี่จะมีความรู้สึกเล็กน้อยให้เจอรัลด์ แต่ก็ไม่มีทางที่พวกเธอทั้งคู่จะคบกันได้หรอก ฉันจะคัดค้านมันอย่างแน่นอน!” มีความคิดชั่วขณะของการดูถูกเหยียดหยามผ่
เขาเป็นผู้ชายในช่วงวัยหกสิบปี แต่เขาดูเหมือนราวกับว่าเขาอายุเพียงห้าสิบปีเท่านั้น เขามีดวงตาคู่ที่เฉียบคมและหลักแหลมที่จะก่อให้เกิดความรู้สึกของความกังวลต่อบุคคลที่ยืนต่อหน้าสายตาของเขาได้“ทำไมพวกเราถึงไม่สามารถร่วมมือกันได้ล่ะ?” ปาร์คเกอร์ถาม“นายท่านปาร์คเกอร์ ผมเข้าใจว่าเยลแมนได้ช่วยชีวิตลูกชายของคุณไว้ และคุณก็ติดค้างบุญคุณพวกเขา อย่างไรก็ตาม คุณทำผิดกฎ เมื่อคุณได้สัญญากับพวกเขาว่าจะช่วยเหลือคลอฟอร์ด!” “แต่คุณต้องรู้ว่าทายาทคนโตของคลอฟอร์ด เจอรัลด์ ได้ทำให้หนึ่งในเพื่อนที่แสนดีของผมต้องขุ่นเคืองใจ ตระกูลหลง เช่นนั้น ผมจึงต้องการคำอธิบายจากพวกคุณในนามของตระกูลหลง!” “คุณคิดว่าคุณจะสามารถช่วยเหลือพวกเขาในตอนนี้ได้เหรอ?” คอร์ดกล่าวแม้ว่าคอร์ดจะเรียกปาร์คเกอร์ในวัยเก้าสิบปีว่า ‘นายท่าน’ แต่เขาก็เป็นเพียงนายสามของตระกูล และคอร์ดก็อยู่เหนือกว่าเขาหนึ่งขั้น คอร์ดเป็นนายสองที่มีตำแหน่งสูงกว่าปาร์คเกอร์ในตระกูล“ตระกูลหลงงั้นเหรอ?” เจอรัลด์เริ่มครุ่นคิดว่าตระกูลหลงเกี่ยวอะไรกับโมลเดลเจสสิก้าและตัวเขาเองขัดแย้งกับตระกูลหลงมานานแล้วตอนนี้ ดังนั้นคอร์ดต้องการคำอธิบายแบบไหนกันล่ะ?“
“ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง พ่อครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะผม!” เจอรัลด์เริ่มขอโทษ เมื่อดีแลนและครอบครัวมาถึงห้องหนังสือเพื่อหารือแผนการของพวกเขากันดีแลนไม่ทันตั้งตัวกับเรื่องนี้ เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น“ไม่ เจอรัลด์ นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเรื่อง พ่อได้ยินเกี่ยวกับคอร์ดจากปู่ของลูก และพ่อก็รู้มาตลอดว่าเขาเป็นคนละโมบมาก ปู่ของลูกมีธุรกิจกับเขา และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมพวกเราถึงย้ายจากเวสตันมานอร์เบย์ พวกเราทั้งหมดพยายามที่จะอยู่ให้ห่างจากคอร์ด โมลเดลกัน แต่วันนั้นในที่สุดก็มาถึง เมื่อพวกเราไม่สามารถหนีจากเขาได้อีกต่อไปแล้ว!” ดีแลนกล่าว“แม้มันไม่ใช่เพราะตระกูลหลง เขาก็จะยังคงไล่ตามเรามาอยู่ดี ในนามของตระกูลซาเบลและเล็ตส์!” ดีแลนพูดต่อ ในขณะที่ขมวดคิ้ว“พ่อ ความกังวลที่พ่อมีต่อตระกูลโมลเดล เป็นเพราะแบบนี้ใช่ไหม?” เจอรัลด์จำได้ว่าพ่อของเขาเคยพูดว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา เขาก็คงจะไม่แสวงหาความช่วยเหลือจากโมลเดล และเขาจะไม่มีทางเริ่มธุรกิจใด ๆ กับคนเหล่านั้นดีแลนพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล“เจอรัลด์ ลูกรู้เกี่ยวกับตระกูลนั้นที่ครั้งหนึ่งมี
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ