ตามปกติแล้วโนอาไม่เคยมีความมุทะลุและกล้าหาญที่จะขอเฟนเดอร์สันเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการแต่งงานของลูกชายของเขาเลย ท้ายที่สุดแล้วเฟนเดอร์สันก็ยังคงเป็นตระกูลที่เกี่ยวข้องหลักของตระกูลชุยเลอร์อยู่ดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานใหญ่เช่นนี้ถูกจัดขึ้นในวันนี้ โนอาจึงตัดสินใจถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่สุด เพียงเพื่อจะดูว่านายท่านผู้เฒ่าจะตอบกลับอย่างไร จากการตอบสนอง ไบรสันขมวดคิ้วด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “นายกำลังเสนอการแต่งงานระหว่างแจสมินกับยาเอลใช่ไหม?” “อืม ฉันเกรงว่าเรื่องนี้มีใจความอยู่ที่สิ่งที่แจสมินต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วการแต่งงานก็เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว! นายควรปล่อยให้เด็ก ๆ จัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเขาเอง!” เมื่อได้ยินแบบนี้จึงทำให้โนอาหัวเสียเล็กน้อย เนื่องจากเขารู้ว่าข้อเสนอของเขาเพิ่งถูกปฏิเสธไปอย่างอ้อม ๆ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หลานสาวของไบรสันก็ไม่ได้ให้ความสนใจในตัวยาเอลเลย ทั้งนั้นอย่างเห็นได้ชัด “ในฐานะพ่อแม่ ตามปกติแล้วพวกเราก็เป็นพ่อสื่อแม่สื่อให้ลูก ๆ ของเราอยู่แล้ว ท่านเฟนเดอร์สัน ผมเชื่อจริง ๆ ว่าตรา
แม้ดาริลไม่ได้ปรากฏตัวมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสัญญาการแต่งงานจะสิ้นสุดลงไป ความจริงแล้วแม้ว่าดีแลนจะเป็นปรปักษ์ต่อเฟนเดอร์สันมาก แต่เขาก็ไม่ได้ส่งใครมายุติสัญญาอย่างเป็นทางการ ตราบใดที่สัญญาการแต่งงานไม่ได้ถูกยกเลิก งั้นมันก็เป็นกฏที่ยังคงใช้ได้จนถึงวันที่ตระกูลคลอฟอร์ดเลือกที่จะยอมรับมัน!” ไบรสันอธิบายก่อนจะมองไปที่โนอา “นายเข้าใจในสิ่งที่ฉันหมายถึงตอนนี้ใช่ไหม โนอา?” “…เมื่อคิดว่าตระกูลคลอฟอร์ดและเฟนเดอร์สันมีประวัติศาสตร์เช่นนี้ล่ะก็…อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองตระกูลยังคงขัดแย้งต่อกันและกันอยู่ งั้นสัญญาการแต่งงานก็ควรถูกยกเลิกไปโดยอัตโนมัติหรือเปล่า ท่านเฟนเดอร์สัน?” โนอาตอบกลับอย่างค่อนข้างไม่เต็มใจ “แม้มันเป็นเรื่องจริงที่ทั้งดีแลนและแดริลมีการทะเลาะกันครั้งใหญ่ในตอนนั้น แต่ฉันไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะมีความกล้า หรือมุทะลุที่จะแก้ไข หรือขัดต่อกฏที่พ่อของเขาตั้งขึ้นมาหรอกนะ!” “…ดีมาก ท่านเฟนเดอร์สัน ผมจะแค่แกล้งทำเป็นว่าผมไม่เคยนำเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่อย่างไรก็ตาม จำไว้นะครับว่าพวกเราต่อสู้กับคลอฟอร์ดมาหลายปีแล้ว พวกเราจะไม่มีวันเลิกแค้นตระกูลคลอฟอร์ด
ในชั่วพริบตา ผู้คนมากมายก็มาชุมนุมกันที่งานเลี้ยงแล้ว พี่น้องเฟนเดอร์สันทั้งสองคนรับผิดชอบกับการทักทายและให้ความบันเทิงแก่แขกด้านนอก “คุณมาที่นี่เร็วจังนะครับ คุณชุยเลอร์!” แขกส่วนใหญ่ที่ไปทักทายโนอากล่าวขึ้นมาทันทีที่พวกเขาเห็นเขา มันชัดเจนว่าสำหรับแขกทั้งหลาย พี่น้องเฟนเดอร์สันทั้งสองคนไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยเมื่อเทียบกับโนอา เมื่อเห็นแบบนั้นลูกชายคนที่สองของครอบครัวเฟนเดอร์สันจึงทำได้เพียงแค่โบกมือให้ด้วยความขุ่นเคืองเท่านั้น เป็นตอนนั้นเองเมื่อใครบางคนตะโกนขึ้นมาฉับพลัน “ตระกูลหลงจากยานเคนส่งรูปปั้นหยกขาวมาที่นี่!” “…ฮะ? ตระกูลหลงจากยานเคนงั้นเหรอ?” ทุกคนถึงกับประหลาดใจที่ได้ยินแบบนั้น ทำไมตระกูลหลงถึงจะมาที่นี่เพียงเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ด้วยล่ะ แม้สองตระกูลจะลงรอยกันดี ด้วยตระกูลหลงยังเคยช่วยเหลือตระกูลเฟนเดอร์สันมาก่อนด้วยซ้ำ แต่ทั้งสองตระกูลก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันมานานมากแล้ว นายท่านผู้เฒ่าของเฟรเดอร์สันเองส่วนใหญ่ก็เชิญสมาชิกและผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลเฟนเดอร์สันมาที่งานเลี้ยงนี้เท่านั้น ตระกูลหลงจึงถือว่าเป็นการเกี่ยวดองจากต่างถิ่น ทุกคนรู้
ตอนนี้เจอรัลด์หงุดหงิดเกินกว่าจะพูดได้ แผนการในตอนแรกที่จะใช้ประโยชน์จากงานเลี้ยงวันเกิดเฟนเดอร์สัน เพื่อช่วยเควต้าตอนนี้จึงตกอยู่ในความเสี่ยง เมื่อคิดว่าเขาจะพบทั้งอลิซและซาเวียพร้อมกัน! จึงมีปัญหาที่คาดไม่ถึงมากมายกำลังผุดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ถ้าหญิงสาวคนใดคนหนึ่งจำเขาได้ล่ะ สถานการณ์ก็จะเริ่มแย่ลงอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เจอรัลด์เพิ่งทำแก้วไวน์แตกและผู้คนมากมายก็มองมายังทิศทางของเขากันแล้ว! ให้ตายเถอะ! เจอรัลด์กลัวมากจนเขาก้มหน้าลงทันที และเริ่มเก็บเศษแก้วที่แตกออกจากบนพื้น “…เอ๋?” ในขณะที่เจอรัลด์จัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็วและรีบหนีไป เขาก็ดูเหมือนจะไปดึงดูดความสนใจของหญิงสาวอีกคนเช่นกัน หญิงสาวที่ว่านั้นกำลังยืนอยู่ข้างแจสมิน เป็นมินดี้นั่นเอง! ‘…ทำไมชายหนุ่มคนนั้นถึงดูคล้ายกันมากกับเจอรัลด์ล่ะ? นี่ไม่สมเหตุสมผลใด ๆ เลย! ทำไมผู้ชายเซ่อ ๆ คนนั้นถึงจะอยู่ที่นี่ในงานเลี้ยงวันเกิดของเฟนเดอร์สันด้วยล่ะ?’ มินดี้คิดกับตัวเอง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นมินดี้จึงเริ่มตามเขาไปอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ “นั่นเป็นสถานการณ์ที่เสี่ยงจริง ๆ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาถอนหา
เมื่อเห็นว่ามินดี้แต่งตัวดีมากแค่ไหน คนดังคนนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นสมาชิกของตระกูลเฟนเดอร์สัน เช่นนั้นแทนที่จะทำตัวอวดดีต่อไป เธอจึงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา “สาวน้อยคนสวย โปรดอย่าเข้าใจฉันผิดเลยค่ะ แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นแค่คนรับจ้างทำงานที่ทำงานง่าย ๆ ให้พวกเราเอง!” “คนรับจ้างทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ งั้นเหรอ? นายไร้ค่าขนาดนั้นเลยเหรอ? กำลังเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่เนี่ย เจอรัลด์?” เธอรู้ถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นทายาทร่ำรวยที่ทรงเกียรติ ดังนั้นทำไมเขาถึงจะจำเป็นต้องรับใช้และทำงานง่าย ๆ ให้คนดังพวกนี้ด้วยล่ะ? “ฉันจะ…อธิบายทุกอย่งให้เธอฟังในอนาคตละกัน! สำหรับตอนนี้ ฉันจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำจริง ๆ ดังนั้นฉันจะขอตัวก่อนล่ะ!” เจอรัลด์รู้สึกได้ว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด! ถ้าเขาเอาแต่ชักช้าอยู่ที่นี่ แผนการของเซร่าก็จะล้มเหลวเพราะเขาอย่างแน่นอน! “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!” ทั้งมินดี้และคนดังคนนั้นตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน มินดี้บอกได้เลยว่าเจอรัลด์กำลังปิดบังบางอย่างจากเธอ และเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบถูกเก็บความลับไว้ ยิ่งเขาอยากจะจากไปมากเท่าไหร่ เธอยิ่งปฏิเสธที่จะปล่อยเขาไปมากขึ้นเท่านั้น ค
เจอรัลด์เองก็กำลังสงสัยสิ่งเดียวกัน มันดูราวกับว่าความขัดแย้งบางอย่างกำลังเกิดขึ้น ทุกอย่างดูเหมือนดำเนินไปด้วยดีก่อนหน้านี้ แล้วสิ่งต่าง ๆ ลงเอยแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? ขณะที่เจอรัลด์จ้องมองเหตุการณ์ด้วยความงงงวย เขาก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังคุกเข่าอยู่ในฝูงชน สมาชิกของตระกูลที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฟนเดอร์สันก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเดือดดาล และแม้แต่ท่านเฟนเดอร์สันเองก็มีสีหน้าน่ากลัวบนใบหน้าของเขา “เป็นเธอ! สาวใช้ของบาปหนาคนนั้นจากตอนนั้น! รีบบอกพวกเรามาว่าเซร่าอยู่ที่ไหน! ถ้าเธอพูดความจริง พวกเราจะพิจารณาในการไว้ชีวิตเธอ!” “จำไว้นะ! ตระกูลคลอฟอร์ดและเฟนเดอร์สันทะเลาะกันครั้งใหญ่ในตอนนั้นก็เพราะเธอ! พวกเราตระกูลในเครือ เป็นคนที่ทนทุกข์กับการสูญเสียมากที่สุด เพราะการต่อสู้นั้น! ลูกชายที่น่าสงสารที่เติบโตขึ้นมาในความวุ่นวายเช่นนี้ก็เพราะเธอ! ท่านเฟนเดอร์สัน ถ้าเธอกำลังซ่อนเซร่าไว้ที่ไหนก็ตาม พวกเราต้องการให้เธอส่งหล่อนมาให้พวกเราซะ!” “ถูกต้อง! มอบเธอมา เพื่อที่พวกเราจะได้ให้คำอธิบายต่อตระกูลของพวกเรา!” สมาชิกตระกูลในเครือมากมายตอนนี้กำลังรวมตัวรอบ ๆ ท่านเฟนเดอร์สันก
มันชัดเจนว่าเซร่ามีอำนาจมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับพ่อของแจสมินในตอนนั้น แม้ว่าทรัพย์สินของเซร่าจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเท่า ๆ กันในหมู่ตระกูลในเครือตอนนี้ก็ตาม มันก็จะไม่เป็นเรื่องง่ายเหมือนกับที่ตระกูลจะสามารถได้รับความเท่าเทียมกันกับตระกูลเฟนเดอร์สันอีกต่อไป นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำไมโนอาและยาเอล ตั้งใจให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลามานี้ “พวกคุณทั้งหมดฝันต่อไปเถอะ…” แจสมินกล่าวอย่างฉุนเฉียว “หลีกไปก่อนแจสมิน หนูไม่จำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้!” ไบรสันกล่าว ด้วยสีหน้าหมดหวังบนใบหน้าของเขา เธอไม่กล้าขัดคำพูดของปู่ของเธอ เธอจึงไปยืนด้านข้างทันที จากนั้นไบรสันก็เริ่มเจรจาต่อรองกับโนอาเป็นการส่วนตัว ในขณะที่เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้น ทันใดนั้นมินดี้ก็เริ่มตะโกนขึ้นมา “แจสมิน ตรงนี้!” ด้วยการขมวดคิ้ว จากนั้นแจสมินก็เดินไปหามินดี้ก่อนจะตระหนักได้ว่าใครอยู่กับเธอ ด้วยความประหลาดใจของเธอ เจอรัลด์อยู่ที่นี่! “ทำไมนายอยู่ที่นี่ล่ะ?” “อย่าไปสนใจเขาในตอนนี้เลย ที่สำคัญกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันเนี่ย? ตระกูลในเครือกำลังพยายามขัดขืนต่อพวกเราใช่ไหม?” มินดี้ถาม ขณะที่เธอรีบ
เมื่อได้ยินคำสั่งของโนอา ผู้ชายสองสามคนก็ก้าวมาข้าวหน้า โดยลากผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย หัวของเธอก้มลงและปากของเธอก็ถูกปิดไว้แน่น อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ของเธออย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นถึงกับช็อกไปตาม ๆ กันแล้ว “เธอ…เธอดูเหมือนหล่อนเป๊ะเลยนะ!” “ถูกต้อง! ฉันเกือบจะคิดว่าเธอคือ เซร่าเวอร์ชั่นเด็กน้อยเสียอีก!” “พวกเราทุกคนถูกหลอก! ท่านเฟนเดอร์สันต้องรู้ว่าเซร่าอยู่ที่ไหนมานานแล้ว! แต่เขาทิ้งให้พวกเราตระกูลในเครือทั้งหมดอยู่ในที่มืดโดยตั้งใจ!” ในขณะที่ผู้ชมเริ่มถกกันเสียงดัง เควต้าเองก็มีสีหน้าย่ำแย่อย่างมากบนใบหน้าของเธอ ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ถูกทำร้ายร่างกาย และร่างกายของเธอก็รู้สึกอ่อนแรงอย่างมากในเวลานี้ “เป็น…เป็นลูกสาวของคุณอาจริง ๆ! ดังนั้นกลายเป็นว่าคุณปู่เจอลูกสาวของคุณอาแล้วสินะ!” แจสมินกล่าว “เควต้า!” ไบรสันตะโกนขึ้นมา ด้วยสีหน้าเข้มงวดบนใบหน้าของเขา เดิมทีเขาได้จัดเตรียมคนให้ส่งเควต้าไปอย่างลับ ๆ เช้านั้น แต่เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าจะมีลูกสมุนทำงานให้กับตระกูลชุยเลอร์! เหตุการณ์ปัจจุบันนี้จึงเป็นผลของมัน “เช่นนั้น ท่านเฟนเดอร์สัน ตอนนี้พวกเราทุกคน
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ