“ยูนัส! แน่นอน มันนานแล้วตั้งแต่ที่พวกเราพบกันครั้งสุดท้าย! ฉันดีใจที่นายพูดว่านายจะมาหาฉันนะ!” ยาเอลอุทานออกมาด้วยรอยยิ้มแจ่มใสทันทีที่เขาเห็นยูนัส“เออจริงสิ พ่อแม่ของนายที่บ้านเป็นไงบ้าง? มีช่วงหนึ่งที่ผู้อาวุโสของฉันคอยแต่จะรบกวนให้ฉันไปที่ยานเคน เพื่อเยี่ยมพ่อของนาย!”“ขอบคุณที่ถามนะ ยาเอล พวกเขาสบายดี!” ยูนัสกล่าวยาเอลส่งสัญญาณให้ยูนัสนั่งลง “เกิดอะไรขึ้น? ฉันได้ยินว่าพ่อของนายทำโทษนายเหรอ? เขาไม่ให้นายไปไหนครึ่งเดือนใช่ไหม?”“ฮึ่ม! ฉันไม่อยากพูดถึงใช้มัน ฉันโมโหทุกครั้งที่ฉันพูดถึงเหตุการณ์นั้น เออจริงสิ ยาเอล มาพูดถึงเรื่องของนายกันเถอะ ฉันพาคนของฉันมาด้วย ฉันเชื่อว่านายพบพวกเขาแล้วเหมือนกัน พวกเขามาจากอเมริกาเหนือ และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในแวดวงของพวกเขาเอง!”“ฉันพบพวกเขาเมื่อครู่นี้ ยูนัส ฉันต้องบอกนะว่าฉันก็รู้สึกประทับใจ!” “ดี! งั้นฉลองกันเถอะและขอให้ภารกิจของนายสำเร็จในวันพรุ่งนี้กัน!” …วันต่อมามาร์เวนและคนอื่น ๆ ก็มาด้วยเหมือนกันเจอรัลด์ได้เตรียมการที่จำเป็นเมื่อคืนที่แล้ว และเขาขอให้มาร์เวนพาคนที่ไว้วางใจได้มาด้วยประมาณห้าคนแน่นอนว่ามาร์เวนจริงจังกับคำพู
น้ำเสียงที่เขาพูดก็ฟังดูเด็ดขาดมีบุหรี่คาบอยู่ระหว่างปากของเขาขณะที่มันขยับไปมา“ถูกต้อง ตอนนี้ไปสนุกกับเพื่อนของเธอซะ! หยุดถามคำถามมากมายได้แล้ว!”ผู้ชายคนอื่นเลียนแบบในสิ่งที่เขากล่าวไป“นาย…นายพูดแบบนั้นกับฉันได้ยังไง? เจอรัลด์! นายไม่ลงโทษพวกเขาหน่อยเหรอ? ฟังวิธีที่พวกเขาพูดกับฉันตอนนี้สิ!” สเตลล่าแอบมองเจอรัลด์ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยสีหน้าโกรธตอนนั้นเองที่เจอรัลด์เอียงหัวของเขาเพื่อมองไปยังทิศทางของเธอ “พอได้แล้ว มาร์เวน อย่ามาถูกรั้งไว้เพราะเรื่องนี้เลย โอเคไหม? ถึงเวลาไปได้แล้ว!” “ก็ได้ เจอรัลด์!”มาร์เวนพยักหน้าทันทีหลังจากนั้น พวกเขาก็เข้าไปในรถกันมาร์เวนยังไม่มีใบขับขี่ดึงนั้นเจอรัลด์จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำรถเบนซ์ MVP ของเขาออกมา เพื่อขับรถพาเพื่อน ๆ ของเขาไปรอบ ๆ แต่สเตลล่าจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหลบหนีไปได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นเมื่อเห็นว่าเจอรัลด์ยังคงเลือกที่จะเมินเฉยต่อเธอ เธอจึงวิ่งไปยังที่นั่งผู้โดยสาร และเข้าไปในรถโดยไม่ได้รับเชิญ“แม่ง! เธอจะทำอะไร?”เจอรัลด์คิดกับตัวเอง ‘สเตลล่าเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย?’‘วันนี้ทำไมเธอถึงทำตัวแปลกมากขนาดนี้ล่ะ?’‘เธอขอบไป
หมู่บ้าวินเทอร์บอร์นอยู่ระยะใกล้มากกับเขตโฮเวิร์ดพวกเขาหาตำแหน่งของครอบครัวที่มินดี้ระบุให้พวกเขาค้นหาได้แล้ว เมื่อพวกเขามาถึงยังจุดหมายผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเปิดประตูให้พวกเขา สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันก็คือ รอยแผลเป็นจากไฟไหม้ที่แห้งเกรียมไปทั้งใบหน้าของเธอเธอดูเหมือนค่อนข้างหวาดกลัวกับการปรากฏตัวของพวกเขา“คุณกำลังตามหาใครอยู่เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดกับการมาถึงอย่างเงียบ ๆ ของเจอรัลด์และเพื่อนของเขาเธอก้มหน้าเพื่อปิดบังรอยแผลของเธอ บางทีอาจเป็นเพราะความอับอาย หรืออาจเป็นความหวาดกลัวว่าจะทำให้คนแปลกหน้ากลัวก็ได้“คุณคะ ยินดีที่ได้พบคุณนะคะ ฉันขอทราบได้ไหมว่าคุณคือพี่ลูกน้องของเซเนียหรือเปล่า? เธอพูดว่าเธอขอให้คุณเก็บของพิเศษบางอย่างไว้ให้เธอ พวกเราจึงมาที่นี่เพื่อรับมันคืน เธอบอกพวกเราว่าคุณจะเข้าใจมันเองหลังจากที่อ่านจดหมายนี้” แจสมินเดินไปหาและพูด ในขณะที่เธอยื่นจดหมายให้เธอผู้หญิงคนนั้นมองไปที่จดหมาย จากนั้นเธอก็เหลือบมองแจสมินอยู่สองสามครั้งก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ“ดีมาก ฉันเข้าใจแล้วตอนนี้ คุณเอามันไปได้” ผู้หญิงค
เจอรัลด์แฝงตัวอยู่ด้านในทางผ่านที่คับแคบ เขาเหลือบมองไปที่ใบหน้าของสเตลล่าจากนั้นเขาก็ฟังเสียงภายนอก เห็นได้ชัดคนเหล่านั้นจะไม่ล้มเลิกการค้นหาของพวกเขาในเร็ว ๆ นี้แน่ พวกเขาพลิกก้อนหินทุกก้อนในการค้นหาเป้าหมายของพวกเขาแจสมินวิตกกังวลมากจนหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจากความกลัวไม่มีทางที่จะหนีไปได้เลย ถ้าพวกเขาปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินต่อไปโดยไม่ลงมือทำอะไรเจอรัลด์อยู่ข้างหลังของกลุ่ม และสเตลล่าก็อยู่ข้างเจอรัลด์ขณะนั้น เจอรัลด์จัดหาอุปกรณ์ที่ประณีตแต่กะทัดรัดออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาสเตลล่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอเห็นอุปกรณ์นั้น เธอบอกได้เลยว่ามันคือบางอย่างที่พิเศษ บางอย่างซึ่งไม่สามารถหาได้จากตลาดผู้บริโภคทั่วไปจากนั้นเจอรัลด์ก็ส่งสัญญาณให้เธอเงียบไว้หลังจากนั้น เขาก็กดปุ่มบนอุปกรณ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะทำให้เกิดสัญญาณขอความช่วยเหลือได้“นี่…นี่คืออะไร? สิ่งนี้จะช่วยชีวิตของพวกเราได้ใช่ไหม?”สเตลล่าถามด้วยสายตาที่เบิกกว้างขึ้นเจอรัลด์กดลงบนหัวของเธอและกระซิบในหูของเธอ “ลืมอะไรก็ตามที่เธอเพิ่งเห็นไปซะ อย่าพล่ามไร้สาระเด็ดขาด!”สเตลล่าพยักหน้าอย่าง
“ผมเหรอครับ?” เจอรัลด์ชี้ตัวเอง“ฉันเห็นว่าคุณเฉลียวฉลาดมากแค่ไหน หนุ่มน้อย! คุณช่วยฉันบางอย่างได้ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นเก็บอารมณ์ของเธอได้ทันเวลา“แน่นอนค่ะ ฉันมั่นใจว่าเจอรัลด์สามารถอยู่ต่อเพื่อช่วยคุณได้!” มินดี้กล่าวเธอปฏิบัติต่อเจอรัลด์ราวกับว่าเขาเป็นคนรับใช้ของเธอจริง ๆ!หมดทางไปสำหรับเรื่องนี้เหมือนกัน เจอรัลด์ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของผู้หญิงคนนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงสัญญาที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่เต็มใจนักหลังจากพวกเขาจากไป ผู้หญิงคนนั้นก็คว้ามือของเจอรัลด์ทั้งสองข้างของเจอรัลด์ไว้ทันทีการกระทำฉับพลันของเธอทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา“คุณครับ เป็นอะไรไปหรือเปล่า?” เจอรัลด์ถามทันที“หนุ่มน้อย ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันเห็นได้ว่าคุณมีจิตใจดี คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าคุณได้จี้หยกนี้มาจากไหน?”จากนั้นเธอก็ชูจี้หยกที่เธอหยิบขึ้นมาจากพื้นไม่ต้องสงสัยเลย นั่นคือจี้หยกที่เควต้ามอบให้เธอด้วยชื่อเซร่าสลักไว้บนนั้นเจอรัลด์ตกใจเล็กน้อยกับการที่ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นรู้สึกสะเทือนอารมณ์ขึ้นมาอย่างไรแต่เขายังคงตอบกลับ “นี่เป็นของน้องสาวของผม เป็นอะไรไปครับ คุณ?” ผู้หญ
และตอนนี้ ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับเควต้าเป๊ะ ๆ ก็อยู่ต่อหน้าเขาแล้วสิ่งที่ยืนยันความสงสัยของเขาก็คือ การที่เห็นเธอรู้สึกกระวนกระวายใจมากแค่ไหน เมื่อเธอเห็นจี้หยกนั่น มีอะไรบ้างที่สามารถอธิบายปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเธอได้ล่ะ?“คุณจะบอกว่าชื่อของเธอคือเควต้าเหรอคะ? เธอดูเหมือนฉันจริง ๆ เหรอคะ?” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างตื่นเต้น“ใช่ครับ เธอมอบจี้หยกนี้ให้ผม เธออยากตามหาแม่ของเธอเอง ซึ่งเธอแยกจากมานานหลายปีก่อน เธออยู่ตามลำพังเสมอมาตั้งแต่นั้น ชีวิตของเธอจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ไม่มีทั้งอาหารดี ๆ และเสื้อผ้าที่เหมาะสม เธอเติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เกิดแล้ว!” เจอรัลด์กล่าวผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมาอีกครั้งขณะที่เธอกำลังร้องไห้ เธอก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง“ในที่สุดคุณพร้อมที่จะยอมรับมันจริง ๆ หรือเปล่า? คุณคือเซร่า ใช่ไหมครับ?”เจอรัลด์ถามและผู้หญิงคนนั้นก็เอาฝ่ามือปิดหน้าของเธอขณะที่เธอพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง!”หลังจากนั้น เธอก็ลุกยืนขึ้นทันที เธอคว้าแขนของเจอรัลด์ “ฉันขอร้องคุณนะ โปรดให้ฉันพบเควต้าด้วย ฉันไม่สนว่าคุณอยู่ฝ่ายไหน ฉันสัญญาว่าฉันจะไปกับคุณตราบ
เจอรัลด์รับปากเธอทันทีเขารู้ว่าตระกูลเฟนเดอร์สันยังคงตามหาเซร่าอยู่ แน่นอนเขาไม่ได้โง่ และก็ไม่ต้องการก่อเรื่องที่ไม่จำเป็นให้ตัวเองแต่ในเวลาเดียวกัน เจอรัลด์ก็ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเซร่าและครอบครัวของตัวเธอเองตลอดหลายปีก่อนนั้นเขาต้องการจะรู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับเควต้าในทางไหนยังไงเมื่อตระหนักได้ว่าเจอรัลด์จะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซร่าจึงกลายเป็นค่อนข้างตรงไปตรงมา และเธอก็เริ่มเปิดเผยความจริงโดยไม่ปิดบังใดเลยกลายเป็นว่ามันก็คือประมาณว่าแบบนี้ปีเตอร์ คลอฟอร์ดที่เซร่าเอ่ยถึง คือนายน้อยรองจากตระกูลคลอฟอร์ดในตอนนั้น เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง เขายังเป็นพ่อของเควต้าเช่นกัน‘โดยการคาดเดาที่มีเหตุผล ผู้ชายที่ชื่อปีเตอร์ก็น่าจะเป็นอาของเขา ที่พ่อของเขาพูดถึงเมื่อฉันเป็นเด็ก’‘ตอนนั้น พ่อมักจะบอกเขาว่า อาของเขาออกไปทำงานนอกเมืองอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้าน’‘ไม่แปลกที่มีความรู้สึกของความคุ้นเคยเมื่อเขาพบเควต้าครั้งแรก’‘กลับกลายเป็นว่าเควต้าคือ ลูกพี่ลูกน้องของเขานั่นเอง’แต่เห็นได้ชัด ความขุ่นแค้นระหว่างตระกูลคลอฟอร์ดและตระกูลเฟนเดอร์สันนั้
บางอย่างในตัวเจอรัลด์บอกเขาว่านี่ยังคงไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะนายน้อยของตระกูลคลอฟอร์ด“ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ งั้นดีแลนก็คงจะไม่รุกรานตระกูลเฟนเดอร์สันด้วยวิธีการที่บ้าคลั่งเช่นนั้นหรอก!” เซร่ากล่าวดีแลนคือชื่อพ่อของเจอรัลด์หัวใจของเจอรัลด์เต้นระส่ำเมื่อเขาได้ยินเธอพูดถึงชื่อของพ่อของเขา เขาไม่ได้พูดอะไรและฟัง เซร่าเงียบ ๆ “เป็นเพราะสิ่งอื่นเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้น…”“หลังจากนั้น หัวหน้าแห่งตระกูลคลอฟอร์ด ดีแลนจึงกักบริเวณปีเตอร์ไว้ในบ้าน แต่ปีเตอร์เป็นห่วงฉันและลูกสาวของฉันมาก ดังนั้น ในคืนหนึ่งเขาบอกฉันว่าเขาต้องการจะหนีตามไปกับฉัน เควต้าเกิดแล้วในตอนนั้นและพวกเราก็จะกบดานอยู่สักที่ที่ไม่มีใครสามารถตามหาพวกเราเจอ และเป็นที่ที่พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม!”เซร่ากล่าว…มันเป็นคืนที่เซร่าพาเซเนีย สาวใช้ของเธอ ไปหาห้องโรงแรมด้วยความเร่งรีบแม้เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเฟนเดอร์สัน แต่หลังจากที่เธอเนรเทศตัวเองไป แต่ตระกูลเฟนเดอร์สันก็ยังคงจ้างคนมาจับตาดูเธอ เพราะปัญหาที่ซับซ้อนบางอย่างคืนนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมาก เซร่ายังคงอุ้มลูกสาวของเธอไว