“เอาล่ะ เอางี้ไหม? ฉันจะอยู่ที่นี่อีกสามวัน และแม้ว่าเธอจะไม่สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่ยาก ๆ ได้ภายในช่วงเวลาอันสั้น ๆ แต่ภายได้การแนะนำของฉัน เธอจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างน้อยสองสามอย่างสำหรับการป้องกันตัว วิธีนั้น ศัตรูของเธอจะไม่สามารถเข้ามาใกล้เธอได้มากเกินไปได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น! แม้การเคลื่อนไหวเองจะใช้ได้จริงและเรียนรู้ง่ายกว่า โดยทั่วไปแล้ว จำไว้ว่าการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ทำร้ายคน! พวกมันมีไว้เพื่อป้องกันตัวเป็นหลัก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม!” ฟินน์เลย์กล่าว “…เดี๋ยว คุณไม่ได้ล้อเล่น ใช่ไหม? ผมจะสามารถเรียนรู้การป้องกันตัวพื้นฐานได้ในเวลาแค่สามวันงั้นเหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ฟังนะ ถ้าฉันบอกว่าเธอสามารถเชี่ยวชาญมันได้ งั้นเธอก็จะทำได้อย่างแน่นอน! ถือซะว่าตัวเองโชคดีที่ฉันยังจะอยู่ต่อเพื่อสอนเธอด้วยซ้ำ เจ้าหลานชายเหลือขอ! และไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาที่สงสารนั่นเลย! ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ก็ลองตีฉันด้วยทั้งหมดที่เธอมีสิ!” ฟินน์เลย์กล่าวขณะที่เขาโบกมือให้เจอรัลด์ให้เข้าหาเขา “ผมไม่ต้องการจะ! อีกครั้งนะ คุณควิก ผมเจ็บแค่นี้เพราะผมไม่ได้สู้กลับ! ผมไม่สู้กับ
เมื่อตระหนักว่าเจอรัลด์กำลังเมินเธอ โดยเจตนานั่นจึงจุดชนวนความโกรธของเธอ ‘นายคิดว่านายเป็นใครที่จะมาเพิกเฉยต่อฉัน?’ เมอาคิดกับตัวเอง “เธอต้องการอะไร?” เมื่อรู้ว่าเขามีความรู้สึกผสมปนเปต่อเมอา เจอรัลด์ก็พบว่าเหตุผลนั้นเพียงพอที่เขาจะเพิกเฉยต่อเธอก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงจะหงุดหงิดที่เห็นเขา ตอนนี้ที่เขาร่ำรวยกว่าเธออย่างชัดเจน เขาก็แค่ไม่อยากจะสนใจเธอ “ตอนนี้นายร่ำรวยขึ้นมาเล็กน้อยแล้วไง? อย่างกับว่านั่นคือเหตุผลที่ดีที่นายจะมาเพิกเฉยต่อฉันได้! ยังไงซะ ฉันก็อยากจะรู้ว่านายได้เงินทั้งหมดนั้นมาจากไหน” เมอาถามคำถาม ขณะที่เธอจ้องเข้าไปในสายตาของเจอรัลด์ “ขอโทษนะ นั่นเรื่องส่วนตัว” เจอรัลด์ตอบกลับอย่างเย็นชา “ส่วนตัวเหรอ? ฮ่า! นายแค่ได้รับเงินสดมากขึ้นมาเล็กน้อย เรื่องไม่เป็นเรื่อง! นั่นก็ยังคงไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่านายเป็นคนยากไร้ในอดีต! ฉันจะพูดตามตรงไม่อ้อมค้อมกับนายนะ เจอรัลด์! นายเป็นไปได้มากที่สุดก็แค่เศรษฐีใหม่ เข้าใจไหม? และเศรษฐีใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อเสียงแย่ ๆ กับการเป็นไอ้โง่ที่เย่อหยิ่งอย่างนาย! ไม่เหมือนกับจาเมียร์และคนอื่น ๆ แน
พวกเขาทั้งคู่ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นบริษัทของพวกเขาในอาคารที่ค่อนข้างใกล้กับมหาวิทยาลัย ตัวอาคารนั้นเองใหญ่โตและดูเหมือนเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบที่จะเริ่มบริษัทได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม แทบจะเหมือนราวกับว่าพลังอำนาจของธรรมชาติได้อวยพรให้กับสถานที่แห่งนั้นโดยตรง บริษัทอื่นมากมายก็ใช้อาคารแห่งนั้นอยู่แล้วเช่นกัน ความนิยมของสถานที่นั้นเกินความคาดหมายของพวกเขาจริง ๆ โดยการเริ่มต้นบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวของพวกเขาที่นั่น บริษัทอื่นก็จะเริ่มจัดทริปประจำปีของพวกเขาด้วยบริษัทตัวแทนของพวกเขาอย่างแน่นอน! พวกเขาหลีกเลี่ยงสถานที่ที่อยู่ในที่ห่างไกลเพราะมีเหตุผล ความแตกต่างของรายได้ก็กล่าวไว้หมดแล้ว ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงที่ศูนย์การลงทุนภายในอาคาร “พวกเราไม่ได้จัดการเรื่องนี้ผ่านโทรศัพท์แล้วหรอกเหรอ? ผู้ชายที่พวกเราควรจะพบด้วยอยู่ไหนล่ะ?” เจอรัลด์ถามขณะที่พวกเขาทั้งคู่เดินผ่านทางเข้าหลัก “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ฉันโทรหาเขาก่อนหน้านี้แต่สายไม่ว่าง!” “เข้าใจแล้ว อืม ศูนย์นี้ก็พลุกพล่านอยู่ดี รอกันสักหน่อยเถอะ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาตรวจดูเวลาในขณะที่ส่
“ก โกหกเหรอ? ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร!” ราเคลตอบกลับ ขณะที่เธอเอามือกอดอก ด้วยผู้คนจำนวนค่อนข้างมากกำลังมองมาที่พวกเขาในตอนนี้ ราเคลหวังจริง ๆ ว่าเธอจะสามารถหลบซ่อนจากความอับอายทั้งหมดนี้ได้ “…ทำไม…ทำไมเธอถึงทำตัวแบบนี้กัน…?” มาร์เวนถาม ขณะที่เขาสูดหายใจเข้าลึก ในการตอบสนอง ราเคลเพียงมองไปด้านข้างอย่างเงียบ ๆ “ฮะ งั้นนายคือมาร์เวน ใช่ไหม? เพื่อนวัยเด็กของราเคลหรือบางอย่างใช่ไหม? ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับนายมาบ้างแล้ว! ดูตัวเองสิ! ไปให้พ้นจากสายตาฉันได้แล้ว!” เจฟเฟอร์สันตะคอกใส่ ขณะที่เขาแกว่งกุญแจรถออดี้ A6 ของเขาไปมาตรงหน้าของมาร์เวน “เฮลโล เฮลโล! คุณชื่อเจฟ ใช่ไหม? ผมรอให้คุณมาถึงอยูแล้ว!” พนักงานชุดสูทคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาฉับพลันขณะที่เขารีบเข้ามาจับมือกับเจฟเฟอร์สัน ด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรบนใบหน้าของเขา “เฮ้ แอรอน! มันก็นานแล้วนะครับตั้งแต่ที่พวกเราพบกันครั้งสุดท้าย! ขอโทษที่ให้รอนะครับ!” เจฟเฟอร์สันตอบกลับขณะที่เขาจับมือกลับ “ไม่เป็นไรครับ! เอาล่ะ งั้นมาเข้าเรื่องงานกันดีกว่า ผมได้เลือกสถานที่ดี ๆ มาสองสามแห่งให้คุณแล้ว! มาดูพวกมันสิครับ! และอย่าเพิ่งกังวลเกี่ยวกับร
“ฉันรู้…กระนั้น ฉันก็อยากจะดูพื้นที่รอบ ๆ ก่อน!” ราเคลตอบกลับ แม้เธอไม่สามารถจ่ายค่าเช่าสำหรับยูนิตในสภานที่แห่งนี้ได้ แต่เธอก็ยังคงอยากจะชมดูรอบ ๆ อาคารอยู่ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งก็สามารถฝันได้ ขณะที่กลุ่มยังคงเที่ยวดูรอบ ๆ บริเวณนั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินความโกลาหลอย่างดังมาจากปลายทางของห้องโถง ผู้ชายวัยกลางคนในชุดสูทกำลังเดินเข้ามาในอาคาร และลูกค้าหลายคนที่อยู่ที่นั่นก็ทักทายเขาอย่างเคารพเมื่อเขาเดินผ่านพวกเขาไป นี่ไม่ใช่แค่บุคคลธรรมดาทั่วไป แต่เขาคือ ผู้จัดการของเอดิฟิซิโอ! “นั่นคือผู้จัดการที่มีชื่อเสียงแห่งเอดิฟิซิโอ อเล็กแซนเดอร์ บรูคส์!” เจฟเฟอร์สันอธิบายให้สามสาวฟัง ‘นายรู้จักเขาแล้วยังไงล่ะ? เขาไม่แม้แต่จะรู้ด้วยซ้ำว่านายมีตัวตนอยู่!’ ราเคลคิดกับตัวเอง ยังคงหัวเสียอย่างชัดเจน แม้ดูเหมือนว่าผู้คนมากมายต้องการจะพูดคุยกับคุณบรูคส์ แต่ทั้งหมดที่เขาทำคือโบกมือให้พวกเขาไป เขาดูเหมือนกำลังค่อนข้างเร่งรีบอยู่ ความจริงก็คือว่าเขาก็กำลังมองไปรอบ ๆ เช่นกัน บอกใบ้ว่าเขากำลังพยายามที่จะตามหาบางอย่างหรือบางคนอยู่ ทันทีทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นวัยรุ่นสี่คนกำลังจ้องมองเขาอยู่
เวลานั้นมาร์เวนก็ลุกขึ้นจากที่นั่งของเขาแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเข้าไปหาพวกเขา จากนั้นเขาก็จับมือกับอเล็กแซนเดอร์ก่อนจะกล่าวขึ้นมา “สวัสดีครับ คุณบรูคส์! พวกเราคุยกันผ่านโทรศัพท์วันก่อน ผมพยายามโทรหาคุณอีกครั้งก่อนหน้านี้แต่คุณไม่ได้รับ!” “ผมขอโทษจริง ๆ ครับ คุณแวดลีย์! ผมต้องแก้ปัญหาเรื่องโรงเรียนของลูกสาวของผมเมื่อครู่นี้! โปรดอภัยให้ความล่าช้าของผมด้วยครับ!” “เมื่อพูดแล้วก็ คุณแวดลีย์ คุณบอกให้พวกเราเตรียมเอกสารไม่กี่อย่างในวันก่อน นี่คือพื้นที่สำนักงานที่คุณสนใจอยู่ และโมเดลห้องแสดงสินค้าสี่มิติของร้านค้าครับ” คุณบรูคส์กล่าว ขณะที่เขานำเอกสารสองสามอย่างออกมา “ก่อนดำเนินการใด ๆ ต่อ นี่คือรายละเอียดทั่วไปเกี่ยวกับการชำระเงินครับ ร้านค้าและพื้นที่สำนักงานรวมกันจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 35,000,000 ครับ เนื่องจากคุณจะชำระค่าเช่าเต็มจำนวน ผมจึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะมอบส่วนลดให้คุณสักเล็กน้อยเช่นกันครับ!” “ไม่มีปัญหาครับ สำหรับตอนนี้ มานั่งกันก่อนเถอะครับก่อนที่จะพูดคุยเรื่องนี้กันต่อ!” มาร์เวนตอบกลับ ขณะที่เขาเดินนำคุณบรูคส์ไปด้านข้าง ในขณะเดียวกัน ราเคลก็ยังคงยืนอยู่ตรงจุดเดิม แม้ต
ทันทีที่พวกเขาทั้งคู่เปิดประตูห้องเรียน พวกเขาก็ได้รับการทักทายโดยเสียงกรี๊ด และการอุทานไปในเวลาเดียวกันทันที! “เจอรัลด์! มาร์เวน! พวกนายทั้งคู่ไปไหนมากัน?” หญิงสาวน่ารักสองสามคนถาม ขณะที่พวกเธอมารุมล้อมคู่หูในขณะที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเริ่มบทสนทนา พวกเธอทุกคนเฝ้ามองเจอรัลด์ราวกับว่าพวกเธอกำลังพยายามที่จะยั่วยวนเขาอยู่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพราะเจอรัลด์ที่ให้ความช่วยเหลือมาร์เวนในเรื่องนี้ แม้มันจะเป็นเรื่องจริงที่มาร์เวนคือผู้อำนวยการของบริษัท แต่เงินทุนหลักของเขาก็คงจะมาจากเจอรัลด์เท่านั้น มันคือเหตุผลที่ทำไมสาว ๆ ทุกคนถึงกำลังพยายามที่จะดูดีต่อหน้าเจอรัลด์ สถานะของมาร์เวนก็สูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน และเพื่อนร่วมชั้นของเขาจำนวนค่อนข้างมากก็เข้าหาเขาแล้ว เพื่อเสี่ยงโชคของพวกเขาในการเริ่มพูดคุยกันกับเขา ขณะที่ทุกคนรุมล้อมสองคนกันอย่างตื่นเต้น แต่อิซาเบลและสเตลล่ากลับมีปฏิกิริยาที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พวกเธอทั้งคู่มีสีหน้าเศร้าหมองบนใบหน้าของพวกเธอ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอก็กลั่นแกล้งเจอรัลด์ในตอนนั้น เมื่อพวกเธอไม่รู้ว่าเขาร่ำรวย ตอนนี้ที่เจอรัลด์ได้รับความนิ
เป็นตอนนั้นเองเช่นกัน ที่วอร์เรนสังเกตุเห็นการมีอยู่ของฟาเบียนเหมือนกัน เขาก็สะดุ้งตกใจพอ ๆ กันกับฟาเบียน ขณะที่สองคนเดินไปหากันและกันในท้ายที่สุด “นายคือ…แชมป์ของทีมเทควันโด้เยาวชนของซันนี่เดล ใช่ไหม? ฉันดูการแข่งขันระดับชาติของนายปีที่แล้วอยู่!” ฟาเบียนกล่าว ความเคารพสะท้อนอยู่ในสายตาของเขา “นั่นฉันเอง และนายก็ได้อันดับสองในการแข่งขันเทควันโด้เยาวชนซอลฟอร์ดปีนี้ ไม่ใช่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นการชกที่สูสีกัน และนายก็อาจจะลงเอยด้วยการเป็นแชมป์ได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกันหนิ!” วอร์เรนตอบกลับ ยังคงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเขาที่นั่น เมื่อคิดว่าพวกเขาทั้งคู่ได้รับเชิญจากโรงเรียน เพื่อให้มาแสดงนั้น ไม่นานที่คู่แข่งคนอื่น ๆ และผู้ชมจะเริ่มมองไปยังทิศทางของพวกเขาหลังจากตระหนักได้ว่าผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ “อืม…ฉันจำได้ว่านายอยู่ในลำดับที่ค่อนข้างสูงในชาติด้วยเหมือนกัน เอาตามตรงนะ ฉันอยากจะต่อยแลกหมัดกับนายมาเสมอ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำเช่นนั้นแล้ว!” ฟาเบียนกล่าว ขณะที่เขาจ้องไปที่วอร์เรน บอกใบ้ถึงความสามารถที่จะแข่งขันได้ในน้ำเสียงข