“แม่ง! ควีนนี่? ฉันให้คำตอบเธอไปแล้วไง!” เจอรัลด์ตะโกนพร้อมกับเด้งตัวขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะไล่ตามเขามา “นายเป็นอะไรเนี่ย? ฉันแค่…กังวล! ดูสิ นายอาจจะถูกลอตเตอรี่หรือบางอย่าง และแม้ว่าฉันไม่มั่นใจว่านายชนะรางวัลได้มาเท่าไหร่! แต่นายไม่ทำตัวไร้เดียงสามากเกินไปหน่อยหรือไง? สังคมจะทำร้ายนายได้นะ! ไม่ว่านายจะได้เงินรางวัลมามากเท่าไหร่ ระวังไว้ให้ดีและอย่าโดนหลอกเข้าล่ะไม่อย่างงั้นละก็นายจะลงเอยอยู่ข้างถนนในภายหลัง!” ‘ใช่…นั่นดูมีเหตุมีผลมากขึ้นมาหน่อย เจอรัลด์ต้องลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวด้วยเงินลอตเตอรี่ของเขาแน่’ นี่เป็นข้อสรุปที่สมเหตุสมผลอย่างเดียวที่เธอสามารถคิดขึ้นมาได้ในขณะนั้น อารมณ์ของเธออยู่ในความสับสนอลหม่านและเธอก็รู้สึกหัวเสียอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในสถานะทางอำนาจนี้ หลังจากพูดในสิ่งที่เธอต้องการจะทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ควีนนี่ก็ออกจากสำนักงานไปทันที แก้มของเธอป่องขึ้น “ฮ่า ผู้หญิงคนนี้…ถ้าเธอได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฉันละก็ ฉันคงได้ยินเธอกวนประสาทอยู่เรื่อย ๆ ล่ะสินะ!” เจอรัลด์กล่าวก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เบลกออกไปทำธุระของเขา เจอรัลด์จึ
“…โอ้ใช่ งั้นชารอน ทำไมเธอถึงมองหางานทำในตอนนี้? แล้วเฮเวิร์ดล่ะ?” เจอรัลด์ถาม แม้ว่าเขาจะเคยชอบเธอ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว “อ่า อืม หลังจากเฮเวิร์ดรู้ว่านายคือคุณคลอฟอร์ด เขาก็ช็อกมากจนเขาปฏิเสธที่จะออกจากบ้านอยู่หลายวัน นอกจากนี้ เขารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเรา ดังนั้น…” ชารอนหยุดอยู่แค่นั้นและเพียงทิ้งประโยคให้ค้างไว้แบบนั้น ‘…อ่า เช่นนั้น ชารอนกำลังมองหางานส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันสินะ!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง จากนั้นเจอรัลด์ก็ยิ้มอย่างอักอ่วนก่อนจะพูดขึ้น “แต่เธอรู้ไหม ฉันยังคงปราบปลื้มจริง ๆ ฮ่าฮ่า! จำตอนนั้นในสมัยมัธยมปลายได้ไหม? วันเกิดที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมีอยู่ในโรงอาหารไงล่ะ!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งชารอนและลิเลียนก็เริ่มรำลึกถึงอดีตกัน ในช่วงมัธยมปลาย เกือบจะทุกคนปฏิเสธที่จะไปไหนมาไหนกับเจอรัลด์ และวันเกิดของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนั้น วันเกิดของเขาในปีนั้นเป็นวันประกาศผลการเรียน และทุกคนต้องกลับไปที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดเพื่อรับใบรับรองผลการเรียนของพวกเขากัน เป็นเซลล่าและชารอนที่แนะนำว่าพวกเธอจะฉลองวันเกิดของเจอรัลด์ในโรงอาหาร
“ฉันขอโทษนะ เจอรัลด์…” พวกเธอทั้งคู่พูดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระดากอายและเสียใจ “ไม่เป็นไร!” เจอรัลด์ตอบขณะที่เขาส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้ แม้เขายังคงดีกับพวกเธออยู่ พวกเขาทั้งสามคนรู้ดีว่ามิตรภาพของพวกเขาคงไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแท้จริง ที่แล้วก็แล้วไป และพวกเขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก เจอรัลด์จะเพียงปฏิบัติต่อพวกเธอในฐานะคนรู้จักกันเท่านั้นตอนนี้ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น ทั้งชารอนและเซลล่าเข้าใจในสิ่งที่เจอรัลด์กำลังจะสื่อ ทั้งสองรู้ว่าพวกเธอไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดทั้งหมดของพวกเธอได้ และความเข้าใจนั้นทำให้พวกเธอรู้สึกเหมือนหัวใจของพวกเธอกำลังถูกทิ่มแทงด้วยเข็มนับพันเล่มเลยทีเดียว ถ้าเพียงแต่พวกเขาจะยังคงเป็นเพื่อนกัน การรวมตัวกันนี้ก็คงจะดีกว่านี้มาก ไม่ต้องการยืดความอึดอัดนี้ต่อไป เจอรัลด์จึงตัดสินใจมุ่งหน้ากลับไปเนื่องจากมันก็เริ่มดึกแล้วเหมือนกัน ทั้งหมดที่เขารู้ ควีนนี่โรคจิตคนนั้นก็น่าจะกลับบ้านไปแล้ว เจอรัลด์ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินกลับเลยจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงใช้รถออดี้ A6 ของบริษัทขับกลับบ้าน และในขณะที่เขาไปถึงทางเข้
ขณะที่เขาขับรถไป เจอรัลด์สังเกตุเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่าจะมีรถหรูเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในตัวเมือง รถส่วนใหญ่จอดอยู่นอกโรงแรมกัน แม้ว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องแปลก แต่เจอรัลด์ก็ไม่ได้คิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเจอรัลด์ก็ดังขึ้นมา เขาเห็นว่ามันเป็นสายเรียกเข้าจากคุณป้าวินเทอร์ “มีอะไรครับ คุณป้าวินเทอร์?” เจอรัลด์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากรับสายโทรศัพท์ “เจอรัลด์? เธออยู่ไหนเหรอ? ป้าเห็นควีนนี่ขับรถกลับบ้านมาด้วยตัวเองก่อนหน้านี้ เธอดูอารมณ์เสียเล็กน้อย พวกเธอทั้งคู่ทะเลาะกับบางอย่างหรือเปล่า? เธอทิ้งเธอไว้ที่นั่นคนเดียวหรือไม่?” คุณป้าวินเทอร์ถาม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “ไม่ต้องห่วงครับ ผมกำลังขับรถกลับตอนนี้ด้วยรถของเพื่อนของผม!” เจอรัลด์ไม่มีทางเลือกนอกจากพูดไปเช่นนั้นเพื่อที่คุณป้าวินเทอร์จะได้ไม่คิดมากกับสถานการณ์นี้ “เข้าใจแล้ว! ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ…เออจริงสิเจอรัลด์ เธอช่วยไปซื้อข้าวสักถุงในเมืองระหว่างทางตอนกลับหน่อยได้ไหม? แบบนั้นลุงของเธอจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอกอีกแล้ว!” “ไม่มีปัญหาครับ!” จากนั้นเจอรัลด์ก็พบซุปเปอร์มาร์เ
ขณะนั้นเอง คู่รักและชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมาจากโรงแรมกัน พวกเขาทั้งหมดบังเอิญเห็นเลลากำลังคุยกับเจอรัลด์อยู่ ชายวัยกลางคนที่ตะโกนเรียกพวกเขาออกมาอย่างเย็นชาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนนั้น ตอนนี้กำลังเดินมาหาทั้งสองคน ดูเหมือนเขาจะเป็นหัวหน้าของกลุ่ม และตามปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจากวิลลี่เอง “พ่อมาทำอะไรที่นี่คะ? หนูแค่ช่วยเจอรัลด์ซื้อของบางอย่างเอง!” เลลาบ่น “ว่าไงนะ? แกยังจะซื้อของให้เขาอยู่อีกเหรอ? ฮึ่ม! ฉันจะไม่มีวันเอาอะไรให้เขาหรอก! แม้ว่าฉันจะต้องทิ้งมันไปก็ตาม!” ทันทีทันใดนั้นหลังจากเขากล่าวไปเช่นนั้น เขาก็ฉกสายเคเบิลอันนั้นไปจากมือของเจอรัลด์ก่อนจะโยนมันลงบนพื้น ก่อนหน้านี้ วิลลี่ไม่พอใจอย่างมากเนื่องจากว่าเขาเตรียมตัวที่จะขอร้องเจอรัลด์ให้ใช้เส้นสายของเขาเพื่อช่วยเหลือเขา แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว เจอรัลด์กลับเพียงเมินเฉยต่อเขา นั่นจึงทำให้วิลลี่โกรธเคืองและผิดหวังอย่างที่สุด “แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปยุ่งกับเขาอีกต่อไป เลลา? ทำถึงจำเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ได้ ห๊ะ? เลอา ที่ก่อนหน้านี้เดินมา ตอนนี้ยืนอยู่ข้างวิลลี่ เธอเพียงมองไปที่เจอรัลด์ด้วยสายตา
“ฮึ่ม! อย่าแม้แต่จะพูดถึงเขาอีกต่อไปเลย!” วิลลี่เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเย็นชา ในขณะเดียวกัน เจอรัลด์ก็กลับมาถึงบ้านแล้ว ความโกรธของเขาต่อวิลลี่ทำให้การเดินทางรู้สึกสั้นลงมากขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนจะมีรถหลายคันจอดอยู่หน้าบ้านของคุณลุงวินเทอร์ เขาหรี่ตามอง เจอรัลด์ตระหนักได้ว่าพวกมันเป็นรถของลูกชายคนโต คนรอง และคนที่สามของเขา ด้วยเหตุนั้น เจอรัลด์จึงบีบแตรรถของเขาด้วความตั้งใจที่จะได้รับความช่วยเหลือในการขนของชำ คนสองสามคนที่ยืนอยู่ในลานบ้านตอนนั้น เมื่อพวกเขาได้ยินและเห็นรถออดี้จอดอยู่หน้าบ้าน พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะออกมาดูด้วยความสงสัยกัน คุณลุงและคุณป้าวินเทอร์ก็ติมตามพวกเขาออกไปเช่นกัน เมื่อเจอรัลด์เปิดประตูรถและก้าวออกมา ทุกคนที่ปรากฏตัวก็ประหลาดใจไปตาม ๆ กัน “เจอรัลด์เหรอ? นายขับรถออดี้เหรอ?” ภรรยาของลูกชายคนโตถามขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าตกตะลึงไป ถ้านี่เป็นรถที่เจอรัลด์ขับอยู่ งั้นเขาก็มีศักยภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับลูกชายของพวกเธอมากเลยทีเดียว! “ฮึ่ม! อย่าโดนหลอกเลย เห็นได้ชัดว่ารถออดี้คันนี้ดูเหมือนจะเป็นรถมือสองนะครับ!” ฟรานซิสตอบ ฟรานซิสมีสีหน้าไม่น่าดูขณะที่เขากล่าวไปแบ
“รู้ไหมครับ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผมและผมจะไม่ได้ฉลองมันที่บ้านในครั้งนี้ ผมได้จองโรงแรมไว้แล้วสำหรับการฉลอง พวกคุณคนไหนจะมีเวลามาเข้าร่วมกันบ้างไหมครับ?” เจอรัลด์ถาม ในปีก่อน คุณลุงและคุณป้าวินเทอร์มักจะเป็นคนเดียวที่ฉลองวันเกิดของเจอรัลด์กับเขามาโดยตลอด ปีนี้ก็จะไม่มีการยกเว้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทุกคนก็อยู่ที่นี่กันแล้ว ตามปกติเจอรัลด์จึงรู้สึกจำเป็นต้องเชิญพวกเขาทุกคนมางานเลี้ยงวันเกิดของเขาด้วยเช่นกัน สะใส้สามกระแอมไอก่อนจะพูดขึ้นมา “ราวกับว่าพวกเราจะมีเวลาไปที่นั่นงั้นแหละ ฟรานซิสและคนที่เหลือจะทำงานในวันพรุ่งนี้กัน พวกเราไม่มีเวลามาฉลองวันเกิดของนายกับนายหรอกนะ” “ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว ถ้านายจะฉลองวันเกิดของนาย นายไม่ควรทานอาหารที่บ้านดีกว่าเหรอ? ทำไมนายต้องจองโรงแรมด้วย? นายลืมรากเหง้าของนายไปแล้วเพียงเพราะตอนนี้นายมีเงินมาบ้างแล้วงั้นเหรอ?” สะใภ้สองกล่าวอย่างเย็นชา เนื่องเจอรัลด์ยากจนมากในตอนแรก ทุกคนจึงเคยชินกับการดูถูกเขา ความจริงที่ว่าเขาร่ำรวยขึ้นมาอย่างฉับพลันจากการถูกลอตเตอรี่นั้นทำให้สถานะทางอำนาจพลิกกลับอย่างรวดเร็ว จึงเป็นผลให้พวกเขาไม่พอใจกันมากขึ้น น
คราวนี้ เป็นสายเรียกเข้าจากกีย่า “พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนายใช่ไหม เจอรัลด์?” กีย่าถามทันทีที่เขารับสาย “อืมม…” “ฮึ่ม! งั้นทำไมนายไม่ชวนฉันไปฉลองวันเกิดกับนายเลยล่ะ? วันนี้ฉันรอมาให้นายโทรมาทั้งวันเลยนะ! มันก็ดึกขนาดนี้แล้วแต่นายก็ยังไม่ได้เชิญฉัน… นายอาจจะลืมฉันไปแล้วหรือเปล่า? “ไม่เลย ก็แค่เป็นเพราะฉันกลับมาที่บ้านเกิดของฉัน ฉันจึงวางแผนที่จะมีงานเลี้ยงวันเกิดแบบง่าย ๆ น่ะ!” เจอรัลด์อธิบาย ด้วยความสัตย์จริง เจอรัลด์ไม่ได้วางแผนที่จะเชิญกีย่ามาเลยจริง ๆ แม้ว่าเธอจะดีกับเขามาก แต่เจอรัลด์ก็แค่อยากจะคบกันกับมีล่าในตอนนี้เท่านั้น เขาไม่ต้องการจะใกล้ชิดกันกับผู้หญิงคนอื่นมากเกินไป ดังนั้น เขาจึงสรุปเอาว่าการมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้กับกีย่าต่อไปจะไม่เป็นผลดีแน่ ยิ่งไปกว่านั้น กีย่าได้รับความเดือดร้อนตอนที่เธออยู่ที่นี่กับเขาในคราวที่แล้ว เจอรัลด์จึงรู้สึกกระดากอายที่จะเชิญเธอมาที่นี่อีกครั้ง “ไม่ว่านายจะเชิญฉันหรือไม่ ฉันก็จะไปหานายที่บ้านของนายอยู่ดีในพรุ่งนี้ เว้นแต่ว่า…นายไม่เห็นว่าฉันเป็นเพื่อนของนายเลย…?” กีย่าเอนหัวของเธอพิงกับหัวเตียงขณะที่เธอพูดผ่านโทรศัพท์
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ