เนื่องจากว่าจาวิสไม่ได้พยายามจะหยุดเธอ โยลันดาจึงพูดจาหยาบคายต่อไปเป็นครั้งคราว เจอรัลด์ในทางตรงกันข้าม กำลังถูกปฏิบัติด้วยราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่ หลังจากการเที่ยวชมสถานที่อันยาวนานสองชั่วโมงเต็ม ก็เป็นเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงแล้ว เนื่องจากว่ามีร้านอาหารอยู่ไม่กี่ร้านในอาคาร จาวิสจึงแนะนำให้พวกเขาไปหาสถานที่ทานมื้อเที่ยงกัน พวกเขาจะไ้ด้พูดคุยกันมากขึ้นขณะที่นั่งกัน จามปกติแล้ว มิเชลและเพื่อน ๆ ของเธอก็ยอมรับข้อเสนอกันอยู่แล้วและไม่นานพวกเขาก็พบร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง ในที่สุดก็จะได้นั่งเสียที เจอรัลด์วางกระเป๋าของพวกเขาลงและนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งเช่นกัน “แล้วใครพูดว่านายสามารถนั่งที่นี่ได้ห๊ะ?!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาในขณะที่เจอรัลด์นั่งลง “พวกเราจะทานข้าวกันไม่ใช่เหรอ? มันผิดเหรอที่ฉันจะนั่ง?” เจอรัลด์ถาม เห็นได้ชัดว่ารู้สึกรำคาญ เสียงนั้นเป็นของโยลันดาและเธอก็สุดจะทนแล้ว ความหึงหวงของเธอมีอำนาจเหนือความมีเหตุมีผลของเธอเพราะเธอต้องเฝ้ามองมิเชลพูดคุยกับจาวิสอยู่ตลอดเวลามานี้ เพราะเธอไม่ถูกสังเกตุเห็นพอ เธอจึงตัดสินใจก่อเรื่องและตะคอกใส่เจอรัลด์ “แค่ดูนายสิ! นายคิดว่านายเป็นใ
“อย่างกับว่าฉันแคร์! เธอเป็นคนที่ทำซุปหกใส่ฉัน! ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด! เธอก็เป็นแค่พนักงานเสริฟ์อยู่ดี เรื่องไม่เป็นเรื่อง!” โยลันดาพูดอย่างขุ่นเคือง เธอไม่กลัวผลที่ตามมาเพราะเธอรู้ว่าจาวิสคือคนที่มีอำนาจมากที่สุดอย่างแน่นอนในห้องนี้ ณ ขณะนี้ ไม่มีใครจะกล้าท้าทายอำนาจเขาและเธอ นอกจากนี้ จุดสนใจของเธอก็ถูกขโมยไปโดยมิเชลและเธอก็มีวันที่ค่อนข้างแย่อยู่แล้ว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ขอโทษสำหรับเรื่องซุปบนเสื้อผ้าของเธอ แต่ผู้จัดการที่นี่ยังดุว่าเธออีกด้วย! นี่ช่างน่าขันเสียจริง… ยิ่งเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ โยลันดาก็ยิ่งดูเหมือนราวกับว่าเธอจะปะทุด้วยความโกรธมากขึ้นเท่านั้น “ไม่ต้องร้อง แนท…ฉันจะให้คนไปเรียกคุณวาดฟอร์ดมาให้ พ่อของเธอจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน!” ผู้จัดการปลอบ นาตาลี วาดฟอร์ดเป็นลูกสาวของเบลก วาดฟอร์ด ผู้จัดการของสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดนี้ พ่อของเธอคือหนึ่งในผู้จัดหลักของโครงการใหม่ในบริเวณพื้นที่นี้เช่นกัน เบลกได้รับมอบหมายจากสาขาหลักในเมย์เบอร์รี่ และเขามีอำนาจอย่างแท้จริงภายในพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากนาตาลีรู้สึกเบื่อระหว่างหยุดเรียนฤดูร้อน เธอ
บอดี้การ์ดไม่มีความปราณีเลย แม้มิเชลจะอายุมากกว่าคนอื่น ๆ เล็กน้อย แต่เธอก็หวาดกลัวเหมือนกัน ขณะที่เธอเฝ้ามองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอนี้ เจอรัลด์ในทางตรงกันข้าม เพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ใช่นักบุญและเขาก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือทุกคนด้วยเรื่องทุกอย่าง เขารู้ว่าเบลก วาดฟอร์ดฟังดูคุ้น ๆ หูและถ้าเขาต้องการ เขาก็สามารถพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจได้ แต่เจอรัลด์ไม่ต้องการ เขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะช่วยเหลือโยลันดาและจาวิส พวกเขาทั้งสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับเขาเท่านั้น นอกจากนี้ โยลันดาก็ดูถูกเขามาอยู่เรื่อย ๆ เธอสมควรได้รับการทุบตีแบบนี้แล้วสำหรับทำการทำตัวดื้อดึงและบุ่มบ่ามขนาดนั้นอยู่เสมอมา ดูเหมือนว่าควีนนี่และคนอื่น ๆ ก็จะเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ทันทีทันใดนั้น ทีมพนักงานก็รีบวิ่งเข้ามาในร้านอาหารกัน “ค คุณวาดฟอร์ด! หยุด! โปรดหยุดด้วยค่ะ!” คำอ้อนวอนนี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทีม พนักงานทั้งหลายรีบเข้ามาอยู่ข้างหลังเธอกันมากขึ้น หัวหน้าทีมคือหญิงสาวตรงเคาน์เตอร์ขายตั๋วก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเธอก็รับผิดชอบสำหรับพื้นที่แห่งนี้เช่นกัน “
เจอรัลด์ยื่นมือเข้ามายุ่งเพราะเขาไม่อาจทนเฝ้ามองจาวิส และโยลันดาใช้อำนาจของเขาในทางที่ผิดต่อไปได้ นอกจากนี้ ในที่สุดเจอรัลด์ก็จำได้แล้วว่าเบลก วาดฟอร์ดเป็นใคร เขาคือคนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เอเลน่า ลาร์ซันนั่นเอง เจอรัลด์มัวแต่ยุ่งอยู่กับลิเลียนในระหว่างงานเลี้ยงนั้น ดังนั้นเขาจึงได้พูดคุยสั้น ๆ กับเบลกในตอนนั้นเท่านั้น อย่างมากที่สุดพวกเขาก็รู้จักกันแล้ว อย่างไรก็ตาม จาวิสและโยลันดาเห็นได้ชัดว่ากำลังล้ำเส้นมากไปแล้ว และทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาต้องการจะทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจเอง ถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาก็คงแค่ปล่อยมันให้ผ่านไป แต่อย่างไรก็ตาม สองคนนี้ก็เป็นคนไม่สำคัญโดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว ‘ทำไมฉันถึงยังคงเอาแต่เงียบและปล่อยให้คนโง่เหล่านี้มีวิธีจัดการกับคนของฉันกันล่ะ?’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง “ค คุณคลอฟอร์ด? คุณอยู่นี่ตลอดเวลาเลยเหรอครับ?” เบลกรู้ว่าเขาพังแน่ทันทีที่เขาเห็นเจอรัลด์ มันเหมือนราวกับว่าหัวใจของเขาเพิ่งจะหล่นลงไปในกะเพาะอาหารเลย เขาโกรธมากหลังจากได้ยินว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากว่าความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งไปที่โยลันดาและจาวิส เบลกจึงไม่ได้ให้
“เดี๋ยวก่อน เจอรัลด์! อธิบายตัวเองมา!” ควีนนี่กล่าวขณะที่เธอรีบวิ่งไปหาเขา ใบหน้าของเธอซีดสุด ๆ และเธอดูเหมือนจะตัวสั่นมาก ก็เหมือนกับคนอื่น ๆ เธอไม่รู้ว่าเจอรัลด์พลิกสถานการณ์ได้ง่ายขนาดนี้ได้อย่างไรกัน เธอมักจะดูถูกเขาอยู่เสมอมา ทันทีที่เจอรัลด์เข้ามายุ่งได้สำเร็จ ควีนนี่รู้สึกราวกับว่าเธอเพิ่งจะถูกบดละเอียดโดยหินก้อนมหึมา ในใจของเธอ เธอเอาแต่ภาวนาอย่างต่อเนื่องว่ามันเป็นคนอื่นที่มีอำนาจมากขนาดนั้น ใครก็ได้ ใครก็ตามที่ไม่ใช่เจอรัลด์ ‘ทำไมเขาพูดถึงเจอรัลด์ว่าคุณคลอฟอร์ดล่ะ?’ ‘เขาเป็นเพียงแค่คนชั้นต่ำบางคนเองไม่ใช่หรือไง? ทำไม ทำไมนะ…’ เหล่านี้คือความคิดที่ท่วมท้นอยู่ในใจของควีนนี่ เธอรู้สึกหัวเสียอย่างที่สุด “เธอต้องการอะไร?” เจอรัลด์ถามอย่างไม่ใส่ใจ ‘ถ้ามันไม่ใช่เป็นเพราะคุณลุงวินเทอร์ละก็ ฉันก็คงไม่แม้แต่จะเสียเวลามาเล่นบ้า ๆ กับพวกเธอด้วยซ้ำ’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง “อธิบายตัวเองมาเดี๋ยวนี้! ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงเคารพต่อนายมากขนาดนั้นกัน? เขายังดูเหมือนจะกลัวนายอีกด้วยซ้ำ! ความสัมพันธ์ของนายกับเขาคืออะไร?” ควีนนี่ถาม “อย่าถามในสิ่งที่เธอไม่ควรถามเลย ขอให้สนุกกับการเดินทา
“แม่ง! ควีนนี่? ฉันให้คำตอบเธอไปแล้วไง!” เจอรัลด์ตะโกนพร้อมกับเด้งตัวขึ้น แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะไล่ตามเขามา “นายเป็นอะไรเนี่ย? ฉันแค่…กังวล! ดูสิ นายอาจจะถูกลอตเตอรี่หรือบางอย่าง และแม้ว่าฉันไม่มั่นใจว่านายชนะรางวัลได้มาเท่าไหร่! แต่นายไม่ทำตัวไร้เดียงสามากเกินไปหน่อยหรือไง? สังคมจะทำร้ายนายได้นะ! ไม่ว่านายจะได้เงินรางวัลมามากเท่าไหร่ ระวังไว้ให้ดีและอย่าโดนหลอกเข้าล่ะไม่อย่างงั้นละก็นายจะลงเอยอยู่ข้างถนนในภายหลัง!” ‘ใช่…นั่นดูมีเหตุมีผลมากขึ้นมาหน่อย เจอรัลด์ต้องลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวด้วยเงินลอตเตอรี่ของเขาแน่’ นี่เป็นข้อสรุปที่สมเหตุสมผลอย่างเดียวที่เธอสามารถคิดขึ้นมาได้ในขณะนั้น อารมณ์ของเธออยู่ในความสับสนอลหม่านและเธอก็รู้สึกหัวเสียอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในสถานะทางอำนาจนี้ หลังจากพูดในสิ่งที่เธอต้องการจะทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ควีนนี่ก็ออกจากสำนักงานไปทันที แก้มของเธอป่องขึ้น “ฮ่า ผู้หญิงคนนี้…ถ้าเธอได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฉันละก็ ฉันคงได้ยินเธอกวนประสาทอยู่เรื่อย ๆ ล่ะสินะ!” เจอรัลด์กล่าวก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เบลกออกไปทำธุระของเขา เจอรัลด์จึ
“…โอ้ใช่ งั้นชารอน ทำไมเธอถึงมองหางานทำในตอนนี้? แล้วเฮเวิร์ดล่ะ?” เจอรัลด์ถาม แม้ว่าเขาจะเคยชอบเธอ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว “อ่า อืม หลังจากเฮเวิร์ดรู้ว่านายคือคุณคลอฟอร์ด เขาก็ช็อกมากจนเขาปฏิเสธที่จะออกจากบ้านอยู่หลายวัน นอกจากนี้ เขารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเรา ดังนั้น…” ชารอนหยุดอยู่แค่นั้นและเพียงทิ้งประโยคให้ค้างไว้แบบนั้น ‘…อ่า เช่นนั้น ชารอนกำลังมองหางานส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันสินะ!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง จากนั้นเจอรัลด์ก็ยิ้มอย่างอักอ่วนก่อนจะพูดขึ้น “แต่เธอรู้ไหม ฉันยังคงปราบปลื้มจริง ๆ ฮ่าฮ่า! จำตอนนั้นในสมัยมัธยมปลายได้ไหม? วันเกิดที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมีอยู่ในโรงอาหารไงล่ะ!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งชารอนและลิเลียนก็เริ่มรำลึกถึงอดีตกัน ในช่วงมัธยมปลาย เกือบจะทุกคนปฏิเสธที่จะไปไหนมาไหนกับเจอรัลด์ และวันเกิดของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนั้น วันเกิดของเขาในปีนั้นเป็นวันประกาศผลการเรียน และทุกคนต้องกลับไปที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดเพื่อรับใบรับรองผลการเรียนของพวกเขากัน เป็นเซลล่าและชารอนที่แนะนำว่าพวกเธอจะฉลองวันเกิดของเจอรัลด์ในโรงอาหาร
“ฉันขอโทษนะ เจอรัลด์…” พวกเธอทั้งคู่พูดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระดากอายและเสียใจ “ไม่เป็นไร!” เจอรัลด์ตอบขณะที่เขาส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้ แม้เขายังคงดีกับพวกเธออยู่ พวกเขาทั้งสามคนรู้ดีว่ามิตรภาพของพวกเขาคงไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแท้จริง ที่แล้วก็แล้วไป และพวกเขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก เจอรัลด์จะเพียงปฏิบัติต่อพวกเธอในฐานะคนรู้จักกันเท่านั้นตอนนี้ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น ทั้งชารอนและเซลล่าเข้าใจในสิ่งที่เจอรัลด์กำลังจะสื่อ ทั้งสองรู้ว่าพวกเธอไม่อาจย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดทั้งหมดของพวกเธอได้ และความเข้าใจนั้นทำให้พวกเธอรู้สึกเหมือนหัวใจของพวกเธอกำลังถูกทิ่มแทงด้วยเข็มนับพันเล่มเลยทีเดียว ถ้าเพียงแต่พวกเขาจะยังคงเป็นเพื่อนกัน การรวมตัวกันนี้ก็คงจะดีกว่านี้มาก ไม่ต้องการยืดความอึดอัดนี้ต่อไป เจอรัลด์จึงตัดสินใจมุ่งหน้ากลับไปเนื่องจากมันก็เริ่มดึกแล้วเหมือนกัน ทั้งหมดที่เขารู้ ควีนนี่โรคจิตคนนั้นก็น่าจะกลับบ้านไปแล้ว เจอรัลด์ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินกลับเลยจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงใช้รถออดี้ A6 ของบริษัทขับกลับบ้าน และในขณะที่เขาไปถึงทางเข้