“เอาล่ะ พอได้แล้ว ชายหนุ่ม! เธอไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ด้วยการทุบตีผู้หญิงนะ! หากเธอต้องการจะพิสูจน์คุณค่าของตัวเองจริง ๆ ก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่เธอจะเสียใจที่ทิ้งเธอไปในอนาคต!” ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งดูสง่าและมีภูมิฐานว่ากล่าว ถึงจุดนี้แล้ว เมอร์ฟีก็สงบลงเล็กน้อยแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจขณะที่กำหมัดไว้แน่น "ถูกตัอง! หากนายต้องการแสดงให้เห็นคุณค่าของนายงั้นก็ไปพยายามที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จด้วยตัวนายเองตั้งแต่แรกสิ! ฉันคิดว่านั่นเป็นไปไม่ได้อยู่ดีเพราะนายมันเป็นคนบ้า! วันนี้นายกล้าดีมาทุบตีฉันได้ยังไง? นายจบแน่!” ชารอนที่ยังนอนแผ่อยู่บนพื้น หายใจหอบหนัก ตะโกนออกมา “เธอเองก็ควรพูดให้น้อยหน่อยนะ สาวน้อย เธอควรจะเลิกเดทแต่กับผู้ชายที่ร่ำรวย คนรวยมักจะโลเล ถ้าเธออยากจะเลิกกัน ก็ชี้แจงสิ่งต่าง ๆ กับคู่ของเธอก่อน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดอะไรอื่นเพื่อกระตุ้นต่อมทางอารมณ์จากพวกเขา” ครั้งนี้ชายคนเดียวกันกล่าวตำหนิชารอน ชารอนถึงกับเงียบไปและเพียงเอามือปิดหน้าขณะที่ร้องไห้คร่ำครวญ เธอไม่สามารถเถียงกลับได้จริง ๆ เนื่องจากชายวัยกลางคนนั้นต้องเป็นเจ้านายใหญ่คนหนึ่งอย่างแน่นอน “เธอ
“ให้ตายเถอะ...นั่นดูไม่เหมือนสร้อยข้อมือหยกธรรมดา ๆ เลย …ช่างน่าเสียดายมันหักเป็นสามส่วนแล้ว…” “อืมม…ดูเหมือนว่าจะเป็นกำไลหยกข้อมือเฮ่อเทียน ฉันจะบอกว่ามันมีราคาประมาณเจ็ดพันห้าร้อยดอลลาร์ ช่างน่าเสียดายอะไรอย่างงี้ที่ตอนนี้มันพังไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นทำรุนแรงมากเกินไปจริง ๆ เธอควรจะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนเพราะเธอเป็นคนที่ผลักพนักงานขายสาว!” “ยังมีอีกกล่องนะ ฉันอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่ถูกบรรจุในนั้นกัน…” หลายคนที่นั่นกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ขณะที่พวกเขามองไปที่ชารอน ในขณะเดียวกัน พนักงานขายสาวก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนกและลืมที่จะขออภัยเจอรัลด์ เธอเริ่มเปิดกล่องใบที่สองทันที เมื่อเธอเปิดมัน ทุกคนที่นั่นก็อุทานกันออกมาเสียงดังทันที “นั่น…นั่นคือหยกมังกร! หยกมังกรอันเดียวและหนึ่งเดียว! ฉันเคยได้ยินมาว่าถ้าเธอมองมันดี ๆ เธอจะสามารถเห็นรูปร่างของมังกรในตัวหยกนั้นเองได้!” “ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน! มันเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีในร้านนี้ ช่างอัญมณีฝีมือดีเป็นคนทำขึ้นมา มีราคาประมาณสามหมื่นสองพันดอลลาร์!” “โชคดีสำหรับผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนั้น ที่กำไลหยกมังกรไม่หัก ลองนึกดูสิว่
โชคดี ผู้จัดการจัดการหยุดเฮเวิร์ดได้ก่อนที่เขาจะสามารถโจมตีเมอร์ฟีต่อ คนจิตใจดีสองสามคนก็ช่วยเมอร์ฟีให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะโทรเรียกรถพยาบาล “แม่ง! ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่ด้วย เจอรัลด์?” ในที่สุดลิเลียนก็เห็นเจอรัลด์ที่ยืนอยู่ด้านข้างมาตลอด “อย่าแม้แต่จะเอ่ยชื่อเขาอีกต่อไปเลย! ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้งั่งที่น่าสมเพชคนนั้นฉันก็คงจะไม่ได้ทำกำไลข้อมือหยกเฮ่อเทียนราคาเจ็ดพันห้าร้อยดอลลาร์ และกำไลข้อมือหยกมังกรราคาสามหมื่นสองพันดอลลาร์หักหรอก!” ชารอนตอบด้วยสีหน้ารังเกียจ “…พูดอีกทีสิ? มากกว่าสามหมื่นดอลลาร์…” เฮเวิร์ดตกตะลึงจนแทบพูดไม่ออก ผ่านการโทรศัพท์ชารอนบอกเพียงว่าเธอได้ประสบกับอุบัติเหตุที่ร้านขายเครื่องเพชรทรินิตี้ เธอไม่ได้พูดถึงอะไรเลยเกี่ยวกับค่าชดเชยหรือค่าใช้จ่ายที่อุกอาจนี้เลย ตามธรรมดา ที่เขาจะพูดไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อได้ยินเช่นนี้ เช่นเดียวกับลิเลียน เนื่องจากความกังวลใจของเธอ ลิเลียนจึงเริ่มดุว่าเจอรัลด์ “แล้วไงถ้าเกิดชารอนถูกทุบตี? นั่นเกี่ยวอะไรกับนาย? นายคิดว่านายต้องก้าวเข้ามาเพื่อหยุดการต่อสู้ด้วยใช่ไหม? นายคิดว่านายเป็นใครกัน? โธ่เว้ย! แล้วนายจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้? น
“…อะไรกันว่ะเนี่ย?” "…ห๊ะ?" ทั้งชารอนและลิเลียนต่างก็ตกตะลึงจนแทบพูดไม่ออกขณะที่พวกเธอเฝ้าดูเจอรัลด์จากไปพร้อมกับกล่องทั้งสองใบ กล่องเหล่านั้นซึ่งได้รับการบรรจุกำไลหยกสองชิ้นที่เกือบจะทำให้ชารอนกลัวจนแทบตายได้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ปัญหาของเธอได้รับการแก้ไขแล้ว ชารอนก็รู้สึกว่าในที่สุดเธอก็หายใจได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่ามีใครมาเตะเธอเข้าที่หัวของเธอ จิตใจของเธอว่างเปล่า เจอรัลด์เป็นคนที่ซื้อกำไลหยกสองชิ้นนั้นงั้นเหรอ? ดวงตาของลิเลียนและเฮเวิร์ดเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ นี่เป็นกรณีเฉพาะพิเศษสำหรับลิเลียน เธอตกใจมากจนไม่ได้จับหยกชิ้นหนึ่งแน่นพอ และเผลอทิ้งมันลงบนพื้นจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ "เดี๋ยว! เจอรัลด์! นาย…นายเป็นคนที่ซื้อกำไลหยกสองชิ้นนี้เหรอ” ลิเลียนถามด้วยความประหลาดใจ เจอรัลด์แค่เมินเธอไป และยังคงเดินจากไปพร้อมกับกำไลหยกในมือ ครั้งนี้เขาโกรธเกินกว่าครั้งไหน ๆ ไม่มีความจำเป็นจะต้องพยายามอธิบายอะไรให้พวกเขาฟัง "ฮึ่ม! เขาก็แค่ซื้อพวกมันได้ด้วยเงินของคนอื่น ๆ! ช่วงเขาเหอะ! ชารอน ลิเลียน ทำไมเราไม่ไปที่ร้านอาหารแล้วทานอาหารอร่อย ๆ ด้วยกันแ
“ฮ่าฮ่า! ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!” เจอรัลด์ไม่อยากจะไป “ไม่ ไม่ เจอรัลด์ ฉันขอยืนกราน! นายไม่ได้ดูถูกเรา ใช่ไหม? นายจะไม่ดูถูกเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของนายเอง ใช่มั้ย? หรือนายแอบดูถูกเราเพราะนายเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ในขณะที่พวกเราแค่สอบเข้าตามปกติของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยปกติเท่านั้น? ฉันเข้าใจแล้วว่ามันเป็นยังไงตอนนี้!” ลิเลียนพูดอย่างไร้ยางอาย “เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น! ก็ได้ งั้นก็มาทานอาหารด้วยกันเถอะ!” เจอรัลด์พูดก่อนจะถอนหายใจ มีใครจะหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไงกัน? เจอรัลด์ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันก็เป็นแค่มื้ออาหาร เขาจึงเต็มใจที่จะไปทานด้วยกันและทำมันให้จบ ๆ ไปซะ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว นอกจากนี้ มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขามีอะไรมาพูดเกี่ยวกับเขาอีกในอนาคต เขาจะไปร่วมทานอาหารกับพวกเขาและดูว่าพวกเขาจะพูดอะไรงั้น! เจอรัลด์พยักหน้ากับตัวเองก่อนจะหันหลังกลับไปอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้ไปทานในร้านอาหารไหน ๆ ในย่านการค้าเมย์เบอร์รี่ แต่พวกเขาไปที่ร้านอาหารธรรมด
ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับคนที่ชี้มาที่พวกเขาในตอนแรก“นั่นคือพวกเขา!” เสียงโกรธเคืองดังมาจากคนที่มีผ้าก๊อซสีขาวพันรอบศีรษะเอาไว้ ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ในที่สุดคนในกลุ่มก็สามารถรู้ได้ว่าคนที่ชี้ไปที่เฮเวิร์ดเป็นใคร‘ชื่อของเขาคือเมอร์ฟี ใช่มั้ย?’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง สถานการณ์ค่อนข้างชัดเจน หลังจากเฮเวิร์ดทำร้ายเมอร์ฟีเมอร์ฟีไป เมอร์ฟีต้องโทรแจ้งตำรวจหลังจากเขาได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าตำรวจจัดการติดตามพวกเขามาที่นี่ได้ผ่านการช่วยเหลือของกล้องวงจรปิดบนย่านการค้าเมย์เบอร์รี่ หากนั่นยังไม่พอ เฮเวิร์ดเองก็ได้จองโต๊ะที่ร้านอาหารใกล้ย่านการค้าเมย์เบอร์รี่ภายใต้ชื่อของเขาอีกด้วยเช่นกัน“เอาล่ะถ้างั้น พวกเราจะต้องขอให้พวกคุณทุกคนมากับเราด้วย!” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ทั้งเฮเวิร์ดและชารอนเริ่มตื่นตระหนก แม้ว่าเฮเวิร์ดจะรู้สึกเหนือกว่าเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา แต่การกระทำของเขานั้นกลับมาเล่นงานเขาเอง ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้ทุบทำแจกันใส่หัวของเมอร์ฟีก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะดูวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่การตอบสนองถัด
นี่เป็นเพราะพวกเขาทุกคนสามารถบอกได้ว่าไซลีน่าไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่พวกเขาสามารถไปยุ่งด้วยได้ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ใบหน้าของเฮเวิร์ดก็ซีดเซียวไปนานแล้ว เขาเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย ในทางกลับกัน ชารอนกำลังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอได้รู้ว่าพี่สาวของเมอร์ฟีมีอำนาจมากในเมืองเมย์เบอร์รี่ เธอยังมีความสามารถอย่างมากในสังคมโดยทั่วไปอีกด้วยเช่นกัน นั่นจะหมายความว่าเมอร์ฟีก็เป็นใครบางคนที่มีความสามารถด้วยตัวเองเช่นกัน ขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชารอนก็เริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอโหดร้ายเกินกับเมอร์ฟีมากเกินไปหรือเปล่า? ถ้าเกิดว่าความสำเร็จในอนาคตของเมอร์ฟีล้ำหน้ากว่าของเฮเวิร์ดด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งขึ้นมาล่ะ? เมื่อคิดย้อนกลับไป ส่วนใหญ่แล้วเฮเวิร์ดก็รู้แค่วิธีโอ้อวดเท่านั้น แต่เมอร์ฟี ในทางกลับกัน เป็นคนที่มีความสามารถมากจริง ๆ ยิ่งเธอคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ชารอนก็ยิ่งรู้สึกขัดแย้งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น อ่า! ทำไมกัน! เธอเคยตกหลุมรักคนสามคนเท่านั้นในช่วงชีวิตของเธอ คนแรกคือเจอรัลด์ แต่เธอก้าวผ่านช่วงเวลานั้นจากเขาไปนานมากแล้ว เธอไม่แม้แต่จะสนใจเขาอีกต่อไปแล้วด้วย
เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ทำการโทรออกกันแล้ว พวกเขาทั้งสองก็รออย่างหมดหนทางกันชั่วคราว ในตอนนั้น แม้แต่ตำรวจก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะจบลงได้อย่างไร ผลลัพธ์ในภายหลังจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะหรือจะยังคงถูกเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ “ฝ่ายไหนจะชนะกันนะ?” ชารอนพึมพำกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความลังเลใจ ช่วงเวลาหนึ่ง เธอเชียร์เฮเวิร์ดให้เป็นผู้ชนะ และต่อมา เธอก็หวังว่าเมอร์ฟี—ซึ่งยังคงแอบมองเธอด้วยสายตาหลงใหล—จะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะ พูดง่าย ๆ ก็คือ การโจมตีทางอารมณ์ที่ซับซ้อนกำลังเหวี่ยงเข้าใส่เธอ ในขณะที่ชารอนยังคงสงสัยต่อไป เสียงฝีเท้าหลายเสียงที่เดินมาก็สามารถได้ยินได้จากด้านหลังประตูห้องสอบสวน ความจริงแล้วเสียงฝีเท้าหลายคู่นั้น พวกเขาดูเหมือนว่ากำลังจะเคลื่อนตัวมากันอย่างค่อนข้างรีบร้อน “ฮ่าฮ่า! พ่อ! ประธานลอยด์อยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม?” เฮเวิร์ดถามอย่างตื่นเต้น “อย่าแม้แต่จะฝันถึงมันเลย ประธานลอยด์และคนอื่น ๆ จะไม่มีทางเข้าร่วมจัดการกับเรื่องเช่นนี้หรอก!” พ่อของเฮเวิร์ดตอบพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ไ