เจอรัลด์ย้ำคำของผู้เฒ่าฟลินท์เพียงเพื่อเน้นย้ำว่าการเข้าไปยุ่งย่ามกับสิ่งของล้ำค่าในสถานที่แห่งนี้นั้นอันตรายเพียงใด ในขณะที่ความโลภของมนุษย์คล้ายจะไม่มีที่สิ้นสุด การควบคุมตนเองเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่... หลังจากใช้เวลาในการขนย้ายสิ่งของล้ำค่าออกจากสถานที่นั้นเกือบครึ่งชั่วโมง เลคและคนของเขาก็ได้รวบรวมทรัพย์สินมีค่ามากพอที่จะใส่ลงไปในรถยนต์ขนาดใหญ่อย่างน้อยสองคัน… เมื่อได้เห็นปริมาณของทรัพย์สมบัติแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่เลคและคนของเขาถูกดึงดูดให้มายังสถานที่แห่งนี้... หลังจากที่เลคออกจากห้องลับแห่งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็เดินไปหาเจอรัลด์ก่อนที่จะยิ้มขณะที่เขาพูดว่า "นี่คือสมบัติที่เราได้รับจากห้องลับนั้น เจอรัลด์! เนื่องจากพวกเราทั้งสองฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันจนทำให้มาได้ไกลถึงขนาดนี้ ผมก็ยินดีที่จะแบ่งปันทรัพย์สินบางส่วนที่ได้มากับพวกคุณ!” เจอรัลด์ยิ้มตอบก่อนพูดขึ้นว่า “ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณนะ คุณซัค แต่เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามล่าสมบัติของแวมไพร์ เพราะงั้นพวกคุณเก็บทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไว้กับตัวเองเถอะ!” เมื่อได
“นี่คุณกำลังจะบอกว่าคนที่ถูกแมงมุมโจมตีคือคนที่สัมผัสกับสมบัติพวกนั้นอย่างนั้นหรือ?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเห็นผู้เฒ่าฟลินท์พยักหน้า เจอรัลด์และพรรคพวกก็ตกตะลึงทันที ไม่นึกเลยว่าแมงมุมจะเลือกเหยื่อจริง ๆ... ในขณะเดียวกัน เลคและสมาชิกในทีมที่เหลือก็ถูกแมงมุมยักษ์จับกินทั้งเป็น! มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างที่สุด… เมื่อมองไปที่เจอรัลด์ซึ่งยังคงยืนอยู่ข้างประตู เลคผู้น่าสงสารที่กำลังถูกกินก็ทำได้เพียงอ้อนวอนว่า “คุณ…คลอฟอร์ด…! ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย…!” “ช...ช่วยด้วย! ได้โปรด…!" สมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมของเลคต่างก็กรีดร้องเช่นกัน ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดได้ยึดเอาสมบัติต้องสาปไปเพราะความโลภบังตา หรือเรียกอีกอย่างว่า พวกเขาหาเรื่องใส่ตัวกันเอง ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยอะไรไม่ได้ ขณะที่พวกเขากรีดร้องและถูกกินไปต่อหน้าต่อตา... เลคเองก็ถูกฉีกออกขาดครึ่งก่อนที่จะถูกโยนลงไปในเหว... สำหรับสมาชิกในทีมที่เหลือ พวกเขาถูกแมงมุมตัวเล็กกลืนกินจนไม่เหลืออะไร และสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีเพียงกองเลือด... ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนที่เลคและกลุ่มขอ
หลังจากนั้นไม่นาน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็กลับมาที่ห้องอีกครั้ง...อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปข้างใน จู่ ๆ พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงเคาะแปลก ๆ...ตอนนี้ทุกคนรู้สึกระแวดระวัง เรย์อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เจอรัลด์แล้วถามว่า “…คุณได้ยินไหมพี่เจอรัลด์?”เจอรัลด์พยักหน้าแล้วตอบว่า “ได้ยิน” ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งห้าจึงเริ่มมองหาแหล่งที่มาของเสียงดังกล่าวทันที… จนกระทั่งในที่สุด เจอรัลด์ก็ตระหนักว่ามันมาจากจุดศูนย์กลางของลานทรงกลมในห้องนั้น… “…เสียงมาจากทางนั้น!” เจอรัลด์พูดขณะที่เขาชี้ไปที่ลานดังกล่าว เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็รีบรวมตัวกันรอบ ๆ แท่นก่อนที่จะแนบหูของพวกเขาลงไป… จริงอยู่ เมื่อหูของพวกเขาแนบสนิทอยู่บนพื้นแล้ว เสียงเคาะอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งชัดเจนขึ้น! เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ก็พบว่าเสียงเคาะดังกล่าวดังเกือบจะเป็นจังหวะเลยทีเดียว “…คุณคิดว่ามีคนติดข้างในหรือเปล่า พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถาม “…ดูจากจังหวะการเคาะแล้ว อาจจะเป็นอย่างนั้น!” เจอรัลด์ตอบ เขารู้สึกได้ว่ามีเพียงสิ่งมีชีวิตเท่านั้นที่สามารถทำการเคาะเป็นจังหวะเช่นนี้ได้ หลังจากเสียงเคราะหยุดไปเล็กน้อย เจอรัลด์ก็สั
สิ่งลึกลับที่ถูกกักขังอยู่เบื้องล่าง ดูคล้ายจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง ผมยาว เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายลิง... “…ข้างใต้มีอะไรอยู่หรือ พี่เจอรัลด์?” เรย์กระซิบถาม เจอรัลด์ส่งสัญญาณให้พวกเขาเงียบ ก่อนจะส่งสัญญาณเรียกให้พวกเขามาดูด้วยตาตัวเอง เมื่อเห็นเช่นนั้น สมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมของเจอรัลด์ก็ค่อย ๆ ย่องใกล้เข้ามา เจอรัลด์มองไปที่ผู้เฒ่าฟลินท์ แล้วเอ่ยถามว่า “…ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณรู้ไหมว่านี่คืออะไร…?” หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ตอบว่า "...ถ้าตาของฉันดูไม่ผิด นั่นน่าจะเป็นชะนีดำ ฉันพอจำได้ว่ามีแวมไพร์ที่เลี้ยงชะนีดำและใช้มันเป็นตัวช่วยในการจับมนุษย์… บางทีเจ้าตัวนี้อาจมีหน้าที่เช่นนั้น!” เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของเจอรัลด์ก็เบิกกว้าง เรย์ก็รีบพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น… ชะนีดำตัวนี้ต้องเป็นสัตว์ร้ายแน่นอน! และเราควรขังมันไว้ที่นี่จะดีที่สุด!” จริงอยู่ ชะนีดำที่ดุร้ายเช่นนี้ไม่อาจปล่อยให้หลุดออกไปเป็นอิสระได้ ไม่อย่างนั้นมันจะต้องสร้างปัญหาอย่างแน่นอน! แต่น่าเสียดายที่เรย์พูดช้าเกินไป นั่นก็เพราะสัตว์ร้ายตัวนี้หลุดจากโซ่ที่มันพันธนาการร่างของมันไปนานแล้ว มันถูกขังอยู่ที่น
"แน่นอน มีผู้คนนับไม่ถ้วนพยายามค้นหาโลงศพของบรรพบุรุษแวมไพร์ตนแรกเพื่อที่จะได้ครอบครองไข่มุกแวมไพร์ที่อยู่ภายในนั้น…” ผู้เฒ่าฟลินท์ตอบพร้อมกับพยักหน้า “ไข่มุกแวมไพร์? คุณมาที่นี่เพื่อตามหาสิ่งนั้นใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม "ใช่แล้ว ไข่มุกแวมไพร์เป็นสิ่งที่จะทำให้ฉันได้ร่างใหม่!” ผู้เฒ่าฟลินท์อธิบาย เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็แค่พยักหน้า แม้ว่าสมบัติดังกล่าวจะฟังดูน่าสนใจ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก นั่นก็เพราะเขามาที่นี่เพียงแค่ช่วยเหลือผู้เฒ่าฟลินท์เท่านั้น แต่หลังจากตรวจสอบอย่างพิถีพิถันแล้ว เจอรัลด์ก็พูดขึ้นว่า “…ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรอันตราย เรามาเปิดโลงศพกันเถอะ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็พยักหน้า เขาอยากที่จะได้ครอบครองไข่มุกแวมไพร์เป็นอย่างมาก เมื่อไม่เห็นว่าผู้เฒ่าฟลินท์คัดค้าน เจอรัลด์จึงหันไปมองจูโน่และโนริก่อนจะพูดว่า “พวกคุณสองคน อยู่อยู่ให้ห่างจากเราหน่อย! ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็หนีไปเลย เข้าใจไหม” แน่นอนว่าจูโน่และโนริเชื่อฟังแต่โดยดี พวกเธอเดินไปที่ปากทางเข้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยืนนิ่งไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน ขณะที่รอให้เจอรัลด์และอีกสองคนเริ่มเปิดโลงศพ...
แน่นอนว่าโนริ จูโน่ และเรย์ก็ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด ขณะที่พวกเขากำลังเก็บข้าวของอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมออกเดินทาง เรย์ก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นว่าผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงยืนอยู่ที่มุมเดิม แม้ว่าตอนนี้ร่างของเขาจะสั่นเทิ้มอย่างไม่มีเหตุผลก็ตาม... เมื่อพบถึงความผิดปกติเล็ก ๆ นี้ เรย์จึงตะโกนออกไปว่า “ผู้เฒ่าฟลินท์ พวกเรากำลังจะไปกันแล้ว!” แต่ทว่าวินาทีที่เขาพูดจบ ดวงตาของเรย์ก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าฟลินท์หันกลับมาจ้องมองเขา ด้วยดวงตาสีแดงเลือด... เรย์ตะโกนออกไปด้วยความกลัวจนตัวสั่น “เอ่อ จ…เจอรัลด์? ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติกับผู้เฒ่าฟลินท์…!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันไปมองชายชราและแล้วก็พบว่าเขาต้องตกใจอย่างหนักเมื่อเห็นว่าสภาพของผู้เฒ่าฟลินท์ไม่ต่างไปจากเรย์ “…ผู้เฒ่าฟลินท์…? เป็นอะไรไหม?” เจอรัลด์ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง คิ้วของเขาขมวดมุ่น แต่น่าเสียดาย นี่ไม่ใช่ผู้เฒ่าฟลินท์ที่พวกเขาเคยรู้จักอีกต่อไป แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะยังคงเดิม แต่ดวงตาสีแดงที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจกระหายเลือด… “เจอรัลด์ ดูที่คอของเขาสิ! มีแสงอยู่ในนั้นด้วย!” เ
“…อย่าบอกนะ…ว่าคุณจำอะไรไม่ได้เลย?” เจอรัลด์ตอบ อีกฝ่ายส่ายหน้าด้วยความสับสนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจำเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้จริง ๆ “…งั้นบอกผมมาหน่อยสิ ทำไมคุณถึงได้กลืนไข่มุกแวมไพร์ลงคอไป?” เจอรัลด์ถาม ท้ายที่สุดหากชายชราไม่กลืนมันลงไป เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งแบบนั้น “เดี๋ยว… ว่าไงนะ? ฉัน… กลืนมันลงไป…?!” ผู้เฒ่าฟลินท์ตอบ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อในขณะที่เขาจ้องมองไปที่เจอรัลด์ “ก็ใช่น่ะสิ! หลังจากกลืนมันเข้าไป คุณก็เริ่มเสียสติและเริ่มโจมตีพวกเรา!” เจอรัลด์อธิบาย หลังจากได้ยินทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจากเจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ก็อดไม่ได้ที่จะมองไข่มุกซึ่งยังอยู่บนพื้น ในขณะที่เขาพึมพำด้วยความงุนงง “…สิ่ง… สิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้ไม่ใช่การที่นายมอบไข่มุกให้กับฉัน… ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไรแบบนั้นด้วย!” เมื่อมองไปที่ชายชรา เจอรัลด์ก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหก สัญชาตญาณบอกกับเขาแบบนั้น เจอรัลด์จึงเลือกที่จะเชื่อคำพูดของผู้เฒ่าฟลินท์ แต่ทว่าหากผู้เฒ่าฟลินท์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างแท้จริงจนถึงกับเริ่มโจมตีพวกเขา นั่นหมายความว่าเป็นที่แน่นอนแล้วว่าไข่มุกแวมไพร์คือสาเห
เมื่อดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างเคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น มันก็เฉลยให้เห็นอย่างช้า ๆ ว่าดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างเป็นดวงตาของหมีขาวตัวใหญ่!แต่เพราะเจอรัลด์และพรรคพวกกำลังหลับสนิท จึงไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาอันตรายเพียงใด! แต่เมื่อมันมองดูคนทั้งห้าที่กำลังหลับไหลอยู่ที่ทางเข้าถ้ำแล้ว ก็ดูคล้ายว่าหมีตัวนั้นจะสนใจเรย์เป็นพิเศษ การกรนของเรย์ยิ่งดึงดูดความสนใจของหมีตัวนี้มากยิ่งขึ้น! มันค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปหาเรย์ หมีเริ่มเลียหน้าเขาอย่างรวดเร็ว! “…อีกห้านาที… พี่เจอรัลด์…? หิมะหยุดแล้วเหรอ…?” เรย์ผู้ง่วงนอนพึมพำขณะที่เริ่มสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของหมี... วินาทีที่เขารู้สึกว่า 'เจอรัลด์' มีขนยาวผิดปกติเพียงใด เรย์ก็ตัวแข็งทื่อทันที นี่… นี่ไม่ใช่เจอรัลด์ใช่หรือเปล่า เมื่อลืมตาขึ้นมา เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็จ้องมองไปที่หมีอย่างหวาดหวั่นแล้ว พวกเขาไม่นึกเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอันตรายขนาดนี้มาอาศัยอยู่ในถ้ำได้! เมื่อเห็นว่าหมีอยู่ใกล้แค่ไหน พวกเขาทั้งหมดก็สามารถได้กลิ่นสาปของมันและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ร่างกายของมันปล่อยออกมา…! เรย์เคลื่อนไหวช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อน เขากลืนน้ำลายก่อ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ