ด้วยเหตุนี้ เลคและเพื่อนร่วมทีมจึงนำพลั่วของตนออกมา พร้อมกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะเริ่มขุดดินเบื้องหน้า “ตอนเรากำลังขุดพวกคุณก็จับตาดูสถานการณ์รอบ ๆ ให้ด้วยแล้วกัน! ข้ามไปอีกฝั่งได้เมื่อไหร่เราจะได้พักกันให้เต็มที่!” เลคกล่าว เมื่อรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะขุดทางเดินและต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่เลคและคนของเขาจะเสร็จ เจอรัลด์จึงไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ หลังจากพยักหน้าเห็นด้วยแล้ว เขาก็กลับไปที่ปาร์ตี้ของตัวเองเพื่อเริ่มเฝ้าดู เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์กลับมาแล้ว เรย์ก็ถามด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อยว่า “…คุณเชื่อใจคนเหล่านี้ไหม พี่คลอฟอร์ด…?” เมื่อเข้าใจว่าเรย์เติบโตมาอย่างไร เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนชอบธรรมดีทีเดียว!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความกังวลของเรย์ก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว เขาเชื่อในการตัดสินใจของเจอรัลด์ “แล้วคุณล่ะ ผู้เฒ่าฟลินท์? คุณคิดยังไงกับเลคและคนของเขา” เจอรัลด์ถามขณะหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พวกเขา ตลอดการเดินทางผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงเงียบสงบอย่างน่าประหลาด... ทว่าชายชรากลับตอบเพียงว่า “เราจะได้ความช่วยเหลือเพิ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจมาก หลังจากผ่านความพยายามมามากมาย ในที่สุดพวกเขาก็เข้าสู่ดินแดนของแวมไพร์ได้! “…แต่จากความจริงที่ได้พบกับศพที่ตายลงไปเช่นนั้น… ก็หมายความว่าแวมไพร์บางตัวยังมีชีวิตอยู่! พวกนั้นเป็นศัตรูที่อันตรายเหลือเชื่อเลยล่ะ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องระวังตัวไว้ให้ดีด้วย” ผู้เฒ่าฟลินท์เสริม โดยทั่วไปแล้วแวมไพร์เป็นเผ่าพันธุ์อิสระที่แทบไม่เคยติดต่อกับผู้คนจากโลกภายนอกเลย มันอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าทำไมพวกเขาถึงได้คับแค้นคนจากโลกภายนอกถึงขนาดนั้น นี่เป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาโจมตีสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่แวมไพร์ทันทีที่ได้พบ และช่วยไม่ได้ที่แวมไพร์โดยปกติแล้วจะรวดเร็วมากและยังสามารถฆ่าคนที่พวกเขาต้องการได้อย่างง่ายดายด้วย “ไม่ต้องห่วงครับท่าน! พวกเราทุกคนต่างก็เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ดังนั้นพวกเราก็จะไม่ออมมือให้กับพวกมันเช่นกัน! ด้วยเหตุนี้ ผมเชื่อว่าพวกแวมไพร์จะไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าแน่!” เลคตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ไม่ตอบอะไรกลับไป… หลังจากเดินต่อไปประมาณสิบนาที ในที่สุดทุกคนก็พ้นจากทางเดินที่ทอดยาวอย่างน้อยสองสามร้อ
หลังจากนั้นไม่นานสถานที่นี่ก็เงียบลงอีกครั้ง... เนื่องจากไม่มีลูกธนูถูกยิงออกมาอีกแล้ว จึงสามารถสรุปได้ว่าในที่สุดกลไกอันน่าสะพรึงกลัวก็สิ้นสุดลงสักที… เลคถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดอย่างหวาดกลัวว่า “ไม่นึกเลยว่าที่นี่จะมีกับดักแห่งความตายอยู่ทุกหนทุกแห่งแบบนี้ คุณคลอฟอร์ด…!” ไม่มีใครคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย… แต่ทว่านั่นไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากการที่คนของเลคหาเรื่องถูกฆ่าด้วยลูกธนูหลายสิบลูกเช่นนั้น และตอนนี้ชายคนนั้นก็กำลังนอนบนกองเลือดที่ค่อย ๆ ไหลซึมไปทั่ว… ช่างเป็นความตายที่เลวร้ายเสียจริง… แต่นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากมีใครสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ที่นี่โดยพละการ ด้วยเหตุนี้เลคจึงจ้องมองไปที่คนของเขาก่อนจะตะโกนว่า "ทุกคนจงฟัง! พวกนายที่เหลือไม่ได้รับอนุญาตให้เคลื่อนไหวจนกว่าจะมีคำสั่งจากฉัน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนของเลคทั้งหมดก็พยักหน้าและยังคงยืนอยู่ในจุดที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบัน… ไม่มีพวกเขาคนใดกล้าพอที่จะสัมผัสอะไรอีกแล้ว นั่นเพราะพวกเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะเผลอไปเปิดกลไกอะไรตรงไหนอีก กับดักต่อไปที่พวกเขาหาเรื่องใส่ตัวนั้น
“บ้าเอ้ย! ไม่คิดเลยว่าจะมีประสาทอีกแห่งข้างล่างนี้! อันที่จริงที่นี่ดูใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อยเลย!” เรย์อุทาน “ทุกคนโปรดระวัง! แล้วก็อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!” เจอรัลด์เตือนโดยหวังว่าทุกคนจะได้บทเรียนเรื่องจับของแบบสุ่มสี่สุ่มห้า “รับทราบ! ว่าก็ว่าเถอะนี่มันเรื่องอะไรกัน พี่คลอฟอร์ด…? ของพวกนี้ดูหรูหรามากจริง ๆ!” เรย์เอ่ยถามขณะที่เขาเดินไปที่แท่นเพื่อมองดูมันใกล้ๆ “นั่นคือ แท่นบูชามหาสมบัติ พวกมันมีหน้าที่พิเศษเพื่อใช้ในการจุดเทียนในพิธีกรรมบูชายัญ ไฟในนั้นจะคงอยู่ตลอดไป!” ผู้เฒ่าฟลินท์อธิบายเมื่อเขาเห็นว่าเจอรัลด์ไม่ได้พยายามที่จะตอบ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้พบว่าโลกนี้มีของวิเศษเช่นนั้นอยู่ด้วย… ความหวาดกลัวของเขาต้องจบลงเมื่อจู่ ๆ ทุกคนก็ได้ยินหนึ่งในคนของเลคกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด! เมื่อพวกเขาหันไปมอง ร่างกายของชายคนนั้นก็ถูกเผาไหม้ไปแล้ว! ผิวหนังของเขาไหม้เกรียมและดวงตาปูดโปนอย่างน่าขนลุก ไม่นานสิ่งที่เหลืออยู่ของชายผู้นั้นก็มีเพียงกองเลือดที่นองอยู่บนพื้น! ด้วยความที่เขาเสียชีวิตลงอย่างน่าสยดสยอง ทุกคนจึงรู้สึกหวาดกลัวเป็นธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจ
“…ขอบคุณพระเจ้าที่คุณพาผู้หญิงคนนี้มาด้วย เจอรัลด์…! ไม่งั้นวันนี้เราได้กลับบ้านเก่ากันหมดแน่…!” เลคพึมพำโดยที่ยังหวาดกลัว ขณะที่เขาแสดงความขอบคุณต่อทั้งจูโน่และเจอรัลด์ หากจูโน่ไม่นำยาฆ่าแมลงกระป๋องนั้นไปด้วย วันนี้คงเป็นคราวตายของพวกเขา... หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็เปิดกระป๋องออกก่อนที่จะถูของเหลวที่อยู่ภายในกับเสื้อผ้าของเขา “ทามันบนเสื้อผ้าของพวกคุณซะ! หากโชคดี มันน่าจะช่วยไล่แมงมุมให้เราได้!” เจอรัลด์เอ่ยปาก เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็เริ่มทำแบบนั้นอย่างรวดเร็วโดยต้องทำให้แน่ใจว่าได้ป้ายยาฆ่าแมลงลงบนเสื้อผ้าและรองเท้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวังว่านี่จะช่วยกันแมงมุมได้จริง ๆ... ตอนนี้วิกฤตสิ้นสุดลงแล้ว ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยขึ้นว่า"...ฉันเดาว่าพวกแวมไพร์เลี้ยงแมงมุมพวกนี้ไว้ หากฉันวิเคราะห์ไม่ผิด หยดเลือดที่แมงมุมดูดกลืนไปสามารถถูกแวมไพร์ดึงกลับไปใช้ดื่มกินได้ด้วย…” “ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะเลี้ยงสัตว์ที่น่ากลัวแบบนี้เอาไว้!” เจอรัลด์หน้าบึ้ง แต่คิดไปแล้วก็ฟังดูสมเหตุสมผล มีเพียงแวมไพร์เท่านั้นที่จะสามารถคิดกลยุทธ์ชั่วร้ายเช่นนี้ได้... หลังจาก
ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นปัญหาหนึ่ง นั่นคือความจริงที่ว่าประตูบานใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าถูกล็อค เมื่อเห็นอย่างนั้น เลคก็ออกคำสั่งทันที “พวกนายมาปลดล็อกประตู!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยอดฝีมือจากทีมของเลคก็หยิบเครื่องมือสองสามอย่างออกมาจากกระเป๋าคาดเอวของเขาอย่างรวดเร็วและเริ่มลงมือ... ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังขึ้น แสดงว่าก็สามารถปลดล็อคประตูได้สำเร็จ! จากนั้นเลคก็ผลักประตูให้เปิดออก และคนอื่น ๆ ก็พยายามตามเขาไป เมื่อเข้าไปที่ด้านใน พวกเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าข้างในนั้นส่วนใหญ่ล้วนรกร้างว่างเปล่า แต่มีรูปวงกลมขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงกลางทั้งยังถูกล้อมรอบด้วยเสาสี่ต้น… “แล้วทีนี้อะไรอีกล่ะ…” เจอรัลด์พึมพำด้วยความสงสัยเล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็พูดว่า "...นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่แวมไพร์ใช้บ่มเพาะตัวเอง ดูจากวงกลมนี่แล้ว ฉันเดาว่าคงมีเพียงผู้นำของแวมไพร์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้นั่งอยู่ที่นั่น!” ขณะที่เจอรัลด์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เลคเองก็ขมวดคิ้วขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “…ถึงอย่างไรก็เถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรเลย
เจอรัลด์ย้ำคำของผู้เฒ่าฟลินท์เพียงเพื่อเน้นย้ำว่าการเข้าไปยุ่งย่ามกับสิ่งของล้ำค่าในสถานที่แห่งนี้นั้นอันตรายเพียงใด ในขณะที่ความโลภของมนุษย์คล้ายจะไม่มีที่สิ้นสุด การควบคุมตนเองเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชีวิตรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่... หลังจากใช้เวลาในการขนย้ายสิ่งของล้ำค่าออกจากสถานที่นั้นเกือบครึ่งชั่วโมง เลคและคนของเขาก็ได้รวบรวมทรัพย์สินมีค่ามากพอที่จะใส่ลงไปในรถยนต์ขนาดใหญ่อย่างน้อยสองคัน… เมื่อได้เห็นปริมาณของทรัพย์สมบัติแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่เลคและคนของเขาถูกดึงดูดให้มายังสถานที่แห่งนี้... หลังจากที่เลคออกจากห้องลับแห่งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็เดินไปหาเจอรัลด์ก่อนที่จะยิ้มขณะที่เขาพูดว่า "นี่คือสมบัติที่เราได้รับจากห้องลับนั้น เจอรัลด์! เนื่องจากพวกเราทั้งสองฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันจนทำให้มาได้ไกลถึงขนาดนี้ ผมก็ยินดีที่จะแบ่งปันทรัพย์สินบางส่วนที่ได้มากับพวกคุณ!” เจอรัลด์ยิ้มตอบก่อนพูดขึ้นว่า “ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณนะ คุณซัค แต่เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามล่าสมบัติของแวมไพร์ เพราะงั้นพวกคุณเก็บทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไว้กับตัวเองเถอะ!” เมื่อได
“นี่คุณกำลังจะบอกว่าคนที่ถูกแมงมุมโจมตีคือคนที่สัมผัสกับสมบัติพวกนั้นอย่างนั้นหรือ?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเห็นผู้เฒ่าฟลินท์พยักหน้า เจอรัลด์และพรรคพวกก็ตกตะลึงทันที ไม่นึกเลยว่าแมงมุมจะเลือกเหยื่อจริง ๆ... ในขณะเดียวกัน เลคและสมาชิกในทีมที่เหลือก็ถูกแมงมุมยักษ์จับกินทั้งเป็น! มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างที่สุด… เมื่อมองไปที่เจอรัลด์ซึ่งยังคงยืนอยู่ข้างประตู เลคผู้น่าสงสารที่กำลังถูกกินก็ทำได้เพียงอ้อนวอนว่า “คุณ…คลอฟอร์ด…! ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย…!” “ช...ช่วยด้วย! ได้โปรด…!" สมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมของเลคต่างก็กรีดร้องเช่นกัน ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดได้ยึดเอาสมบัติต้องสาปไปเพราะความโลภบังตา หรือเรียกอีกอย่างว่า พวกเขาหาเรื่องใส่ตัวกันเอง ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยอะไรไม่ได้ ขณะที่พวกเขากรีดร้องและถูกกินไปต่อหน้าต่อตา... เลคเองก็ถูกฉีกออกขาดครึ่งก่อนที่จะถูกโยนลงไปในเหว... สำหรับสมาชิกในทีมที่เหลือ พวกเขาถูกแมงมุมตัวเล็กกลืนกินจนไม่เหลืออะไร และสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีเพียงกองเลือด... ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนที่เลคและกลุ่มขอ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ