ด้วยเหตุนี้ หลังจากหยุดชั่วครู่ เจอรัลด์จึงประกาศว่า “ห้าสี่!” "เปิด!" แซนรี่ตะโกนแทบจะในทันที แทนที่จะรู้สึกประหลาดใจที่แซนรี่จะเลือกเปิดตอนนี้ เจอรัลด์กลับรู้สึกยินดีแทน ท้ายที่สุดแล้ว เขารอให้แซนรี่ทำเช่นนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน... โดยไม่คำนึงว่า เจอรัลด์จะเปิดเผยลูกเต๋าของเขาให้แซนรี่เห็น เมื่อเห็นว่าเขาชนะอีกครั้งแซนรี่ก็ดูเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัดก็พูดด้วยน้ำเสียงขอโทษว่า "ขอโทษที คุณคลอฟอร์ด แต่ดูเหมือนว่าคุณจะแพ้อีกแล้ว! ดูเหมือนคุณจะต้องให้เงินผมอีกครั้งแล้วล่ะ!” ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็สามารถรู้ได้ว่าแซนรี่กำลังหลงระเริงในชัยชนะของตัวเองแล้ว แซนรี่เชื่ออย่างสนิทใจว่า เจอรัลด์ไม่มีทางชนะเขาได้ในเกมนี้ “มีแพ้ก็ต้องมีชนะ!” เจอรัลด์ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ขณะที่เขายื่นเงินอีกเจ็ดสิบห้าดอลลาร์ให้กับแซนรี่เขาดูมีความสุขเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์สูญเสียเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเหรียญแล้ว จูโน่ก็ก็รีบมองเจอรัลด์ก่อนจะพึมพำอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย “เจอรัลด์ เลิกเล่นเกมนี้แล้วไปกันเถอะ…!” แม้ว่าเงินเจ็ดสิบห้าดอลลาร์จะไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา แต่หากเจอรัลด์ยังคงพ่ายแพ้ เงินท
ตอนนี้เขาไม่ได้ไว้ท่าอีกต่อไปแล้ว เจอรัลด์อยากจะเล่นเกมต่อไปจนแทบทนไม่ไหว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ เจอรัลด์ก็ดูสนใจเกมนี้มากขึ้น แซนรี่ก็ตอบเพียงว่า "แน่นอน เราจะเล่นกันต่อ! เพราะเราเพิ่งจะเล่นกันได้ไม่กี่รอบเท่านั้น! ต่อจากนี้ผมจะไม่ออมมือให้คุณแล้วนะ คุณคลอฟอร์ด!” เมื่อได้ยินประโยคเดิมอีกครั้ง เจอรัลด์ก็พบว่าตัวเองเริ่มเบื่อหน่ายกับคำพูดเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แซนรี่มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ยิ่งเขามั่นใจมากเท่าไร เขาก็ยิ่งจองหองมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ เจอรัลด์ก็รู้ดีว่าเรื่องราวต่าง ๆ คงไม่จบลงด้วยดีสักเท่าไหร่นะ ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงเริ่มเขย่าลูกเต๋าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ขณะที่เจอรัลด์เขย่าลูกเต๋าของเขาได้เวลาประมาณสองวินาที แซนรี่ยังคงเขย่าลูกเต๋าของเขาเองต่อไปอีกพักหนึ่ง ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังสามารถแยกแยะได้อย่างง่ายดายว่าลูกเต๋าของแซนรี่มีแต้มเท่าไหร่ ไม่ว่าเขาจะเขย่าลูกเต๋านานแค่ไหนแซนรี่ก็ไม่สามารถหลบหนีทักษะการฟังอันเฉียบคมของเจอรัลด์ได้ ถึงกระนั้น ความจริงที่ว่าแซนรี่คิดว่าการเขย่าลูกเต๋านานขึ้นอาจทำให้เจอรัลด์สับสนได้ก็ถือเป็นเรื่องน่าหัวเราะเป็นอย่าง
“…แน่นอนว่าเราจะเล่นต่อ! ผมเสียไปแค่หนึ่งร้อยห้าสิบเหรียญเองไม่ใช่เหรอ? ผมจะต้องชนะและได้เงินพวกนั้นคืนอย่างแน่นอน!” แซนรี่ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็รู้สึกยินดี เขาได้แต่คิดว่า 'ดูเหมือนว่าเขายังคิดจะพยายามข่มฉันไม่เลิกเลย! มาถึงขั้นนี้ ถ้าฉันเอาเงินของนายมามากกว่านี้ก็อย่าโทษกันล่ะ!' คนบางคนก็ต้องถูกสั่งสอนอย่างเข้มงวดและไร้ความเมตตากว่าที่มันจะทะลุกะโหลกหนา ๆ ของพวกเขาได้ในที่สุด ทั้งสองคนก็เริ่มเกมรอบต่อไปทันที ตลอดกระบวนการเขย่าลูกเต๋าแซนรี่จับตาดูเจอรัลด์อย่างใกล้ชิด ซึ่งนั่นทำให้เขารำคาญเมื่อพบว่าเจอรัลด์ดูไม่มีอุบายใด ๆ เลย ถึงกระนั้นแซนรี่ก็รู้สึกว่าเจอรัลด์ไม่ธรรมดา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรที่ทำให้ เจอรัลด์พิเศษขนาดนี้ก็ตาม... ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็หยุดเขย่าลูกเต๋าพร้อมกัน คราวนี้เจอรัลด์มีสี่สองและหนึ่งหนึ่ง ในแง่ของเกม ผลลัพธ์ดังกล่าวเรียกว่า ‘เสือดาว’ เนื่องจากลูกเต๋าจำนวนมากให้ผลลัพธ์ที่เท่ากัน ในทางกลับกันแซนรี่มีสี่สามและสองหนึ่ง ไม่ได้ล่วงรู้ถึงมูลค่าของลูกเต๋าที่เขามี แซนรี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย
ในขณะที่เขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ความจริงยังคงแสดงให้เห็นว่าเขาพ่ายแพ้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาโกรธมากจนเกินไป แซนรี่ก็กังวลว่าคนอื่น ๆ จะคิดว่าเขารวยไม่พอที่ฉันเล่นเกมพวกนี้ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งความอัปยศอดสูที่เขาไม่เคยอยากจะพบเจอ เขาเพิ่งสูญเสียเงินไปสองร้อยยี่สิบห้าเหรียญ สำหรับเขามันไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้นเขาจึงสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างแน่นอน…! ด้วยความเชื่อที่ว่าแซนรี่คงไม่อยากเล่นต่อหลังจากต้องพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง เจอรัลด์จึงมองดูเขาก่อนจะถามว่า "คนอยากจะเล่นต่อไหมคุณประธานรุ่น" "ทำไมจะไม่ล่ะ! เรามาต่อกันเลย!” แซนรี่ประกาศก้อง เห็นได้ชัดว่าแซนรี่มีนิสัยตามแบบฉบับของนักพนัน หากเขาไม่สามารถเอาชนะเจอรัลด์ได้ คืนนี้เขาคงนอนไม่หลับ ไม่ใช่ว่าเจอรัลด์จะอิดออด แต่เขาแค่อยากรู้ว่าแซนรี่จะทนต่อไปได้อีกสักกี่น้ำ “เอาล่ะ เยี่ยมมาก คุณประธานรุ่น! แต่ในเมื่อคุณเป็นคนแนะนำเกมที่แล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะเป็นฝ่ายแนะนำเกมของตัวเองบ้าง คุณเห็นด้วยไหมที่เราจะปรับเปลี่ยนเกมกันสักหน่อย” เจอรัลด์ถาม เมื่อได้ยินเช่นนั้น แซนรี่ซึ่
แซนรี่หัวเราะคิกคักตอบก่อนจะพูดว่า "ก่อนอื่น ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ!" “แน่นอน!” เจอรัลด์พยักหน้าตอบ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าแซนรี่กำลังพยายามหลบหนี แต่เจอรัลด์ก็ไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องเปิดโปงเขา แซนรี่ลุกขึ้นและรีบไปเข้าห้องน้ำในทันที ตอนนี้ในที่สุดเขาก็สามารถหลบหนีจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของเจอรัลด์ได้แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะลากตัวเองเข้ามายุ่งย่ามกับเจอรัลด์อีกต่อไป ไม่นานงานเลี้ยงรุ่นก็จบลงอย่างราบรื่น และเจอรัลด์ก็ขับรถกลับบ้านจูโน่... ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในบ้านของเธอ จูโน่ก็ยิ้มทันทีขณะที่เธอหันไปมองเจอรัลด์ก่อนจะพูดว่า "วันนี้คุณแกล้งแซนรี่หนักมากเลยนะเจอรัลด์!" เจอรัลด์หัวเราะอย่างไม่เก็บอาการแล้วตอบกลับไปว่า “เขาผิดที่คิดจะมาแกล้งผมก่อน! ในเมื่อเขาทำแบบนั้นแล้วจะให้ผมปล่อยเขาไปได้ยังไงล่ะ ถูกไหม? อีกอย่างคุณก็ดีใจที่ผมทำแบบนั้นกับเขาใช่หรือเปล่า” เมื่อได้ยินเช่นนั้น จูโน่ก็พยักหน้าก่อนจะพูดด้วยความยินดีว่า “แน่นอน ฉันดีใจมาก! ผู้ชายคนนั้นคอยกวนฉันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วรู้หรือเปล่า? ในที่สุดก็มีคนทำให้เขาอับอายได้เสียที!” เนื่องจากเจอรัลด์ทำให้เขาอับอายเป็นอย่
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเจอรัลด์ ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด กลับกลายเป็นว่าถุงหอมเป็นสัญลักษณ์ของอะไรบางอย่างจริง ๆ “…แล้วอย่างนั้น… 'เรื่องสำคัญ' ที่ว่าไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ?” เรย์ถาม เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “แย่หน่อยที่ไม่ใช่แบบนั้น ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของกริมเฮล์มมาก่อนเหมือนกัน มันเป็นสถานที่ที่เลวร้ายมาก ดังนั้นการที่เขาไปที่นั่นคงแปลว่าเขาต้องเจอกับปัญหาบางอย่างแน่” เจอรัลด์ยังรู้ด้วยว่าผู้เฒ่าฟลินท์ฉลาดพอที่จะไม่ส่งถุงหอมมาเช่นนี้หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาจะทำเช่นนี้เฉพาะตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเท่านั้น... "…เข้าใจแล้ว! ถ้าอย่างนั้น…เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่ดี?” “เราจะออกเดินทางกันในวันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้า!” เจอรัลด์ประกาศเนื่องจากรู้ว่าสถานการณ์เร่งด่วนเพียงใด หลังจากนั้น เขาจึงหันไปเผชิญหน้ากับเรย์และจูโน่ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า“เรย์ จูโน่ ไปปลุกโนริและเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ให้เธอฟัง เสร็จแล้วก็เริ่มเก็บข้าวของ ฉันอยากให้ทุกคนตามฉันไปที่นั่นด้วยกัน!” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนับว่าร้ายแรงมาก เจอรัลด์จึงต้องการคว
คืนนั้นเป็นเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงทุ่มขณะที่เจอรัลด์และคนอื่น ๆ มาถึงอาณาจักรเอ็มเมอรัลด์ในที่สุด อาณาเขตของแวมไพร์นั้นเป็นป่าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนภูเขาโบราณ และตั้งแต่สมัยโบราณก็มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าเสี่ยงเข้าไปในป่าแห่งนั้นเพื่อพบกับพวกมัน... แต่พวกเขายังพอมีโชค ที่นี่มีตั้งโรงแรมและบังกะโลที่เปิดดำเนินการอยู่บางแห่งในบริเวณใกล้เคียง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งห้าจึงสามารถปักหลักและพักผ่อนได้อย่างไม่ลำบาก... หลังจากจองห้องพักได้แล้ว เขาก็อนุญาตให้ทุกคนไปที่ห้องของตนเพื่อนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะพวกเขาจำเป็นต้องพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนแวมไพร์อย่างเป็นทางการในเช้าวันรุ่งขึ้น... ยามรุ่งสางมาถึง ทุกคนเช็คเอาท์ออกแต่เช้าและเริ่มขับรถไปยังป่าโบราณแห่งนั้นทันที... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที กระทั่งรถมาจอดอยู่ที่ตีนเขา เนื่องจากรถไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้วิธีเดินเท้าต่อจากนี้ เมื่อจัดการเรื่องสัมภาระเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางขึ้นภูเขาไป... ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ เรย์ก็ประกาศขึ้นว่า “…ผมไม่แน่ใจนะว่าพวกคุณคิดยังไงกัน แ
เมื่อมองไปที่ชายท้องใหญ่ที่กำลังจ้องมองเจอรัลด์และกลุ่มของเขา เจอรัลด์ก็รู้อยู่แล้วว่าเขากำลังหาเรื่อง พูดให้ถูกคือ เขารู้สึกว่าชายอ้วนนั้นเป็นโจรและอันธพาลในหมู่บ้าน แม้ว่าเจอรัลด์จะไม่ค่อยอยากจะเสวนากับเขาหรือลูกน้องของเขามากนัก แต่เขาก็ยังคงยิ้มแย้มขณะที่เขาตอบบอกไปว่า "ก็มีแค่อาหารเล็กน้อยเท่านั้น แต่ชาวบ้านที่นี่ได้แลกเปลี่ยนและเอามันไปหมดแล้ว!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายร่างท้วมก็เงยหน้าขึ้นก่อนจะประกาศว่า “ฟังนะ! ฉันชื่อเฟน และฉันเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านนี้! ในเมื่อนายมาถึงหมู่บ้านของฉัน นายก็ควรมอบของบางอย่างให้เราเป็นของฝาก! ไม่เช่นนั้นฉันคงจะปล่อยให้นายอยู่ที่นี่ง่าย ๆ ไม่ได้หรอก!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็รู้ทันทีว่าเฟนเป็นพวกอันธพาลที่พยายามขู่กรรโชกพวกเขาเพื่อเงิน แม้ว่าคำขู่พวกนี้จะหลอกคนใจปลาซิวได้ แต่เจอรัลด์ก็มีประสบการณ์กับคนอย่างเฟนมาก่อน เหตุนี้เขาจึงไม่ยอมให้เฟนใช้ประโยชน์จากพวกเขา ก่อนที่เจอรัลด์จะทันได้ตอบอะไรเฟนซึ่งจ้องมองไปที่จูโน่และโนริอยู่พักหนึ่งก็เผยรอยยิ้มที่น่ากลัวก่อนจะพูดว่า “โอ้ สาวงามสองคนที่อยู่ด้านหลังดูเข้าท่าทีเดียว!” เมื่อได้ยินเช่นนั้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ