ด้วยสายตาเหยียดหยามบนใบหน้าของพวกเขา ชายทั้งเจ็ดจึงเริ่มโน้มตัวลง ท่าทางคล้ายหมาป่าดุร้ายที่วางแผนจะกระโจนใส่เจอรัลด์! ท่าทางของพวกเขาน่ากลัวมาก จนทุกคนแทบลืมหายใจ! “โอ้พระเจ้า ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพร้อมที่จะซัดพ่อหนุ่มไร้สมองคนนี้ให้เป็นชิ้น ๆ เชียวล่ะ!” "ฮึ! เขาผิดเองที่หาเรื่องตาย! แต่ฉันก็ยังนึกสงสัยว่าเขาไม่ได้ล่วงรู้ถึงอำนาจที่ตระกูลเทิร์นบูลส์มีในยานัมเลยหรือไง เขากล้าที่จะหาเรื่องนายน้อยเทิร์นบูลเชียวนะ! ไม่ว่าจะยังไง หลังจากที่เขาถูกจัดการ สมาชิกตระกูลของเขาจะเป็นรายต่อไปอย่างแน่นอน!” แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ด้านล่างของเวทีจะเย้ยหยันเจอรัลด์ แต่เซียร์กลับรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก จากนั้นเธอก็หันมามองด้านข้างของเธอ แล้วเอ่ยปากอ้อนวอน “นายน้อยเจงค์! เฟีย! รีบหาทางช่วยเขาเถอะ! ใช้อำนาจของตระกูลหรืออะไรสักอย่างก็ได้! เขาแค่อยากช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปก็เท่านั้นเอง…!” อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่กลับทำสีหน้าเย็นชาใส่เธอ “เซียร์ พอได้แล้ว! ไอ้ขี้แพ้นั้นตายไปแล้วจะยังไงล่ะ? เรื่องมากจริง! รีบตั้งสติให้ดีสิ เขาก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่มาพบกับเราโดยบังเอิญก็เท่านั้น! พูดถึงขนาด
หลังจากยิ้มอย่างเย็นชา เจอรัลด์ใช้สองนิ้วฟันไปที่กลางอากาศ ทำให้เกิดดาบแห่งแสงขึ้น! ในขณะที่มันบินไปในหาเบลไฟร์ในทันที เลน็อกซ์จึงพยายามที่จะหยุดมันไม่ให้เป็นเคลื่อนที่ต่อไปได้อีก แต่เขาก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อในวินาทีที่เขาตระหนักว่าใบมีดนั้นแข็งแกร่งเพียงใด พลังนั้น… ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้! “นายน้อย…!” เลน็อกซ์ตะโกนออกไปด้วยความตื่นตระหนก ในขณะที่เขาต้องทนเห็นเบลไฟร์ถูกหั่นเป็นแปดส่วนในชั่วพริบตา! ด้วยการเสียชีวิตที่น่าสยดสยองของเขา บรรยากาศก็กดดันขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบหายใจไม่ออก... เลน็อกซ์เองก็ตะลึงไปชั่วขณะด้วยความไม่เชื่ออย่างสุดหัวใจ... ใครจะว่าอะไรได้? ในเมื่อเขาเพิ่งได้เห็นการตายอันน่าสยดสยองของลูกชายคนเดียวของชายผู้มั่งคั่งที่สุดในยานัม! เด็กคนนี้ควบคุมเศรษฐกิจกว่าครึ่งของที่นี่เชียวนะ! เมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ตอนนี้เลน็อกซ์ก็ได้แต่จินตนาการถึงเรื่องเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น จนหูของเขาเริ่มอื้อไป ในที่สุดชายวัยกลางคนซึ่งมีใบหน้าซีดเซียวก็หันมามองเจอรัลด์ก่อนจะพูดว่า “…คุณเป็นคนชั่วร้ายจริง ๆ เลยนะ… หลังจากที่คุณทำเรื่องแบบนี้ลงไปแล้ว ผมก็สงสัยจริง ๆ
คนอื่น ๆ ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อเช่นกัน ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าบุคคลที่อยู่บนเวทีไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคุณคลอฟอร์ดแห่งพระราชวังซาคราโซลิสนั่นเอง! ขณะที่ทุกคนยังคงตกตะลึงอยู่ในขณะนั้น คาร์ลอสก็ทำลายความเงียบด้วยการพูดว่า “คุณคลอฟอร์ด เราควรทำอย่างไรกับบุคคลนี้ดี?” จากวิธีที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าคาร์ลอสไม่สนว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น และคนอื่น ๆ บนเวทีที่อยู่กับเจอรัลด์ต่างก็คิดเช่นเดียวกัน มีเพียงคนเดียวที่ลังเลเล็กน้อยในตอนแรก นั่นก็คือเยชัว ผู้ซึ่งวางแผนจะแนะนำเจอรัลด์ไม่ให้ไปยุ่งกับตระกูลเทิร์นบูลส์ เพราะอย่างไรเสียพวกนั้นก็เป็นตระกูลหลักอันดับต้น ๆ ที่เป็นผู้กุมความมั่งคั่งของยานัมไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง! ยิ่งกว่านั้น คนในตระกูลเทิร์นบูลยังเป็นพระญาติของกษัตริย์แห่งยานัมอีกด้วย! ช่วงเวลาเพียงไม่นานตระกูลนั้นก็มีอำนาจที่หยั่งรากลึกที่นั่นได้แล้ว... ด้วยเหตุนี้ การที่คุณคลอฟอร์ดเพิ่งฆ่าลูกชายคนเดียวของฮูเปอร์ เทิร์นบูล ไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์อื่นใดนอกจากความหายนะ! ถึงกระนั้น หลังจากตระหนักได้ว่าคาร์ลอสและคนอื่น ๆ นับถือเจอรัลด์มากเพียงใด และในเมื่อสถานการณ์เลยเถิดมาถึงขั้นนี
วินาทีที่เธอรู้สึกว่าเขาจับแขนของเธอ ในตอนแรกหญิงสาวรู้สึกตระหนกและแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอตะโกนว่า “นี่คุณ…! กล้าดียังไง…?!" หลังจากนั้น จะเห็นชั้นของเกล็ดมังกรที่เรืองแสงสีแดงจาง ๆ บนแขนของเธอ! เมื่อแสงสว่างจ้าขึ้น เจอรัลด์รู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือของเขา กระตุ้นให้เขาคลายการเกาะกุมออกจากแขนของเธอ ก่อนจะถอยหลังไปสองก้าว ในตอนนั้นเอง ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามาจ้องหน้าเจอรัลด์อย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอตอนนี้แดงก่ำด้วยความโกรธ ขณะที่เธอตะคอก “คุณกล้าดียังไงมาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้?!” เมื่อมองดูใบหน้าของเธอดี ๆ เจอรัลด์เริ่มหายใจถี่ขึ้นทันที ตอนนี้ดูจะหวั่นไหวมากกว่าก่อนหน้านี้เสียด้วย! 'ไม่เพียงแต่มีน้ำเสียงคล้ายคุณเท่านั้น แต่ยังมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับคุณราวกับเป็นคนคนเดียวกันอีกด้วย! ตอนนี้ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าในที่สุดผมก็ได้พบคุณแล้ว มิล่า…!' “มองให้ดี ๆ สิ มิล่า! คุณลืมไปแล้วจริง ๆ เหรอว่าผมเป็นใคร? ผมเจอรัลด์ไง! ผมตามหาคุณอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่คุณหายตัวไประหว่างกา
แต่ความคิดดังกล่าวต้องหยุดชะงักลง เมื่อมีเสียงที่ไพเราะดังขึ้น “โซอี้? ไซลิน่า! พวกเธอสองคนไปอยู่ที่ไหนมา?” เมื่อได้ยินเช่นนั้นไซลิน่าก็ตอบว่า “เอ่อ! มิล่า! เมื่อกี้เรา” เพื่อความสบายใจของโซอี้ ไซลิน่าจึงระลึกถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถโพล่งทุกอย่างออกไปได้ หลังจากถูกโซอี้สะกิดเล็กน้อย ไซลิน่าก็ฟื้นสติได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอพูดต่อ “…เรา… เมื่อกี้ก็แค่ไปสำรวจแถว ๆ นี้มา! ทะเลตอนกลางคืนก็ค่อนข้างสวยด้วย ว่าไหมล่ะ?” มิล่าได้แต่ตอบสนองด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ขณะที่พยักหน้าแล้วตอบว่า “ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าการเจรจากับกษัตริย์แห่งทิศเหนือไม่ง่ายนัก แต่เธอต้องจำไว้ว่าพ่อบุญธรรมของเราเจาะจงเลือกเราเพื่อให้งานนี้ลุล่วงไปด้วยดี เมื่อพูดแบบนี้แล้ว แม้ว่าตอนนี้สิ่งต่าง ๆ จะดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่เราต้องพยายามเชื่อฟังคำสั่งของพ่อบุญธรรมให้ได้มากที่สุด และอย่าออกไปเตร็ดเตร่ข้างนอกด้วย!” “เราเข้าใจแล้ว มิล่า… ฉันได้นำยาที่สั่งให้ลูกน้องของฉันมาให้เธอด้วย ดูเหมือนเธอจะต้องปวดหัวอย่างหนักอยู่ทุกคืน ฉันเลยคิดว่าต้องหาอะไรมาช่วยให้เธอคลายความกังวลลงบ้าง พอได้ยินว่ามีสมุนไพรที่
ตระกูลเทิร์นบูล เป็นตระกูลที่ดำรงอยู่มานานหลายศตวรรษ และมีคนที่ยอดเยี่ยมและมีอำนาจมากมายในตระกูล ซึ่งมีภูมิหลังที่มีอิทธิพล ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงกระทำการต่าง ๆ ด้วยความบุ่มบ่ามอยู่เสมอ เนื่องจากไม่มีใครสามารถต่อต้านพวกเขาได้ ฮูเปอร์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายของเขาจะตายอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้ ฮูเปอร์กอดศพลูกชายที่ถูกหั่นเป็นหลายชิ้น ความโศกเศร้า ความเกลียดชัง และความโกรธเกรี้ยวเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา... เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ทุกคนจึงถอยหลังไปสองสามก้าวทันที ฮูเปอร์ยังคงตัวสั่นอยู่ จากนั้นหันไปมองเลนอกซ์ ขณะที่เขาตวาดออกมา “…ใคร… ใครกันที่เป็นคนลงมือฆ่าลูกชายของฉัน…?!” เลนอกซ์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นตอบว่า “คนที่ลงมือ… คือคนที่ตระกูลของผมตามหามาโดยตลอด! เจอรัลด์เป็นคนทำเรื่องนี้!” "…อะไรนะ?! เจอรัลด์?!” ฮูเปอร์คำราม นัยน์ตาของเขาตอนนี้กลายเป็นสีเลือด เจตนาสังหารหลั่งออกมาจากทุกอณูบนร่างกายของเขา เมื่อเห็นสถานการณ์โดยรวมแล้ว ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวหรูหราซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ประกาศขึ้นมาว่า “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อคุณและตระกูลของคุณด้วย ฮูเปอร์… ไม่ว่ายังไง
“อะไรนะนายท่าน? คุณเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมีพลังขนาดนี้งั้นหรือ?” เกรย์สันถาม “แน่นอนว่าฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน อืม ฉันดูแคลนพลังของวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังที่จะทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนไปเสียสนิท… ยิ่งไปกว่านั้นเจอรัลด์ยังสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรรูนได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี! ต้องบอกเลยว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะเทียบเท่ากับของฉันได้ไม่ยากเลย! ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะมีพรสวรรค์เพียงใด การบรรลุผลเช่นนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ!” “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือความจริงที่ว่าคนที่แอบช่วยเจอรัลด์คอยกระตุ้นให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่งเสมอ! ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นั้น เจอรัลด์คงไม่พัฒนาอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่ฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้อีกต่อไปแบบนี้หรอก!เพราะแบบนั้น ฉันถึงได้แต่ชักใยอยู่เบื้องหลังแบบนี้!” แดริลอธิบาย เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งฮูเปอร์และเกรย์สันก็สูดลมหายใจอย่างเย็นชา “มีผู้ที่ทรงพลังที่สุดจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างทั้งเจ็ดคน… หากเจอรัลด์แข็งแกร่งอย่างที่คุณพูดจริง ๆ นั่นหมายความว่าเขามีความสามารถเทียบเท่ากับเจ็ดราชาแห่งจักระที่มีพละกำลังแข็งแกร่งอย่าง
แม้ว่าตอนนี้เจอรัลด์จะค่อนข้างอยู่ในระดับเดียวกับราชาแห่งจักระ ซึ่งก็หมายความว่าเขาอยู่ในระดับสูงสุดของโลกใบนี้ แต่ยังมีหลายสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ ประการแรกคือเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามิล่าจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ตลอดเวลาที่เธอหายไป เขายกมือขึ้นและจ้องไปที่ฝ่ามือที่ไหม้เกรียมของเขา… เมื่อคิดว่าออร่าที่แผดเผาจากร่างกายของมิล่าสามารถทำลายพลังลมปราณสายฟ้าได้อย่างง่ายดายเช่นนี้… เจอรัลด์ถอนหายใจพรืดยาว เรือที่ดูน่ากลัวและแปลกประหลาดกว่าสิบลำก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งขวางเส้นทางของเขาโดยสิ้นเชิงในไม่กี่วินาที... หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าแห่งวิญญาณ คาร์ลอส และคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นเรือเหล่านั้นเช่นกัน พวกเขาเดินไปยืนข้างหลังเจอรัลด์ซึ่งกำลังยืนกอดอกมองเรือ จากนั้นทุกคนก็มองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ชายชราผมขาว พร้อมกับชายวัยกลางคนอีกสิบคนกระโดดลงจากเรือลำหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลงมาที่เรือที่เจอรัลด์และคนอื่น ๆ อยู่ตอนนี้พวกเขามองดูชายชราได้อย่างเต็มตาแล้ว ทั้งคาร์ลอสและจูเลียนต่างเบิกตากว้าง ขณะพึมพำพร้อมกันว่า “นั่น… นั่นคือนักบวชระดับสูงจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างนี่นา!”
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ