คนอื่น ๆ ต่างก็เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อเช่นกัน ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าบุคคลที่อยู่บนเวทีไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคุณคลอฟอร์ดแห่งพระราชวังซาคราโซลิสนั่นเอง! ขณะที่ทุกคนยังคงตกตะลึงอยู่ในขณะนั้น คาร์ลอสก็ทำลายความเงียบด้วยการพูดว่า “คุณคลอฟอร์ด เราควรทำอย่างไรกับบุคคลนี้ดี?” จากวิธีที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าคาร์ลอสไม่สนว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น และคนอื่น ๆ บนเวทีที่อยู่กับเจอรัลด์ต่างก็คิดเช่นเดียวกัน มีเพียงคนเดียวที่ลังเลเล็กน้อยในตอนแรก นั่นก็คือเยชัว ผู้ซึ่งวางแผนจะแนะนำเจอรัลด์ไม่ให้ไปยุ่งกับตระกูลเทิร์นบูลส์ เพราะอย่างไรเสียพวกนั้นก็เป็นตระกูลหลักอันดับต้น ๆ ที่เป็นผู้กุมความมั่งคั่งของยานัมไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง! ยิ่งกว่านั้น คนในตระกูลเทิร์นบูลยังเป็นพระญาติของกษัตริย์แห่งยานัมอีกด้วย! ช่วงเวลาเพียงไม่นานตระกูลนั้นก็มีอำนาจที่หยั่งรากลึกที่นั่นได้แล้ว... ด้วยเหตุนี้ การที่คุณคลอฟอร์ดเพิ่งฆ่าลูกชายคนเดียวของฮูเปอร์ เทิร์นบูล ไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์อื่นใดนอกจากความหายนะ! ถึงกระนั้น หลังจากตระหนักได้ว่าคาร์ลอสและคนอื่น ๆ นับถือเจอรัลด์มากเพียงใด และในเมื่อสถานการณ์เลยเถิดมาถึงขั้นนี
วินาทีที่เธอรู้สึกว่าเขาจับแขนของเธอ ในตอนแรกหญิงสาวรู้สึกตระหนกและแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอตะโกนว่า “นี่คุณ…! กล้าดียังไง…?!" หลังจากนั้น จะเห็นชั้นของเกล็ดมังกรที่เรืองแสงสีแดงจาง ๆ บนแขนของเธอ! เมื่อแสงสว่างจ้าขึ้น เจอรัลด์รู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือของเขา กระตุ้นให้เขาคลายการเกาะกุมออกจากแขนของเธอ ก่อนจะถอยหลังไปสองก้าว ในตอนนั้นเอง ในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็หันหน้ามาจ้องหน้าเจอรัลด์อย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอตอนนี้แดงก่ำด้วยความโกรธ ขณะที่เธอตะคอก “คุณกล้าดียังไงมาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้?!” เมื่อมองดูใบหน้าของเธอดี ๆ เจอรัลด์เริ่มหายใจถี่ขึ้นทันที ตอนนี้ดูจะหวั่นไหวมากกว่าก่อนหน้านี้เสียด้วย! 'ไม่เพียงแต่มีน้ำเสียงคล้ายคุณเท่านั้น แต่ยังมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับคุณราวกับเป็นคนคนเดียวกันอีกด้วย! ตอนนี้ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าในที่สุดผมก็ได้พบคุณแล้ว มิล่า…!' “มองให้ดี ๆ สิ มิล่า! คุณลืมไปแล้วจริง ๆ เหรอว่าผมเป็นใคร? ผมเจอรัลด์ไง! ผมตามหาคุณอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่คุณหายตัวไประหว่างกา
แต่ความคิดดังกล่าวต้องหยุดชะงักลง เมื่อมีเสียงที่ไพเราะดังขึ้น “โซอี้? ไซลิน่า! พวกเธอสองคนไปอยู่ที่ไหนมา?” เมื่อได้ยินเช่นนั้นไซลิน่าก็ตอบว่า “เอ่อ! มิล่า! เมื่อกี้เรา” เพื่อความสบายใจของโซอี้ ไซลิน่าจึงระลึกถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถโพล่งทุกอย่างออกไปได้ หลังจากถูกโซอี้สะกิดเล็กน้อย ไซลิน่าก็ฟื้นสติได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอพูดต่อ “…เรา… เมื่อกี้ก็แค่ไปสำรวจแถว ๆ นี้มา! ทะเลตอนกลางคืนก็ค่อนข้างสวยด้วย ว่าไหมล่ะ?” มิล่าได้แต่ตอบสนองด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ขณะที่พยักหน้าแล้วตอบว่า “ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าการเจรจากับกษัตริย์แห่งทิศเหนือไม่ง่ายนัก แต่เธอต้องจำไว้ว่าพ่อบุญธรรมของเราเจาะจงเลือกเราเพื่อให้งานนี้ลุล่วงไปด้วยดี เมื่อพูดแบบนี้แล้ว แม้ว่าตอนนี้สิ่งต่าง ๆ จะดูน่าเบื่อไปบ้าง แต่เราต้องพยายามเชื่อฟังคำสั่งของพ่อบุญธรรมให้ได้มากที่สุด และอย่าออกไปเตร็ดเตร่ข้างนอกด้วย!” “เราเข้าใจแล้ว มิล่า… ฉันได้นำยาที่สั่งให้ลูกน้องของฉันมาให้เธอด้วย ดูเหมือนเธอจะต้องปวดหัวอย่างหนักอยู่ทุกคืน ฉันเลยคิดว่าต้องหาอะไรมาช่วยให้เธอคลายความกังวลลงบ้าง พอได้ยินว่ามีสมุนไพรที่
ตระกูลเทิร์นบูล เป็นตระกูลที่ดำรงอยู่มานานหลายศตวรรษ และมีคนที่ยอดเยี่ยมและมีอำนาจมากมายในตระกูล ซึ่งมีภูมิหลังที่มีอิทธิพล ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงกระทำการต่าง ๆ ด้วยความบุ่มบ่ามอยู่เสมอ เนื่องจากไม่มีใครสามารถต่อต้านพวกเขาได้ ฮูเปอร์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายของเขาจะตายอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้ ฮูเปอร์กอดศพลูกชายที่ถูกหั่นเป็นหลายชิ้น ความโศกเศร้า ความเกลียดชัง และความโกรธเกรี้ยวเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา... เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ทุกคนจึงถอยหลังไปสองสามก้าวทันที ฮูเปอร์ยังคงตัวสั่นอยู่ จากนั้นหันไปมองเลนอกซ์ ขณะที่เขาตวาดออกมา “…ใคร… ใครกันที่เป็นคนลงมือฆ่าลูกชายของฉัน…?!” เลนอกซ์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นตอบว่า “คนที่ลงมือ… คือคนที่ตระกูลของผมตามหามาโดยตลอด! เจอรัลด์เป็นคนทำเรื่องนี้!” "…อะไรนะ?! เจอรัลด์?!” ฮูเปอร์คำราม นัยน์ตาของเขาตอนนี้กลายเป็นสีเลือด เจตนาสังหารหลั่งออกมาจากทุกอณูบนร่างกายของเขา เมื่อเห็นสถานการณ์โดยรวมแล้ว ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวหรูหราซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ประกาศขึ้นมาว่า “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อคุณและตระกูลของคุณด้วย ฮูเปอร์… ไม่ว่ายังไง
“อะไรนะนายท่าน? คุณเองก็ไม่คิดว่าเขาจะมีพลังขนาดนี้งั้นหรือ?” เกรย์สันถาม “แน่นอนว่าฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน อืม ฉันดูแคลนพลังของวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังที่จะทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนไปเสียสนิท… ยิ่งไปกว่านั้นเจอรัลด์ยังสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรรูนได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี! ต้องบอกเลยว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะเทียบเท่ากับของฉันได้ไม่ยากเลย! ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะมีพรสวรรค์เพียงใด การบรรลุผลเช่นนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ!” “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือความจริงที่ว่าคนที่แอบช่วยเจอรัลด์คอยกระตุ้นให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่งเสมอ! ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นั้น เจอรัลด์คงไม่พัฒนาอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่ฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้อีกต่อไปแบบนี้หรอก!เพราะแบบนั้น ฉันถึงได้แต่ชักใยอยู่เบื้องหลังแบบนี้!” แดริลอธิบาย เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งฮูเปอร์และเกรย์สันก็สูดลมหายใจอย่างเย็นชา “มีผู้ที่ทรงพลังที่สุดจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างทั้งเจ็ดคน… หากเจอรัลด์แข็งแกร่งอย่างที่คุณพูดจริง ๆ นั่นหมายความว่าเขามีความสามารถเทียบเท่ากับเจ็ดราชาแห่งจักระที่มีพละกำลังแข็งแกร่งอย่าง
แม้ว่าตอนนี้เจอรัลด์จะค่อนข้างอยู่ในระดับเดียวกับราชาแห่งจักระ ซึ่งก็หมายความว่าเขาอยู่ในระดับสูงสุดของโลกใบนี้ แต่ยังมีหลายสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ ประการแรกคือเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามิล่าจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ตลอดเวลาที่เธอหายไป เขายกมือขึ้นและจ้องไปที่ฝ่ามือที่ไหม้เกรียมของเขา… เมื่อคิดว่าออร่าที่แผดเผาจากร่างกายของมิล่าสามารถทำลายพลังลมปราณสายฟ้าได้อย่างง่ายดายเช่นนี้… เจอรัลด์ถอนหายใจพรืดยาว เรือที่ดูน่ากลัวและแปลกประหลาดกว่าสิบลำก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งขวางเส้นทางของเขาโดยสิ้นเชิงในไม่กี่วินาที... หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าแห่งวิญญาณ คาร์ลอส และคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นเรือเหล่านั้นเช่นกัน พวกเขาเดินไปยืนข้างหลังเจอรัลด์ซึ่งกำลังยืนกอดอกมองเรือ จากนั้นทุกคนก็มองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ชายชราผมขาว พร้อมกับชายวัยกลางคนอีกสิบคนกระโดดลงจากเรือลำหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลงมาที่เรือที่เจอรัลด์และคนอื่น ๆ อยู่ตอนนี้พวกเขามองดูชายชราได้อย่างเต็มตาแล้ว ทั้งคาร์ลอสและจูเลียนต่างเบิกตากว้าง ขณะพึมพำพร้อมกันว่า “นั่น… นั่นคือนักบวชระดับสูงจากองค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างนี่นา!”
“ช่างเป็นข่าวที่วิเศษจริง ๆ! จากนี้ไป เขาจะได้รับการยอมรับจากอาณาจักรการบ่มเพาะทั่วโลกในฐานะกษัตริย์แห่งทิศเหนือ!” คาร์ลอสกระซิบกับคนอื่น ๆ อย่างตื่นเต้น ถึงกระนั้นเจอรัลด์ดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก ถึงตอนนี้ เกียรติยศและการถูกยอมรับจากคนอื่นก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป นักบวชเจนกินส์ก็กระแอมในลำคอก่อนจะพูดว่า “ที่จริง ยังมีอีกเรื่องที่องค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างมอบหมายให้ผมแจ้งแก่คุณ… แต่บอกตามตรง ผมไม่แน่ใจว่าคุณอยากฟังมันไหม?…” เจอรัลด์พยักหน้าตอบ จากนั้นตอบว่า “โปรดบอกกับผมเถอะ ท่านหัวหน้านักบวช!” “อืม… ผมได้ยินมาจากกษัตริย์แห่งเอเชียใต้ว่าแดริลกับคุณมีอะไรบางอย่างต่อกัน… อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ องค์กรเจ้าแห่งการทำลายล้างมีกฎว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก… ผมแน่ใจว่าคุณเดาได้ว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดระหว่างคุณกับแดริลมาถึงจุดที่คุณได้ฆ่านายน้อยของตระกูลเทิร์นบูลเข้าให้แล้ว! แต่ถึงกระนั้นอดีตก็คืออดีต ผมได้รับคำสั่งให้แนะนำให้คุณสองคนเจรจาในเรื่องพวกนี้ด้วยกันอย่างสันติ… และทั้งหมดนี้ก็เป็นไปเพื่อความสงบสุขของอาณาจักรแห่งการบ่มเพาะ…”
“ก็อย่างที่คุณบอกนั่นแหละ ผมไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว! และผมก็มั่นใจว่าคุณรู้ดีว่าทำไมเราทั้งคู่ถึงต้องมาเผชิญหน้ากันในวันนี้ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ปล่อยคนในตระกูลของผมมาเดี๋ยวนี้! พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรในเรื่องระหว่างเรา!” เจอรัลด์พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “นี่นายกำลังบอกให้ฉันปล่อยพวกเขาไปงั้นเหรอ? แหม ฉันจะปล่อย! ฉันจะปล่อยดีแลนและคนอื่นๆ ไปอย่างแน่นอน! แน่นอนว่ารวมถึงมิล่าด้วย!” แดริลหัวเราะเยาะ "…ว่าไงนะ? คุณ… คุณจับมิล่าได้แล้วเหรอ?” เจอรัลด์ตอบอย่างตกตะลึง "ถูกต้อง! ในขณะที่เธอถูกพวกจากสหพันธ์ดวงอาทิตย์จับตัวไป เธอยังไม่ตาย! แต่หลังจากนี้ก็ไม่แน่ โดยหลักการแล้ว ฉันจะจัดการเธอ ในขณะที่เธอมาเป็นตัวแทนของจาเอลตราที่กำลังเดินทางมายังโลก! ฉันรู้ว่านายอยากให้ให้ตระกูลของนายกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมากแค่ไหน เจอรัลด์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ที่ฉันจะช่วยนายด้วยความเต็มใจ ด้วยการให้เธอได้พบกับดีแลนและคนอื่น ๆ อีกครั้ง!” แดริลพูดเย้ยหยัน “ไอ้… แมวขโมยน่ารังเกียจ…!” เจอรัลด์ที่โกรธเกรี้ยวคำราม ในขณะที่ใช้ปลายนิ้วฟันออกไป! เสี้ยววินาทีต่อมา สายฟ้าฟาดรุนแรงก็ตรงไปยังทิศทางของแดริ