ความมืดแผ่ปกคลุมไปทั่วห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ทายาทผู้มั่งคั่งทุกคนหวาดกลัวอย่างมากจนถึงจุดที่พวกเขากรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ท้ายที่สุดแล้ว ใครก็ตามที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ต้องรู้สึกสิ้นหวังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ฉัน ฉันขอโทษ เจอรัลด์…! มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด…!” จัสมินคร่ำครวญ เจอรัลด์ดึงเธอไปยืนข้างหลัง แล้วปลอบใจเธอว่า “ไม่เป็นไร มาหลบอยู่ข้างหลังฉันก่อนนะ!” ไม่นานนัก ความมืดก็สลายไป ทิ้งลูกแก้วแสงสามดวงไว้แทน... จากนั้นทุกคนก็เฝ้าดูเมื่อดวงไฟเริ่มเพิ่มขนาดขึ้น จนในที่สุดพวกมันก็ก่อตัวเป็นเงาของมนุษย์ เมื่อถึงเวลาที่แสงสลัวลง ชายสองคนกับผู้หญิงหนึ่งคนก็ยืนประจัญหน้ากับเจอรัลด์ ชายคนหนึ่งเปล่งรัศมีที่ดูน่าทึ่งเป็นพิเศษออกมา และร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยชุดเกราะสีดำ ในทางกลับกัน ชายอีกคนมีเพียงเสื้อคลุมที่ปกปิดร่างผอมบางของเขาเอาไว้ สำหรับผู้หญิงคางแหลมที่มีรูปร่างที่ดูสง่างามมาก เสน่ห์ที่แปลกประหลาดดูเหมือนจะถูกปลดปล่อยออกมาจากทุกอณูของร่างกายเธอ เมื่อรวมกับผมยาวหยักศกและมีสีแดงของเธอแล้ว เธอดูเหมือนปีศาจอสรพิษมาก ทั้งสามคนมาจากกลุ่มประตูมิติแห่งการ
“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับเขาอีกแล้ว นายน้อยไซม์ ให้ผมจับมันมาหักแขนหักขาก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันต่อ!” โฮแกนกล่าว ขณะที่รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวของเขาได้แผ่ขยายออกในไม่กี่วินาทีต่อมา! เขายกกรงเล็บเหล็กขึ้น แล้วพุ่งเข้าหาเจอรัลด์อย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ การเคลื่อนไหวของเขาได้สร้างพลังมหาศาลขึ้นภายในห้องห้องนั้น จนทำให้เฟอร์นิเจอร์โดยรอบแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย! เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้โฮแกนแข็งแกร่งขึ้นมาก เมื่อเทียบกับตอนที่เขาเจอเจอรัลด์ครั้งแรก! เมื่อฝ่ามือของโฮแกนยื่นเข้ามาใกล้ร่างของเจอรัลด์เพียงไม่กี่นิ้ว เสียงระเบิดก็ดังขึ้น...! อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์กลับยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ความจริงแล้ว การจู่โจมของโฮแกนเมื่อสักครู่นี้ไม่สามารถทำอะไรเจอรัลด์ได้ด้วยซ้ำ! โฮแกนได้แต่หยุดชะงักและตกตะลึงอย่างมาก จากนั้นเขาก็อุทานกับตัวเองว่า “…อะไรกันเนี่ย?” เห็นได้ชัดว่าโฮแกนถูกตรึงไว้ด้วยแรงมหาศาล และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เปลือกตาของผู้หญิงในชุดดำและชายที่สวมเสื้อคลุมเริ่มกระตุกอย่างรวดเร็ว “ถึงตอนนั้นฉันจะสู้แกไม้ได้ แต่ตอนนี้แกเปรียบเสมือนมดสำหรับฉัน!” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่ลำแสงที่รุนแรงพ
ในขณะเดียวกัน ชายในเสื้อคลุมยังคงเหาะอยู่บนท้องฟ้า หัวใจของเขาเต้นแรง ในขณะที่เขาคิดว่า 'มันช่างน่ากลัวเกินไป...! ฉันต้องหนีให้ไกลจากเขาให้มากที่สุด...! ฉันไม่คาดคิดเลยว่าฝีมือของผู้ชายคนนั้นจะร้ายกาจยิ่งกว่าอาจารย์ของฉันเสียอีก! ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันยังถอยหนีออกมาได้อย่างรวดเร็ว!' วินาทีที่ความคิดของเขาสิ้นสุดลง เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างของเขากำลังถูกบางอย่างดึงรั้งเอาไว้! เมื่อหันกลับไปมอง เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าไม่เพียงแต่มีเชือกเรืองแสงที่แสบร้อนผูกติดอยู่ที่ตัวเขา จนทำให้เขาไม่สามารถไปต่อได้เท่านั้น แต่ยังมีคลื่นกระแทกที่มีพลังมหาศาลพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูงอีกด้วย! ตอนนี้ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างเต็มที่ ชายคนนั้นเริ่มกรีดร้องทันที ในขณะที่เขาพยายามอย่างสุดแรงที่จะปลดปล่อยตัวเอง น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย และหลังจากที่เสียงระเบิดดังขึ้น คลื่นกระแทกก็พุ่งทะลุร่างของเขา ทิ้งไว้เพียงฝุ่นผงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า...! ในที่สุด เจอรัลด์ที่ยังอยู่ที่โรงเตี๊ยมก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง และเมื่อดวงตาสีทองของเขาปิดลง ทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ หลังจากนั้น ควิกลีย์ ซึ่งตอนนี้กำลังปวดหัวอย
เสียงนั้นเป็นเสียงของปีเตอร์ และตอนนี้เขากำลังถูกแขวนไว้ที่จัตุรัส สมาชิกในครอบครัวกันเทอร์หลายคนที่ได้ยินคำด่าทอของเขากำลังจ้องมาที่เขา พวกเขาไม่สามารถแบกรับความอัปยศอดสูได้อีกต่อไป สาวกคนหนึ่งของตระกูลกันเทอร์จึงเย้ยหยันอย่างเยือกเย็น “ไม่คิดเลยว่าแกยังจะพูดจาหยาบคายเช่นนี้ได้อีก ทั้งที่อยู่ในสภาพที่น่าเวทนาขนาดนี้… ฉันตัดสินใจแล้ว! ฉันจะหักฟันของแกออกให้หมดในชั่วพริบตา! มาดูกันว่าแกยังจะหยิ่งผยองได้อีกไหม!” ขณะที่สาวกคนนั้นกำลังจะเคลื่อนไหว เขาก็ชะงักอยู่กับที่เมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจนว่า “หยุดอยู่ตรงนั้น!” “คุณหญิงกันเทอร์!” สาวกหลายคนที่อยู่ตรงจัตุรัสประกาศด้วยความเคารพอย่างสูง "หลีกไป!" อีเร็ตสั่ง เธอกำลังเดินเข้าไปหาปีเตอร์โดยมีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังเธอไปด้วย อีเร็ตกอดอกมองปีเตอร์ด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “แกรู้ไหม ฉันเคยได้ยินมาว่ามีชายผู้ลึกลับและน่าทึ่งผู้หนึ่งปรากฏตัวเมื่อไม่กี่ปีก่อน… เขาว่ากันว่าชายผู้นี้มีทักษะการยิงธนูที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นนักแม่นปืนลำดับแนวหน้าอีกด้วย… ในขณะที่ฉันคิดว่าบุคคลผู้นั้นมาจากตระกูลลึกลับใหม่ ฉันกลับไม่คาดคิดเลยว
"…ความลับเหรอ?" ปีเตอร์ถาม "ใช่แล้ว ในตอนแรกฉันเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน… ก่อนที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฉันจะบอกให้เธอรู้ว่า นานมาแล้วที่ฉันรู้เรื่องสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของครอบครัวเธอ นั่นคือภาพวาดของดวงอาทิตย์ ไม่เพียงแต่มันสามารถทำนายสิ่งต่าง ๆ ได้เท่านั้น แต่มันยังเต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษในการฝึกฝนวิชาอีกด้วย! มันถือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดท่ามกลางสมบัติทั้งมวลอย่างแท้จริง! ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงสันนิษฐานว่าเขาคงได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน” “ท้ายที่สุด หลังจากที่เราทำร้ายเขา เราก็ต้องประหลาดใจที่ได้รู้ว่าเขาสามารถหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด! แม้ว่าฉันจะพยายามติดต่อผู้มีฝีมือหลายคน และครอบครัวของพวกเขาเพื่อออกตามล่าตัวเขา แต่เราก็ไม่พบเขาอีกเลย ประมาณยี่สิบปีต่อมา จู่ๆ ครอบครัวคลอฟอร์ดก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และเมื่อพวกเขาปรากฏขึ้นคราวนี้ พวกเขาก็กลายเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติกว่าครึ่งบนโลกใบนี้อย่างน่าตกใจ! คลอฟอร์ดได้ควบคุมเศรษฐกิจของโลกใบนี้ไปแล้ว!” “ถึงกระนั้น พวกเราหลายคนก็ยังสงสัยว่าพวกคลอฟอร์ดที่ปรากฏตัวอีกครั้งนั้นอาจจะถูกก่อตั้งโดยแดริล อย่างไรก็ตาม แดริลยังคงหายตัวไป และหลัง
หลังจากที่ตระหนักได้ว่าศพของพ่อเขาไม่ได้อยู่ท่ามกลางศพของคนอื่น ๆ ในที่สุด ปีเตอร์ก็เริ่มเข้าใจอะไรได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่เขายังคงสงสัย ทำไมพ่อของเขาถึงใจร้ายนัก อะไรกระตุ้นให้เขาทำเช่นนั้น? "ว่ายังไงล่ะ? ฉันชักจะสงสัยว่าตอนนี้แกรู้สึกอย่างไร ที่ในที่สุดแกก็รู้ว่าพ่อของแกเป็นคนแบบไหน! ดูจากการแสดงออกของแกแล้ว ฉันเดาว่าแกคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมานานแล้ว ถูกต้องไหมล่ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า!” อีเร็ตกล่าวพร้อมกับหัวเราะ “…ฉันยอมรับว่าฉันรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ถึงกระนั้น ก็ยังมีอย่างอื่นที่ฉันยังไม่เข้าใจ พวกกันเทอร์เองก็วางแผนการไว้มากมายเช่นกัน พวกแกทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? นอกจากนี้ อย่าลืมสิว่าผู้บริสุทธิ์หลายคนต้องจบชีวิตลงจากแผนการใหญ่ที่พวกแกคิดขึ้นมา! ทำไมแกถึงเล่นกับความเป็นความตายของคนและบงการชีวิตของพวกเขาแบบนั้นล่ะ?” ปีเตอร์โต้กลับด้วยความขุ่นเคือง ท้ายที่สุด เขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของแผนการใหญ่เหล่านั้นเช่นกัน “นอกจากนี้ เรื่องที่แกบอกว่าแกไม่รู้ความลับเกี่ยวกับตัวเจอรัลด์มากนัก… ฉันสงสัยว่าสิ่งที่แกพูดคือเรื่องจริงหรือไม่… เพราะฉันเคยได้ยินจากคุณ
“…แล้วครอบครัวคลอฟอร์ดอีกครอบครัวหนึ่งอยู่ที่ไหน…? นอกจากนี้ ที่แกพูดบางอย่างเกี่ยวกับกองกำลังอื่น ๆ ก่อนหน้านี้… แกหมายถึงกองกำลังของใคร?” ปีเตอร์ถาม ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ เหตุการณ์ดูจะซับซ้อนกว่าที่คิด… “ไม่มีใครรู้ว่าคลอฟอร์ดอีกครอบครัวหนึ่งอยู่ที่ไหน ฉันรู้แค่ว่าครอบครัวของฉันคงจะถูกกำจัดไปนานแล้ว หากราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเรา อย่างไรก็ตาม ฉันรู้แค่ว่าคลอฟอร์ดอีกครอบครัวหนึ่งนั้นแข็งแกร่งมาก… แข็งแกร่งเกินกว่าที่แกจะจินตนาการได้…! และสำหรับกองกำลัง… ไหนลองบอกฉันทีสิ แกคิดว่าใครคือคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก” อีเร็ตตอบ ขณะที่เธอหันไปมองปีเตอร์ "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ฉันแน่ใจว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้สงวนไว้สำหรับตระกูลลึกลับเช่นแกแน่นอน! ฉันโชคดีพอที่จะได้พบกับผู้ทรงอิทธิพลหลายคนบนโลกนี้ และฉันแน่ใจว่าพวกคนเหล่านั้นมีพลังแข็งแกร่งไม่แพ้พวกแก! ฉันคิดว่าหลายคนที่ฉันเจอนั้นแข็งแกร่งกว่าคนที่มาจากตระกูลลึกลับอย่างแกหลายเท่านัก ให้ตายสิ พวกเขามีพลังมากกว่าตระกูลนักรบที่มีกรุ๊ปเลือดพิเศษเสียอีก! ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ถึงแม้
“…เจอรัลด์…!” อีเร็ตคำราม ดวงตาของเธอแดงก่ำขณะที่เธอจ้องมองเขาด้วยความตกใจ ‘มัน… มันจะเป็นไปได้อย่างไร…?! ไม่คิดเลยว่าฉันจะรับมือเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!' อีเร็ตคิดกับตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ “ฉันได้ยินมาว่าแกกำลังรอให้ฉันปรากฏตัวอยู่เหรอ อีเร็ต?! ฉันอยู่นี่แล้วไง!” เจอรัลด์ตอบ “แกแข็งแกร่งขึ้นแล้วใช่ไหม เจอรัลด์… ดีจัง…! นั่นเป็นข้อพิสูจน์ที่จะแสดงให้เห็นว่าพลังในร่างกายของแกมันน่ากลัวแค่ไหน…!” อีเน็ตพูดเสริม ขณะที่เธอหัวเราะเสียงดังลั่น แม้จะยังเดือดดาลด้วยความโกรธก็ตาม “ระวังลูกปัดในมือเธอ เจอรัลด์! มันคืออาวุธ!” ปีเตอร์ตะโกน ขณะที่อีเร็ตเริ่มเปิดใช้งานลูกปัด! ด้วยความเร็วและความแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ อีเร็ตโยนลูกปัดไปบริเวณเหนือหัวเจอรัลด์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนว่า “เร็วเข้า มาให้ฆ่าเสียดี ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อสู้กันให้เหนื่อยเปล่า!” ในขณะเดียวกัน ลูกปัดเหล่านั้นเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็วอยู่เหนือหัวเจอรัลด์ และภาพต่อมาที่เกิดขึ้นก็ทำให้ใบหน้าที่กำลังตื่นเต้นของอีเร็ต กลายเป็นใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยวและน่าหวาดกลัวทันที! อย่างไรก็ตาม ความตื่นเต้นของเธอลดลงทันทีในวินาทีที่เธ