เมื่อถึงจุดนั้น ขนของเจอรัลด์ก็ลุกตั้งชันทั้งตัว และเขารู้ดีว่าเขาไม่อาจจะหลบหลีกการโจมตีครั้งนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่เพื่อเตรียมรับแรงกระแทก!เสี้ยววินาทีต่อมา มือขนาดมหึมาก็กระแทกร่างของเจอรัลด์อย่างเต็มแรง ทำให้เกิดการระเบิดของพลังงานและควันสีขาวที่ก่อตัวขึ้น จนส่งผลให้ร่างของเจอรัลด์กระเด็นถอยหลังไปในทันที! แรงกระแทกเพียงอย่างเดียว ทำให้เสื้อผ้าของเจอรัลด์ขาดเป็นชิ้น ๆ โดยเฉพาะส่วนด้านหลัง และในไม่ช้า หลังของเขาก็ชนเข้ากับกำแพงหินในบริเวณนั้น!เจอรัลด์กระอักเลือดออกมาทันที คงไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปแล้วว่าคนป่าเถื่อนฆ่าอาจารย์ที่บรรลุอาณาจักรโลกแห่งวิญญาณและคนอื่น ๆ ได้อย่างไร จากสิ่งที่เห็นตอนนี้ เจอรัลด์สามารถบอกได้ว่า การฆ่าพวกเขาคงจะง่ายพอ ๆ กับทุบกระเทียมด้วยพละกำลังอันมหาศาลของคนป่าเถื่อน! เขาแข็งแกร่งกว่าโฮแกนมาก!หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้ เจอรัลด์เพิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยการเรียนรู้และใช้ทักษะวิชาท้องฟ้าพิโรธแล้วล่ะก็ เขาก็มีโอกาสที่จะตายได้จากการโจมตีในครั้งนี้แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เขามาจะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เจอรัลด์ใช้พล
ไม่ว่าในกรณีใด เนื่องจากชายผู้นี้สามารถพูดได้ นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ใช่คนป่าเถื่อนอย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าเจตนาที่อยากจะฆ่าก่อนหน้านี้เปลี่ยนไปเป็นความเคารพอย่างสูง เจอรัลด์จึงถามว่า “…นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? หรือนายคุ้นเคยกับจี้นี้ดี?”“ผมเคยเห็นรูปของคุณมาก่อน ท่านอาจารย์เทพ และผมรู้มาว่าหยกเลือดมังกรเป็นอาวุธวิเศษประจำกายของคุณ! ตลอดชีวิตของผม ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้รับเกียรติให้มาพบกับตัวจริงของคุณแบบนี้ ท่านอาจารย์เทพ! ด้วยเหตุนี้ ผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ผมสำหรับความประมาทเลินเล่อของผมก่อนหน้านี้!” ลีโอตอบ ในขณะที่เขายังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นตอนนี้จิตใจของเจอรัลด์เต็มไปด้วยคำถามที่เขาอยากจะถามลีโอ ท้ายที่สุด มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะพบคนที่มาจากสถานที่เดียวกันกับควีนน่า และผู้หญิงในชุดขาว ลีโอจะต้องเป็นขุมทรัพย์แห่งข้อมูลอย่างแน่นอนขณะที่เขากำลังจะเริ่มยิงคำถาม ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเข้ามาใกล้ห้องมืดนั้น เขาเดาว่า มันน่าจะเป็นอาจารย์ที่เหลือทั้งห้าคน ที่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาเพื่อตรวจสอบว่า ทำไมน้องหกและน้องเจ็ดของพวกเขาจึงใช้เวลานานเหลือเกินลิโอก็ได้ยินพวกเขาเช่นกั
ถึงเขาจะยังไม่ตาย เนื่องจากลีโอไม่ได้จู่โจมที่อวัยวะสำคัญใด ๆ ของเขา แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะสามารถสู้ต่อได้อย่างแน่นอนลีโอปล่อยเสียงคำรามกึกก้องอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหู เนื่องจากตอนนี้ลีโออยู่ใกล้พวกเขามากขึ้นกว่าเดิมอย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีใครทันได้สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น ลีโอก็เริ่มเคลื่อนไหว และเมื่อผู้ชมลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็มายืนอยู่ต่อหน้าอาจารย์ยอดนักสู้ที่เหลืออีกสี่คนแล้วด้วยการโจมตีสี่ครั้งอย่างแม่นยำและรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด ลีโอจัดการอาจารย์ทั้งสี่จนราบคาบ วิธีที่เขาใช้ช่างดูเรียบง่าย และเกือบจะบอกเป็นนัยว่า เขาไม่ได้จัดการกับอะไรนอกจากแมลงธรรมดา ๆ เท่านั้นเมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้ชมที่ยังนั่งอยู่ก็ลุกขึ้นทันที และถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างไรก็ตาม เฟลอร์กำลังรู้สึกตกใจมากกว่าคนอื่น ๆ ในฝูงชน และสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อมาถึงจุดนี้ อาาจารย์ทั้งเจ็ดคนที่เธอพามาล้วนแต่เป็นคนที่มีสถานะสูงในคิงวัลเลย์ แต่พวกเขากลับถูกลีโอกำจัดอย่างง่ายดาย ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่แปลกใจเลยที่เซมัสมีความมั่นใจมาโดยตลอด!แม้แต่การแสดงออกของเยนนี่เองก็เปลี่ยนไปอย
อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ไม่ได้ติดตามลีโอไป เพราะเขาต้องรีบกลับไปที่คิงวัลเลย์ก่อนเป็นลำดับแรกสำหรับถ้ำที่เขาส่งลีโอไปนั้น เป็นถ้ำที่ค่อนข้างจะมิดชิด ก่อนหน้านี้เจอรัลด์เจอมันขณะที่เขากำลังมุ่งหน้ากลับไปที่หุบเขาเพียงลำพัง และเนื่องจากเขาไม่รู้ว่าพวกแฟร์ลีห์จะตามลีโอไปได้ไกลแค่ไหน เจอรัลด์จึงคิดว่าถ้ำนั้นจะเป็นที่ซ่อนที่ดีที่สุดของลีโอ ในการหลีกเลี่ยงการติดตามของคนเหล่านั้นแน่นอนว่า เจอรัลด์รู้ว่าลีโอไม่กลัวไฟฟ้าช็อตอีกต่อไปแล้ว และเจอรัลด์ก็ไม่ได้สนใจชีวิตของพวกแฟร์ลีห์มากนัก หากลีโอจะลงมือฆ่าพวกเขา และก่อให้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ แต่นั่นอาจจะทำให้เจอรัลด์กลายเป็นเป้านิ่งมากขึ้นพูดง่าย ๆ ก็คือ เจอรัลด์ไม่ต้องการดึงดูดความสนใจของทั้งพวกกันเทอร์ และพวกที่มาจากกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นการดีกว่า ที่ลีโอจะยังคงซ่อนตัวอยู่ในขณะนี้แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เขาต้องรีบกลับไปที่คิงวัลเลย์ เพื่อรับสมุนไพรสามชนิดกลับไปรักษาอาการของเซียร่า เมื่อเขามาถึงสนามหญ้าที่ดูคุ้นเคย เจอรัลด์เห็นชายวัยกลางคนซึ่งดูน่าจะอายุราว ๆ สี่สิบเศษพร้อมกับลูกน้องของเขาสองคนยืนอยู่ต่อหน้
"โอ้? แล้วมีปัญหาอะไรไหมล่ะ? นายคิดที่จะตบฉันอย่างนั้นเหรอ? ฮ่า ๆ! ฉันมีความสุขจริง ๆ ที่ได้เห็นนายโกรธเหมือนหมีที่เลี้ยงไม่เชื่องแบบนี้! มาเลย ตบฉันสิ! ทำให้ฉันสมใจหน่อย!" แซมพูดล้อเลียน ขณะที่เขาเริ่มตบหน้าไมลส์อย่างเย้ยหยันหลังจากที่เขาพูดจบ ดวงตาของแซมก็เบิกกว้าง เมื่อเขาพบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ ตอนนี้เขารู้สึกแสบร้อนที่แก้มขวาของเขา ในขณะที่เขากำลังจะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดจากการตบอย่างรุนแรงของเจอรัลด์ เขาก็หมดลมที่จะเปล่งเสียงออกมา ในวินาทีที่ร่างของเขาชนเข้ากับมุมกำแพง! ทันใดนั้น แซมก็เริ่มอาเจียนออกมาเป็นเลือด พร้อมกับฟันสองสามซี่ที่ผสมอยู่ในนั้นขณะที่บอดี้การ์ดสองคนของแซมยืนตัวแข็งอยู่กับที่ และมีอาการตกตะลึง แซมก็ค่อย ๆ คลานเข่าและเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองชายที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ ไมลส์ด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น“แก… แกกล้าดียังไงมาตบฉัน…?!” แซมคำราม ขณะที่เขาจ้องมองเจอรัลด์หยิบกระเป๋าของเขาขึ้นมาเจอรัลด์ปัดฝุ่นบนกระเป๋าแล้วตอบว่า “อะไรนะ? ก็แกเป็นคนขอให้ทำอย่างนั้นเองไม่ใช่เหรอ ตอนนี้แกพอใจหรือยังล่ะ พ่อคนปากพล่อย”“แก… แก…! แกมันรนหาที่ตายซะแล้ว! ฆ่ามัน!” แซมตะโกนใส่ลูกน้อ
ในตอนแรก ไมลส์คิดว่าเจอรัลด์เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่บังเอิญกลายมาเป็นศิษย์ของผู้มีพระคุณของเขา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำคลินิกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจอรัลด์จะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ผู้คนมักจะแยกแยะผู้เชี่ยวชาญตัวจริงกับตัวปลอมได้ก็ต่อเมื่อ 'ผู้เชี่ยวชาญ' คนนั้นแสดงฝีมือออกมา และจากสิ่งที่ไมลส์ได้เห็น เจอรัลด์คือตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ อันที่จริง เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์บางคนในคิงวัลเลย์เลยด้วยซ้ำ! ข้อเท็จจริงนั้นเพียงอย่างเดียว ทำให้ไมลส์ถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะอย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็หลุดขำออกมา และเริ่มเอ่ยชมเชยจากใจจริงทันทีว่า “คุณคลอฟอร์ด! ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะมีทักษะที่ดีเยี่ยมขนาดนี้!”ไมลส์มีความสุขมาก จนเกือบจะลืมไปว่าเจอรัลด์เพิ่งทำร้ายพ่อบ้านแห่งคิงวัลเลย์อย่างหนัก!“คุณชมผมเกินไปแล้ว คุณไมลส์ ผมแค่รู้สึกอารมณ์เสียกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคุณ!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คุณไมลส์ ผู้นำแห่งหุบเขาทราบหรือไม่ว่าผมต้องการสมุนไพรสามชนิด ไม่ว่าเขาจะมีหรือไม่ก็ตาม ผมก็ยังอยากจะพบกับเขา!” เจอรัลด์พูดอย่างตรงไปตรงมาหลังจากที่ได
“สำหรับเธอ ฉันเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกแฟร์ลีห์ ไม่ว่าจะใครก็ตาม? เธอไม่รู้จักเซมัสหรอกเหรอ ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไร เมื่อเธอเล่นเกมส์เดิมพันกับเขา? มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการจะโกงเธอ! หากไม่ใช่เพราะคนป่าเถื่อนหนีเตลิดไปอย่างนั้น เธอคงจะแพ้พนันเป็นแน่!” ชายวัยกลางคนตำหนิสำหรับคนที่รู้จักเขา เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นำแห่งคิงวัลเลย์ รูเพิร์ท เยทแมน และเขายังเป็นพ่อของลูกสาวสองคนที่ชื่อ เยนนี่ และเฟลอร์ เยทแมน อีกด้วยในฐานะที่เป็นลูกสาวคนเล็ก เยนนี่ค่อนข้างจะมีทัศนคติที่แปลกประหลาด และเธอก็มีบุคลิกที่ขี้วีนและดูไม่จริงใจ ในทางกลับกัน เฟลอร์ดูจะมีความเป็นผู้ใหญ่ และมีจิตใจที่มั่นคงกว่ามากรูเพิร์ทอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว การเดิมพันที่ลูกสาวของเขาทำลงไปนั้นได้ส่งผลให้อาจารย์ยอดนักสู้ทั้งเจ็ดคนของคิงวัลเลย์ต้องเสียชีวิต“พวกเธอทุกคนควรจะรู้อยู่แล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกแฟร์ลีห์กำลังจับจ้องเราด้วยความละโมบ! ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ตัดสินใจจะกระทำการสิ่งใด! พวกเธอไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับแฟร์ลีห์อย่างเด็
“ผู้นำแห่งหุบเขากำลังมา!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งของคิงวัลเลย์ตะโกนอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากตระกูลแฟร์ลีห์ ก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกบอดี้การ์ดกว่าหกสิบคนของคิงวัลเลย์กำลังคร่ำครวญ และร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ขณะที่พวกเขานอนกองอยู่บนพื้น อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่ารูเพิร์ทกำลังจะมา พวกเขาทั้งหมดก็ช่วยกันพยุงร่างให้ลุกขึ้นจากพื้นทันที ทุกคนยังอยู่ในอาการตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินโซซัดโซเซไปซ่อนด้านหลังรูเพิร์ทรูเพิร์ทเองก็ขมวดคิ้วและกำหมัดแน่น ขณะที่เขาตะโกนว่า “เฮอร์เชล! แบรดลีย์!”เฮอร์เชลเป็นผู้นำของแฟร์ลีห์วัลเลย์ และแบรดลีย์ก็เป็นน้องชายของเฮอร์เชลในขณะที่คิงวัลเลย์ในปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการปรุงยาเม็ด และแฟร์ลีห์ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้ แต่ครั้งหนึ่งในอดีต พวกที่มาจากแฟร์ลีห์วัลเลย์ก็เคยมีความเชี่ยวชาญในการปรุงยาด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ก่อตั้งแฟร์ลีห์วัลเลย์ก็คืออดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของคิงวัลเลย์ ที่เคยหลบหนีออกไปนั่นเอง!ด้วยเหตุนี้ จึงค่อนข้างชัดเจนว่า ทั้งสองตระกูลมีประวัติคว
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ