ในตอนแรก ไมลส์คิดว่าเจอรัลด์เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่บังเอิญกลายมาเป็นศิษย์ของผู้มีพระคุณของเขา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำคลินิกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจอรัลด์จะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ผู้คนมักจะแยกแยะผู้เชี่ยวชาญตัวจริงกับตัวปลอมได้ก็ต่อเมื่อ 'ผู้เชี่ยวชาญ' คนนั้นแสดงฝีมือออกมา และจากสิ่งที่ไมลส์ได้เห็น เจอรัลด์คือตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ อันที่จริง เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์บางคนในคิงวัลเลย์เลยด้วยซ้ำ! ข้อเท็จจริงนั้นเพียงอย่างเดียว ทำให้ไมลส์ถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะอย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็หลุดขำออกมา และเริ่มเอ่ยชมเชยจากใจจริงทันทีว่า “คุณคลอฟอร์ด! ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะมีทักษะที่ดีเยี่ยมขนาดนี้!”ไมลส์มีความสุขมาก จนเกือบจะลืมไปว่าเจอรัลด์เพิ่งทำร้ายพ่อบ้านแห่งคิงวัลเลย์อย่างหนัก!“คุณชมผมเกินไปแล้ว คุณไมลส์ ผมแค่รู้สึกอารมณ์เสียกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคุณ!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คุณไมลส์ ผู้นำแห่งหุบเขาทราบหรือไม่ว่าผมต้องการสมุนไพรสามชนิด ไม่ว่าเขาจะมีหรือไม่ก็ตาม ผมก็ยังอยากจะพบกับเขา!” เจอรัลด์พูดอย่างตรงไปตรงมาหลังจากที่ได
“สำหรับเธอ ฉันเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกแฟร์ลีห์ ไม่ว่าจะใครก็ตาม? เธอไม่รู้จักเซมัสหรอกเหรอ ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไร เมื่อเธอเล่นเกมส์เดิมพันกับเขา? มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการจะโกงเธอ! หากไม่ใช่เพราะคนป่าเถื่อนหนีเตลิดไปอย่างนั้น เธอคงจะแพ้พนันเป็นแน่!” ชายวัยกลางคนตำหนิสำหรับคนที่รู้จักเขา เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นำแห่งคิงวัลเลย์ รูเพิร์ท เยทแมน และเขายังเป็นพ่อของลูกสาวสองคนที่ชื่อ เยนนี่ และเฟลอร์ เยทแมน อีกด้วยในฐานะที่เป็นลูกสาวคนเล็ก เยนนี่ค่อนข้างจะมีทัศนคติที่แปลกประหลาด และเธอก็มีบุคลิกที่ขี้วีนและดูไม่จริงใจ ในทางกลับกัน เฟลอร์ดูจะมีความเป็นผู้ใหญ่ และมีจิตใจที่มั่นคงกว่ามากรูเพิร์ทอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว การเดิมพันที่ลูกสาวของเขาทำลงไปนั้นได้ส่งผลให้อาจารย์ยอดนักสู้ทั้งเจ็ดคนของคิงวัลเลย์ต้องเสียชีวิต“พวกเธอทุกคนควรจะรู้อยู่แล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกแฟร์ลีห์กำลังจับจ้องเราด้วยความละโมบ! ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ตัดสินใจจะกระทำการสิ่งใด! พวกเธอไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับแฟร์ลีห์อย่างเด็
“ผู้นำแห่งหุบเขากำลังมา!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งของคิงวัลเลย์ตะโกนอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น บอดี้การ์ดคนอื่น ๆ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากตระกูลแฟร์ลีห์ ก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกบอดี้การ์ดกว่าหกสิบคนของคิงวัลเลย์กำลังคร่ำครวญ และร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ขณะที่พวกเขานอนกองอยู่บนพื้น อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ว่ารูเพิร์ทกำลังจะมา พวกเขาทั้งหมดก็ช่วยกันพยุงร่างให้ลุกขึ้นจากพื้นทันที ทุกคนยังอยู่ในอาการตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินโซซัดโซเซไปซ่อนด้านหลังรูเพิร์ทรูเพิร์ทเองก็ขมวดคิ้วและกำหมัดแน่น ขณะที่เขาตะโกนว่า “เฮอร์เชล! แบรดลีย์!”เฮอร์เชลเป็นผู้นำของแฟร์ลีห์วัลเลย์ และแบรดลีย์ก็เป็นน้องชายของเฮอร์เชลในขณะที่คิงวัลเลย์ในปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการปรุงยาเม็ด และแฟร์ลีห์ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้ แต่ครั้งหนึ่งในอดีต พวกที่มาจากแฟร์ลีห์วัลเลย์ก็เคยมีความเชี่ยวชาญในการปรุงยาด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ก่อตั้งแฟร์ลีห์วัลเลย์ก็คืออดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของคิงวัลเลย์ ที่เคยหลบหนีออกไปนั่นเอง!ด้วยเหตุนี้ จึงค่อนข้างชัดเจนว่า ทั้งสองตระกูลมีประวัติคว
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด รูเพิร์ทดูเหมือนจะเป็นคนที่รู้สึกอับอายที่สุด เขาสูดหายใจเข้าลึก แล้วพยักหน้า ก่อนจะตะโกนว่า “อาจารย์ครอฟต์ อาจารย์โจนส์ และอาจารย์คีย์! ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลงมือ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อาจารย์ทั้งสามก็พยักหน้าพร้อมกัน ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ไปจัดการกับนายน้อยแห่งตระกูลแฟร์ลีห์เดี๋ยวนี้ ปีเตอร์” หนึ่งในอาจารย์ทั้งสามพูด กระตุ้นให้ชายหนุ่มซึ่งสวมชุดรัดรูปพยักหน้า ก่อนจะเดินไปหาเซมัสและเผชิญหน้ากับเขา หลังจากที่ปีเตอร์ทำท่าส่งสัญญาณเป็นการบ่งบอกว่าเขา 'กำลังไป' อาจารย์อีกคนหนึ่งก็พูดว่า "ปีเตอร์เป็นศิษย์ที่เก่าแก่ที่สุดภายใต้การดูแลของฉัน และเขาฝึกฝนกับฉันมากว่าสิบปี เขาอยู่ในขั้นสุดท้ายของอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิล่าแล้ว ดังนั้นการจัดการกับนายน้อยคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา” ขณะที่ปรมาจารย์ทั้งสามผลัดกันพยักหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ แบรดลีย์ยิ้มเยาะ ก่อนจะมองไปที่ปีเตอร์แล้วพูดว่า “ฮะ! พวกเขาส่งแกมาตายอย่างนั้นเหรอ? ไม่คิดเลยว่าเด็กธรรมดา ๆ อย่างแกจะกล้ามาต่อกรกลับหลานชายของฉัน! ไม่ต้องยั้งฝีมือนะเซมัส!” “แกต่างหากที่กำลังรนหาที่ตาย”
“คาดไม่ถึงว่าไก่อ่อนอย่างนายจะมีกำลังภายในอันมหาศาลเช่นนี้!” อาจารย์ท่านหนึ่งกล่าว พวกเขาทั้งสามคนดูเหมือนจะไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น และได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ขณะที่พวกเขาจ้องมองเซมัส ซึ่งมีร่างกายที่ดูร้อนระอุ ด้วยความร้อนที่สูงเกินไปจากการใช้พลังแม้ว่าตอนนี้เซมัสจะหอบเล็กน้อย แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาอดทนได้ดีในการต่อสู้ เมื่อรู้เช่นนั้น เขาก็พูดอย่างอวดดีว่า “ผมหวังว่าตอนนี้พวกคุณคงเข้าใจสิ่งที่พ่อและอาของผมพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะ! แค่ยอมจำนนเพื่อรักษาชีวิตของพวกคุณเอาไว้! นี่เป็นคำเตือน ถ้าหากพวกคุณยังฝืนสู้ต่อ ผมจะไม่ยั้งมืออีกต่อไป! จงเข้าใจว่าการมาเยือนของเราในวันนี้ มุ่งเป้าไปที่รูเพิร์ทเท่านั้น! ถ้ายังไม่อยากตายก็หลีกไป!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อาจารย์ทั้งสามก็ได้แต่ถอนหายใจ พวกเขาแทบจะไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้หลงเหลืออยู่ในตัวอีกต่อไปแล้ว พวกเขารู้ดีว่า หากพวกเขาไม่สามารถโค่นเซมัสลงได้ แม้ว่าทั้งสามคนจะร่วมมือกันแล้วก็ตาม พวกเขาก็ลืมไปได้เลยว่าจะสามารถต่อกรกับแบรดลีย์ได้ เมื่อเห็นเช่นนั้น รูเพิร์ทและคนอื่น ๆ จากคิงวัลเลย์ก็รู้สึกราวกับว่า พวกเขากำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้
“ฉัน…ฉันจะสู้กับทุกคนเอง!” เฟลอร์ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เธอเผยให้เห็นมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในตัว จากนั้นก็พุ่งเข้าหาแบรดลีย์ เพื่อหมายจะแทงที่หน้าอกของเขา! เนื่องจากเธอชอบศิลปะการต่อสู้มาโดยตลอด และได้ฝึกฝนทักษะมาหลายรูปแบบตั้งแต่เธอยังเด็ก เฟลอร์จึงค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อยเธอก็สามารถโจมตีได้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้เธอตกใจสุดขีด ด้วยการเตะจากเซมัสเพียงครั้งเดียว เขาสามารถปลดอาวุธจากมือของเธอได้อย่างง่ายดาย เธอไม่สามารถเข้าใกล้แบรดลีย์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว! ขณะที่มีดสั้นตกลงพื้น เซมัสก็คว้าข้อมือของเฟลอร์ ก่อนจะดึงเธอเข้าไปในกอดในอ้อมแขนของเขา เมื่อเห็นอย่างนั้น เยนนี่ที่หวาดกลัวจึงรีบวิ่งไปข้างหน้า โดยหวังจะช่วยพี่สาวของเธอ ขณะที่เธอตะโกนว่า “ฉัน ฉันจะสู้กับเธอด้วย!” เธอกรีดร้อง ขณะเธอวิ่งเข้าไปหาเซมัส แต่นายน้อยอีกคนจากหุบเขาแฟร์ลีห์ก็ก้าวเข้ามา และคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะกอดเธอแน่นในอ้อมแขนของเขา เช่นเดียวกับที่เซมัสทำกับเฟลอร์ เซมัสหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ แล้วพูดว่า “เธอไม่รู้หรอกว่าฉันรอเวลานี้มานานแค่ไหนแล้ว เฟลอร์! ฉันมีข้อเสนอให้เธอ! ถ้าเธอทำตามคำสั่งของฉันใ
“…นั่น นั่นมันอะไรน่ะ…?!” แบรดลี่ย์ตะโกนด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกสุดขีด เขาจ้องมองเจอรัลด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น แบรดลีย์เป็นคนที่มีพละกำลังมหาศาลอยู่แล้ว เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว คนธรรมดาอย่างเจอรัลด์ ซึ่งดูจะเด็กกว่าเซมัสเสียด้วยซ้ำ จะทำให้เขาหยุดการถูกโจมตีเมื่อสักครู่นี้ได้อย่างไร? หากเขาไม่เห็นการโจมตีอย่างกระทันหันของเจอรัลด์เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เขาคงไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มจะมีความสามารถมากมายถึงเพียงนี้! แต่นี่มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ขณะที่แบรดลีย์กำลังตกใจและหวาดกลัว และพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เฮอร์เชลก็ได้แต่ขมวดคิ้ว เมื่อเขาหันไปมองน้องชายของเขา ในตอนนี้ ทางด้านของรูเพิร์ท เฟลอร์ และคนอื่น ๆ จากคิงวัลลีย์ ต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาเริ่มมีความหวังในที่สุด หลังจากที่ถูกคนเหล่านั้นผลักดันให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังก่อนหน้านี้ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเขาจะมีพละกำลังที่ร้ายกาจเช่นนี้… เมื่อคิดย้อนกลับไปตอนที่ทุกคนยังไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีฝีมือในการต่อสู้ ก็นับว่ายังโชคดีที่พวกเขาไม่ได้ทำให้เจอรัลด์รู้สึกขุ่นเคืองใจมากจนเกินไป… ทันใดนั้
รูเพิร์ทขมวดคิ้ว ขณะที่เขาพูดแบบนั้นออกไป โดยธรรมชาติแล้ว เขาคงไม่มีทางเต็มใจที่จะแบ่งทรัพย์สินของเขาให้ใครง่าย ๆ อย่างแน่นอน แต่หากเขายังต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป อย่างน้อยเขาก็ต้องพยายามเจรจาต่อรอง เจอรัลด์จับจ้องไปที่รูเพิร์ท และตอบเพียงสั้นๆ ว่า “หนึ่งในสาม!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าผู้อาวุโสก็หันไปมองหน้ากันด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ตอนนี้รูเพิร์ทก็เหมือนคนที่มีมีดจ่ออยู่ที่คอ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่เขาควรจะพยายามต่อรองกับเจอรัลด์อีกต่อไป จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้อาวุโสทุกคนเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่รูเพิร์ทอาจจะต้องสูญเสียหุบเขาทั้งหมดให้กับเจอรัลด์ เมื่อทุกอย่างจบลง รูเพิร์ทหายใจเข้าลึก เขายังไม่เต็มใจที่จะตอบตกลงเช่นนั้น เขากล่าวว่า “ได้โปรดอย่าเอาเปรียบเราทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเรากำลังตกที่นั่งลำบากเลยพ่อหนุ่ม! เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ฉันจะมอบหนึ่งในห้าของหุบเขาให้ตามที่นายเคยขอมาก่อนหน้านี้! ตกลงไหม?” “ครึ่งหนึ่งของคิงวัลเลย์! ไม่น้อยไปกว่านี้ ถ้าคุณยังต้องการให้ผมช่วยคุณจริง!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม รูเพิร์ทเข่าทรุดลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เขาตกอยู่ใ