ในขณะเดียวกัน เฟอร์นันโดก็บังเอิญหันไปเห็นชายทั้งสอง หลังจากที่เขามองไปยังทิศทางที่บอดี้การ์ดชี้ไปพอดีมีบอดี้การ์ดหลายสิบคนล้อมรอบชายทั้งสองคนอยู่ในขณะนี้“ไอ้พวกสารเลว! พวกแกเสร็จฉันแน่คราวนี้! เฟอร์นันโด ฉันอยากให้คุณควักลูกตาและหักแขนขาทั้งหมดของพวกมันด้วย!” มาทิลดาพูดด้วยความโกรธ ขณะที่เธอกำหมัดแน่นเฟอร์นันโดพยักหน้ารับคำในฝั่งของเจอรัลด์ เชสเตอร์ และเอเดน พวกเขาต่างกำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นภายในสังเวียนเห็นได้ชัดว่า นักสู้สองคนนี้ได้ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นเวลานาน ทักษะและความสามารถของพวกเขาจึงมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ดังนั้นการต่อสู้ของพวกเขาจึงดุเดือด และประทับใจคนดูเป็นอย่างมาก"คุณคลอฟอร์ด ผมคิดว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติครับ ดูเหมือนบอดี้การ์ดพวกนั้นกำลังตามหาเราอยู่ และยิ่งไปกว่านั้น ผมยังเห็นหญิงสาวที่เราพบเมื่อตอนบ่ายวันนี้อีกด้วย!”เชสเตอร์พูด ในขณะที่เขากำลังดื่มน้ำผลไม้ และจับตามองการต่อสู้ที่ดำเนินขึ้นในสังเวียน“อืม ฉันก็สังเกตเห็นมานานแล้ว ฉันเห็นว่ามีคนจับตามองเราทันทีที่เราก้าวเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าลูกสาวของตระกูลไซม์จะไร้เ
ทันทีที่เขาพูดประโยคเหล่านั้นออกมา ทุกคนก็เริ่มตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยความกลัวทักษะและพื้นฐานการต่อสู้ของเฟอร์นันโดมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และเป็นที่รู้จักทั่วทั้งสมาคมศิลปะการต่อสู้ นับตั้งแต่เฟอร์นันโดยังเป็นวัยรุ่น แม้แต่ปรมาจารย์ระดับแนวหน้าที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไปเฟอร์นันโดมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก และเขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก!ในเวลานี้ ทุกคนมองเห็นชายหนุ่มผู้มีพลังที่น่าเกรงขามกำลังเดินขึ้นไปบนแท่นสูงของสังเวียนอย่างช้า ๆ ขณะที่เขาเหล่ตามองลงมาเล็กน้อยหลังจากนั้น เขาก็ชี้ไปที่เจอรัลด์ก่อนที่จะพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันได้ยินมาทิลดาพูดว่าแกเก่งเรื่องการต่อสู้เป็นพิเศษ ถ้าอย่างนั้น ทำไมแกไม่มารับคำท้าของฉันล่ะ ให้ฉันเห็นว่าแกแข็งแกร่งและทรงพลังแค่ไหน!” เฟอร์นันโดเพียงแค่ส่ายหัว และยิ้มอย่างมีเลศนัย ในขณะที่เขากวาดตามองผ่านสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของผู้ชมที่กำลังจับตามองพวกเขาสำหรับเอเดน เขาไม่คาดคิดเลยว่า มาทิลดาจะสามารถหว่านล้อมให้เฟอร์นันโดขึ้นต่อสู้แทนเธอได้ตอนนี้เขามีเหงื่อไหลเต็มทั่วทั้งหน้าผากของเขา“ขอโทษทีนะ แต่ฉันไม่สนใจ!” เจ
"คุณคลอว์ฟอร์ดจากเมืองเมย์เบอร์รี่?” มาทิลดาก็ผงะเช่นกัน"เป็นไปไม่ได้! ฮึ่ม! แกแกล้งบอกพวกเราว่าเป็นคุณคลอฟอร์ดจากเมืองเมย์เบอร์รี่ เพราะแกรู้ตัวว่าแกกำลังจะตายที่นี่ใช่ไหมล่ะ?” มาทิลด้ารีบพูด หลังจากที่เธอรวบรวมสติได้สำหรับสาว ๆ ที่มากับเอเดน สายตาที่พวกเธอมองเจอรัลด์ก็เปลี่ยนไปในทันที“ฉันเดาว่า เขาคงจะแสร้งสวมบทบาทเป็นคุณคลอฟอร์ดจากเมืองเมย์เบอร์รี่ในตอนนี้ เพราะเขาทำให้คุณหนูไซม์ขุ่นเคืองใจ นั่นคงเป็นวิธีเดียวที่เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ในวันนี้ มิฉะนั้น เขาก็จะลงเอยด้วยการเป็นคนพิการ!”ทุกคนในที่นี้กำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่เจอรัลด์กำลังจะเดินหนีไป ยูโน่ก็รีบเดินแซงเขา และขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นสูงของสังเวียน เขาจ้องมองลงมาที่เจอรัลด์ด้วยสายตาที่เย็นชา“ไอ้สารเลว! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปอีกเพียงก้าวเดียว ฉันจะทำให้เลือดของแกสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่!” ยูโน่ตะโกนอย่างเย็นชา“ยูโน่เองก็เป็นถึงอาจารย์จากสมาคมศิลปะการต่อสู้ และดูเหมือนว่า เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชายคนนี้ ที่แอบอ้างเป็นคุณคลอฟอร์ดจากเมืองเมย์เบอร์รี่ หนีออกไปจากที่นี่ได้ง่าย ๆ”“มันคงเป็นเพราะว
ท้ายที่สุด มันเป็นสิ่งสำคัญที่คนเราจะต้องรู้จักประมาณตนเอง ในเมื่อเจอรัลด์ยังคงทำเป็นปากเก่งใส่เขาในสถานการณ์เช่นนี้ มันกลับยิ่งทำให้คนอื่นดูถูกเขามากขึ้นเท่านั้น“สู้กันเลย! สอนบทเรียนให้เขาเลย!” ใครบางคนจากกลุ่มผู้ชมตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ“หนุ่มน้อย แกกำลังรนหาที่ตายเสียแล้ว!” ยูโน่ตะโกนด้วยความโกรธก่อนจะพุ่งตรงไปที่เจอรัลด์ทักษะของยูโน่นั้นเฉียบคมมาก เมื่อเทียบกับคนธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการเตะลอย หรือเตะด้านข้าง การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขานั้นอาจจะดูเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง หากเขาเตะโดนศีรษะของคู่ต่อสู้โดยตรง คน ๆ นั้นก็อาจจะหมดสติไปได้อย่างง่ายดายฝูงชนรีบพากันซ่อนตัว และหลบหลีกให้ห่างไกลจากพวกเขา เพราะเกรงว่าพวกเขาอาจจะโดนลูกหลงจากการเตะของยูโน่เช่นกันอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์เพียงแค่เอามือล้วงกระเป๋าของเขาอย่างใจเย็น และทำการหลบหลีกลูกเตะบิน และลูกเตะข้างของยูโน่ได้หลายครั้งติดต่อกันเมื่อเจอรัลด์เห็นว่ายูโน่กำลังจะโจมตีเขาอีกครั้ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเล็กน้อย ก่อนที่จะยกเท้าขึ้นอย่างเต็มแรง ราวกับว่าเขากำลังยกขวานยักษ์ขึ้นอย่างไรอย่างนั้นยูโน่ยกมือขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่เ
"แก…! งั้นก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า! ฉันจะออมมือให้แกในการโจมตีสิบครั้งแรก!” เฟอร์นันโดประกาศ ขณะที่เขามองไปที่เจอรัลด์ก่อนจะส่ายหัว รอยยิ้มอันบิดเบี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขาต่อจากนั้น เฟอร์นันโดก็วางแขนของเขาไว้ด้านหลัง และหลับตาลงก่อนที่จะหันไปเผชิญหน้ากับเจอรัลด์พฤติกรรมของเขาเกือบจะบ่งบอกว่า เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ดูเหมือนจะไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาเลย“…เฟอร์นันโดไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีหรอกเหรอ…? ท่าทีเยาะเย้ยที่ไร้ซึ่งคำพูดของเขาช่างไร้ความปราณี! เฟอร์นันโดก็คือ เฟอร์นันโดสินะ!”“เขาทำอย่างนั้นเพราะมีเหตุผล! คุณรู้หรือไม่ว่า ตระกูลดอว์สันนั้นเชี่ยวชาญทักษะศิลปะการต่อสู้ลับที่เรียกว่า วิชาหัตถ์พิฆาต”“วิชาหัตถ์อะไรนะ? มันเป็นอย่างไรเหรอ?"“จากที่ฉันเคยได้ยินมา ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้จะอนุญาตให้คู่ต่อสู้โจมตีพวกเขาได้ตามที่ใจต้องการ อย่างไรก็ตาม ยิ่งการโจมตีของคู่ต่อสู้นั้นมีความรุนแรงมากเท่าไหร่ มือของพวกเขาก็จะยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น!”“โอ้ พระเจ้า! ไม่คิดเลยว่า ทักษะลึกลับเช่นนี้จะมีอยู่จริงในโลก!”ขณะที่ทุกคนในฝูงชนกำลังยุ่งอยู่กับการพูด
เมื่อก้าวเท้าออกจากห้องโถงใหญ่ ผู้หญิงสองสามคนก็เข้ามาล้อมรอบเจอรัลด์อย่างตื่นเต้นทันที พวกเธอเห็นว่าเขาเป็นคนที่ดูแข็งแกร่ง และน่าดึงดูดมากในขณะนี้ พวกเธอบางคนยังกระตือรือร้นที่จะสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเขา เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักเขาให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย“คุณแข็งแกร่งมากเลย เจอรัลด์!”"จริงด้วย! เจอรัลด์ คุณคือคุณคลอฟอร์ดในตำนานจากเมืองเมย์เบอร์รี่จริง ๆ เหรอ…? เอเดนไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังเลย!”“แล้วถ้าผมเป็นจริง ๆ ล่ะ? มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” เจอรัลด์ถามอย่างเป็นกันเองเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกผู้หญิงก็เม้มปากด้วยความผิดหวังทันที เห็นได้ชัดว่าเจอรัลด์ไม่ได้สนใจพวกเธอเลยแม้แต่น้อยเฟอร์นันโดเองก็กลายเป็นคนพิการครึ่งตัวไปแล้ว เนื่องจากการเตะเพียงครั้งเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทันทีที่เขาตื่นขึ้น เขาพบว่าเขาไม่สามารถใช้แรงแขนของเขาได้อีกต่อไปแล้วเนื่องจากตระกูลดอว์สันและตระกูลไซมส์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่สมาชิกตระกูลไซมส์ ท้ายที่สุด เฟอร์นันโดไม่เพียงแต่เป็นดาวรุ่งในสมาคมศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังเป
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็หันไปมองที่โต๊ะตัวนั้นทันที เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เชสเตอร์พูดเป็นความจริง เขาจึงเดินไปหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมา ในนั้นมีข้อความหนึ่งแถวที่ระบุว่า 'ไปพบกันที่สะพานสกาย ในเมืองเคอร์ตันเวลาเที่ยงคืนของวันนี้!'นอกเหนือจากข้อความที่ตรงประเด็นแล้ว ไม่มีการระบุรายละเอียดอื่น ๆ ในกระดาษแผ่นนั้นอีก ไม่มีแม้แต่ลายเซ็นระบุว่าใครเป็นผู้ส่งมันมา“…ผู้ส่งอาจจะเป็นมาทิลด้าหรือไม่…? เนื่องจากเธอหาเราไม่เจอในตอนแรก... แต่ถึงแม้เธอจะเชิญให้เราไปพบได้สำเร็จจริง ๆ แต่ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนทำเรื่องที่เสียเวลาแบบนี้” เชสเตอร์พยายามวิเคราะห์เจอรัลด์ส่ายหัวแล้วตอบว่า “ฉันพอจะดูออกว่าเธอเป็นคนอย่างไร เธอน่าจะมองไปรอบ ๆ และค้นหาจนทั่วอย่างบ้าคลั่งจนกว่าเธอจะหาเราพบ การทิ้งโน้ตไว้ข้างหลังแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินไปสำหรับคนอย่างเธอ!”ถึงกระนั้น มันก็เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมากสำหรับพวกเขา ...‘ฉันไม่รู้จักใครจากเมืองโบราณด้วยซ้ำ… แล้วใครกันที่ต้องการจะเชิญให้ฉันไปพบ…?’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง ไม่ว่าจะอย่างไร เจอรัลด์ก็ตัดสินใจแล้วว่า เขาจะต้องไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเองให้ได้“ฉัน
อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์เพียงแค่เอื้อมมือไปจับโซ่เส้นนั้น และดึงร่างของชายคนนั้นเข้ามาหาตัว! แรงดึงอย่างกะทันหันถึงกับทำให้ชายคนนั้นตกลงไปบนสะพาน เขาพยายามดิ้นรนตลอดเวลา ขณะที่เจอรัลด์ดึงเขาเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ! เมื่อเขาเข้าใกล้พอแล้ว เจอรัลด์ก็ตั้งท่า ก่อนที่จะเตะเขาเข้าที่หน้าอย่างแรง! ร่างของชายคนนั้นกระเด็นลอยออกไปข้างหลัง และการเตะไม่เพียงทำให้หัวของเขาระเบิดกระจายเหมือนแตงโมเท่านั้น แต่ร่างที่ไร้หัวนั้นไถลไปชนกับราวกั้นของสะพานอย่างน้อยสิบต้นอีกด้วย!ต่อจากนั้น เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นอบ่างต่อเนื่อง เมื่อเจอรัลด์จัดการกับคนที่เหลือทั้งหมดเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าตอนนี้เจอรัลด์จะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่การฝึกฝนอย่างหนักก่อนหน้านั้น ก็ทำให้ร่างกายและทักษะของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ก่อนที่เขาจะเข้ารับศีลจุ่มจากสวรรค์สิ่งที่เจอรัลด์พบว่าแปลกก็คือ ความจริงที่ว่าคนเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับเทียร่า ในลักษณะที่กำลังภายในของพวกเขาได้ถูกปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและมากมาย เจอรัลด์ใช้คำว่าคล้ายกันเนื่องจากเขาเห็นข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างชายเหล่านี้กับเทียร่า และเบลเซบ็
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ