“…ไม่ นี่มันบังเอิญมากเกินไปแล้ว! ฉันไม่มั่นใจว่าอลิซจะใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบไหนตอนนี้ แต่ทั้งหมดที่ฉันจำได้ก็คือฉันให้เงินเธอไปสองสามแสนดอลลาร์เพื่อให้เธอใช้ชีวิตตามที่เธอปรารถนา!” เจอรัลด์พึมพำกับตัวเอง ขณะที่เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุการณ์พลิกผันอย่างฉับพลันนี้ค่อนข้างแปลกสำหรับเขาจริง ๆ ท้ายที่สุดแล้ว นับตั้งแต่เขาพัวพันกับการโต้แย้งของโมลเดล เขาก็มุ่งความสนใจส่วนใหญ่ในชีวิตของเขาไปที่การฝึกฝน โดยแทบจะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับชีวิตในเมืองเลย เมื่อคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเขากลับมาใช้ชีวิตเดิมของเขาได้ในท้ายที่สุด…แม้มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาอยู่แล้วที่จะยอมรับความจริงว่าตอนนี้เขามีลูกสาว แต่มันยิ่งยากกว่าขึ้นอีกที่จะเชื่อว่าคนเป็นแม่คืออลิซ! เมื่อรู้ว่าทั้งกีย่าและไวร่าจะทราบเรื่องนี้ในไม่ช้าเช่นกัน เจอรัลด์จึงพบว่าตัวเองถูกต้อนจนมุมให้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น ‘…เฮอะ! ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้! ฉันจะแค่รอผลตรวจดีเอ็นเอแล้วกัน!’ ด้วยเหตุนั้น เจอรัลด์จึงเข้าไปในคฤหาสน์และรออยู่นอกประตู ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบด้วยกันกับปู่และพ่อของเขา อลิซเ
“ยังไม่เต็มใจที่จะบอกความจริงใช่ไหม? แม้ฉันไม่รู้ว่าเธอปรับเปลี่ยนผลของเครื่องมือการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอยังไง แต่ฉันรู้ว่าข้อเท็จจริงว่าเธอไม่ได้เป็นคนที่ให้กำเนิดเด็กด้วยซ้ำ ฟังนะ เนื่องจากพวกเราเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นกัน ฉันก็เต็มใจจะปล่อยเธอไป ถ้าเธอบอกความจริงฉัน” เจอรัลด์กล่าวอย่างเย็นชา เมื่อได้ยินแบบนั้น อลิซจึงกลายเป็นมึนงงทันที ความหวาดกลัวสะท้อนในสายตาของเธอ ขณะที่เธอคิด ‘เจอรัลด์แข็งแกร่งขนาดนี้เมื่อไหร่กัน…?’ “ตอนนี้ที่ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธออาจทำเรื่องทั้งหมดนี้เพราะเธอมีแรงจูงใจบางอย่างหรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม เพราะเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องการทำนายความตายมาตลอดการเดินทางกลับบ้านของเขา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะระมัดระวังมาเป็นพิเศษ “ฉัน…ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงอะไรอยู่! ปล่อยฉันนะ!” อลิซปฏิเสธ “ยังคงไม่เต็มใจที่จะบอกความจริง ใช่ไหม? ได้ ถ้างั้น! ฉันจะปฏิบัติต่อเด็กคนนี้เหมือนลูกของฉันและเลี้ยงเธอเอง…แต่ฉันจะโยนเธอลงไปในมหาสมุทรเพื่อเป็นอาหารให้ปลาซะ!” เจอรัลด์ประกาศ ขณะที่เขายกเธอขึ้นในทันที ตอนนี้อลิซหวาดกลัวมาก ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์คนที่เธอเคยรู้จักนั้นทั้งขี้ขลา
“…ไวร่า? อ่า…” ทั้งแดริลและดีแลนค่อนข้างอึดอัดใจ แดริลเองตอนนี้ตระหนักได้ว่าวันนี้เขาทำตัวผิดปกติอย่างไร แม้มันไม่เหมือนว่าเขาสามารถช่วยได้ก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็โชคดีพอที่ได้พบกับเหลนของเขาก่อนการเข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นงานที่เขารู้ดีว่าเขาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้ เนื่องจากพระเจ้าตอบรับคำอธิษฐานของเขาสำหรับโอกาสที่ได้พบมาเบล ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการได้อย่างง่ายดายว่าแดริลตื่นเต้นแค่ไหน เมื่อเขารู้ว่าเด็กน้อยคนนั้นคือเหลนของเขา ตอนนี้ที่ไวร่าอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ดี เขาจึงรู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที อย่าลืมว่า ไวร่าคือสะใภ้ตามกฏหมายของตระกูลคลอฟอร์ด จากสิ่งที่เขาได้ยินมา ไวร่ายังเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในเรื่องงานต่าง ๆ ของตระกูลคลอฟอร์ดทั้งหมดอีกด้วยซ้ำ โดยไม่สนว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว “…โอ้! ฉันก็ไม่แน่ใจนักเหมือนกัน… ฉันคิดว่าเด็กคนนี้น่ารักมากจริง ๆ ดังนั้นฉันจึงพาเธอมาที่นี่น่ะ!” แดริลตอบกลับด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจมากขึ้น เมื่อได้ยินแบบนั้น ไวร่าก็เพียงพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่แดริลยื่นมาเบลให้ดีแลน เขาก็สังเกตเห็นว่าไวร่
“ฉ ฉันจะบอกนายตราบใดที่นายสัญญาว่าจะรับฉันไว้!” อลิซกล่าว ขณะที่เธอจับแขนของเจอรัลด์ไว้… “บอกฉันมาได้แล้ว!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาผลักมือเธอออกไป เมื่อเช็ดนำ้ตา จากนั้นอลิซก็เริ่มอธิบาย “…ทั้งหมด…เริ่มขึ้นในคืนที่พวกเราอยู่ที่โรงแรมชายทะเล…” หลังจากฟังคำอธิบายของเธอได้สักพัก เจอรัลด์ก็เริ่มเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น โดยพื้นฐานแล้วอลิซได้วางยาเขาในคืนนั้นด้วยความตั้งใจในการหลับนอนกับเขาเพื่อหวังว่าจะตั้งท้อง กระบวนการคิดของเธอ ในขณะนั้นก็คือหากเธอจัดการต้องท้องลูกของเขาได้ งั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลที่มั่งคั่งและมีเกียรติอย่างแน่นอน อนิจจา รอบเดือนของเธอมาก่อนเวลาดังนั้นแผนของเธอจึงพังทลายในทันที! ขณะนั้น อลิซโกรธตัวเองมากจนเธอถึงกับอยากตบหน้าตัวเองอย่างแรงจนหมดสติไปซะ! อย่างไรก็ตาม เธอทำให้ผ้าปูเปื้อนไปด้วยเลือดบางส่วน ภายใต้การแกล้งทำเป็นว่ามันคือผลของการที่เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ของเธอให้กับเขา ด้วยความคิดนั้นในใจ มันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอโกหกเจอรัลด์เกี่ยวกับเรื่องที่มาเบลเป็นลูกแท้ ๆ ของเขา โดยไม่คำนึงถึง อลิซรู้สึกเต็มไปด้วยความไม่พอใจและโกรธทันทีที่เจอรัลด์บอกเธอว
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาได้เห็นจิตรกรรมฝาผนังในสุสานโบราณเป็นครั้งแรก เจอรัลด์ก็ได้เรียนรู้ว่าเรื่องราวของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจเกิดจากขอทานชราคนหนึ่ง ที่ทำการแยกโลงศพออกจากเทพเจ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ถึงตอนนี้ ที่เขาได้ยินอลิซพูดถึงสุสานโบราณอีกครั้ง เจอรัลด์ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันกับหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาว อาจจะถูกเคลื่อนย้ายไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรหลังจากที่ถูกแยกออกหรือไม่ หรือตอนนี้มันอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทรกันแน่“…สุสานของราชาอยู่ที่ไหน?” เจอรัลด์ถามหลังจากที่ครุ่นคิดได้สักพักจากนั้นอลิซก็เล่าทุกอย่างที่เธอรู้ให้เขาฟังเจอรัลด์ฟังอลิซอย่างตั้งใจ ในที่สุดเขาก็มีความคิดว่า เขาควรจะเดินทางไปสำรวจที่นั่นด้วยตนเองจะดีเสียกว่าที่เขารู้ในตอนนี้คือ มันมีความเป็นไปได้ที่หลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทร ไวร่าเองก็เคยฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างแม่น้ำในป่าที่เต็มไปด้วยอสรพิษ เจอรัลด์ยังจำได้อีกว่า เธอบอกกับเขาว่าเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าที่เห็นในความฝันคือแม่น้ำหรือมหาสม
แต่ก็นั่นแหละ เธอก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเมย์เบอรี่จะออกเดทกับนักศึกษาด้วยกัน แต่สำหรับแยสมีน เธอข้ามขั้นไปไกลกว่านั้นมาก ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอเคยออกเดทกับประธานของบริษัทเมย์เบอรรี่ที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาของเขาด้วยเหตุนี้ ท่านประธานได้จัดให้วางดอกไม้ไฟไว้ในทุกซอกทุกมุมของมหาวิทยาลัยในคืนวันเกิดของแยสมีน ในค่ำคืนนั้น ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยก็สว่างไสวไปด้วยแสงของดอกไม้ไฟที่สวยงามจับตา ส่งผลให้เด็กสาวคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยหลายคนยกย่องในตัวเธอ และอีกหลายคนก็รู้สึกริษยาเธอในเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์เดียวที่เจอรัลด์นึกขึ้นมาได้ แต่อีกเรื่องที่เขาจำได้ขึ้นใจคือ ตอนที่แจสมีนสั่งให้เขาเก็บกวาดเศษซากที่เหลือของดอกไม้ไฟรอบ ๆ มหาวิทยาลลัยก่อนจะถึงรุ่งเช้า โดยให้ค่าจ้างเขาเป็นจำนวนเงินสิบห้าดอลลาร์และนั่นถือเป็นเงินจำนวนที่มากสำหรับเขาในตอนนั้น หลังจากที่เขาได้รับเงินแล้ว เขาก็รีบพาเซเวียร์ไปเลี้ยงไก่เคเอฟซีในทันที เขายังจำได้อีกว่า เขาได้เพิ่มเงินส่วนตัวเข้าไปอีกเจ็ดดอลลาร์เพื่อที่จะทำให้งานฉลองของพวกเขาดูยิ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเย็นมากแล้ว แต่เจอรัลด์ก็ยังมองเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังถูกชายถือปืนประมาณสิบคนที่ขับเรือสปีดโบ๊ททั้งห้าลำก่อนหน้านั้นไล่ล่าอยู่ ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด และชายคนนั้นก็กำลังมุ่งหน้ามาทางเจอรัลด์อีกด้วยเมื่อคนอื่นที่กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดเห็นพวกเขา พวกนั้นก็รีบเผ่นหนีในทันที ไม่มีใครคิดที่จะโทรแจ้งตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว ไม่นานนัก ชายหาดที่เงียบสงบก็ปราศจากซึ่งผู้คน เหลือเพียงเจอรัลด์คนเดียวเท่านั้นเจอรัลด์ขมวดคิ้วทันที่ที่เห็นนักเลงพวกนั้น ก่อนหน้านั้นเขาก็รู้สึกรำคาญใจมากพอแล้วที่แยสมีนเข้ามารบกวนเขา ขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดก็มาถึงชายฝั่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีที่ที่จะให้เขาหลบหนีอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตรงมาหาเจอรัลด์ คนเพียงคนเดียวที่เขามองเห็นในขณะนั้น! เขาโบกมือให้เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “โยนโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม! ได้โปรด โยนมันมาเร็วเข้า!”เนื่องด้วยเจอรัลด์กำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาจึงไม่อยากทำตามคำสั่งจากชายวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จัก เขาทำเป็นไม่สนใจชายคนนั้นที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเขาอีกไม่กี่วิ
เจอรัลด์ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แทนที่เขาจะถอยหนี เขากลับพุ่งเข้าหาคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เขารัวทั้งหมัดทั้งเตะใส่พวกเขาไม่ยั้ง เสียงกระดูกหักและแตกร้าวดังกึกก้องไปทั่วในความมืด และไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่าคนที่พุ่งจู่โจมเขาเมื่อสักครู่ก็ไปกองรวมกันบนพื้น ใกล้กับเด็กหนุ่มที่หักแขนตัวเองก่อนหน้านี้พร้อมกับอาการฟันหักและกระดูกอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายแตกละเอียด พวกเขาเกือบจะหมดสติจากความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังจ้องไปที่เจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกโพลง ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง“เขาเป็นใครกันแน่…? ทำไมเราถึงต้องมาสู้รบกับคนแบบนี้ด้วย…?”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะสนใจพวกที่นอนกองอยู่บนพื้นเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ปัดทรายออกจากมือ และเดินต่อไปราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปได้ไกล ชายวัยกลางคนที่ร่างกายยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเลือดได้วิ่งตามเขาไป ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “ข ขอบคุณมากครับท่าน ที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้! ผมเป็นชาวบ้านในเมืองฮาลิมาร์ค และผมมีชื่อว่าแวกเนอร์ ยาร์น! ผมโชคดีมากที่ได้มาพบกับท่าน ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวผม ไม่เช่นนั้น ผมคงเสร็จ