“…ไวร่า? อ่า…” ทั้งแดริลและดีแลนค่อนข้างอึดอัดใจ แดริลเองตอนนี้ตระหนักได้ว่าวันนี้เขาทำตัวผิดปกติอย่างไร แม้มันไม่เหมือนว่าเขาสามารถช่วยได้ก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็โชคดีพอที่ได้พบกับเหลนของเขาก่อนการเข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นงานที่เขารู้ดีว่าเขาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้ เนื่องจากพระเจ้าตอบรับคำอธิษฐานของเขาสำหรับโอกาสที่ได้พบมาเบล ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการได้อย่างง่ายดายว่าแดริลตื่นเต้นแค่ไหน เมื่อเขารู้ว่าเด็กน้อยคนนั้นคือเหลนของเขา ตอนนี้ที่ไวร่าอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ดี เขาจึงรู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที อย่าลืมว่า ไวร่าคือสะใภ้ตามกฏหมายของตระกูลคลอฟอร์ด จากสิ่งที่เขาได้ยินมา ไวร่ายังเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบในเรื่องงานต่าง ๆ ของตระกูลคลอฟอร์ดทั้งหมดอีกด้วยซ้ำ โดยไม่สนว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว “…โอ้! ฉันก็ไม่แน่ใจนักเหมือนกัน… ฉันคิดว่าเด็กคนนี้น่ารักมากจริง ๆ ดังนั้นฉันจึงพาเธอมาที่นี่น่ะ!” แดริลตอบกลับด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจมากขึ้น เมื่อได้ยินแบบนั้น ไวร่าก็เพียงพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่แดริลยื่นมาเบลให้ดีแลน เขาก็สังเกตเห็นว่าไวร่
“ฉ ฉันจะบอกนายตราบใดที่นายสัญญาว่าจะรับฉันไว้!” อลิซกล่าว ขณะที่เธอจับแขนของเจอรัลด์ไว้… “บอกฉันมาได้แล้ว!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาผลักมือเธอออกไป เมื่อเช็ดนำ้ตา จากนั้นอลิซก็เริ่มอธิบาย “…ทั้งหมด…เริ่มขึ้นในคืนที่พวกเราอยู่ที่โรงแรมชายทะเล…” หลังจากฟังคำอธิบายของเธอได้สักพัก เจอรัลด์ก็เริ่มเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น โดยพื้นฐานแล้วอลิซได้วางยาเขาในคืนนั้นด้วยความตั้งใจในการหลับนอนกับเขาเพื่อหวังว่าจะตั้งท้อง กระบวนการคิดของเธอ ในขณะนั้นก็คือหากเธอจัดการต้องท้องลูกของเขาได้ งั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลที่มั่งคั่งและมีเกียรติอย่างแน่นอน อนิจจา รอบเดือนของเธอมาก่อนเวลาดังนั้นแผนของเธอจึงพังทลายในทันที! ขณะนั้น อลิซโกรธตัวเองมากจนเธอถึงกับอยากตบหน้าตัวเองอย่างแรงจนหมดสติไปซะ! อย่างไรก็ตาม เธอทำให้ผ้าปูเปื้อนไปด้วยเลือดบางส่วน ภายใต้การแกล้งทำเป็นว่ามันคือผลของการที่เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ของเธอให้กับเขา ด้วยความคิดนั้นในใจ มันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอโกหกเจอรัลด์เกี่ยวกับเรื่องที่มาเบลเป็นลูกแท้ ๆ ของเขา โดยไม่คำนึงถึง อลิซรู้สึกเต็มไปด้วยความไม่พอใจและโกรธทันทีที่เจอรัลด์บอกเธอว
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาได้เห็นจิตรกรรมฝาผนังในสุสานโบราณเป็นครั้งแรก เจอรัลด์ก็ได้เรียนรู้ว่าเรื่องราวของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจเกิดจากขอทานชราคนหนึ่ง ที่ทำการแยกโลงศพออกจากเทพเจ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ถึงตอนนี้ ที่เขาได้ยินอลิซพูดถึงสุสานโบราณอีกครั้ง เจอรัลด์ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันกับหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาว อาจจะถูกเคลื่อนย้ายไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรหลังจากที่ถูกแยกออกหรือไม่ หรือตอนนี้มันอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทรกันแน่“…สุสานของราชาอยู่ที่ไหน?” เจอรัลด์ถามหลังจากที่ครุ่นคิดได้สักพักจากนั้นอลิซก็เล่าทุกอย่างที่เธอรู้ให้เขาฟังเจอรัลด์ฟังอลิซอย่างตั้งใจ ในที่สุดเขาก็มีความคิดว่า เขาควรจะเดินทางไปสำรวจที่นั่นด้วยตนเองจะดีเสียกว่าที่เขารู้ในตอนนี้คือ มันมีความเป็นไปได้ที่หลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทร ไวร่าเองก็เคยฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างแม่น้ำในป่าที่เต็มไปด้วยอสรพิษ เจอรัลด์ยังจำได้อีกว่า เธอบอกกับเขาว่าเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าที่เห็นในความฝันคือแม่น้ำหรือมหาสม
แต่ก็นั่นแหละ เธอก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเมย์เบอรี่จะออกเดทกับนักศึกษาด้วยกัน แต่สำหรับแยสมีน เธอข้ามขั้นไปไกลกว่านั้นมาก ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอเคยออกเดทกับประธานของบริษัทเมย์เบอรรี่ที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาของเขาด้วยเหตุนี้ ท่านประธานได้จัดให้วางดอกไม้ไฟไว้ในทุกซอกทุกมุมของมหาวิทยาลัยในคืนวันเกิดของแยสมีน ในค่ำคืนนั้น ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยก็สว่างไสวไปด้วยแสงของดอกไม้ไฟที่สวยงามจับตา ส่งผลให้เด็กสาวคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยหลายคนยกย่องในตัวเธอ และอีกหลายคนก็รู้สึกริษยาเธอในเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์เดียวที่เจอรัลด์นึกขึ้นมาได้ แต่อีกเรื่องที่เขาจำได้ขึ้นใจคือ ตอนที่แจสมีนสั่งให้เขาเก็บกวาดเศษซากที่เหลือของดอกไม้ไฟรอบ ๆ มหาวิทยาลลัยก่อนจะถึงรุ่งเช้า โดยให้ค่าจ้างเขาเป็นจำนวนเงินสิบห้าดอลลาร์และนั่นถือเป็นเงินจำนวนที่มากสำหรับเขาในตอนนั้น หลังจากที่เขาได้รับเงินแล้ว เขาก็รีบพาเซเวียร์ไปเลี้ยงไก่เคเอฟซีในทันที เขายังจำได้อีกว่า เขาได้เพิ่มเงินส่วนตัวเข้าไปอีกเจ็ดดอลลาร์เพื่อที่จะทำให้งานฉลองของพวกเขาดูยิ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเย็นมากแล้ว แต่เจอรัลด์ก็ยังมองเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังถูกชายถือปืนประมาณสิบคนที่ขับเรือสปีดโบ๊ททั้งห้าลำก่อนหน้านั้นไล่ล่าอยู่ ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด และชายคนนั้นก็กำลังมุ่งหน้ามาทางเจอรัลด์อีกด้วยเมื่อคนอื่นที่กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดเห็นพวกเขา พวกนั้นก็รีบเผ่นหนีในทันที ไม่มีใครคิดที่จะโทรแจ้งตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว ไม่นานนัก ชายหาดที่เงียบสงบก็ปราศจากซึ่งผู้คน เหลือเพียงเจอรัลด์คนเดียวเท่านั้นเจอรัลด์ขมวดคิ้วทันที่ที่เห็นนักเลงพวกนั้น ก่อนหน้านั้นเขาก็รู้สึกรำคาญใจมากพอแล้วที่แยสมีนเข้ามารบกวนเขา ขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดก็มาถึงชายฝั่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีที่ที่จะให้เขาหลบหนีอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตรงมาหาเจอรัลด์ คนเพียงคนเดียวที่เขามองเห็นในขณะนั้น! เขาโบกมือให้เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “โยนโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม! ได้โปรด โยนมันมาเร็วเข้า!”เนื่องด้วยเจอรัลด์กำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาจึงไม่อยากทำตามคำสั่งจากชายวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จัก เขาทำเป็นไม่สนใจชายคนนั้นที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเขาอีกไม่กี่วิ
เจอรัลด์ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แทนที่เขาจะถอยหนี เขากลับพุ่งเข้าหาคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เขารัวทั้งหมัดทั้งเตะใส่พวกเขาไม่ยั้ง เสียงกระดูกหักและแตกร้าวดังกึกก้องไปทั่วในความมืด และไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่าคนที่พุ่งจู่โจมเขาเมื่อสักครู่ก็ไปกองรวมกันบนพื้น ใกล้กับเด็กหนุ่มที่หักแขนตัวเองก่อนหน้านี้พร้อมกับอาการฟันหักและกระดูกอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายแตกละเอียด พวกเขาเกือบจะหมดสติจากความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังจ้องไปที่เจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกโพลง ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง“เขาเป็นใครกันแน่…? ทำไมเราถึงต้องมาสู้รบกับคนแบบนี้ด้วย…?”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะสนใจพวกที่นอนกองอยู่บนพื้นเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ปัดทรายออกจากมือ และเดินต่อไปราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปได้ไกล ชายวัยกลางคนที่ร่างกายยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเลือดได้วิ่งตามเขาไป ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “ข ขอบคุณมากครับท่าน ที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้! ผมเป็นชาวบ้านในเมืองฮาลิมาร์ค และผมมีชื่อว่าแวกเนอร์ ยาร์น! ผมโชคดีมากที่ได้มาพบกับท่าน ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวผม ไม่เช่นนั้น ผมคงเสร็จ
ในเวลาต่อมา ขณะที่เจอรัลด์กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง จู่ ๆ เขาก็หยุดเดินอย่างกระทันหันเขาหันหลังกลับพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฟังนะ! ผมไม่ได้มีเจตนาจะช่วยชีวิตคุณ เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องติดตามผมไปทุกที่หรอก รีบไปซะตอนนี้ ตอนที่ผมยังอารมณ์ดีอยู่ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะจบไม่สวยเหมือนพวกนักเลงที่ชายหาดนั่นก็ได้!”คนที่เขากำลังคุยด้วยก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแวกเนอร์“อย่าเพิ่งโกรธผมเลยนะครับ! ท่านแค่ดูคล้ายกับใครบางคนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี! และคนผู้นั้นมีความสำคัญต่อตระกูลยาร์นเป็นอย่างมาก ท่านคงเข้าใจ… มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากจะรู้จักท่านมากขึ้น!” แวกเนอร์ตอบเขาอย่างนอบน้อมก่อนที่เจอรัลด์จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็รีบอธิบายเพิ่มเติม “คืออย่างนี้ครับท่าน ตระกูลยาร์นได้เฝ้ารอใครบางคนมาเป็นเวลานานแสนนาน มีใครบางคนเคยบอกกับเราว่า คนผู้นั้นจะปรากฏตัวในไม่ช้า และท่านก็มีลักษณะบางอย่างที่ตรงกับคนผู้นั้น! ท่านอาจจะคิดว่าผมน่ารำคาญ แต่ผมมีเหตุผลที่ตามท่านมาอย่างนี้!”“…หืม? เฝ้ารอใครบางคนเหรอ?” เจอรัลด์กล่าว พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย“ใช่ครับท่าน! นอกจากผมจะสั่งให้คนรับใช้ของผมข
แวกเนอร์พูดพลางพยักหน้าตอบรับพอได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็คลี่ม้วนกระดาษที่ได้รับออกอย่างช้า ๆ และเป็นไปตามคำพูดของแวกเนอร์ ม้วนกระดาษโบราณที่ถูกคลี่ออก ได้เผยให้เห็นภาพวาดเสมือนจริงที่ดูมีชีวิตชีวาของนายพลท่านหนึ่งในภาพวาด ท่านนายพลกำลังถือดาบยาวด้ามหนึ่งไว้ในมือ เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เจอรัลด์เองก็ยังรู้สึกเกรงกลัวภาพวาดนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเจอรัลด์ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นพิเศษก็คือ ท่านนายพลในภาพวาดนั้นช่างมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเทพเจ้าในโลงศพอมตะ ซึ่งก็หมายความว่า บุคคลทั้งสองคนนั้นหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิด!แม้แต่ดาบยาวที่ท่านนายพลกำลังถืออยู่ ซึ่งน่าจะเป็นดาบอาวุธที่สำคัญของเขา ก็ยังดูเหมือนดาบที่เจอรัลด์ถือติดตัวตลอดเวลา“เขานั่นเอง!” หนังตาของเจอรัลด์กระตุก ขณะที่กำลังพูด“ท่านรู้ว่าเขาคือใครใช่หรือใม่? นอกจากเรื่องที่ผมบอกกับท่านว่า ผมมีเหตุผลบางอย่างกับการกระทำของผมแล้ว ที่ผ่านมาครอบครัวของผมได้เฝ้ารอใครบางคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกลับบุคคลในภาพวาด และคนผู้นั้นก็คือท่าน!”เจอรัลด์ไม่รู้ด้วย