ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาได้เห็นจิตรกรรมฝาผนังในสุสานโบราณเป็นครั้งแรก เจอรัลด์ก็ได้เรียนรู้ว่าเรื่องราวของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจเกิดจากขอทานชราคนหนึ่ง ที่ทำการแยกโลงศพออกจากเทพเจ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ถึงตอนนี้ ที่เขาได้ยินอลิซพูดถึงสุสานโบราณอีกครั้ง เจอรัลด์ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันกับหลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาว อาจจะถูกเคลื่อนย้ายไปทางตอนใต้ของมหาสมุทรหลังจากที่ถูกแยกออกหรือไม่ หรือตอนนี้มันอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทรกันแน่“…สุสานของราชาอยู่ที่ไหน?” เจอรัลด์ถามหลังจากที่ครุ่นคิดได้สักพักจากนั้นอลิซก็เล่าทุกอย่างที่เธอรู้ให้เขาฟังเจอรัลด์ฟังอลิซอย่างตั้งใจ ในที่สุดเขาก็มีความคิดว่า เขาควรจะเดินทางไปสำรวจที่นั่นด้วยตนเองจะดีเสียกว่าที่เขารู้ในตอนนี้คือ มันมีความเป็นไปได้ที่หลุมฝังศพของผู้หญิงชุดขาวนั้นอาจจะถูกฝังอยู่ที่ราชาแห่งสุสานมหาสมุทร ไวร่าเองก็เคยฝันเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างแม่น้ำในป่าที่เต็มไปด้วยอสรพิษ เจอรัลด์ยังจำได้อีกว่า เธอบอกกับเขาว่าเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าที่เห็นในความฝันคือแม่น้ำหรือมหาสม
แต่ก็นั่นแหละ เธอก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเมย์เบอรี่จะออกเดทกับนักศึกษาด้วยกัน แต่สำหรับแยสมีน เธอข้ามขั้นไปไกลกว่านั้นมาก ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอเคยออกเดทกับประธานของบริษัทเมย์เบอรรี่ที่เพิ่งหย่าร้างกับภรรยาของเขาด้วยเหตุนี้ ท่านประธานได้จัดให้วางดอกไม้ไฟไว้ในทุกซอกทุกมุมของมหาวิทยาลัยในคืนวันเกิดของแยสมีน ในค่ำคืนนั้น ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยก็สว่างไสวไปด้วยแสงของดอกไม้ไฟที่สวยงามจับตา ส่งผลให้เด็กสาวคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยหลายคนยกย่องในตัวเธอ และอีกหลายคนก็รู้สึกริษยาเธอในเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้เป็นเพียงเหตุการณ์เดียวที่เจอรัลด์นึกขึ้นมาได้ แต่อีกเรื่องที่เขาจำได้ขึ้นใจคือ ตอนที่แจสมีนสั่งให้เขาเก็บกวาดเศษซากที่เหลือของดอกไม้ไฟรอบ ๆ มหาวิทยาลลัยก่อนจะถึงรุ่งเช้า โดยให้ค่าจ้างเขาเป็นจำนวนเงินสิบห้าดอลลาร์และนั่นถือเป็นเงินจำนวนที่มากสำหรับเขาในตอนนั้น หลังจากที่เขาได้รับเงินแล้ว เขาก็รีบพาเซเวียร์ไปเลี้ยงไก่เคเอฟซีในทันที เขายังจำได้อีกว่า เขาได้เพิ่มเงินส่วนตัวเข้าไปอีกเจ็ดดอลลาร์เพื่อที่จะทำให้งานฉลองของพวกเขาดูยิ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเย็นมากแล้ว แต่เจอรัลด์ก็ยังมองเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังถูกชายถือปืนประมาณสิบคนที่ขับเรือสปีดโบ๊ททั้งห้าลำก่อนหน้านั้นไล่ล่าอยู่ ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด และชายคนนั้นก็กำลังมุ่งหน้ามาทางเจอรัลด์อีกด้วยเมื่อคนอื่นที่กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดเห็นพวกเขา พวกนั้นก็รีบเผ่นหนีในทันที ไม่มีใครคิดที่จะโทรแจ้งตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว ไม่นานนัก ชายหาดที่เงียบสงบก็ปราศจากซึ่งผู้คน เหลือเพียงเจอรัลด์คนเดียวเท่านั้นเจอรัลด์ขมวดคิ้วทันที่ที่เห็นนักเลงพวกนั้น ก่อนหน้านั้นเขาก็รู้สึกรำคาญใจมากพอแล้วที่แยสมีนเข้ามารบกวนเขา ขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดก็มาถึงชายฝั่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีที่ที่จะให้เขาหลบหนีอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตรงมาหาเจอรัลด์ คนเพียงคนเดียวที่เขามองเห็นในขณะนั้น! เขาโบกมือให้เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “โยนโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม! ได้โปรด โยนมันมาเร็วเข้า!”เนื่องด้วยเจอรัลด์กำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาจึงไม่อยากทำตามคำสั่งจากชายวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จัก เขาทำเป็นไม่สนใจชายคนนั้นที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเขาอีกไม่กี่วิ
เจอรัลด์ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แทนที่เขาจะถอยหนี เขากลับพุ่งเข้าหาคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เขารัวทั้งหมัดทั้งเตะใส่พวกเขาไม่ยั้ง เสียงกระดูกหักและแตกร้าวดังกึกก้องไปทั่วในความมืด และไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่าคนที่พุ่งจู่โจมเขาเมื่อสักครู่ก็ไปกองรวมกันบนพื้น ใกล้กับเด็กหนุ่มที่หักแขนตัวเองก่อนหน้านี้พร้อมกับอาการฟันหักและกระดูกอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายแตกละเอียด พวกเขาเกือบจะหมดสติจากความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังจ้องไปที่เจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกโพลง ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง“เขาเป็นใครกันแน่…? ทำไมเราถึงต้องมาสู้รบกับคนแบบนี้ด้วย…?”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะสนใจพวกที่นอนกองอยู่บนพื้นเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ปัดทรายออกจากมือ และเดินต่อไปราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปได้ไกล ชายวัยกลางคนที่ร่างกายยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเลือดได้วิ่งตามเขาไป ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “ข ขอบคุณมากครับท่าน ที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้! ผมเป็นชาวบ้านในเมืองฮาลิมาร์ค และผมมีชื่อว่าแวกเนอร์ ยาร์น! ผมโชคดีมากที่ได้มาพบกับท่าน ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวผม ไม่เช่นนั้น ผมคงเสร็จ
ในเวลาต่อมา ขณะที่เจอรัลด์กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง จู่ ๆ เขาก็หยุดเดินอย่างกระทันหันเขาหันหลังกลับพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฟังนะ! ผมไม่ได้มีเจตนาจะช่วยชีวิตคุณ เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องติดตามผมไปทุกที่หรอก รีบไปซะตอนนี้ ตอนที่ผมยังอารมณ์ดีอยู่ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะจบไม่สวยเหมือนพวกนักเลงที่ชายหาดนั่นก็ได้!”คนที่เขากำลังคุยด้วยก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแวกเนอร์“อย่าเพิ่งโกรธผมเลยนะครับ! ท่านแค่ดูคล้ายกับใครบางคนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี! และคนผู้นั้นมีความสำคัญต่อตระกูลยาร์นเป็นอย่างมาก ท่านคงเข้าใจ… มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากจะรู้จักท่านมากขึ้น!” แวกเนอร์ตอบเขาอย่างนอบน้อมก่อนที่เจอรัลด์จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็รีบอธิบายเพิ่มเติม “คืออย่างนี้ครับท่าน ตระกูลยาร์นได้เฝ้ารอใครบางคนมาเป็นเวลานานแสนนาน มีใครบางคนเคยบอกกับเราว่า คนผู้นั้นจะปรากฏตัวในไม่ช้า และท่านก็มีลักษณะบางอย่างที่ตรงกับคนผู้นั้น! ท่านอาจจะคิดว่าผมน่ารำคาญ แต่ผมมีเหตุผลที่ตามท่านมาอย่างนี้!”“…หืม? เฝ้ารอใครบางคนเหรอ?” เจอรัลด์กล่าว พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย“ใช่ครับท่าน! นอกจากผมจะสั่งให้คนรับใช้ของผมข
แวกเนอร์พูดพลางพยักหน้าตอบรับพอได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็คลี่ม้วนกระดาษที่ได้รับออกอย่างช้า ๆ และเป็นไปตามคำพูดของแวกเนอร์ ม้วนกระดาษโบราณที่ถูกคลี่ออก ได้เผยให้เห็นภาพวาดเสมือนจริงที่ดูมีชีวิตชีวาของนายพลท่านหนึ่งในภาพวาด ท่านนายพลกำลังถือดาบยาวด้ามหนึ่งไว้ในมือ เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เจอรัลด์เองก็ยังรู้สึกเกรงกลัวภาพวาดนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเจอรัลด์ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นพิเศษก็คือ ท่านนายพลในภาพวาดนั้นช่างมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเทพเจ้าในโลงศพอมตะ ซึ่งก็หมายความว่า บุคคลทั้งสองคนนั้นหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิด!แม้แต่ดาบยาวที่ท่านนายพลกำลังถืออยู่ ซึ่งน่าจะเป็นดาบอาวุธที่สำคัญของเขา ก็ยังดูเหมือนดาบที่เจอรัลด์ถือติดตัวตลอดเวลา“เขานั่นเอง!” หนังตาของเจอรัลด์กระตุก ขณะที่กำลังพูด“ท่านรู้ว่าเขาคือใครใช่หรือใม่? นอกจากเรื่องที่ผมบอกกับท่านว่า ผมมีเหตุผลบางอย่างกับการกระทำของผมแล้ว ที่ผ่านมาครอบครัวของผมได้เฝ้ารอใครบางคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกลับบุคคลในภาพวาด และคนผู้นั้นก็คือท่าน!”เจอรัลด์ไม่รู้ด้วย
เจอรัลด์พยายามครุ่นคิดเกี่ยวกับสองสิ่งนั้น ‘เด็กที่เกิดใหม่บนสรวงสวรรค์ ข้างดอกลิลลี่ แมงมุมสีแดง…’ มังกรจอมโอหังจะปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ กับสายพันธ์เลือดผสม……เดี๋ยวนะ สายพันธ์เลือดผสมเหรอ? คลอฟอร์ด?!พอคิดมาถึงตรงนี้ เจอรัลด์ก็เริ่มที่จะตามเรื่องราวไม่ทัน เขาไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครที่มีความสามารถพิเศษมากพอที่จะเดินทางกลับไปกลับมาระหว่างห้วงเวลาในอดีตและปัจจุบันได้ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะเชื่ออย่างนั้นต่อไป แต่สิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบได้บ่งบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง“คืออย่างนี้ครับท่าน บรรพบุรุษของผมคาดการณ์เอาไว้ว่า หากบุคคลในภาพวาดนี้เกิดใหม่อีกครั้ง เขาจะได้ใช้นามสกุลคลอฟอร์ด… ในเมื่อท่านดูคล้ายกับบุคคลคนนี้เป็นอย่างมาก ผมก็เลยอยากรู้นามสกุลของท่าน… หากท่านใช้นามสกุลคลอฟอร์ดจริง ๆ ท่านก็คือบุคคลที่พวกเรารอคอยมานานแสนนาน อย่างแน่นอนครับ!” แวกเนอร์พูดพร้อมกับมองหน้าเจอรัลด์เจอรัลด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พยักหน้า ก่อนจะตอบว่า “…ชื่อเต็มของฉันคือ เจอรัลด์ คลอฟอร์ด!”“...ถ ถ้าเช่นนั้นแล้ว… โอ้ พระเจ้า ท่านคือคนผู้นั้น คนที่พวกเราเฝ้ารอมานานแสนนานจริง ๆ ด้วย! ในที่สุด สิ่งที่ขอทา
ด้วยสาเหตุที่ว่า คนที่ออกค้นหาสมุนไพรมาปรุงยามักจะเสียชีวิตในทะเลหรือบนภูเขาสูงในทุก ๆ ปี สมุนไพรหลายชนิดที่ถูกนำมาประมูลในงานจึงมีที่มาที่ไปไม่ค่อยชัดเจนนักเหมือนที่หลายคนเคยบอกว่า สิ่งที่หายากมักจะมีคุณค่าเสมอ ในเมื่อมีพ่อค้าที่ร่ำรวยและบุคคลมีเกียรติหลายคนมุ่งหน้าไปที่งานเลี้ยงแห่งมนตรา เพื่อโอกาสที่จะได้สมุนไพรเก่าแก่หายากเหล่านั้นมาครอบครอง ผมคิดว่าท่านก็อาจจะพบสมุนไพรที่ท่านกำลังอยากได้ที่นั่นเช่นกัน” แวกเนอร์พูดเสริมเจอรัลด์ได้แต่พยักหน้าตอบรับเขาเท่านั้น“...ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้คุณพูดถึงใครบางคนที่เรียกว่าเจ้าแห่งวิญญาณ…คุณบอกว่าคนคนนี้ได้ทำนายเอาไว้ว่าผมจะปรากฏตัวขึ้นในไม่ช้าใช่หรือไม่? ในเมื่อเขามีความสามารถที่จะทำนายเรื่องราวเหล่านี้ได้ ผมเลยสงสัยว่า ที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่แวกเนอร์พูดไว้ก่อนหน้านั้นได้มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอรัลด์เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เพราะก่อนหน้านั้น บุคคลที่มีชื่อว่าเจ้าแห่งวิญญาณ ก็เคยช่วยอลิซให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้ครั้งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังคิดเช่นนั้น เจอรัลด์ก็เกิดความสงสัยว่าเจ้าแห่งวิ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ