เจอรัลด์ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แทนที่เขาจะถอยหนี เขากลับพุ่งเข้าหาคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว เขารัวทั้งหมัดทั้งเตะใส่พวกเขาไม่ยั้ง เสียงกระดูกหักและแตกร้าวดังกึกก้องไปทั่วในความมืด และไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่าคนที่พุ่งจู่โจมเขาเมื่อสักครู่ก็ไปกองรวมกันบนพื้น ใกล้กับเด็กหนุ่มที่หักแขนตัวเองก่อนหน้านี้พร้อมกับอาการฟันหักและกระดูกอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายแตกละเอียด พวกเขาเกือบจะหมดสติจากความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังจ้องไปที่เจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกโพลง ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง“เขาเป็นใครกันแน่…? ทำไมเราถึงต้องมาสู้รบกับคนแบบนี้ด้วย…?”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะสนใจพวกที่นอนกองอยู่บนพื้นเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ปัดทรายออกจากมือ และเดินต่อไปราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปได้ไกล ชายวัยกลางคนที่ร่างกายยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเลือดได้วิ่งตามเขาไป ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “ข ขอบคุณมากครับท่าน ที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้! ผมเป็นชาวบ้านในเมืองฮาลิมาร์ค และผมมีชื่อว่าแวกเนอร์ ยาร์น! ผมโชคดีมากที่ได้มาพบกับท่าน ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวผม ไม่เช่นนั้น ผมคงเสร็จ
ในเวลาต่อมา ขณะที่เจอรัลด์กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง จู่ ๆ เขาก็หยุดเดินอย่างกระทันหันเขาหันหลังกลับพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฟังนะ! ผมไม่ได้มีเจตนาจะช่วยชีวิตคุณ เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องติดตามผมไปทุกที่หรอก รีบไปซะตอนนี้ ตอนที่ผมยังอารมณ์ดีอยู่ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะจบไม่สวยเหมือนพวกนักเลงที่ชายหาดนั่นก็ได้!”คนที่เขากำลังคุยด้วยก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแวกเนอร์“อย่าเพิ่งโกรธผมเลยนะครับ! ท่านแค่ดูคล้ายกับใครบางคนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี! และคนผู้นั้นมีความสำคัญต่อตระกูลยาร์นเป็นอย่างมาก ท่านคงเข้าใจ… มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากจะรู้จักท่านมากขึ้น!” แวกเนอร์ตอบเขาอย่างนอบน้อมก่อนที่เจอรัลด์จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็รีบอธิบายเพิ่มเติม “คืออย่างนี้ครับท่าน ตระกูลยาร์นได้เฝ้ารอใครบางคนมาเป็นเวลานานแสนนาน มีใครบางคนเคยบอกกับเราว่า คนผู้นั้นจะปรากฏตัวในไม่ช้า และท่านก็มีลักษณะบางอย่างที่ตรงกับคนผู้นั้น! ท่านอาจจะคิดว่าผมน่ารำคาญ แต่ผมมีเหตุผลที่ตามท่านมาอย่างนี้!”“…หืม? เฝ้ารอใครบางคนเหรอ?” เจอรัลด์กล่าว พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย“ใช่ครับท่าน! นอกจากผมจะสั่งให้คนรับใช้ของผมข
แวกเนอร์พูดพลางพยักหน้าตอบรับพอได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็คลี่ม้วนกระดาษที่ได้รับออกอย่างช้า ๆ และเป็นไปตามคำพูดของแวกเนอร์ ม้วนกระดาษโบราณที่ถูกคลี่ออก ได้เผยให้เห็นภาพวาดเสมือนจริงที่ดูมีชีวิตชีวาของนายพลท่านหนึ่งในภาพวาด ท่านนายพลกำลังถือดาบยาวด้ามหนึ่งไว้ในมือ เขาดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เจอรัลด์เองก็ยังรู้สึกเกรงกลัวภาพวาดนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเจอรัลด์ สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาเป็นพิเศษก็คือ ท่านนายพลในภาพวาดนั้นช่างมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเทพเจ้าในโลงศพอมตะ ซึ่งก็หมายความว่า บุคคลทั้งสองคนนั้นหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิด!แม้แต่ดาบยาวที่ท่านนายพลกำลังถืออยู่ ซึ่งน่าจะเป็นดาบอาวุธที่สำคัญของเขา ก็ยังดูเหมือนดาบที่เจอรัลด์ถือติดตัวตลอดเวลา“เขานั่นเอง!” หนังตาของเจอรัลด์กระตุก ขณะที่กำลังพูด“ท่านรู้ว่าเขาคือใครใช่หรือใม่? นอกจากเรื่องที่ผมบอกกับท่านว่า ผมมีเหตุผลบางอย่างกับการกระทำของผมแล้ว ที่ผ่านมาครอบครัวของผมได้เฝ้ารอใครบางคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกลับบุคคลในภาพวาด และคนผู้นั้นก็คือท่าน!”เจอรัลด์ไม่รู้ด้วย
เจอรัลด์พยายามครุ่นคิดเกี่ยวกับสองสิ่งนั้น ‘เด็กที่เกิดใหม่บนสรวงสวรรค์ ข้างดอกลิลลี่ แมงมุมสีแดง…’ มังกรจอมโอหังจะปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ กับสายพันธ์เลือดผสม……เดี๋ยวนะ สายพันธ์เลือดผสมเหรอ? คลอฟอร์ด?!พอคิดมาถึงตรงนี้ เจอรัลด์ก็เริ่มที่จะตามเรื่องราวไม่ทัน เขาไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครที่มีความสามารถพิเศษมากพอที่จะเดินทางกลับไปกลับมาระหว่างห้วงเวลาในอดีตและปัจจุบันได้ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะเชื่ออย่างนั้นต่อไป แต่สิ่งที่เขาเพิ่งค้นพบได้บ่งบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริง“คืออย่างนี้ครับท่าน บรรพบุรุษของผมคาดการณ์เอาไว้ว่า หากบุคคลในภาพวาดนี้เกิดใหม่อีกครั้ง เขาจะได้ใช้นามสกุลคลอฟอร์ด… ในเมื่อท่านดูคล้ายกับบุคคลคนนี้เป็นอย่างมาก ผมก็เลยอยากรู้นามสกุลของท่าน… หากท่านใช้นามสกุลคลอฟอร์ดจริง ๆ ท่านก็คือบุคคลที่พวกเรารอคอยมานานแสนนาน อย่างแน่นอนครับ!” แวกเนอร์พูดพร้อมกับมองหน้าเจอรัลด์เจอรัลด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พยักหน้า ก่อนจะตอบว่า “…ชื่อเต็มของฉันคือ เจอรัลด์ คลอฟอร์ด!”“...ถ ถ้าเช่นนั้นแล้ว… โอ้ พระเจ้า ท่านคือคนผู้นั้น คนที่พวกเราเฝ้ารอมานานแสนนานจริง ๆ ด้วย! ในที่สุด สิ่งที่ขอทา
ด้วยสาเหตุที่ว่า คนที่ออกค้นหาสมุนไพรมาปรุงยามักจะเสียชีวิตในทะเลหรือบนภูเขาสูงในทุก ๆ ปี สมุนไพรหลายชนิดที่ถูกนำมาประมูลในงานจึงมีที่มาที่ไปไม่ค่อยชัดเจนนักเหมือนที่หลายคนเคยบอกว่า สิ่งที่หายากมักจะมีคุณค่าเสมอ ในเมื่อมีพ่อค้าที่ร่ำรวยและบุคคลมีเกียรติหลายคนมุ่งหน้าไปที่งานเลี้ยงแห่งมนตรา เพื่อโอกาสที่จะได้สมุนไพรเก่าแก่หายากเหล่านั้นมาครอบครอง ผมคิดว่าท่านก็อาจจะพบสมุนไพรที่ท่านกำลังอยากได้ที่นั่นเช่นกัน” แวกเนอร์พูดเสริมเจอรัลด์ได้แต่พยักหน้าตอบรับเขาเท่านั้น“...ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้คุณพูดถึงใครบางคนที่เรียกว่าเจ้าแห่งวิญญาณ…คุณบอกว่าคนคนนี้ได้ทำนายเอาไว้ว่าผมจะปรากฏตัวขึ้นในไม่ช้าใช่หรือไม่? ในเมื่อเขามีความสามารถที่จะทำนายเรื่องราวเหล่านี้ได้ ผมเลยสงสัยว่า ที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่แวกเนอร์พูดไว้ก่อนหน้านั้นได้มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอรัลด์เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เพราะก่อนหน้านั้น บุคคลที่มีชื่อว่าเจ้าแห่งวิญญาณ ก็เคยช่วยอลิซให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้ครั้งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังคิดเช่นนั้น เจอรัลด์ก็เกิดความสงสัยว่าเจ้าแห่งวิ
“นึกแล้วว่าต้องเป็นโซอี้ มินแชล” แวกเนอร์พูดขึ้นลอย ๆ ขณะที่หันไปมองเจอรัลด์“อย่าประมาทเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ดูสวยนะครับ ท่านคลอฟอร์ด…โซอี้เป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลมินแชล และใครต่อใครต่างก็รู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สามารถรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดี เพราะเธอมีจิตใจที่โหดเหี้ยมและอำมหิตมาก ท่านรู้ไหมครับว่า สุขภาพร่างกายของผู้นำครอบครัวแห่งตระกูลมินแชลนั้นทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในเมืองฮาลิมาร์คต่างได้ยินมาว่า เธอได้ว่าจ้างให้คนปรุงยาตัวหนึ่งขึ้นมา ซึ่งน่าจะเป็นยาอายุวัฒนะ ผมจึงเดาว่ามันเป็นเหตุผลที่พวกมินแชลจัดงานเลี้ยงแห่งมนตราขึ้น และเชิญให้ผู้ผลิตสมุนไพรที่ทรงคุณค่าเดินทางมาที่นี่ล่วงหน้า เธอน่าจะกำลังมองหาสมุนไพรบางตัวอยู่เป็นแน่แท้!” แวกเนอร์พูดเสริม“ฟังดูราวกับว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักกับพวกมินแชล พวกเขาเป็นพวกที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองฮาลิมาร์คใช่หรือไม่? เจอรัลด์ถาม ขณะที่มองกลับไปที่แวกเนอร์พร้อมกับหัวเราะอย่างขบขันเขาพยักหน้ารับด้วยท่าทีที่ขัดเขิน ก่อนจะตอบว่า “ความจริงแล้ว ตระกูลยาร์นยังคงเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง จนกระทั่งเมื่
หลังจากที่ได้ยินเหตุผลที่ไร้สาระของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “เอาออกมาให้เขาดู!”แวกเนอร์ทำตามคำสั่งของเจอรัลด์ เขาหยิบบัตรเชิญแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู พอเขาได้รับมัน เขาก็รีบตรวจทานอย่างละเอียดเจอรัลด์นั้นไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขารู้ดีว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้กับโซอี้กำลังจะทำอะไรเมื่อเขาเห็นเจ้าหน้าที่คนนั้นกำลังใส่หูฟัง เจอรัลด์ก็ใช้ความสามารถในการหยั่งรู้พิเศษของเขาแอบฟังแผนที่พวกเขาได้วางไว้ เขาจำเสียงของโซอี้ได้ในทันที เธอกำลังออกคำสั่งบางอย่าง “ไล่พวกมันออกไป แล้วก็ไปสืบประวัติของเด็กนั่นมาด้วย จากนั้นก็ส่งคนไปหักหลังพวกมัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยแวกเนอร์เคยเล่าให้เขาฟังแล้วว่า ตระกูลมินแชลร่ำรวยขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเขาพึ่งพาพวกโจรและหัวขโมย ความจริงแล้วต้นตระกูลของพวกมินแชลก็คือพวกโจรสลัดทั้งนั้นหลังจากที่ได้ยินแผนการของโซอี้ เจอรัลด์ถึงกับต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หลุดหัวเราะเสียงดังออกมา“ต้องขออภัยด้วยนะครับ ท่านสุภาพบุรุษ หลังจากที่ได้ตรวจสอบบัตรเชิ
เสียงเห่าหอนของเขาดังมาก จนส่งผลให้งานประมูลต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน เพราะทุกคนในงานกำลังหันไปมองชายที่ส่งเสียงแปลกประหลาดนั้นออกมาด้วยความตกตะลึงขณะที่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงยังคงดำเนินต่อไป ชายวัยกลางคนที่นั่งข้าง ๆ แยสมีน ซึ่งมีนามว่าเดวิด สตับส์ ได้พยายามดึงจุดสนใจของทุกคนจากเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้ ด้วยการพูดโพล่งขึ้นมาว่า “ผมค่อนข้างจะมั่นใจว่า เขาไม่สามารถจะหาเงินจำนวนดังกล่าวได้แน่! นอกจากนั้น ขณะนี้พวกเราทุกคนกำลังอยู่ในถิ่นของตระกูลมินแชล! คนอย่างเขาคงไม่สามารถสร้างผลกระทบใด ๆ ต่อเกียรติยศและชื่อเสียงของตระกูลมินแชลได้อย่างแน่นอน!”ทันทีที่ได้ยินคำพูดจาประจบสอพลอของเขา สมาชิกในครอบครัวมินแชลที่อยู่ตรงนั้นหลายคน ก็หันไปมองเดวิดด้วยสายตาที่พึงพอใจเป็นอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเสียงตบหน้าดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นทุกคนก็ตกอยู่ในอาการนิ่งเงียบอีกครั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นั้นได้ใช้มือตบเข้าไปที่แก้มซ้ายของเดวิดอย่างแรง!เขาเอามือกุมแก้มของตัวเองที่กำลังบวมช้ำ พลางบ้วนฟันที่หั