คอร์ดกลืนน้ำลายเสียงดัง เขารู้สึกกลัวอย่างชัดเจนกับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น คริสโตเฟอร์ปล่อยเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกมาก่อนจะพูดขึ้น “เช่นนั้น แกยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับสองคนนั้นอยู่ไหม?” “ม ไม่เลนครับ! คุณเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน! ด้วยการที่คุณหาใครเทียบไม่ได้เช่นนี้ พวกเราจะสามารถล้างแค้นให้หลายชายทั้งสองของคุณได้แน่! ผมจะคุ้มกันคุณออกจากภูเขาเอง!” คอร์ดกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฮ่าฮ่า! แต่เอาตามตรงแกไม่จำเป็นต้องมามองหาฉันถึงบนนี้หรอก อย่างไรซะ ฉันก็จะออกจากภูเขาไม่นานนี้อยู่แล้ว” คริสโตเฟอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินแบบนั้น คอร์ดก็ดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้ขึ้นมา “…ตอนนี้ที่ผมคิดเกี่ยวกับมัน ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ความสันโดษเมื่อยี่สิบปีก่อน ผมจำได้ว่าคุณบอกผมว่าคุณต้องการจะทำการเตรียมการสำหรับการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์…ผมยังจำได้เช่นกันว่าการปฏิญาณถูกจัดขึ้นในทุก ๆ สามสิบปี…จากสิ่งที่ผมบอกได้ วันนั้นก็กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้! เนื่องจากคุณดูเหมือนจะได้รับตำแหน่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่มาได้อย่างน้อยสิบปีแล้วในตอนนี้ เมื่อดูจากพละกำลังของคุณ คุณสามารถเป็นตัวแทนของตระกูลของเราเ
ไวร่าเองกำลังเดินอยู่กลางป่าทึบในภูเขาขนาดใหญ่ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นไอที่หนาทึบ และทุกอย่างก็รู้สึกมืดมัวและน่าขนลุก ความจริงที่ดูเหมือนจะไม่มีใครอื่นอยู่แถวนั้นจึง ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น หลังจากเดินผ่านป่ามาได้ระยะหนึ่ง หูของไวร่าก็กระตุกขึ้น ขณะที่ได้ยินเสียงของลำธานไหล เมื่อมองไปรอบ ๆ ในที่สุดเธอก็พบเจอบริเวณสว่างที่มีลำธารอยู่ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอเห็นที่นั่น ที่ยืนอยู่ข้างลำธานคือผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดขาว ไม่ต้องคิดมากเลยว่าใครก็ตามที่เห็นผู้หญิงผมยาวกำลังยืนอยู่ในที่ห่างไกลก็จะต้องหวาดกลัวกันเป็นธรรมดา “…คุณ…คุณเป็นใครคะ…?” ไวร่าถามอย่างสุภาพอ่อนโยน ขณะที่มองดูแผ่นหลังของของผู้หญิงคนนั้น “…ช่วยฉันด้วย…เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับ แม้ไวร่ารู้สึกหวาดกลัว เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความหดหู่ใจในน้ำเสียงของเธอ และดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังร้องไห้เช่นกัน “…ข ‘เขา’ คนนี้ที่คุณพูดถึงคือใครคะ…?” “…ช่วยฉัน…! เธอเป็นคนเดียวที่สามารถนำเขามาที่นี่เพื่อช่วยฉันได้…!” ผู้หญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์กำลังศึกษารูปภาพของดวงอาทิตย์อย่างจริงจัง ไวร่าจึงเอนตัวไปทางด้านข้างของเจอรัลด์และจับคางที่สวยงามของเธอก่อนจะสังเกตรูปวาดเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อผู้คนละทิ้งความคิดอื่น ๆ ไว้ก่อน พวกเขาก็จะมีสมาธิดีขึ้นกว่ามาก เรื่องนั้นใช้ได้กับไวร่าเช่นกัน ขณะที่เธอยังคงมองดูมันต่อไป ไวร่าก็หยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วบนใบหน้าของเธอ “…หืมม?” เมื่อหรี่ตามอง ดวงตาของไวร่าก็ค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้น มีความกลัวสะท้อนในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอนั่งตัวตรงก่อนจะตะโกนขึ้น “ไม่…ไม่นะ!” ทุกคนกลายเป็นตกใจกลัวกันในทันที ขณะที่พวกเขาเฝ้ามองไวร่า ที่เอามือกุมข้างหัวของเธอ และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “ไวร่า? ไวร่า เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม “เป็นอะไรไป ไวร่า?” แดริลถาม ขณะที่เขาลุกยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ ด้วยนิ้วที่สั่นเทา จากนั้นไวร่าก็ชี้ไปยังรูปภาพของดวงอาทิตย์ และด้วยน้ำเสียงที่สะพรึงกลัว จากนั้นเธอก็พึมพำ “ฉัน…ฉันเห็นมัน…” เธอเพียงตกใจกลัวมากเกินกว่าจะพูดอะไรได้ หลังจากแดริลและเจอรัลด์แลกเปลี่ยนสายตากันและกัน พวกเขาทั้งคู่ก็ถามขึ้นพร้อมกัน “เธอเห
“เอาล่ะไวร่า ฟังฉันนะ ฉันต้องการให้เธอสูดหายใจเข้าลึกและมุ่งความสนใจไปที่รูปวาดอีกครั้ง ฉันจำเป็นต้องรู้ว่าเธอเห็นฉากแบบเดิมอีกครั้งหรือไม่” แดริลกล่าวอย่างรีบร้อน เมื่อได้ยินแบบนั้น ไวร่าจึงพยักหน้าก่อนจะหันไปมองรูปวาดดวงอาทิตย์อีกครั้งหนึ่งอย่างไม่เต็มใจ หลังจากการขมวดคิ้วครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ปิดปากก่อนจะตอบกลับพร้อมกับพยักหน้า “…มันเป็นเหมือนเดิม…เมื่อตรวจดูให้ละเอียดมากขึ้น คนทั้งห้านั้นยังแสดงท่าทางข่มขู่อีกด้วยซ้ำ…ฉัน…ฉันทนมองรูปวาดต่อไปไม่ได้แล้ว…คุณปู่ ได้โปรด! คุณต้องช่วยเจอรัลด์นะคะ!” เมื่อเฝ้ามองไวร่าร้องไห้กับพ่อของเขา ดีแลนเองก็พูดขึ้นมา “มีความเป็นไปได้ไหมครับว่ารูปวาดอาจทำนายผิดไป พ่อ…? ถึงอย่างไร เจอรัลด์ก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ไม่มีทางที่สถานการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นหรอก ใช่ไหมครับ?” แดริลส่ายหัวของเขา จากนั้นก็ตอบกลับ “อย่างที่ฉันพูดไป รูปวาดดวงอาทิตย์ไม่เคยโกหก ถ้ามันทำนายว่าเจอรัลด์จะตายด้วยการถูกฉีกออกจากกัน มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในไม่ช้าก็เร็ว ๆ นี้ แต่กระนั้น ฉันก็สงสัยว่าแรงจูงใจของพวกเขาคืออะไร…หรือพวกเขาเป็นใครกันล่ะ…” ขณะที่ทุกคนตกอยู่ในคว
จากนั้นแดริลก็กล่าวเสริมขึ้นมาก “ด้วยปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอยู่น้อยมาก เธออาจจะสงสัยว่าทำไมกลุ่มทรงอำนาจเช่นนั้นถึงสามารถเรียกพวกเขามากมายมาจากทั่วทุกมุมโลกได้ อืม แต่รู้ไหม ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความจริงเบื้องหลังงานนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์กันตั้งแต่แรกเอง! ไม่ว่าจะยังไง ฉันบอกให้เธออยู่ต่อก็เพราะมีเบาะแสสำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ที่ฉันต้องการจะบอกเธอ” “อะไรเหรอครับ?” “ฉันรู้ว่าเธอได้สืบสวนเรื่องสหพันธ์ดวงอาทิตย์มาโดยตลอด มีรูปวาดที่ถูกสลักไว้บนแผ่นศิลาที่ถูกขุดขึ้นมา และฉันพบว่ามันค่อนข้างคล้ายกับสถานที่ที่ถูกบรรยายไว้ในเหรียญแห่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ฉันต้องการศึกษามันด้วยกันกับเธอ มันคือความรู้สึกลึก ๆ แต่ฉันรู้สึกว่ามันเชื่ยมโยงอย่างใกล้ชิดกับการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์” “จากสิ่งที่ปู่กล่าวมา มันก็ดูเกี่ยวข้องกันจริง ๆ ถ้าใครจัดการเข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็คงมีโอกาสที่ความลับแห่งสหพันธ์ดวงอาทิตย์ ซึ่งยังคงเป็นปริศนามาเกือบพันปี ในที่สุดก็อาจจะได้รับการแก้ไขได้ซะที!” ทั้ง ๆ ที่รู้เป็นอย่างดีว่าคนเหล่านั้นที่เข้าร่วมในการปฏิญาณน้ำ
พวกเขาทั้งคู่ยังคงครุ่นคิดกันอยู่ในห้องลับต่อไป แต่ทันในนั้นดีแลนก็ตะโกนขึ้นมาจากข้างนอก “พ่อ!” “มีอะไร ดีแลน?” “หนึ่งในคนรับใช้พบกล่องที่ดูโบราณในคฤหาสน์ก่อนหน้านี้…ที่แนบมากับมันคือจดหมายที่มีชื่อของเจอรัลด์บนนั้นครับ!” ดีแลนกล่าว ขณะที่เขาเข้ามาในห้องพร้อมกับกล่องนั้น อย่างที่ดีแลนพูด จดหมายที่ส่งถึงเจอรัลด์ถูกวางติดไว้บนกล่องงสี่เหลี่ยมนั้น “มีข้อบ่งชี้ใด ๆ ของผู้ส่งไหม?” แดริลถาม “ไม่มีอะไรที่ผมรู้เลย ตามคำพูดของคนรับใช้ เขาพบมันโดยบังเอิญ แม้หลังจากการซักถามเวลสันเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยใด ๆ ของเขาที่สามารถจับเบาะแสนี้ได้เลยครับ!” ดีแลนตอบกลับ โทนเสียงของเขาวิตกกังวลเล็กน้อย เขามีเหตุผลให้รู้สึกแบบนั้น อย่าลืมว่า พ่อของเขาเป็นสมาชิกของพระราชวังจิตวิญญาณ และทุกคนที่เป็้นส่วนหนึ่งของสมาคมลับนั้นก็คือคนที่เก่งที่สุดใหมู่คนเก่ง! เนื่องจากใครบางคนสามารถแทรกซึมเข้ามาในคฤหาสน์ของพวกเขาได้จริง ๆ แม้หลังจากเวลสันและคนของเขาเข้าควบคุมดูแลความปลอดภัยของตระกูลคลอฟอร์ดแล้ว แน่นอนว่าเขาจะรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา! “…ช่างแปลกประหลาด…ฉันสงสัยว่าทำไมเหต
เมื่อท้องฟ้าสดใสกัดเซาะดวงจันทร์งั้นเหรอ? แล้วทำไมถึงจะมีดวงจันทร์ในช่วงกลางวันที่สดใสด้วยล่ะ? แล้วทำไมน้ำถึงไหลไปในทิศทางตรงกันข้าม? ในขณะที่เจอรัลด์พบว่าสองประโยคแรกนั้นแปลกมาก แต่ประโยคสุดท้ายกลับค่อนข้างง่ายที่จะเข้าใจได้อยู่ มันมีความหมายว่าใครบางคนจะตายเมื่อเมื่อดอกไม้สีทองร่วงหล่นสู่บนพื้น “…อาจหมายถึงฉันเองหรือเปล่านะ…?” เจอรัลด์พึมพำกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าแม้แต่ระดับการฝึกฝนของผู้ส่งก็ยากต่อการจะชี้ชัดได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พวกเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างโดยละเอียด…อาจมีบุคคลที่ทรงพลังเช่นนี้ในโลกจริง ๆ เหรอ?” แดริลกล่าวเสริมด้วยความไม่เชื่อ “…ยังไงซะ แล้วเจอรัลด์ล่ะครับ พ่อ? เนื่องจากบุคคลทีน่าลึกลับแต่ทรงกำลังคนนี้ส่งจดหมายสั้นเช่นนี้ให้เจอรัลด์ นั่นไม่ได้มีความหมายว่าการทำนายของรูปวาดดวงอาทิตย์อาจเป็นจริงหรือเปล่าครับ? ทั้งหมดนี่อาจหมายความว่ายังไงกัน?” ดีแลนถามอย่างวิตกกังวล “อืมม…เอาล่ะ นอกเหนือจากม้วนกระดาษที่พวกเราได้รับ พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ๆ เลยจริง ๆ ที่จะจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ เนื่องจากบุคคลนั้นต้องการให้พวกเราไปมองหาโลงศพชั่วนิรันดร์ ก
ไม่นานต่อมา เจอรัลด์กำลังจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เมื่อเขาเห็นเวลสันเดินกระโผลกกระเผลกมาทางเขาอย่างช้า ๆ “…เวลสัน?” เจอรัลด์กล่าว มันชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชายชรา แม้กระทั่งจากระยะไกล ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ดห็นได้ว่าสายตาของเวลสันขุ่นหมองและมืดมัวเพียงใด และเขาก็ยังเดินเหมือนซอมบี้เช่นกัน มันแปลกประหลาด พูดได้แค่นี้ ในขณะที่เจอรัลด์ขมวดคิ้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่เคลื่อนไหวในตอนนี้ เนื่องจากดีแลนมาจากรุ่นเดียวกับเวลสัน เขาจึงตะโกนเรียกขึ้นมา “ทันเวลาพอดีเลย เวลสัน…เนื่องจากเจอรัลด์กำลังจะเดินทางไกล ฉันจะเรียกเขามาบอกลานายเอง” อย่างไรก็ตาม เวลสันก็ไม่ได้ดูเหมือนได้ยินสิ่งที่ดีแลนพูด และเขาเพียงเดินปวกเปียกไปหาพวกเขาอย่างช้า ๆ ต่อไป “…เวลสัน…?” ดีแลนกล่าว “ถอยไป ดีแลน!” แดริลตะโกนขึ้นฉับพลัน สายตาของเขาดูระแวดระวังอย่างยิ่ง “เวลสัน ไม่เป็นไรใช่ไหม? มีบางอย่างเกิดขึ้นหรือเปล่า?” แดริลถาม ยังคงจ้องไปที่ชายชรา คลอฟอร์ดที่เหลือก็เริ่มลอบมองเวลสันเช่นกัน โดยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น โดยไม่มีการเตือน ทันใดนั้นเวลสันก็เริ่มอาเจียนเป็นเลือด! ตามมาหลังจากนั้น เลือดก็เริ่มไหลทะลักออกม